จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2558
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 
ถุงมือประหลาด ตอนที่ ๑๗

นวนิยายสืบสวน สอบสวน ของนักสืบพราน เล่มที่ ๒ โดย ๔๔๑๑
เรื่องที่ ๕

เรื่อง ถุงมือประหลาด

คอนที่ ๑๗


พราน เจนเชิง ยกมือขึ้นเคาะที่บังตาประตูห้องทำงาน สารวัตรพจน์ แล้วผลักให้เปิดออก พร้อมกับดันหลัง พร เพียรธรรม ให้ก้าวเท้าเข้าไป ตัวเขาเดินขึ้นมาจับแขนข้างซ้ายของ พร และพาเข้าไปหา สารวัตรพจน์ ซี่งนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน และเงยหน้าขึ้นดู

สารวัตรพจน์ ขมวดคิ้วแว่บหนึ่ง เมื่อเห็นหน้า พร เพียรธรรม แต่แล้วสงบกิริยา ขณะที่ พราน พูดขึ้นว่า
“ ผมพาคนส่งซองจดหมายมาให้ท่านสารวัตร ”

พราน พา พร เพียรธรรม มายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงาน

สารวัตร มองดู พร แล้วเปลี่ยนสายตามาที่ พราน พูดว่า
“ นั่งลงก่อน แล้วเล่าเรื่องให้ผมฟัง ”

พราน นั่งลง และดึงแขน พร ให้นั่งตามด้วย

พิชิต เลื่อนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง มานั่งขนาบข้าง

พราน พูดว่า
“ ผมไปตามตัวเขาเจอที่บ้านของเขาในซอย จุฬา ซอย ๑๑ ได้พาไปให้แขกยามที่หน้า เซอิ๊ฟ ดูแล้ว และตัวเขาเองก็รับกับผมว่า เขาเป็นคนส่งซองจดหมายที่มีถุงมือประหลาดข้างนั้นให้ผมในคืนวันนั้น ”

พร เพียรธรรม ก้มหน้านิ่งอยู่

สารวัตรพจน์ พูดขึ้นว่า
“ ว่ายังไง พร จริงรึ ”

พร เงยหน้าขึ้น เขาสั่นศีรษะ
“ ไม่จริงครับ เขาซ้อมผมให้รับ ” เขาชี้ที่ปาก
“ ดูนี่ซีครับ เลือดยังกบปากผมอยู่เลย ”

สารวัตรพจนื มองดูหน้า พราน แล้วนิ่ง

“ เขาไปดึงตัวผมออกมาจากบ้าน ” พร พูดต่อไป น้ำเสียงขึงขัง “ พาไปที่หน้า เซอิ๊ฟ จริง แขกมันยังไม่ทันพูดว่าอะไร เขาก็ออกรถมา คุณคนนั้น...” เขาชี้ไปที่ พิชิต
“ ต่อยผมเสียปากแตก ... ท่านสารวัตรครับ เขามีอำนาจอะไรมาทำกับผมยังงี้ ”

พราน นั่งนิ่ง หันไปมอง พร และหรี่ตาเป็นสัญญาณ กับ พิชิต ซึ่งกำลังจ้องเขม็งกัดกรามมองดู พร ด้วยความโกรธ และเหลือบตาขึ้นมองดู พราน พอดี

พรานหันมาทาง สารวัตรพจน์ จับสายตานิ่ง และพูดว่า
“ ท่านสารวัตร จะเชื่อเขา หรือเชื่อผมก็ตามที ทั้งหมดนี้ ผมทำเพื่องานของท่านสารวัตร และเพื่อความยุติธรรม พิชิต ต่อยเขาจริง เพราะเขากำลังจะทำร้ายคนรถของผม ”

สารวัตรพจน์ เอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้ มองดูหน้าของคนทั้งสาม แล้วทิ้งสายตาลงต่ำ นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง พูดว่า
“ คุณรู้ไหมว่า เขาเป็นพยานในคดีฆาตกรรมรายนี้ ”

“ ผมทราบ ” พราน ตอบทันทีทันใด
“ และทราบด้วยว่า เขาเป็นคนของนายวิรัตน์ ที่ถูกฆ่าตาย ก่อนนายโรจน์ เป็นคนต้นเหตุของการโกงเงินสี่แสนบาทเรื่องสลากกินรวบ และเป็นพยานปากสำคัญที่เห็น สายสุนี ออกมาจากบ้านในเวลาใกล้เคียงกับที่เกิดคดีฆาตกรรม ”

สารวัตรพจน์ ยังคงนั่งนิ่งอยู่ในกิริยาเดิม และพูดเนิบๆ ขึ้นว่า
“ คุณรู้ไหมว่า การทำร้ายพยานของตำรวจ เป็นความผิดฐานเจตนาขู่เข็ญพยาน ”

“ ผมถือว่า เขาเป็นพยานเท็จ ฉะนั้น เขาไม่ใช่พยานปากสำคัญ ”

“ พยานเท็จ... เชอะ ! ” พร เน้นเสียงออกมา

“ ลื้อยังไม่มีหน้าที่ที่จะพูดอะไร ”
สารวัตรพจน์ พูดเสียงเนิบ ๆ ตามเดิม และเหลือบตาขึ้นมองดู พร
“ จนกว่าอั้วจะบอกให้พูด ” เขาหันสายตามาทาง พราน “ คุณทำอย่างไร จึงรู้ที่อยู่ของ พร ”
พร ชำเลืองตามาทาง พราน แล้วทำกิริยาไม่รู้ไม่ชี้

พราน พูดขึ้นว่า
“ ท่านสารวัตร ให้ใครนำเอาหมอนี่ออกไปข้างนอกเสียก่อน แล้วผมจะเล่าให้ฟัง ”

สารวัตรพจน์ หรี่ตาคิดอยู่ครู่หนึ่ง กดกริ่งบนโต๊ะ ตำรวจผู้หนึ่งเปิดบังตาเข้ามา

สารวัตรพจน์ ชี้มือไปที่ พร และพูดว่า
“ เอาคนนี้ไปไว้ในห้องสอบสวน ”

ตำรวจผู้นั้น พยักหน้าไปที่ พร ซึ่งกำลังลุกขึ้น

สารวัตรพจน์ ขยับตัว และพูดว่า

“ เดี๋ยวก่อน ” เขาเบนสายตามาที่ พราน “ คุณมีคนขับรถมาด้วย ไม่ใช่หรือ ”

“ ครับ ”

“ เขาอยู่กับคุณตลอดเวลา ? ”

“ ตลอดเวลา ตั้งแต่ผมออกจากที่นี่ไป หลังจากพบกับ สายสุนี แล้ว ”

สารวัตรพจน์ ดึงกระดาษมาแผ่นหนึ่ง วางบนตัก ใช้ดินสอเขียนข้อความลงไปบนกระดาษแผ่นนั้น และพูดว่า
“ เอากระดาษนี้ไปให้ คุณผจญ ด้วย ”

ตำรวจผู้นั้นชิดเท้า ยื่นมือมารับแผ่นกระดาษ แล้วนำตัว พร เพียรธรรม ออกไป

สารวัตรพจน์ ขยับตัวในท่าพิงพนักตามเดิม พูดว่า
“ เอ้า...ว่าไป ”

พราน ชะโงกตัว ใช้ท่อนแขนยันโต๊ะ พูดว่า
“ ผมไปพบกับ ลัดดา มา และผมได้คุยกันถึงเรื่องเงินสี่แสนบาท เรื่องสลากกินรวบ ที่เป็นต้นตอแห่งฆาตกรรมนายวิรัตน์ และซึ่งผมเชื่อว่า เป็นต้นตอการฆาตกรรมคนที่เชื่อกันว่าเป็น นายโรจน์ นี้ด้วย ”

“ เดี๋ยว ” สารวัตรพจน์ ขัดขึ้น “ คุณใช้คำว่า คนที่เชื่อกันว่าเป็น นายโรจน์ หมายความว่าอะไร ”

“ หมายความว่า ศพนั้น ไม่ใช่ศพ นายโรจน์ ”

“ คุณมีอะไรพิสูจน์ ”

“ ผมมี แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะนำมาพิสูจน์เวลานี้ ”

“ หมายความว่า คุณเชื่อว่า เป็นศพนายวิรัตน์ ? ”

“ หมายความว่า ศพนั้นคือ ศพนายวิรัตน์ ”
พราน พูด เน้นถ้อยคำ

“ เล่าต่อไป ”

“ ผมทิ้งปัญหาบางอย่างให้ ลัดดา ขบคิด และวางคนไว้คอยติดตามเวลาผมออกมาแล้ว ลัดดา ได้ออกจากบ้านไปหลังจากที่ผมออกมา บ้านแรกคือ บ้าน นายพร แล้วต่อไป คือบ้านของใครคนหนึ่งที่ถนน นเรศร์ ”

“ ขณะนี้ ลัดดา อยู่ที่บ้านของใครคนนั้นที่ ถนนนเรศร์ ยังงั้นหรือ ”

“ เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้วมา... ใช่... แต่ขณะนี้ ผมไม่แน่ใจ ”

สารวัตรพจน์ นิ่ง

พราน เริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่เขาออกจากสำนักงานไปที่บ้าน นายพร เอาตัวมาโดยวิธีใด และเหตุการณ์ในรถยนต์ห้ฟังโดยละเอียด

สารวัตรพจน์ นิ่งฟังด้วยอาการสงบ

พราน เข้าใจดีว่า ตลอดเวลาที่นั่งฟังนิ่งอยู่นั้น ความคิดของ สารวัตรพจน์ ผู้นี้กำลังเดินอยู่เรื่อย ๆ เขาหยุดนิ่งเมื่อเล่าเหตุการณ์นั้นจบลง

ในที่สุด สารวัตรพจน์ พูดขึ้นว่า
“ คุณจะทำอย่างไรต่อไป ”

“ ผมได้นำตัวคนส่งซองจดหมายมาให้ท่านสารวัตรแล้ว และคนๆ นี้ เป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมที่ไว้ใจไม่ได้เพียงใด ท่านสารวัตรก็เห็นอยู่ ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของท่านสารวัตร ที่จะสืบสาวราวเรื่องเอาตามข้อเท็จจริงที่ผมเล่าให้ฟัง แต่ท่านสารวัตรต้องไม่ลืมว่า จากการตรวจศพของแพทย์ เขาลงความเห็นว่า ศพนั้นได้ตายก่อน ๒๑.๐๐ น. ”

“ ทำไม ”

“ อ้าว... ท่านสารวัตร ลืมเสียแล้วหรือครับว่า เวลาเกือบจะห้าทุ่ม สายสุนี กับนายโรจน์ ได้ไปแจ้งความของหายที่สถานีตำรวจสามแยก ตำรวจท้องที่ได้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุในทันทีนั้น และตอนนั้น ตำรวจยังไม่ได้พบศพ เขาได้รับแจ้งทางโทรศัพท์อีกครั้งหนึ่ง ตอนสองยามเศษ เกือบตีหนึ่ง และได้พบศพในตอนนั้น ศพนั้นตายด้วยการกระทบกระเทือนอย่างแรงที่ศีรษะ ไม่ใช่ด้วยมีดซึ่งคนร้ายปักพรางตาไว้ และเลือดที่ไหลนองที่พื้นก็คงไม่ใช่เลือดของผู้ตาย ใช่ไหมครับ ”

สารวัตรพจน์ พยักหน้าช้า ๆ พูดว่า
“ มันเป็นเลือดของสัตว์ประเภทหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เลือดคน ... ผมได้ให้เขาพิสูจน์ดูแล้ว หลังจากที่ได้ทราบว่า เวลาของการตาย มันไม่ได้เข้ารูปรอยของหลักฐานที่เราสอบมาได้ นี่เป็นตอนสำคัญที่ทำให้หลักฐานต่างๆ ต่อกันไม่ติด หมายความว่า ผมจะต้องปล่อยตัว สายสุนี ”

“ อย่าเพิ่งครับ ” พราน ปรามขึ้นทันควัน “ จนกว่าท่านสารวัตร จะได้ตัวคนร้ายที่แท้จริง แม้แต่ตัว นายพร เพียรธรรม นี่ก็ดี ผมขอเรียนให้ท่านสารวัตรทราบว่า ถ้าปล่อยตัวเขาออกไปก่อนที่จะได้ตัวคนร้าย เขาอาจไม่ปลอดภัยทั้งสองคน ”

“ เพราะอะไร ”

“ ผมก็ยังไม่ทราบ แต่ผมรู้สึกอย่างนั้น ” พราน พูด
“ ขออนุญาตผมใช้โทรศัพท์หน่อย ”

สารวัตรพจน์ พยักหน้า แล้วก้มหน้าลงครุ่นคิด ขณะที่ พราน ต่อโทรศัพท์ไปยังสำนักงานของเขา
เสียงของ กัลยา รับสาย

พราน พูดว่า
“ มีอะไรเข้ามาบ้างหรือยัง... กัลยา ”

“ คุณเอนก กลับมาแล้วค่ะ ”

“ ว่ายังไง... ไปถึงไหน ”

“ ศรีราชา ”

“ หา... ยังงั้นเชียวหรือ ”

“ ค่ะ... เขาเข้าไปในบ้านของ สายสุนี ที่เราไปด้วยกันวันนั้น ”

พราน นิ่งอยู่สักครู่ แล้วพูดว่า
“ เกรียง ว่าอย่างไร ”

“ คุณเกรียง ยังไม่กลับค่ะ ”

“ มีการติดต่ออะไรมาหรือเปล่า ”

“ ครั้งสุดท้าย คุณเกรียงโทรศีพท์มาจากนเรศร์ บอกว่า มีรถยนต์แล่นออกจากบ้านถนนนเรศร์ แกเห็น ลัดดา นั่งออกมาด้วย และมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถ รถคันนั้นวกกลับมาที่บ้านจุฬาซอย ๑๑ คนทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านเดิมตามรายงานครั้งแรก แล้วกลับออกมา ขับไปทางกษัตริย์ศึก หยุดอยู่ที่ปากตรอกสวนมะลิ คุณเกรียงโทรศัพท์มาจากที่ใกล้ๆ นั่น ”

“ นานเท่าไรแล้ว ”

“ ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ค่ะ ”

พราน เหลือบตามอง สารวัตรพจน์ แว่บหนึ่ง แล้วพูดในโทรศัพท์ว่า
“ ดีแล้ว... ขอบใจ คุณกินกลางวันแล้วหรือยัง ”

“ ยังค่ะ... รอฟังข่าวอยู่ ”

พราน ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เข็มชี้บอกเวลาเกือบ ๑๕.๐๐ น.
" ประเดี๋ยว ไปพบกับผมที่ร้านราชวงศ์ นั่งแท๊กซี่ไป สั่งคนที่สำนักงานไว้ ถ้า เกรียง ติดต่อเข้ามา ให้เขาเลิกได้ และตามไปพบพวกเราที่นั่น บอกเอนกให้ไปด้วย ”

“ ค่ะ... ดิฉันไปเดี๋ยวนี้หรือคะ ”

“ เดี๋ยวนี้... ก่อนที่คุณจะเป็นลมไปเสียก่อน ”

เสียง กัลยา หัวเราะเบา ๆ ดังเข้ามาก่อนที่จะรับปาก และวางหู

พราน วางหูโทรศัพท์ ทรุดตัวลงนั่งตามเดิม เขามองดู สารวัตรพจน์ ซึ่งยังคงนั่งนิ่ง ก้มหน้าครุ่นคิดอยู่

พราน พูดขึ้นว่า
“ ผมหมดธุระแล้วครับ จะไปหาอะไรกินเสียที ท้องชักจะร้อง ”

สารวัตรพจน์ เงยหน้าขึ้น
“ เดี๋ยวก่อน พราน ผมยังคิดอะไรไม่ตกอยู่ข้อหนึ่ง ”

“ อะไรครับ ”

“ เรื่องสถานที่เกิดเหตุ ”

พราน หัวเราะ
“ ทำไมท่านสารวัตร ไม่เอารูปถ่ายที่เกิดเหตุ ที่ท่านสารวัตร มีอยู่ ไปให้นายร้อยเวรที่สถานีสามแยก ซึ่งเป็นผู้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุที่นายโรจน์ ไปแจ้งความ เขาดู และให้เขาดูว่า สถานที่เกิดเหตุตอนนั้น เหมือนกับในรูปนั้นหรือไม่ และขอให้สังเกตุดูให้ดีว่า ในรูปถ่ายตอนหัวเตียงในห้องนอนนั้น รอยรื้อค้นกระจุยกระจาย มีช่องว่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ ซึ่งเป็นลักษณะของที่วางตู้เล็ก ๆ อะไรใบหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นตู้เซฟเล็ก ๆ ที่ใช้เก็บเงินสี่แสนบาทนั่นก็ได้ ”

สารวัตรพจน์ กัดริมฝีปากเบา ๆ หรี่ตาคิด แล้วดีดมือเป๊าะ
“ เข้าที พราน เข้าที... ผมมองอะไรให้ละเอียดอ่อนเท่าคุณไม่ได้เลย... พับผ่า ”

พราน ลุกขึ้นยืน
“ ผมลาละครับ... อ้อ... ขอถามอะไรท่านสารวัตรสักหน่อย ”

“ อะไร ”

“ ท่านสารวัตร รู้มาได้อย่างไรว่า ผมรับซองจดหมายนั่น ”

“ มีคนบอกผม ”

“ ยังไม่ได้ตัวคนบอก ใช่ไหมครับ ”

สารวัตรพจน์ หัวเราะหึ ๆ ในลำคอ มองดู พราน เฉยอยู่

“ ถ้ามันเป็นทางโทรศัพท์ลึกลับ ” พราน พูดต่อไป “ ท่านสารวัตร ก็คงเดาออกแล้วว่าเป็นใคร และผมเชื่อว่า ต้องเป็นทางโทรศัพท์ และในเวลาใกล้เคียงกับสองยาม คืนวันนั้น ผู้พูดเป็นใคร ท่านสารวัตร ก็คงคาดเดาถูก ”

เขาหยุดครู่หนึ่ง หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อไปว่า
“ แต่ช่างเถอะครับ มันเป็นคำถามที่ผมไม่อยากได้คำตอบนัก ... สวัสดีครับ ”

พิชิต ลุกขึ้นตาม

“ สวัสดีครับ ... ท่านสารวัตร ”

สารวัตรพจน์ มองดู พราน ครู่หนึ่ง แล้วยิ้มพราย หันหน้าไปทาง พิชิต
“ ระวังหน่อย คุณพิชิต อย่าโมโหร้ายนัก ”

พิชิต ยิ้ม ยกมือไหว้ แล้วเดินตาม พรานไป

ร.ต.อ. ผจญ เปิดบังตาเข้ามา ขณะที่คนทั้งสองกำลังจะเดินไปถึงบังตา เขากางมือออกกั้นคนทั้งสองไว้ พูดว่า
“ เดี๋ยวก่อน ”

มืออีกข้างหนึ่งของ ผจญ ถือกระดาษคำการ ๒-๓ แผ่น เขาเดินมาที่ สารวัตรพจน์ ส่งกระดาษคำให้การนั้นให้ และพูดว่า
“ นี่ครับ... ที่ท่านสารวัตร ต้องการ ” เขาหันมาทาง พราน และ พิชิต “ คนสองคนนี่ ทำร้ายพยานของผม ท่านสารวัตร จะว่ายังไง ”

สารวัตรพจน์ รับกระดาษคำให้การมาวางไว้ตรงหน้า พูดว่า
“ ปล่อยเขาไป ”

“ ไหนฮ่ะ ” ผจญ พูด สีหน้าฉงน

“ ปล่อยเขาไป ” สารวัตรพจน์ พูด ก้มหน้าก้มตาอ่านคำให้การ “ และคุณ นั่งลงประเดี๋ยว ”

ผจญ ทรุดกายลงนั่ง แล้วหันไปมองคนทั้งสอง ซึ่งก้มศีรษะให้ และผลักบังตาออกไป โดยไม่รู้จะพูดอะไร

เมื่อรถยนต์ของ พราน แล่นออกจากกองปราบ ช่วย คนขับรถ พูดว่า
“ เมื่อตะกี้นี้ คุณผจญ ตามตัวผมขึ้นไปสอบสวน ”

“ คงจะเรื่องที่เกิดในรถยนต์ ”

“ ครับ ”

“ ลื้อให้การยังไงบ้าง ”

“ ตามที่ผมได้ยินทุกอย่าง ”

“ ตอนที่ พิชิต ต่อยปากไอ้เสือนั่นด้วยเรอะ ”

“ เปล่าครับ ... ตอนนั้น ผมไม่เห็น ”

พราน หัวเราะชอบใจ เขาหันไปมอง พิชิต

พราน พูดกับคนขับรถ
“ ไปราชวงศ์ ”




Create Date : 10 มีนาคม 2558
Last Update : 10 มีนาคม 2558 1:10:12 น. 2 comments
Counter : 617 Pageviews.

 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ธารน้อย Literature Blog ดู Blog



โดย: ก้นกะลา วันที่: 10 มีนาคม 2558 เวลา:20:53:06 น.  

 
ช็อตนี้ นายพรพลิกเกมจนนักสืบพรานหวิดเสียมวย


ในขณะที่สารวัตรพจน์ใช้ความนิ่งเป็นตัวเดินเกม


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 16 มีนาคม 2558 เวลา:11:31:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.