Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2568
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 ธันวาคม 2568
 
All Blogs
 

O ร่ำร้อย .. พจีเรียง .. O









Soft Melodies to Heal the Heart



๑๔
0 ผองภุมรินผัสะพบู
นิระรู้ประจาคบิน
สมเสพวิเลปนะถวิล
ตฤปะพินทุเกสร
.
.

0 รุ่งสางที่ .. เย็นฉ่ำหยาดน้ำค้าง
ภาพปีกลายบอบบางลอยร่าง-ร่อน
แสงแรกวันจากสรวงเผยช่วงตอน
โอบโลกให้รู้ร้อนอย่างอ่อนโยน
0 เช่นรูปโอบสายตา .. เพ-ลานั้น
เหงา-เงียบงัน อีกครั้ง-ที่พังโค่น
ความอ่อนหวานในทรวงย่อมช่วงโชน
เช่นน้ำโตนตบฝั่ง .. ล้อมวังเวง
0 ฤๅ-เผยรูป .. เผยร่างในทางเที่ยว
เพื่อก้อยเกี่ยวก้อยฉุดกันรุดเร่ง ?
ให้ลมร่ำโอบขวัญ .. ล้อมบรรเลง
รำพันเพลงรักซึ้งติดตรึงใจ ?
0 หลัง-แววตา .. โอบกอด-รูปออดอ้อน
อีกแววตาเร้น-ซ่อนความอ่อนไหว
ความหมายที่ผ่านย้ำ .. ย่อมร่ำไร
รอโอบรัดอาลัยแนบใจแล้ว !
0 เจ้าอ่อนเอย ..
เมื่อรำเพยลมริ้วโรย .. พลิ้วแผ่ว
รู้เถิดว่า .. ตาชายย่อมฉายแวว
โดยรูปพักตร์ผ่องแผ้ว - ตรึงแววตา
0 เอ็นดู-ความขัดเขิน .. เมียงเมิน .. สบ
ทั้ง-เหลือบ, หลบ, ชำเลือง-อยู่เบื้องหน้า
รื่นรมย์ย่อมลามรุก .. อยู่ทุกครา-
ที่-ทีท่าสะทกสะเทิ้นจำเริญรอย
0 แดดยามสายส่องระยับ .. ตาพรับพริ้ม
คล้ายผ่านยิ้มหวานล้ำ .. แทน-คำ .. ถ้อย
เรณูฟุ้งฟายละออง, ปีกล่องลอย
โบกแผ่วค่อยรายรอบ .. รอ-มอบตัว
0 งามนั้น-ครั้นเผยงามขึ้นลามล้อม
รัดใจพร้อม-กลีบดอกที่หยอกยั่ว
ผึ้ง, ภู่ .. รับหวานหอมแล้วยอมตัว
เข้าเกลือกกลั้วด้วยหวานที่หวานนัก !
0 ลมยังพลิ้วอ่อยเอื่อยอย่างเหนื่อยอ่อน
เมื่อแววตาเหลือบค้อน .. คล้ายศรปัก
หัวใจ, เต็มอยู่พร้อมละม่อมพักตร์
คอยล้อมกักคำนึง .. ตอกตรึงไว้ !
0 รับรู้เมื่อ-ลมรินอวลกลิ่นผ่าน
ว่า-หอมกว่าหอมสุมาลย์ .. ระรานใส่
รับรู้เมื่อ-แก้มเนียน .. สี เปลี่ยนไป
ว่า-ความในห้วงอก .. สะทกสะท้อน !
0 เจ้าอ่อนเอย ..
แต่เมื่อเผยรูปนาม .. จากยามก่อน
เหลือทางเลือกทางเดียว .. คือเหนี่ยวกร-
จับจูง .. ฟังคำวอน .. ออดอ้อนนั้น
0 เมื่อเผยรูปชม้อยหา .. อีกคราครั้ง
ปานชี้สั่งใจโลกให้โยกสั่น
พร่ำเพรียกจินตนาการแห่งวานวัน
ควร-ไหวหวั่นจะลามทั่วทั้งหัวใจ
0 เมื่อเผยรูปเผยรอยขึ้นคอยฉุด
ฤาฉันทาที่เร่งรุด .. จะหยุดไหว ?
ที่พริ้มพรับอยู่นั้น .. ต้องฉันใด
จึงอาจลบเลือนได้จากนัยน์ตา
0 โอ หนอ .. รอบรมยาล้วนปรากฎ
เพียงเพื่อจดจ่อคอยละห้อยหา
ยิ่งหอมหวานกลิ่นกุสุม .. เย้ยภุมรา
หลังรูปหน้าเนียนตรูเจ้า – จู่โจม !
0 ตาสบพักตร์อุปาทานส่งผ่านภพ
หอมครันครบให้จำต้องประคองโฉม
ดวงตา, อกอึกทึก .. สั่นครึกโครม
หลังรูปโหมเข้าใส่ ท่วมใจคน
0 ผีเสื้อปีกบอบบาง .. ลอยร่างร่อน
สุมาลย์อ้อนแดดอุ่น .. ใช่ฝุ่นฝน
รูปหน้างาม, อกประหวั่นเวียนกัน-วน
พาหวานล้นเอ่อแล้ว .. ทั่วแววตา
0 ผีเสื้อปีกลวดลายยามบ่ายคล้อย
บินล่องลอยเย้ยแดดที่แผดจ้า
รูปงามในคำนึง .. แทรกตรึงตรา
ให้แต่อาวรณ์อยู่ไม่รู้วัน
0 เย็นย่ำที่ .. โคมสรวงใกล้ล่วงลับ
พระลบยอมกำชับให้รับขวัญ
ด้วยสายใยรูปนามม้วนล่ามพัน
ก่อนเปิดฝันให้ฝ่า .. ด้วยอาลัย !
.
.
.
ขออนุญาตคนในภาพนะขอรับ




 

Create Date : 06 ธันวาคม 2568
0 comments
Last Update : 6 ธันวาคม 2568 13:16:18 น.
Counter : 97 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 152 คน [?]










O สื่อที่สู่ให้คู่ควร .. O







0 พร้อมเมฆหม่นครอบขัง .. อยู่ยังหน้า
คือครั่นครื้นมหิทธาแห่งฟ้าฝน
เส้นไฟเลื้อยวกต่ำ .. ก่อนคำรน-
กึกก้องทั้งภูวดล .. ให้ยล-ยิน
0 พร้อมหยาดฝน-ลมร่ายรำบายโบก
ทอนทุกข์โศกข่มร้อน .. ให้ผ่อนสิ้น
เพื่อเม็ดฝนหมาดใหม่ .. กรุ่นไอดิน
ได้อวลกลิ่น .. ตอกย้ำความธรรมดา
0 ไฟบนสรวง .. วนวิ่ง .. งามยิ่งแล้ว
เนตรผ่องแผ้วเหลือบชม้าย .. ลอบชายหา
ช่างวนวิ่งความหมาย .. สู่สายตา
หรือช่วยว้าเหว่ประดัง .. ให้รั้งรอน ?
0 แม้นแวบเดียว .. วูบดับจนลับล่วง
กลับโชนช่วงความหมาย .. เกินถ่ายถอน
ไฟเฟื้อยเส้นฟาดกระหน่ำทั้งอัมพร
พร้อมหัวใจสั่นคลอน .. ทั่วตอน-ตน
0 เมื่อแววในสายตา .. เกินกว่าซ่อน
แฝงเว้าวอนรำบาย .. ฝ่าสายฝน
กลางลมร่ำเม็ดน้ำ .. ฟ้าคำรน
ย่อม-ใจคน .. ที่ครวญคร่ำ-เฝ้าคำนึง
0 สื่อความหมายอบอุ่น .. กลางฝุ่นฝน
ที่หลั่งบนหัวใจ .. เฝ้าใฝ่ถึง
แผ่รูปรอยปฏิพัทธ์ .. เข้ารัดรึง
หวาน, ซาบซึ้งก็คุกคาม .. อย่างย่ามใจ
0 สิ้นแล้ว .. มัวเมฆทึมเคยครึ้มฟ้า
เปิดเวหารับรอง .. ความผ่องใส
แทนฝุ่นฝนหล่นสรวง .. เป็นห่วงใย
หล่นรูปการณ์ห่างพิสัย .. แนบนัยน์ตา
0 จนอ่อนหวานผ่านสู่ .. ให้รู้สึก
นัยเร้นลึกดุจจะคอยละห้อยหา
คอยโยกใจไหวสั่น .. ชี้-บัญชา
เร่งถวิลปรารถนาให้ฝ่าดู
0 รูป, แววตา-อบอุ่นละมุนละม่อม
เริ่มบทพร้อมสายลมพลิ้วพรมอยู่
ตาชายย่อมดื่มด่ำความดำรู
รองรับงามสื่อสู่ให้รู้งาม !
0 ย่อม .. งามที่คุกคามลุกลามล้อม
คอย-สมยอม ฤ คอย-กล้าจะฝ่าข้าม ?
ปฐมบทตั้งเหตุล้อมเขตคาม
ย่อมสุดปรามรติภพ .. ชั่วจบพยางค์
0 เอกภพเคลื่อนผ่านสู่ด้านไหน
ย่อม-สดใสงดงามทุกยามย่าง
ใช่-ดวงวันเรื่อรองคอยส่องทาง
หากเป็นร่าง .. รติภพบรรจบจวน
0 แม้นว่าจากทั้งโลก .. สุมโศกใส่
นอกจากไม่ครวญคร่ำ .. ไม่กำสรวล
จัก .. โรมรันบั่นคอด้วย .. ขอ-ทวน
ขอเพียงนวลหยัดร่าง .. เคียงข้างกาย
0 เสน่หาฝ่าข้ามไปสามภพ
ดวงวันลบ .. จันทร์เลือน .. ดาวเคลื่อนหาย
ความอาลัยอาวรณ์ .. ยาก-คลอน-คลาย
ด้วยเงื่อนสายใยนั้น .. รัด-มั่นคง
0 เกินวิญญาณเมื่ออุบัติ .. อาจทัดทาน
หรือต่อต้าน, ควบคุม-ความลุ่มหลง
แม้นจนเงื่อนเหตุกรรม .. เคยดำรง
จัก .. ขาด-วง .. ด้วยซึ้งคำนึงนวล
0 งามพิสุทธิ์น้อมนำ .. กรองคำถ้อย
สำหรับร้อยเรียงความ .. ให้งามถ้วน
เปล่งความหมายสื่อสู่ให้คู่ควร
รักที่หวน .. โชนช่วงกลางห้วงใจ !
.
.

Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.