|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ความสุขในวันตรุษจีน

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมอยากอยู่ในบรรยากาศของวันตรุษจีนสมัยก่อนตอนเด็กๆ พวกเราเฝ้ารอให้ถึงวันความสุขแห่งปี วันที่จะได้หยุดเรียน 3 วัน ได้กินเป็ดไก่ ได้เงินแต๊ะเอีย เที่ยวงานวัดดูหนังกลางแปลง
ก่อนถึงวันไหว้ จะเป็นวันจ่าย ที่ตลาดน้ำและตลาดบกวุ่นวายกันทั้งวัน เตรียมซื้อข้าวของไหว้บรรพบุรุษ ตลาดน้ำดำเนินสะดวกคึกคักมีเรือพายแน่นคลอง เล่นเอาฝรั่งที่มาเที่ยวพลอยตื่นตาตื่นใจไปด้วย ถ้านักท่องเที่ยวมาช้าไปเพียงวันเดียว ตลาดน้ำจะเงียบสนิท เรือตามลำคลองแทบไม่มี ไม่เหลือเค้าของตลาดน้ำ นักท่องเที่ยวที่ไปไม่ถูกจังหวะจะบ่นอุบ ที่บ้านของผมก็เตรียมของไหว้ เรื่องสำรับกับข้าวเป็นหน้าที่ของแม่ ส่วนการติดต่อกับสิ่งที่มองไม่เห็นเป็นหน้าที่ของพ่อ พวกเด็กๆไม่รู้อะไรมากนักหรอก รู้แต่ว่าอาหารหลายอย่างแม่ไม่เคยทำให้กินในวันธรรมดา อาหารเมนูพิเศษนี้ มักจะเป็นแกงจืดที่มีส่วนประกอบไม่คุ้นเคย เช่น ดอกไม้จีน สาหร่ายสีดำ หน่อไม้กระป่อง ปลาหมึกตากแห้งตัวใหญ่ อาหารทั้งคาวหวานทำเองทั้งหมด กลิ่นของอาหาร ขนมเข่ง ขนมเทียน ชวนให้เบิกบานใจเป็นที่สุด จำได้ติดจมูกแม้ทุกวันนี้ เมื่อวันจ่ายผ่านไป วันถัดมาเป็นวันไหว้หรือวันส่งท้ายปีเก่า ในตอนเช้าทำพิธีไหว้เทพเจ้าต่างๆด้วยของไหว้ชุดเล็ก ได้แก่ หมู ไก่ ปลาหมึกแห้ง ถั่วตัด น้ำชา ขนมเข่ง ขนมเทียน ผลส้ม ไข่ต้ม กระดาษเงินกระดาษทอง พ่อจะจุดธูปเทียนไหว้หน้าภาพของเทพเจ้า(กวนอู)ในบ้าน และเจ้าที่เจ้าทางของไทยที่ศาลพระภูมิ ส่วนการไหว้กลางแจ้งตอนเช้า พ่อไม่ได้บอว่าไหว้เทพเจ้าองค์ไหน รู้แต่ว่าชุดของการไหว้หน้าตาเหมือนๆกัน

สายๆสักหน่อย ญาติพี่น้องข้างพ่อที่เคยมาเป็นประจำ ต่างพายเรือเอาของไหว้มาส่ง หรือยกกันขึ้นมาเอง เอาไปวางหน้าโกศกระดูกของ ปู่ ย่า และญาติคนอื่นๆที่ล่วงลับไปแล้ว ต่างคนต่างไหว้ จุดธูปเท่าจำนวนผู้ล่วงลับ เครื่องไหว้มีอาหารคาวหลากหลายตามฐานะไม่อายกัน หมูพะโล้กับต้มจืดหน่อไม้จ๊ะเอ๋กันบ่อยๆ ส่วนผลไม้หาง่ายเพราะปลูกเองในท้องถิ่นนั่นคือกล้วยหอม ส้ม องุ่น แล้วนั่งคุยกันไปพับกระดาษเงินกระดาษทองกันไป ก่อนเที่ยงคะเนว่าได้เวลาแล้ว จึง ลา หรือบอกกล่าวให้รับรู้ แล้วเริ่มเผากระดาษ เอาอาหารคาวหวานมาวางรวมๆกันล้องวงกินข้าว กับข้าวและข้าวสวยเย็นๆชืดๆกลับมีรสอร่อยอย่างเหลือเชื่อ กินกันพุงกางทีเดียว ตอนบ่ายอันเหนื่อยหน่ายของวันไหว้ เด็กๆถูกใช้ให้ยกหม้อข้าว หม้อแกง น้ำชา ขนมเข่ง ขนมเทียนเพื่อไหว้ฮ่อเฮียตี๋ หรือผีไม่มีญาติ สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมไม่จัดการให้สวยงาม ตักเป็นชามเป็นถ้วย กลับยกทั้งหม้อทั้งไหไปจนหมดครัว พร้อมทั้งปักธูปไปทุกสิ่งทุกอย่างที่ยกมาวางไว้กลางแจ้งท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายแก่ๆ เชิญผีไม่มีญาติมาฉลองศรัทธาตามอัธยาศัย ผู้ใหญ่และเด็กๆของไปนอนพักผ่อน เตรียมแรงไว้เที่ยวยามค่ำคืน วันนี้เสียงประทัดได้ยินมาจากทั่วสารทิศ ผมเคยจุดประทัด ครั้งหนึ่งเกือบไป มือหนึ่งถือประทัด มือหนึ่งถือไฟเช็ด ประทัดระเบิดคามือ โชคดีที่ไม่เป็นอะไร เมื่อรู้ว่าภาระการเตรียมการต่างๆเริ่มผ่อนคลาย แม่จะให้เงินแต๊ะเอียเด็กๆคนละ 1 บาท หนึ่งบาทในสมัยนั้นสำคัญมาก มีอยู่ปีหนึ่ง ว่าที่พี่เขยให้เงินแต๊ะเอีย 5 บาท คืนนั้นเลี้ยงเพื่อนฝูงที่งานวัดได้ก๋วยเตี๋ยวหลายชาม
งานวัดจะเริ่มวันนี้เป็นวันแรก 3 วัน 3 คืน สองวัดใหญ่ที่จัดงานประจำปีช่วงตรุษจีน คือ วัดโชติทายการาม วัดเจริญสุขาราม มหรสพมีดนตรี หนังกลางแปลงยืนพื้น ส่วนลิเก ลำตัดไม่แน่ไม่นอน มีการแข่งขันอื่นๆ เช่น ตระก้อรอดบ่วง นักพากย์หนังกลางแปลงต้องชื่อจิตติ จอหนังต้องศรีสุวรรณ พวกเด็กๆจอมซนมักก่อกองไฟหน้าจอหนังแก้หนาว นักพากย์ทำงานอย่างไม่เป็นสุข เขากลัวจอหนังไหม้ หรือไม่ก็เขม่าจับบนจอ พากย์ไป ด่าไป

ดำเนินสะดวกในสมัยนั้นดนตรีลุกทุ่งที่มีชื่อเสียงช่วงตรุษจีนมักจะแสดงกันที่นี่ เช่น คณะสุรพล สมบัติเจริญ สังข์ทอง สีใส สมานมิตร เกิดกำแพง ศรคีรี ศรีประจวบ...ถึงกับมีเพลงที่สุรพลแต่งให้ชาวดำเนินสะดวก ได้แก่ เพลงดำเนินจ๋า โอ้ดำเนิน ร้องกันได้ทั้งประเทศ เวทีสำหรับงานแสดงก็ใช้หน้าเมรุเผาศพล้อมด้วยรั้วสังกะสีบ้าง ผ้าใบบ้าง ไม้รวกบ้าง ถ้าบังเอิญคืนนั้นฝนตกจะอพยพจากกลางแจ้งไปบนศาลาการเปรียญ ซึ่งศาลาจะจุคนได้น้อยกว่า หมดสนุกกันที่เดียว วันที่สองและสามเป็นวันเที่ยว การไปเที่ยวของเด็กๆคงไม่พ้นงานวัด หากบางปีมีงานปิดทองลูกนิมิตด้วยแล้ว งานจะยิ่งใหญ่พลาดไม่ได้ ส่วนผู้ใหญ่มักจัดเป็นหมู่คณะไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เพื่อไหว้พระ ที่ขึ้นชื่อมากที่สุดคือวัดพระพุทธบาท วัดเขาวงพระจันทร์ วัดพระแท่นดงรัง วัดพระนอนจักรสีห์ วัดพนัญเชิง เด็กๆจะรอขอฝาก เช่น มะขามหวาน ข้าวเกรียบแผ่นแข็งๆ มะขามเทศ แค่นี้ก็คุ้นค่ากับการรอคอยแล้ว ตรุษจีนปีนี้คึกคักคนละแบบ คนที่มาไหว้ประจำหายหน้าหายตาไป พ่อแม่เสาหลักของบ้านก็ไม่อยู่แล้ว ท่านทั้งสองเหลือแต่กระดูกชิ้นเล็กๆในโกศที่เรียงต่อท้ายแถว ลูกหลานของบ้านนี้เตรียมเงินแต๊ะเอียในซองสีแดง เด็กรุ่นหลานและเหลนที่ได้รับเงินยิ้มแก้วปริไปตามๆกัน
Create Date : 25 มกราคม 2554 |
Last Update : 28 มกราคม 2554 6:09:38 น. |
|
27 comments
|
Counter : 2927 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: hellojaae IP: 124.121.254.120 วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:22:30:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:6:25:18 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแว่น วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:6:59:50 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:9:08:10 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2554 เวลา:6:03:57 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 30 มกราคม 2554 เวลา:20:31:58 น. |
|
|
|
โดย: popang (popang ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:27:46 น. |
|
|
|
โดย: popang (popang ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:47:50 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:0:39:47 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:56:15 น. |
|
|
|
โดย: jamaica วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:21:53:59 น. |
|
|
|
โดย: jamaica วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:08:27 น. |
|
|
|
โดย: popang (popang ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:19:18:07 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:22:47:35 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:58:25 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:23:59:48 น. |
|
|
|
โดย: วิทยา IP: 172.16.60.7, 180.183.160.253 วันที่: 31 ตุลาคม 2554 เวลา:12:50:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]

|
ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
|
|
|
|
|
|
|
|
+=====================+
ขอให้ จขบ. มีความสุขในวันตรุษจีนค่ะ
มาอ่านเรื่องนี้คนแรก
มีซองอังเปาแจกไหมคะ หุ หุ
นึกแล้วก็ขำ ๆ ไม่ได้ขำเรื่องเล่าคุณอิม นะคะ
หากแต่ขำเรื่องตัวเอง.. เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว
สาวฯ เกือบได้เป็นสะใภ้คนจีนค่ะ
เพราะแคล้วคลาดจากการถูกคลุมโปง อะกึ๊ย! คลุมถุงชน
ได้อย่างปลอดภัยค่ะ อะคึ่ ๆ