ผลการสำรวจค่าจ้าง 2555: อัตราแรกจ้างตามวุฒิการศึกษา ตอนที่ 2
เมื่อวานได้เขียนถึงผลการสำรวจค่าจ้างเงินเดือนในเรื่องของอัตราแรกจ้างตามวุฒิการศึกษา โดยได้แสดงให้เห็นถึงอัตราแรกจ้างของวุฒิการศึกษาระดับปวช. และปวส. กันไปแล้ว วันนี้จะมาต่อเรื่องของอัตราแรกจ้างตามวุฒิการศึกษาของระดับปริญญาตรีกันบ้าง ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรจากปีที่ผ่านมาบ้างนะครับ อัตราแรกจ้างตามวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีนั้น มีการขยับขึ้นมาด้วยสาเหตุ 2 ประการคือ - ขยับขึ้นมาจากผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งทำให้ต่อเดือนขั้นต่ำสุดที่ต้องจ่ายก็คือ 9,000 บาท ซึ่งก่อนการปรับค่าจ้าง 300 บาทนั้น บางบริษัทยังมีการจ้างพนักงานวุฒิปริญญาตรีจบใหม่ที่ประมาณ 9,000 – 10,000 บาทกันอยู่เลย แต่พอปรับเป็น 300 บาทต่อวันแล้ว ก็เลยเกิดผลกระทบต่อกันเป็นระลอก
- ขยับขึ้นเนื่องจากการประกาศของภาครัฐ ที่ประกาศว่า อัตราเริ่มจ้างของผู้ที่จบวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีจะต้องเป็น 15,000 บาท ซึ่งอัตรานี้ไม่ได้บังคับใช้กับภาคเอกชนนะครับ ย้ำอีกครั้งหนึ่งนะครับว่า ไม่มีการบังคับใช้ 15,000 บาทกับภาคธุรกิจเอกชนนะครับ เพียงแต่การประกาศแบบนี้ของภาครัฐนั้นทำให้ภาคเอกชนบางแห่งจำเป็นที่จะต้องปรับอัตราแรกจ้างระดับปริญญาตรีใหม่ให้เท่ากับ 15,000 หรือสูงกว่าไปด้วย เพราะเนื่องจากหาพนักงานใหม่กันไม่ได้เลย เพราะเด็กจบใหม่ที่มาสมัครงานต่างก็ขอเงินเดือนกันที่ 15,000 กันหมด แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้เริ่มมีเด็กจบใหม่รับทราบกันแล้วว่า ตัวเลขนี้ใช้เฉพาะกับราชการเท่านั้น เอกชนไม่ได้บังคับ
อย่างไรก็ดีจาก 2 สาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นก็เลยทำให้มีการปรับเปลี่ยนอัตราแรกจ้างของระดับปริญญาตรีกันในหลายๆ บริษัทในช่วงปี 2555 ที่ผ่านมานี้ ซึ่งผลจากการสำรวจค่าจ้างเงินเดือนและสวัสดิการของทาง PMAT ในปี 2555 นี้จากตลาดรวมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการสำรวจประมาณ 200 บริษัท และเป็นอัตราแรกจ้างในกลุ่มกลางๆ ของตลาด (Percentile 50) ก็ได้ผลตามตารางข้างล่างครับ วุฒิการศึกษา | สาขาวิชา | 2554 | 2555 | ปริญญาตรี | วิศวกรรมศาสตร์ | 15,000 | 18,000 | วิทยาศาสตร์ | 13,000 | 15,000 | คอมพิวเตอร์ | 12,750 | 15,000 | บริหารธุรกิจ | 11,000 | 13,000 | บัญชี | 12,000 | 14,000 | สังคมศาสตร์ | 10,500 | 13,000 | จะสังเกตเห็นว่าตัวเลขอัตราแรกจ้างระดับปริญญาตรี ของทุกวุฒิการศึกษานั้น ขยับขึ้นหมด ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ปรับขึ้นก็อยู่ที่ประมาณ 17%โดยเฉลี่ย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ขยับขึ้นค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับอัตราแรกจ้างในปีที่ผ่านมา ผลการสำรวจค่าจ้างออกมาเป็นตัวเลขแบบนี้ เวลาที่จะนำเอาไปใช้ในการกำหนดอัตราแรกจ้างของบริษัทเราเองก็คงต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยนะครับว่า คนของเราที่เราต้องการนั้น เราแข่งขันในการจ้างคนกับองค์กรแบบใด และเขาจ่ายอยู่เท่าไหร่ ถ้าเราต้องแข่งกับราชการ เราก็คงจะกำหนดต่ำกว่า 15,000 บาทไม่ได้ เพราะจะไม่มีใครอยากมาทำงานกับเรา หรือถ้าองค์กรของเราเคยจ่ายอัตราแรกจ้างที่สูงอยู่แล้ว อัตราที่สำรวจมานั้นยังต่ำกว่าที่เราให้ ก็ไม่ต้องตกใจครับ เราอาศัยตัวเลข% ที่ขยับขึ้นเป็นตัวช่วยในการกำหนดอัตราแรกจ้างก็ได้ครับ เช่น ถ้าเราเคยจ้างวิศวกรในปี 2554 อยู่ที่ 18,000 บาท (ซึ่งสูงกว่าตลาดที่ 15,000 บาท) ปีนี้ตลาดบอกว่าเป็น 18,000 บาท ถ้าเราไม่ขยับเลย ก็ไม่จะไม่ค่อยถูกต้องนัก เพราะเราเองเคยเหนือกว่าตลาดอยู่ในอดีต ดังนั้นเราก็อาจจะใช้ตัวเลข 20% ที่ขยับขึ้นของอัตราแรกจ้างวิศวกรเป็นตัวคำนวณก็ได้ครับ ในกรณีนี้เราก็อาจจะกำหนดอัตราแรกจ้างจาก 18,000 เป็น 21,500 บาทนั่นเองครับ ในยุคปัจจุบันนี้ มีคนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีเยอะมาก ซึ่งทำให้อัตราแรกจ้างของวุฒิการศึกษานี้มีความหลากหลายมากขึ้น บางองค์กรตั้งเป้าหมายว่าจะต้องได้คนที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐเท่านั้น ก็กำหนดอัตราที่สูงกว่า องค์กรที่กำหนดว่าไม่ต้องถึงกับมหาวิทยาลัยชั้นนำก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วคงอยู่ที่เป้าหมายของพนักงานที่เราต้องการว่าเราต้องการคนแบบไหนที่เข้ามาทำงาน และเราแข่งการจ้างคนแบบนั้นกับองค์กรใดบ้าง และต้องดูต่อว่าองค์กรเหล่านั้นเขามีการกำหนดอัตราแรกจ้างกันไว้เท่าไหร่ เราเองก็คงต้องกำหนดให้สามารถแข่งขันได้ เพื่อสุดท้ายแล้วจะได้สามารถดึงดูด และรักษาพนักงานที่มีฝืมือให้ทำงานกับบริษัทนั่นเองครับ
Create Date : 30 ตุลาคม 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 30 ตุลาคม 2555 7:10:43 น. |
Counter : 2470 Pageviews. |
|
|