Bloggang.com : สายหมอกและก้อนเมฆ :

ปราสาทนครวัด 2

เสียมเรียบ 29 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2566

เรามาถึงปราสาทนครวัด ประมาณตี 5 ครึ่ง ออกจากนครวัดประมาณ 10.30 น. เดินถ่ายรูป เดินดูไปเรื่อยเปื่อย เดินดูเองไม่มีไกด์ ไม่รู้ไฮไลท์คือตรงไหน อะไรบ้าง เห็นอะไรก็ตื่นตาตื่นใจไปหมด เพราะมาครั้งแรก ถ่ายรูปมาเยอะมากค่ะ

ประติมานวิทยาที่ปราสาทนครวัด

ประติมานวิทยาทั้งหมดที่ปราสาทนครวัดได้สร้างอุทิศถวายแด่พระนารายณ์ พระองค์ทรงเป็นเทพเจ้าที่พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ทรงเคารพบูชา และด้วยเหตุนั้นเมื่อสิ้นพระชนม์แล้วพระองค์จึงทรงมีพระนามว่า บรมวิษณุโลก บนหน้าบัน ทับหลัง และแม้แต่ส่วนล่างของเสามีการสลักภาพพระนารายณ์อยู่เป็นจำนวนมากมายรวมทั้งภาพอวตารของพระองค์ด้วย ไม่ว่าจะทรงอวตารลงมาเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ตาม แต่ก็คงเป็นภาพสลักบนผนังระเบียงชั้นนอกโดยเฉพาะที่แสดงถึงเทพนิยายขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับพระนารายณ์

มีภาพสลักบนผนังปราสาทที่มุม 2 หลังทางด้นานทิศตะวันตก ภาพเหล่านี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่ากับองค์ประกอบขนาดใหญ่บนผนังระเบียง ภาพสลักบนปราสาทที่มุมดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องราวของพระรามและพระกฤษณะ อย่างไรก็ดีบางภาพก็เกี่ยวข้องกับพระอิศวรเช่นเดียวกัน ภาพเหล่านี้งามสง่าและบนภาพที่เป็นพิธีรีตองน้อยกว่าช่างก็สามารถแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของตนตลอดจนความคิดอ่านของตนเองได้ด้วย

ทั้งสองข้างของประตูทางเข้า ไม่ว่าจะเป็นบนผนังของโคปุระปราสาท หรือแม้แต่ระหว่างช่องหน้าต้างของบรรดาระเบียงชั้นบน มีการสลักภาพเทพธิดาอยู่เป็นจำนวนมาก เทพธิดากเหล่านี้เป็นผู้ปกปักรักษาศาสนสถาน และปรากฏในศาสนสถานแห่งอื่น ๆ เป็นผู้เฝ้ารักษาที่งดงามชดช้อยอยู่แยกแต่ละองค์ในคูหาบนผนัง แต่บนผนังปราสาทนครวัด เทพธิดาเหล่านี้ก็รวมกันเป็นหมู่สองหมู่สามหรือมากกว่านั้น บางครั้งนางก็ยิ้มอย่างงดงาม แต่ส่วนใหญ่ก็วางหน้าเฉยและทำท่าคล้ายกับว่ากำลังพูดคุยกันอยู่ เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับแต่ละองค์ก็แตกต่างกันออกไป อาจแสดงถึงเครื่องแต่งกายของถิ่นต่าง ๆ ในราชอาณาจักรขอม และเป็นแบบที่หญิงสาวที่เมืองพระนครนิยมกันอยู่ในขณะนั้น เช่นเดียวกับชายา 16,000 องค์ ของพระกฤษณะ เทพธิดาเหล่านี้ก็เป็นผู้รับใช้ของเทพเจ้าผู้ซึ่งเป็นเจ้าของศาสนสถาน

ข้อมูลจาก หนังสือประวัติเมืองพระนครของขอม
ศาสตราจารย์มาดแลน จิโต (Madeleine Giteau) : เขียน
ศาสตราจารย์ ม.จ. สุภัทรดิศ ดิศกุล : แปล