* = * * = * * = * รีวิวไหว้พระ 9 วัด ณ เชียงใหม่ วัดที่หก วัดเชียงยืน * = * * = * * = *
สวัสดีค่ะ
หลังจากพาไปหม่ำๆ และทำสิ่งที่เป็นกุศลรับปีใหม่ด้วยการไหว้พระ 9 วัดไปแล้ว 5 วัดดังนี้
ร้านอาหารร้านแรกของทริปปีใหม่ 2554 ไปแล้วคือ ไก่ถังวังทอง พิษณุโลก (คลิกเพื่ออ่าน)
ตามด้วย ข้าวมันไก่เกียรติโอชา + ร้านหวานละมุน (คลิกเพื่ออ่าน)
รีวิวทริปไหว้พระ 9 วัด วัดแรก ณ วัดลอยเคราะห์ (คลิกเพื่ออ่าน)
วัดที่สอง วัดหมื่นล้าน (คลิกเพื่ออ่าน)
วัดที่สาม วัดดวงดี (คลิกเพื่ออ่าน)
วัดที่สี่ วัดชัยพระเกียรติ (คลิกเพื่ออ่าน)
และวัดที่ห้า วัดเชียงมั่น (คลิกเพื่ออ่าน)
วันนี้จะพาไปวัดเชียงยืนกันบ้างนะคะ
ประัวัติวัดเชียงยืนจาก //www.chiangmai-thailand.net/temple/chiangyuan/chiangyuan.html ค่ะ
วัดเชียงยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในวัดมงคลนาม หลาย ๆ วัดในเชียงใหม่เป็นวัดที่มีความสำคัญและโดดเด่นในด้านความเชื่อและประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่อย่างยิ่งวัดหนึ่ง
“วัดเชียงยืน” หรือในเอกสารโบราณเช่นพงศาวดารโยนกอาจเรียกว่า “วัดฑีฆชีวะวัสสาราม” หรือในตำนานชินกาลมาลีปกรณ์เรียกว่า “วัดฑีฆายวิสาราม” หรือ “ฑีฆาชีวิตสาราม” ซึ่งล้วนแล้วแต่หมายถึงชีวิตที่ยืนยาวทั้งสิ้น เฉกเช่นชื่อวัดที่เรียกกันโดยทั่วไปนั่นเอง ทำให้หลาย ๆ คนต่างมุ่งที่จะได้ไปไหว้ไปสาที่วัดแห่งนี้ในวันสำคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่สากล วันปีใหม่ไทย เป็นต้น
ความเป็นมาของวัดยังไม่แน่ชัด แต่ก็มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับที่มาเอาไว้ตามเอกสารของทางวัดว่าไว้ว่า น่าจะสร้างในสมัยพญามังราย ด้วยสร้างไว้ให้เป็นคู่กันกับวัดเชียงมั่นที่เป็นวัดแรกในเวียงเชียงใหม่ ส่วนวัดเชียงยืนเป็นวัดที่สอง สร้างไว้นอกเวียงทางด้านหัวเวียงเพื่อให้มีความหมายว่า “มั่นคง” และ “ยั่งยืน” นอกจากนี้ยังสร้างไว้ให้เป็นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา สำหรับศรัทธาข้าเมืองทั้งหลายที่อยู่รอบนอกกำแพงเมือง ยามเมื่อประตูเมืองปิดลง
การกล่าวถึงวัดเชียงยืนครั้งแรกนั้น ได้ปรากฏอยู่ในเอกสารที่ชื่อว่า ชินกาลมาลีปกรณ์ที่รจนาโดยพระรัตนปัญญาเถระ ผู้เป็นปราชญ์แห่งล้านนาท่านหนึ่ง ซึ่งกล่าวไว้ว่า เมื่อปีเถาะจุลศักราช ๘๘๑ (พ.ศ. ๒๐๖๒) พระเมืองแก้วและมหาเทวีพระมารดาได้กระทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระสถูปใหญ่ที่วัดทีฆาชีวิตสาราม เมื่อวันพุธ ขึ้น ๕ ค่ำเดือน ๓”
ส่วนในปีถัดมา “ปีมะโรง จุลศักราช ๘๘๒ (พ.ศ. ๒๐๖๓) ฝ่ายพระราชากับพระราชมารดาได้โปรดให้จัดงานยกฉัตรมหาเจดีย์วัดทีฆาชีวิตสารามเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๘ ยามเที่ยง” ทำให้เชื่อกันว่า เจดีย์วัดเชียงยืนแห่งนี้สร้างในสมัยพระเมืองแก้วและได้มีการบูรณะกันเรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน องค์เจดีย์เป็นเจดีย์ทรงกลม ฐานเหลี่ยมสูง ย่อเก็จมีรูปปั้นสิงห์ตัวใหญ่ ๑ ตัว เล็ก ๒ ตัวประดับมุมฐานเจดีย์ทั้ง ๔ ทิศ กอปรกับตัวองค์เจดีย์นั้นได้มีการประดับด้วยดอกไม้สีทองอยู่ทั่วไปอีกด้วย
จนเมื่อวันจันทร์ ที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้มีการบวงสรวงอัญเชิญยอดฉัตรเจดีย์ลงเพื่อทำการบูรณะใหม่ ปรากฏว่ามีการพบองค์พระธาตุซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณข้างในดอกบัวตูมยอดฉัตร จำนวน ๗ องค์ และได้อัญเชิญนำไปประดิษฐานไว้ในวิหารพระสัพพัญญูเจ้า เพื่อรอการอัญเชิญนำขึ้นประดิษฐานที่เดิม ยามที่ทำการบูรณะเสร็จสิ้นแล้ว
ส่วนจุดที่ทำให้วัดเชียงยืนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้จักครองเมืองเชียงใหม่จะต้องมาทำการสักการะพระสัพพัญญู พระประธานในวิหารวัดเชียงยืนเสียก่อนทุกคราไปนั้น มาจากสมัยของพระไชยเชษฐาธิราชหรือในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่เรียกว่า พระญาอุปปโยในคราวที่มาครองเมืองเชียงใหม่ต่อจากมหาเทวีจิรประภาผู้เป็นยาย หลังจากที่พระญาอุปปโยเดินทางจากล้านช้าง มาพักอยู่ที่เชียงแสน เชียงรายตามลำดับ จนมาถึงเหมืองแก้ว
ที่นั้นเหล่าบรรดาเสนาอามาตย์ได้นำเครื่องเทียมยศมาแห่ต้อนรับเอาพระญาอุป ปโยเข้าไปยังเวียงเชียงใหม่ เดินทางมาจนถึงวัดเชียงยืน ซึ่งในตำนานกล่าวไว้ว่า “อังคาสราธนาเข้ามาเถิงปะตูโขงวัดเชียงยืน พระเปนเจ้าถอดเครื่องประดับไว้ ทรงผ้าเสื้อขาว ทือขันเข้าตอกดอกไม้เทียนเงินเทียนคำ เข้าไพปูชาไหว้นบพระสัพพัญญูเจ้าวัดเชียงยืน” จากนั้นจึงทำการเข้าสู่เวียงทางประตูช้างเผือก อันถือเป็นด้านหัวเวียงไปสู่ราชมณเฑียรหอคำแท่นแก้ว จารีตนี้ได้สืบทอดต่อกันมา
แม้นว่าช่วงหนึ่งที่ล้านนาตกเป็นเมืองขึ้นของพม่านานถึงสองร้อยกว่าปี ตราบจนฟื้นม่านสำเร็จ พระเจ้ากาวิละแห่งราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ เมื่อจักครองเมืองเชียงใหม่ก็ยังคงได้กระทำดังเช่นบูรพกษัตราธิราชได้กระทำมาแต่ก่อนนั้น ดังนี้
“เดือน ๖ ออก ๑๒ ฅ่ำ วัน ๕ ยามตูดเช้า ท้าวค็เสด็จเข้ายั้งอยู่วัดปุพพาราม ตามปุพพะทำนองโปราณะแห่งท้าวพระญาทังหลายฝูงอันเปนแล้วมาแต่ก่อน บ่ห่อนละเสียยังปเวณี ค็ปทักขิณวัฏฏ์กระหวัดไพทิสสะหนใต้ ลำดับไพด้วยด้านวันตกไพเถิงวัดเชียงยืนด้านเหนือพระเปนเจ้าเข้าไพสักการบูชาไหว้พระเจ้าวัดเชียงยืนแล้ว เถิงเพลายามแตรจักใกล้เที่ยง ท้าวค็ยกเอาหมู่ยัสสปริวารเข้าเวียงหลวง ด้วยปะตูช้างเผือกทิสสะหนเหนือ หื้อลวะจูงหมาพาแชกนำเข้าก่อน”
เหล่านี้เป็นธรรมเนียมเกี่ยวกับกษัตริย์ผู้ครองล้านนาเชียงใหม่ ตกทอดสืบถึงรุ่นหลังแต่ชาวบ้านทั่วไปก็เคารพนับถือพระสัพพัญญูเจ้าวัดเชียงยืนเป็นอย่างยิ่งกอปรกับชื่อวัดอันเป็นมงคลมักนิยมที่จะมาทำการสืบชะตาที่วัดเชียงยืนนี้ เพื่อหวังให้มีอายุที่ยืนยาว ดังจะเห็นเมื่อครั้งยามที่พระเจ้าอินทวิชชยานนท์หลังจากที่กลับมาจากกรุงเทพฯ โดยขึ้นที่ท่าน้ำวัดไชยมงคลก็จำไปทำการลอยเคราะห์ที่วัดลอยเคราะห์และดับภัยที่วัดดับภัยแล้วจึงมาทำการสืบชะตาที่วัดเชียงยืนแห่งนี้
ศาสนาสถานอีกแห่งหนึ่งของวัดนี้ ที่มีความงดงามโดดเด่นไม่แพ้พระธาตุเจดีย์หรือตัววิหารอันเก่าแก่แล้ว ยังมีอุโบสถทรง ๘ เหลี่ยม แตกแต่งตามสถาปัตยกรรมแบบพม่าที่งดงามและสมควรที่จะอนุรํกษ์ไว้เป็นอย่างยิ่ง นับเป็นอาราม ที่อยู่คู่เมืองเชียงใหม่มายาวนานละฝังรากลึกถึงความเคารพและศรัทธาของสาธุชนคนทั่วไปที่มีต่อวัดเชียงยืนและองค์พระสัพพัญญูเจ้าวัดเชียงยืน อย่างแน่นแฟ้น ดังจะเห็นว่าชุมชนที่เป็นศรัทธาวัดเชียงยืนมาจากหลายชุมชน ไม่ว่าจะเป็นชุมชนเชียงยืน ชุมชนอุ่นอารีย์ ชุมชนสามัคคีพัฒนา และชุมชนป่าเป้าจะร่วมมือกันดูแลอุปปัฏฐากวัดนี้ไม่เคยขาด โดยจะมีงานประจำปีคือประเพณีการสรงน้ำพระบรมธาตุวัดเชียงยืนในช่วงต้นเดือนเมษายนเป็นลำดับถัดจากวัดเชียงมั่นเสมอ
สำหรับวันนั้นคุณซะมีขับรถไปเข้าด้านข้างของวัดค่ะ แล้วก็วนไปจอดที่ด้านหน้าวิหารหลังนี้นะคะ


แต่เราเดินเลาะไปทางด้านซ้าย (เมื่อหันหน้าเข้าวิหาร) ไปยังประตูที่รถวิ่งเข้ามาก่อนค่ะ
เนื่องจากเห็นป้ายแว้บๆ ว่ามีป้ายข้อมูลวัดอยู่ด้วยน่ะนะคะ

ตัวองค์เจดีย์ด้านหลังวิหารค่ะ
จะเห็นว่ามีตุงกระด้างอยู่ที่ศาลาเล็กๆ ด้านหน้าเจดีย์ด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติมจากป้ายของทางวัดค่ะ
ทิศนี้ถือเป็นเดชเมืองนะคะ แต่แปลกที่กลับไม่ค่อยเจอใครมาไหว้วัดนี้เท่าไหร่ค่ะ
หรือเป็นจังหวะที่เราไปก็เป็นได้นะคะ


จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในวิหารหลวง เพื่อไปสักการะพระประธานของวัดนี้ค่ะ
พระสัพพัญญูเจ้าค่ะ


เสียดายว่า การไปไหว้พระครั้งนี้นี่ไม่ได้อ่านหนังสือไปก่อนเลยค่ะ (หอบไปแต่หนังสือเกี่ยวกับร้านอาหาร เห็นแก่กินจริงๆ ตรู เหอๆ ) แต่พอมาอ่านในเว็บปรากฏว่ามีหอธรรมศิลปะพม่ากับโบสถ์แปดเหลี่ยมแห่งเดียวในล้านนาด้วยค่ะ ยังไงถ้าอยากเห็นรูปก็ไปที่เว็บที่แปะไว้ข้างต้นแล้วกันนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาที่บล็อกเราค่ะ
890484/6369/576
Create Date : 24 มีนาคม 2554 |
Last Update : 24 มีนาคม 2554 8:20:42 น. |
|
39 comments
|
Counter : 2976 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: mamminnie วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:9:23:02 น. |
|
|
|
โดย: phunsud วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:10:20:08 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:10:37:10 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปู (ฮัลโลตอบหน่อย ) วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:11:32:27 น. |
|
|
|
โดย: ญามี่ วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:11:40:20 น. |
|
|
|
โดย: Panino วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:12:56:50 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:14:04:15 น. |
|
|
|
โดย: ouanoy วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:14:10:52 น. |
|
|
|
โดย: hellojaae (hellojaae ) วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:14:18:58 น. |
|
|
|
โดย: Somyachi วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:14:56:12 น. |
|
|
|
โดย: pat IP: 223.206.241.53 วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:17:06:08 น. |
|
|
|
โดย: pat (p_pat_p ) วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:17:11:48 น. |
|
|
|
โดย: nok_noyly วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:17:41:47 น. |
|
|
|
โดย: jamaica วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:19:45:30 น. |
|
|
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:22:21:43 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:1:28:09 น. |
|
|
|
โดย: tui/Laksi วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:4:40:55 น. |
|
|
|
โดย: พรหมญาณี วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:10:59:26 น. |
|
|
|
โดย: nok_noyly วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:12:39:52 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:13:50:10 น. |
|
|
|
โดย: ญามี่ วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:14:28:57 น. |
|
|
|
โดย: รักแรกคลิก IP: 204.136.218.8 วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:15:18:08 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:15:23:02 น. |
|
|
|
โดย: VET53 วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:16:31:44 น. |
|
|
|
โดย: Somyachi วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:17:04:44 น. |
|
|
|
โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:21:29:43 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 25 มีนาคม 2554 เวลา:22:04:23 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 26 มีนาคม 2554 เวลา:2:24:02 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 26 มีนาคม 2554 เวลา:16:21:10 น. |
|
|
|
โดย: bluemercury วันที่: 29 มีนาคม 2554 เวลา:17:14:02 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]

|
ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ
เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก
ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com หรือ https://www.facebook.com/saoguide
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
วันนี้แวะมาเยี่ยมและทักทายกันค่ะ ไปเชียงใหม่ทีไร ไม่ค่อยได้ไปวัดอื่นๆ เลย นอกจากวัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดนี้ก็สวยเช่นกัน หากมีเวลาคงได้ไปเยือนบ้างค่ะ
ว่าแต่ร้านอาหารที่แนะนำมาก็น่าทานนะคะ