- ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านสุราษฎร์ธานี ทุ่งสง แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 403 สู่อำเภอห้วยยอด จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ไปจนถึงตรัง ระยะทางประมาณ 828 กิโลเมตร
- ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) จนถึงจังหวัดชุมพร แล้วแยกเข้าระนอง พังงา กระบี่ ตรัง ระยะทางประมาณ 1,020 กิโลเมตร จากนั้น ไปอีก 24.4 กม. ผ่าน ถนนหมายเลข 403 ปลายทางจะอยู่ทางขวา
รูปปั้นจำลอง พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี
อ่านกันชัด ๆ ค่ะ
หินลูกโม่หีบอ้อยโรงงานน้ำตาลทรายแดง
ประวัติความเป็นมา พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) ในอดีตดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองตรัง ท่านได้จับจองที่ดินบนเนินเตี้ย ๆ สำหรับสร้างบ้านพัก ตั้งแต่เริ่มสร้างเมืองกันตัง ชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่า ในควน พระยารัษฎาฯ เรียกบ้านหลังนี้ว่า "ควนรัษฎา" ครั้นเมื่อพระยารัษฎาฯ ถึงแก่อนิจกรรม บ้านตกเป็นกรรมสิทธิ์ของทายาท ต่อมาโรงเรียนกันตังพิทยากร ร่วมกับหน่วยงานราชการขอใช้สถานที่จากทายาทคือ ดาโต๊ะเบียนจง ณ ระนอง จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ขึ้น เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2535
อาคารจัดแสดงเป็นบ้านพักลักษณะเรือนไม้ทรงปั้นหยาสองชั้น ทาสีฟ้า ตัวบ้านโปร่งมีระเบียงรับลมรอบด้าน แวดล้อมด้วยสวนเล็ก ๆ ภายในบ้านจัดแต่งไว้เช่นเดียวกับเมื่อพระยารัษฎาฯ ยังอาศัยอยู่
ชั้นล่างมีหุ่นขี้ผึ้งของพระยารัษฎาฯ ใส่เสื้อคอปิดสีขาว นุ่งผ้าม่วง ถือไม้เท้า
นั่งเก้าอี้พักผ่อน ข้าง ๆ มีกระโถนทองเหลือง และเชี่ยนหมากแบบโบราณ
ชั้นล่างของบ้านมีภาพถ่ายเก่าแก่ของพระยารัษฎาฯ ภาพบุคคลที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองตรังหลายท่าน
และภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์ของเมืองตรังในอดีตจัดแสดงอยู่บนข้างฝาผนังมากมาย
นอกจากนี้บริเวณห้องด้านล่างยังมีทั้งห้องทำงานของท่านเจ้าเมืองตรัง ซึ่งจัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในสมัยก่อนไว้มากมาย
ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ตู้ใส่ของที่สั่งทำโดยช่างฝีมือชาวจีน อีกทั้งยังมีกล้องถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์เก่าแก่ของท่านจัดแสดงไว้ให้ชมด้วย
โดยมีหลักฐานจารึกว่าพระยารัษฏาฯ เป็นนักเล่นกล้องถ่ายรูปรุ่นแรก ๆ ของประเทศไทย จึงทำให้บ้านของท่านเต็มไปด้วยรูปถ่ายมากมาย
และบริเวณด้านหลังบ้านยังเป็นส่วนของห้องครัวซึ่งจัดแสดงอุปกรณ์เครื่องใช้ในการทำครัวสมัยก่อนให้ได้ชื่นชมกันอีกด้วย
รัชกาลที่ 6 พระราชทานให้พระยารัษฎาฯ
พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง)
อ่านประวัติเพิ่มเติมได้ที่วิกิพีเดียค่ะ
ขึ้นชั้นบนกันค่ะ
ชั้นบนเป็นห้องนอน โถงชั้นบนมีโต๊ะบูชาบรรพบุรุษ นอกจากนี้ภายในบ้านยังมีภาพถ่ายเก่าแก่กว่าร้อยปี เป็นภาพเหตุการณ์สำคัญของเมืองตรังและหัวเมืองปักษ์ใต้ในสมัยรัชกาลที่ 6 เช่น การประชุมเทศาภิบาล ปี พ.ศ. 2445 และ 2446 การซ้อมรบเสือป่า การเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ของรัชกาลที่ 6 ภาพถ่ายพระยารัษฎาฯ ในอิริยาบทต่าง ๆ ชั้นบนยังมีภาพถ่ายเก่าแก่ต้นตระกูล ณ ระนอง เช่น คุณแม่กิ้ม มารดาพระยารัษฎาฯ ภริยาพระยารัษฎาฯ บุตรหลาน ล้วนเป็นภาพที่มีอายุเกือบร้อยปีทั้งสิ้น
ห้องนอนใหญ่
เดินออกมาตรงระเบียง
เมฆยิ้มเป็น ยิ้มได้นะครับ
มีนักท่องเที่ยวมาเพิ่มแล้วค่ะ
ลงไปข้างล่างกัน
โต๊ะเครื่องแป้ง น่าจะใช่นะคะ
เดินมาส่วนหลังบ้านค่ะ
ครัว
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ซึ่งลูกหลาน ณ ระนอง และเทศบาลกันตังได้ช่วยกันดูแลรักษาให้มีสภาพคงเดิมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตัวอาคารทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงเครื่องเรือนเครื่องใช้ อุปกรณ์ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นของเก่าแก่ที่เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพื่อให้ลูกหลานชาวเมืองตรัง และนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสได้สัมผัสร่องรอยทางประวัติศาตร์ และกลิ่นอายความรุ่งเรืองของเมืองตรังเมื่อครั้งในอดีตผ่านสิ่งของเหล่านี้
//www.museumthailand.com/Prince_Ratsadanupradit_Mahison
//www.smartandaman.com/
ข้อห้ามค่ะ
ออกจากพิพิธภัณฑ์ฯ มาอีกนิด มาดูต้นยางพาราต้นแรกของประเทศไทยกันค่ะ
ไปแล้วค่ะ
สวัสดียามเช้าครับพี่หนู
เรือนไทยเก่าๆ
สวยแบบมีเสน่ห์
โดยเฉพาะลวดลายตกแต่ง
เดี่ยวนี้หาช่างเก่งๆแบบนี้ไม่ค่อยมีแล้ว
กลายเป็นบ้านตึกกันหมดนะครับ
โหวตครับพี่