โบรโม่ - คาวาอีเจี้ยน ตอนที่ 1 ดอนเมือง - สุราบายา Bromo-Ijen-Madakaripura-Tumpuk Sewu 13 - 17 ตุลาคม 2565 ทริปนี้เราไปกับ คุณเป้ เพจวิถีเป้ อีกแล้วค่ะ ทริปแรกกับเพจนี้คือ วัดขุนหลวงวิน - บ้านป่าบงเปียง และน่าจะมีครั้งต่อ ๆ ไปอีก...   รายละเอียด​ ไปชมความงดงามของภูเขาไฟประเทศอินโดนีเซียกัน ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้เราจะพาไปชมภูเขาไฟทั้ง 2 ภูเขาไฟกันเลย คือ - คาวาอีเจี้ยน (Kawah Ijen) ซึ่งมีไฮไลท์ คือ เปลวไฟสีน้ำเงิน และวิวอันกว้างใหญ่ - และภูเขาไฟโบรโม่ (Mt. Bromo) ซึ่งมีความงดงาม และมีวิวที่สวย อลังการ เช่น จุดชมวิวที่มองเห็น ภูเขาไฟโบรโม่ที่ยังมีควันออกจากปล่องภูเขาไฟอยู่เลย และภูเขาไฟบาต๊อกที่อยู่ติดกับภูเขาไฟโบรโม่ ทั้งนี้เมื่อได้ชมความงดงามของวิวข้างบนเขากันแล้ว เราก็จะนั่งรถจิ๊ป มาถ่ายรูปที่ทะเลทรายกันต่อเลยนะครับ เมื่อถ่ายจนพอใจกันแล้ว เราจะนั่งรถจิ๊ปไปเตรียมตัว เพื่อเดินขึ้นไปชมความงามของภูเขาไฟโบรโม่กันอย่างใกล้ชิด นั่นก็คือ เดินไปชมกันที่ปล่องภูเขาไฟกันเลยทีเดียว และยังมีน้ำตก ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง นั่นก็คือ - น้ำตกทัมปัค เซวู (Tumpak Sewu Waterfalls) เป็นหนึ่งในน้ำตกที่ สวยงามที่สุดในประเทศและมีขนาดใหญ่ดั่งความอลังการของธรรมชาติ ตั้งอยู่ภายในป่าอันอุดมสมบูรณ์ - น้ำตกมาดาคารีปุระ (Madakaripura Waterfalls) ได้ชื่อว่า ราชินีสายน้ำแห่งชวาตะวันออก ราคาค่าทริป 12,900 บาท (4วัน 3คืน)​ ประกอบด้วย : - รวมค่ารถเดินทางตลอดทริป - รวมค่าน้ำมัน, ค่าทางด่วน ตลอดทริป - รวมค่าธรรมเนียม​ต่าง ๆ - รวมค่าอาหาร 3​ มื้อของที่เราพักที่โรงแรม - รวมค่าไกด์ท้องถิ่น - รวมค่าหน้ากากแก๊ส ที่คาวาอีเจี้ยน - รวมค่ามอเตอร์ไซค์ สำหรับนั่งเข้าน้ำตกมาดาคาริปูระ - รวมค่ารถจิ๊ป สำหรับเดินทางไปกลับโบรโม่ - รวมค่าที่พัก 3 คืน​ พร้อมอาหารเช้า - รวมค่าน้ำดื่มที่เดินทาง (ซื้อเตรียมไว้แจก) ราคาค่าทริปนี้ ไม่รวม : - ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ - ไม่รวมค่าอาหารที่แจ้งไว้ - ไม่รวมค่านั่งม้า, ขึ้นรถเข็น, เสื้อกันฝน รายละเอียดแผนการเดินทาง : ก่อนเดินทาง :  20.30 น. นัดพบกันที่สนามบินดอนเมือง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางไปลงสนามบินที่สุราบายา (นัดพบเจอกันที่ สนามบิน สุราบายา เวลา 08.30-11.30 น.) Day 1 08.30-11.30 น. ลงเครื่องบินที่สนามบิน สุราบายา พร้อมนัดพบเจอกัน และขึ้นรถเดินทางสู่โบรโม่ แวะทานอาหารระหว่างเดินทาง 13.30 น. เช็คอินเข้าที่พัก ที่ Teguh Hostel เสร็จแล้วเปลี่ยนชุด นั่งรถจิ๊ปไปถ่ายภาพเล่นกัน และเดินขึ้นชมความงามของภูเขาไฟโบรโม่ ในตอนเย็นของพระอาทิตย์ตก 17.00 น. เดินทางกลับเข้าที่พัก รับประทานอาหารกัน (ดูแลตัวเอง) เสร็จแล้วพักผ่อนนอนหลับ เพื่อเอาแรงกัน Day 2 03.00 น. ตื่นนอน แต่งตัว พร้อมขึ้นรถมินิบัสนั่งไปชมวิวของโบรโม่พระอาทิตย์ขึ้นกัน 08.00 น. ถึงที่พัก เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด ทานอาหารกัน 09.00 น. เช็คเอาท์ พร้อมเดินทางไปน้ำตกทูมปัค เซวูกัน 12.00 น. แวะทานอาหารระหว่างทาง 13.00 น. เปลี่ยนชุดพร้อมเดินไปชมความงามของน้ำตกทูมปัค เซวู และน้ำตก กัวเตเตส 17.00 น. เดินทางสู่ที่พักที่ คาวาอีเจี้ยน วิว และแวะทานอาหารระหว่างทาง และเช็คอินเข้าที่พัก Day 3 00.10 น. เตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการเดินทางขึ้นรถ เพื่อไปเดินเทรคกิ้งขึ้นภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยน ระยะทางประมาณ 3 กม. (มีรถเข็นบริการ ไป-กลับ ราคาประมาณ 2,000 บาท) 02.10 น. ถึงประตูเริ่มเดินขึ้นคาวาอิเจี้ยน 04.00 น. ถึงยอดคาวาอีเจี้ยน ก็ลงไปชมความงามของ เปลวไฟสีน้ำเงิน (ไกด์ท้องถิ่นมีแจกหน้ากากกันแก๊สให้ทุกท่าน ใช้สำหรับลงไปข้างล่าง) เดินเล่นถ่ายภาพบนภูเขาไฟกัน 08.30 น. กลับโรงแรมที่พัก ทานอาหาร และเก็บของเพื่อเช็คเอาท์ 11.00 น. เช็คเอาท์ เพื่อนั่งรถเดินทางสู่น้ำตก มาดาคาริปูรา เปลี่ยนชุด สำหรับเดินเล่นน้ำตก นั่งมอเตอร์ไซด์เข้าสู่ปากทางน้ำตก และเดินเท้า ระยะทางไป-กลับ ประมาณ 3 กม. 18.00 น. เดินทางสู่ที่พักที่ สุราบายา แวะทานอาหารเย็นระหว่าง ตอนเย็นหากใครมีแรง หรืออยากไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน ก็ไปกันได้ นั่งรถไปประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วพักผ่อนนอนหลับกัน Day 4 07.00 น. ตื่นนอน แต่งตัว ทานอาหาร พร้อมเช็คเอาท์จากโรงแรมที่พัก เพื่อเดินทางสู่สนามบิน 10.00 น. เดินทางถึงสนามบินด้วยความสวัสดิภาพ (จบทริป) การเตรียมตัว/สิ่งที่สมาชิกต้องเตรียมเอง : - เครื่องแต่งกาย และของใช้ส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า กันหนาว กันฝน กันฝุ่น ผ้าเช็ดตัว - รองเท้าผ้าใบ,รองเท้าลำลอง (สำหรับเดินขึ้นภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยน และภูเขาไฟโบรโม่ และน้ำตกอีก 2 แห่ง) - อุปกรณ์อาบน้ำส่วนตัว - ยาประจำตัว/ยากันแมลง/เกลือแร่ - ไฟฉาย/power bank/สายชาร์จโทรศัพท์ - อะแดปเตอร์ (ควรเตรียม) - อุปกรณ์กันหนาว - เสื้อกันฝน (ช่วงหน้าฝน) - ขนม/เครื่องดื่ม ตามชอบ - ควรมีประกันชีวิต​ แบบครอบคลุม​อุบัติเหตุ​เพิ่มเติม (แอดมินทำประกันกลุ่มเพิ่มเติมให้) เนื่องจากค่าทริปไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ต่างคนต่างจอง ขาไปเป็นไฟลท์เดียวกัน แต่ต่างกันตรงช่วงเวลาต่อเครื่องที่จาการ์ตา และไฟลท์ขากลับ บางคนลงดอนเมือง บางคนลงสุวรรณภูมิ สนุกสนานตอนต่อเครื่องนี่ล่ะค่ะ จากที่มีเวลาเหลือ ๆ 3 ชม. กลายเป็นเกือบตกเครื่อง ลุ้นกันซะ... ของเราจอง ไทยไลอ้อนแอร์ SL116 ถึงจาการ์ต้า 04.00 น. ฝากคุณเป้แลกเงินอินโด  3,000 บาท ได้มาเป็นล้านเลยค่ะ 23.52 น. วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ขึ้นเครื่องแล้วค่ะ เพิ่งเคยนั่งไทยไลอ้อนแอร์ครั้งแรก.. กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - จาการ์ตา โหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องฟรี 20 กก. (สูงสุด 2 ชิ้น) ถือขึ้นเครื่องได้ 7 กก. ตี 3 กว่า วันที่ 13 ตุลาคม 2565 ถึงสนามบิน  ระหว่างรอกระเป๋า พวกเราก็ทำ customs declaration online ใช้เวลาเป็นชั่วโมง (รอกระเป๋า) เส้นนี้ ไม่ check through นะคะ ต้องเช็คอินใหม่ตอนต่อเครื่อง ด้วยความที่เป็น domestic flight เราก็ไม่คิดว่า transit terminal จะอยู่ไกลมาก มี shuttle bus รับส่งระหว่างสนามบิน แต่ตอนนั้นดูนาฬิกาแล้ว ไม่ทันแน่นอน เลยนั่ง taxi มากันเอง คันละ 4 คน / 105000 rp  ไฟลท์แรกของสมาชิกในกรุ๊ป 06.40 น. ตกเครื่องแน่นอน ไปที่เคาเตอร์ขอเปลี่ยนไฟลท์ด่วน ๆ (พนักงานเคาเตอร์ดูเค้าชิวมาก เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ) ส่วนไฟลท์เรา 07.00 น. เกือบตกเครื่องเหมือนกัน ต้องขอลัดคิวเช็คอิน   จากจาการ์ตา ไปสุราบายา บินต่อด้วย Batik Air ID 6308 ค่ะ วิ่งมากันเลยค่ะ...นั่ง shuttle bus ไปขึ้นเครื่อง 06.58 น. อยู่บนเครื่องแล้วค่ะ บินในประเทศ เป็นเครื่องโบอิ้ง 737 นั่งสบายเลยค่ะ ได้ที่นั่งริมหน้าต่าง แต่ตรงปีกพอดี ของว่างแจกบนเครื่อง ขนมปังไส้อะไรไม่รู้ กัดไปคำนึง เก็บเลยค่ะ  07.46 น. ลำนี้แหละ ที่เรานั่งมา Shuttle bus  รับ-ส่ง แบบที่เรานั่งมา สนามบินสุราบายา รอกระเป๋า ไกด์ท้องถิ่นมารอรับ...เดินไปขึ้นรถกันค่ะ รถประจำทาง รถที่เราจะนั่งเที่ยวตลอดทริปนี้ คันนี้ เก็บกระเป๋าเดินทาง เอาของเก็บเรียบร้อย ระหว่างรอสมาชิกในกรุ๊ป (คนละไฟลท์) อีก 3-4 คน เดินหาอะไรกินรองท้อง อเมริกาโน่ (25.000 rp) เค้าใส่น้ำเชื่อมด้วย ห้ามไม่ทัน  สมาชิกมากันครบแล้ว...แวะกินมื้อกลางวัน เมนู อาหารท้องถิ่น ชี้รูปเอาค่ะ...เหมือนข้าวต้มไก่ ใส่เส้นก๋วยจั๊บ น้ำซุปอร่อยดี  ข้าว ซุป เนื้อตุ๋น ของสมาชิกในกรุ๊ป..ไม่ได้ชิมค่ะ ชามละ 23.000 มี tax 10% รวมเป็น 25.300 rp น้องในกรุ๊ป ให้ไกด์พามาแวะซื้อซิมโทรศัพท์  (ซื้อมาจากบ้านเราแล้ว ทำหายค่ะ) มอเตอร์ไซค์ รอคิวเข้าเติมน้ำมัน เดินทางเข้าที่พัก ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. ระหว่างทาง ผ่านทางด่วนเยอะเหมือนกันค่ะ ค่าบริการ คนขับรถ (ไกด์) ใช้ ไม้ติดบัตรชำระค่าทางด่วน แตะแบบนี้เลย อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มี ศาสนาที่ได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญแห่งชาติ 6 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนต์ นิกายโรมันคาทอลิก ศาสนาฮินดู ศาสนาพุทธ และลัทธิขงจื๊อ ระหว่างเดินทาง ถ่ายจากบนรถค่ะ ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ทางคดเคี้ยวขึ้นเขา บ้านเรือนเค้าส่วนมากเป็นชั้นเดียวสีสันสวยงามเชียวค่ะ เหมือนจะเป็นต้นหอมค่ะ เยอะมาก วันนี้เราพักกันที่ โฮมสเตย์ ที่เมือง Probolingo ถึงโฮมสเตย์แล้วค่ะ ที่นอนเราคืนนี้ ไม่มีน้ำอุ่น ไม่มีพัดลม ล้างหน้า น้ำเย็นเจี๊ยบ เหมือนน้ำแข็งละลาย เห็นชาวบ้านเร่มาขายหมวกไหมพรม อากาศกลางคืนน่าจะเอาเรื่องอยู่ 13.55 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2565  เราพักชั้นบน รถจิ๊ป ที่เราจะนั่งไปภูเขาไฟโบรโม่กัน  กรุ๊ปเรามีทั้งหมด 14 คน นั่งคันละ 4 คน สบาย ๆ ค่ะ Create Date : 14 ธันวาคม 2565 Last Update : 17 ธันวาคม 2565 16:43:51 น. 0 comments Counter : 1016 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณปัญญา Dh, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณnonnoiGiwGiw, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณkae+aoe, คุณหอมกร, คุณtoor36, คุณkatoy, คุณSleepless Sea, คุณอุ้มสี, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณJohnV, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณกิ่งฟ้า, คุณEmmy Journey พากิน พาเที่ยว, คุณMDG, คุณpeaceplay, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณ**mp5**, คุณดอยสะเก็ด, คุณเนินน้ำ, คุณnewyorknurse, คุณกาบริเอล, คุณThe Kop Civil