|
ถุงมือประหลาด ตอนที่ ๑๗
นวนิยายสืบสวน สอบสวน ของนักสืบพราน เล่มที่ ๒ โดย ๔๔๑๑ เรื่องที่ ๕
เรื่อง ถุงมือประหลาด
คอนที่ ๑๗
พราน เจนเชิง ยกมือขึ้นเคาะที่บังตาประตูห้องทำงาน สารวัตรพจน์ แล้วผลักให้เปิดออก พร้อมกับดันหลัง พร เพียรธรรม ให้ก้าวเท้าเข้าไป ตัวเขาเดินขึ้นมาจับแขนข้างซ้ายของ พร และพาเข้าไปหา สารวัตรพจน์ ซี่งนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน และเงยหน้าขึ้นดู
สารวัตรพจน์ ขมวดคิ้วแว่บหนึ่ง เมื่อเห็นหน้า พร เพียรธรรม แต่แล้วสงบกิริยา ขณะที่ พราน พูดขึ้นว่า ผมพาคนส่งซองจดหมายมาให้ท่านสารวัตร
พราน พา พร เพียรธรรม มายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงาน
สารวัตร มองดู พร แล้วเปลี่ยนสายตามาที่ พราน พูดว่า นั่งลงก่อน แล้วเล่าเรื่องให้ผมฟัง
พราน นั่งลง และดึงแขน พร ให้นั่งตามด้วย พิชิต เลื่อนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง มานั่งขนาบข้าง
พราน พูดว่า ผมไปตามตัวเขาเจอที่บ้านของเขาในซอย จุฬา ซอย ๑๑ ได้พาไปให้แขกยามที่หน้า เซอิ๊ฟ ดูแล้ว และตัวเขาเองก็รับกับผมว่า เขาเป็นคนส่งซองจดหมายที่มีถุงมือประหลาดข้างนั้นให้ผมในคืนวันนั้น
พร เพียรธรรม ก้มหน้านิ่งอยู่
สารวัตรพจน์ พูดขึ้นว่า ว่ายังไง พร จริงรึ
พร เงยหน้าขึ้น เขาสั่นศีรษะ ไม่จริงครับ เขาซ้อมผมให้รับ เขาชี้ที่ปาก ดูนี่ซีครับ เลือดยังกบปากผมอยู่เลย
สารวัตรพจนื มองดูหน้า พราน แล้วนิ่ง
เขาไปดึงตัวผมออกมาจากบ้าน พร พูดต่อไป น้ำเสียงขึงขัง พาไปที่หน้า เซอิ๊ฟ จริง แขกมันยังไม่ทันพูดว่าอะไร เขาก็ออกรถมา คุณคนนั้น... เขาชี้ไปที่ พิชิต ต่อยผมเสียปากแตก ... ท่านสารวัตรครับ เขามีอำนาจอะไรมาทำกับผมยังงี้
พราน นั่งนิ่ง หันไปมอง พร และหรี่ตาเป็นสัญญาณ กับ พิชิต ซึ่งกำลังจ้องเขม็งกัดกรามมองดู พร ด้วยความโกรธ และเหลือบตาขึ้นมองดู พราน พอดี
พรานหันมาทาง สารวัตรพจน์ จับสายตานิ่ง และพูดว่า ท่านสารวัตร จะเชื่อเขา หรือเชื่อผมก็ตามที ทั้งหมดนี้ ผมทำเพื่องานของท่านสารวัตร และเพื่อความยุติธรรม พิชิต ต่อยเขาจริง เพราะเขากำลังจะทำร้ายคนรถของผม
สารวัตรพจน์ เอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้ มองดูหน้าของคนทั้งสาม แล้วทิ้งสายตาลงต่ำ นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง พูดว่า คุณรู้ไหมว่า เขาเป็นพยานในคดีฆาตกรรมรายนี้
ผมทราบ พราน ตอบทันทีทันใด และทราบด้วยว่า เขาเป็นคนของนายวิรัตน์ ที่ถูกฆ่าตาย ก่อนนายโรจน์ เป็นคนต้นเหตุของการโกงเงินสี่แสนบาทเรื่องสลากกินรวบ และเป็นพยานปากสำคัญที่เห็น สายสุนี ออกมาจากบ้านในเวลาใกล้เคียงกับที่เกิดคดีฆาตกรรม
สารวัตรพจน์ ยังคงนั่งนิ่งอยู่ในกิริยาเดิม และพูดเนิบๆ ขึ้นว่า คุณรู้ไหมว่า การทำร้ายพยานของตำรวจ เป็นความผิดฐานเจตนาขู่เข็ญพยาน
ผมถือว่า เขาเป็นพยานเท็จ ฉะนั้น เขาไม่ใช่พยานปากสำคัญ
พยานเท็จ... เชอะ ! พร เน้นเสียงออกมา
ลื้อยังไม่มีหน้าที่ที่จะพูดอะไร สารวัตรพจน์ พูดเสียงเนิบ ๆ ตามเดิม และเหลือบตาขึ้นมองดู พร จนกว่าอั้วจะบอกให้พูด เขาหันสายตามาทาง พราน คุณทำอย่างไร จึงรู้ที่อยู่ของ พร พร ชำเลืองตามาทาง พราน แล้วทำกิริยาไม่รู้ไม่ชี้
พราน พูดขึ้นว่า ท่านสารวัตร ให้ใครนำเอาหมอนี่ออกไปข้างนอกเสียก่อน แล้วผมจะเล่าให้ฟัง
สารวัตรพจน์ หรี่ตาคิดอยู่ครู่หนึ่ง กดกริ่งบนโต๊ะ ตำรวจผู้หนึ่งเปิดบังตาเข้ามา
สารวัตรพจน์ ชี้มือไปที่ พร และพูดว่า เอาคนนี้ไปไว้ในห้องสอบสวน ตำรวจผู้นั้น พยักหน้าไปที่ พร ซึ่งกำลังลุกขึ้น
สารวัตรพจน์ ขยับตัว และพูดว่า
เดี๋ยวก่อน เขาเบนสายตามาที่ พราน คุณมีคนขับรถมาด้วย ไม่ใช่หรือ
ครับ
เขาอยู่กับคุณตลอดเวลา ?
ตลอดเวลา ตั้งแต่ผมออกจากที่นี่ไป หลังจากพบกับ สายสุนี แล้ว
สารวัตรพจน์ ดึงกระดาษมาแผ่นหนึ่ง วางบนตัก ใช้ดินสอเขียนข้อความลงไปบนกระดาษแผ่นนั้น และพูดว่า เอากระดาษนี้ไปให้ คุณผจญ ด้วย
ตำรวจผู้นั้นชิดเท้า ยื่นมือมารับแผ่นกระดาษ แล้วนำตัว พร เพียรธรรม ออกไป
สารวัตรพจน์ ขยับตัวในท่าพิงพนักตามเดิม พูดว่า เอ้า...ว่าไป
พราน ชะโงกตัว ใช้ท่อนแขนยันโต๊ะ พูดว่า ผมไปพบกับ ลัดดา มา และผมได้คุยกันถึงเรื่องเงินสี่แสนบาท เรื่องสลากกินรวบ ที่เป็นต้นตอแห่งฆาตกรรมนายวิรัตน์ และซึ่งผมเชื่อว่า เป็นต้นตอการฆาตกรรมคนที่เชื่อกันว่าเป็น นายโรจน์ นี้ด้วย
เดี๋ยว สารวัตรพจน์ ขัดขึ้น คุณใช้คำว่า คนที่เชื่อกันว่าเป็น นายโรจน์ หมายความว่าอะไร
หมายความว่า ศพนั้น ไม่ใช่ศพ นายโรจน์
คุณมีอะไรพิสูจน์
ผมมี แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะนำมาพิสูจน์เวลานี้
หมายความว่า คุณเชื่อว่า เป็นศพนายวิรัตน์ ?
หมายความว่า ศพนั้นคือ ศพนายวิรัตน์ พราน พูด เน้นถ้อยคำ
เล่าต่อไป
ผมทิ้งปัญหาบางอย่างให้ ลัดดา ขบคิด และวางคนไว้คอยติดตามเวลาผมออกมาแล้ว ลัดดา ได้ออกจากบ้านไปหลังจากที่ผมออกมา บ้านแรกคือ บ้าน นายพร แล้วต่อไป คือบ้านของใครคนหนึ่งที่ถนน นเรศร์
ขณะนี้ ลัดดา อยู่ที่บ้านของใครคนนั้นที่ ถนนนเรศร์ ยังงั้นหรือ
เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้วมา... ใช่... แต่ขณะนี้ ผมไม่แน่ใจ
สารวัตรพจน์ นิ่ง
พราน เริ่มเล่าเรื่องตั้งแต่เขาออกจากสำนักงานไปที่บ้าน นายพร เอาตัวมาโดยวิธีใด และเหตุการณ์ในรถยนต์ห้ฟังโดยละเอียด
สารวัตรพจน์ นิ่งฟังด้วยอาการสงบ
พราน เข้าใจดีว่า ตลอดเวลาที่นั่งฟังนิ่งอยู่นั้น ความคิดของ สารวัตรพจน์ ผู้นี้กำลังเดินอยู่เรื่อย ๆ เขาหยุดนิ่งเมื่อเล่าเหตุการณ์นั้นจบลง
ในที่สุด สารวัตรพจน์ พูดขึ้นว่า คุณจะทำอย่างไรต่อไป
ผมได้นำตัวคนส่งซองจดหมายมาให้ท่านสารวัตรแล้ว และคนๆ นี้ เป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมที่ไว้ใจไม่ได้เพียงใด ท่านสารวัตรก็เห็นอยู่ ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของท่านสารวัตร ที่จะสืบสาวราวเรื่องเอาตามข้อเท็จจริงที่ผมเล่าให้ฟัง แต่ท่านสารวัตรต้องไม่ลืมว่า จากการตรวจศพของแพทย์ เขาลงความเห็นว่า ศพนั้นได้ตายก่อน ๒๑.๐๐ น.
ทำไม
อ้าว... ท่านสารวัตร ลืมเสียแล้วหรือครับว่า เวลาเกือบจะห้าทุ่ม สายสุนี กับนายโรจน์ ได้ไปแจ้งความของหายที่สถานีตำรวจสามแยก ตำรวจท้องที่ได้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุในทันทีนั้น และตอนนั้น ตำรวจยังไม่ได้พบศพ เขาได้รับแจ้งทางโทรศัพท์อีกครั้งหนึ่ง ตอนสองยามเศษ เกือบตีหนึ่ง และได้พบศพในตอนนั้น ศพนั้นตายด้วยการกระทบกระเทือนอย่างแรงที่ศีรษะ ไม่ใช่ด้วยมีดซึ่งคนร้ายปักพรางตาไว้ และเลือดที่ไหลนองที่พื้นก็คงไม่ใช่เลือดของผู้ตาย ใช่ไหมครับ
สารวัตรพจน์ พยักหน้าช้า ๆ พูดว่า มันเป็นเลือดของสัตว์ประเภทหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เลือดคน ... ผมได้ให้เขาพิสูจน์ดูแล้ว หลังจากที่ได้ทราบว่า เวลาของการตาย มันไม่ได้เข้ารูปรอยของหลักฐานที่เราสอบมาได้ นี่เป็นตอนสำคัญที่ทำให้หลักฐานต่างๆ ต่อกันไม่ติด หมายความว่า ผมจะต้องปล่อยตัว สายสุนี
อย่าเพิ่งครับ พราน ปรามขึ้นทันควัน จนกว่าท่านสารวัตร จะได้ตัวคนร้ายที่แท้จริง แม้แต่ตัว นายพร เพียรธรรม นี่ก็ดี ผมขอเรียนให้ท่านสารวัตรทราบว่า ถ้าปล่อยตัวเขาออกไปก่อนที่จะได้ตัวคนร้าย เขาอาจไม่ปลอดภัยทั้งสองคน
เพราะอะไร
ผมก็ยังไม่ทราบ แต่ผมรู้สึกอย่างนั้น พราน พูด ขออนุญาตผมใช้โทรศัพท์หน่อย
สารวัตรพจน์ พยักหน้า แล้วก้มหน้าลงครุ่นคิด ขณะที่ พราน ต่อโทรศัพท์ไปยังสำนักงานของเขา เสียงของ กัลยา รับสาย
พราน พูดว่า มีอะไรเข้ามาบ้างหรือยัง... กัลยา
คุณเอนก กลับมาแล้วค่ะ
ว่ายังไง... ไปถึงไหน
ศรีราชา
หา... ยังงั้นเชียวหรือ
ค่ะ... เขาเข้าไปในบ้านของ สายสุนี ที่เราไปด้วยกันวันนั้น
พราน นิ่งอยู่สักครู่ แล้วพูดว่า เกรียง ว่าอย่างไร
คุณเกรียง ยังไม่กลับค่ะ
มีการติดต่ออะไรมาหรือเปล่า
ครั้งสุดท้าย คุณเกรียงโทรศีพท์มาจากนเรศร์ บอกว่า มีรถยนต์แล่นออกจากบ้านถนนนเรศร์ แกเห็น ลัดดา นั่งออกมาด้วย และมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถ รถคันนั้นวกกลับมาที่บ้านจุฬาซอย ๑๑ คนทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านเดิมตามรายงานครั้งแรก แล้วกลับออกมา ขับไปทางกษัตริย์ศึก หยุดอยู่ที่ปากตรอกสวนมะลิ คุณเกรียงโทรศัพท์มาจากที่ใกล้ๆ นั่น
นานเท่าไรแล้ว
ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ค่ะ
พราน เหลือบตามอง สารวัตรพจน์ แว่บหนึ่ง แล้วพูดในโทรศัพท์ว่า ดีแล้ว... ขอบใจ คุณกินกลางวันแล้วหรือยัง
ยังค่ะ... รอฟังข่าวอยู่
พราน ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เข็มชี้บอกเวลาเกือบ ๑๕.๐๐ น. " ประเดี๋ยว ไปพบกับผมที่ร้านราชวงศ์ นั่งแท๊กซี่ไป สั่งคนที่สำนักงานไว้ ถ้า เกรียง ติดต่อเข้ามา ให้เขาเลิกได้ และตามไปพบพวกเราที่นั่น บอกเอนกให้ไปด้วย
ค่ะ... ดิฉันไปเดี๋ยวนี้หรือคะ
เดี๋ยวนี้... ก่อนที่คุณจะเป็นลมไปเสียก่อน
เสียง กัลยา หัวเราะเบา ๆ ดังเข้ามาก่อนที่จะรับปาก และวางหู
พราน วางหูโทรศัพท์ ทรุดตัวลงนั่งตามเดิม เขามองดู สารวัตรพจน์ ซึ่งยังคงนั่งนิ่ง ก้มหน้าครุ่นคิดอยู่
พราน พูดขึ้นว่า ผมหมดธุระแล้วครับ จะไปหาอะไรกินเสียที ท้องชักจะร้อง
สารวัตรพจน์ เงยหน้าขึ้น เดี๋ยวก่อน พราน ผมยังคิดอะไรไม่ตกอยู่ข้อหนึ่ง
อะไรครับ
เรื่องสถานที่เกิดเหตุ
พราน หัวเราะ ทำไมท่านสารวัตร ไม่เอารูปถ่ายที่เกิดเหตุ ที่ท่านสารวัตร มีอยู่ ไปให้นายร้อยเวรที่สถานีสามแยก ซึ่งเป็นผู้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุที่นายโรจน์ ไปแจ้งความ เขาดู และให้เขาดูว่า สถานที่เกิดเหตุตอนนั้น เหมือนกับในรูปนั้นหรือไม่ และขอให้สังเกตุดูให้ดีว่า ในรูปถ่ายตอนหัวเตียงในห้องนอนนั้น รอยรื้อค้นกระจุยกระจาย มีช่องว่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็กๆ ซึ่งเป็นลักษณะของที่วางตู้เล็ก ๆ อะไรใบหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นตู้เซฟเล็ก ๆ ที่ใช้เก็บเงินสี่แสนบาทนั่นก็ได้
สารวัตรพจน์ กัดริมฝีปากเบา ๆ หรี่ตาคิด แล้วดีดมือเป๊าะ เข้าที พราน เข้าที... ผมมองอะไรให้ละเอียดอ่อนเท่าคุณไม่ได้เลย... พับผ่า
พราน ลุกขึ้นยืน ผมลาละครับ... อ้อ... ขอถามอะไรท่านสารวัตรสักหน่อย
อะไร
ท่านสารวัตร รู้มาได้อย่างไรว่า ผมรับซองจดหมายนั่น
มีคนบอกผม
ยังไม่ได้ตัวคนบอก ใช่ไหมครับ สารวัตรพจน์ หัวเราะหึ ๆ ในลำคอ มองดู พราน เฉยอยู่
ถ้ามันเป็นทางโทรศัพท์ลึกลับ พราน พูดต่อไป ท่านสารวัตร ก็คงเดาออกแล้วว่าเป็นใคร และผมเชื่อว่า ต้องเป็นทางโทรศัพท์ และในเวลาใกล้เคียงกับสองยาม คืนวันนั้น ผู้พูดเป็นใคร ท่านสารวัตร ก็คงคาดเดาถูก
เขาหยุดครู่หนึ่ง หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อไปว่า แต่ช่างเถอะครับ มันเป็นคำถามที่ผมไม่อยากได้คำตอบนัก ... สวัสดีครับ
พิชิต ลุกขึ้นตาม
สวัสดีครับ ... ท่านสารวัตร
สารวัตรพจน์ มองดู พราน ครู่หนึ่ง แล้วยิ้มพราย หันหน้าไปทาง พิชิต ระวังหน่อย คุณพิชิต อย่าโมโหร้ายนัก
พิชิต ยิ้ม ยกมือไหว้ แล้วเดินตาม พรานไป
ร.ต.อ. ผจญ เปิดบังตาเข้ามา ขณะที่คนทั้งสองกำลังจะเดินไปถึงบังตา เขากางมือออกกั้นคนทั้งสองไว้ พูดว่า เดี๋ยวก่อน
มืออีกข้างหนึ่งของ ผจญ ถือกระดาษคำการ ๒-๓ แผ่น เขาเดินมาที่ สารวัตรพจน์ ส่งกระดาษคำให้การนั้นให้ และพูดว่า นี่ครับ... ที่ท่านสารวัตร ต้องการ เขาหันมาทาง พราน และ พิชิต คนสองคนนี่ ทำร้ายพยานของผม ท่านสารวัตร จะว่ายังไง
สารวัตรพจน์ รับกระดาษคำให้การมาวางไว้ตรงหน้า พูดว่า ปล่อยเขาไป
ไหนฮ่ะ ผจญ พูด สีหน้าฉงน
ปล่อยเขาไป สารวัตรพจน์ พูด ก้มหน้าก้มตาอ่านคำให้การ และคุณ นั่งลงประเดี๋ยว
ผจญ ทรุดกายลงนั่ง แล้วหันไปมองคนทั้งสอง ซึ่งก้มศีรษะให้ และผลักบังตาออกไป โดยไม่รู้จะพูดอะไร
เมื่อรถยนต์ของ พราน แล่นออกจากกองปราบ ช่วย คนขับรถ พูดว่า เมื่อตะกี้นี้ คุณผจญ ตามตัวผมขึ้นไปสอบสวน
คงจะเรื่องที่เกิดในรถยนต์
ครับ
ลื้อให้การยังไงบ้าง
ตามที่ผมได้ยินทุกอย่าง
ตอนที่ พิชิต ต่อยปากไอ้เสือนั่นด้วยเรอะ
เปล่าครับ ... ตอนนั้น ผมไม่เห็น
พราน หัวเราะชอบใจ เขาหันไปมอง พิชิต
พราน พูดกับคนขับรถ ไปราชวงศ์
Create Date : 10 มีนาคม 2558 |
Last Update : 10 มีนาคม 2558 1:10:12 น. |
|
2 comments
|
Counter : 617 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ก้นกะลา วันที่: 10 มีนาคม 2558 เวลา:20:53:06 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 16 มีนาคม 2558 เวลา:11:31:58 น. |
|
|
|
| |
|
|
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ธารน้อย Literature Blog ดู Blog