Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
31 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 

ต้นเผือกกับปู



การใช้พื้นดินเพาะปลูกอย่างคุ้มค้าเห็นที่จะไม่มีใครเกินชาวสวนที่นี่ นอกจากจะยกร่องเพื่อปลูกพืชล้มลุกแล้ว ข้างท้องร่อยปริ่มๆน้ำยังทำเชิงเป็นครึงวงกลมคล้ายกับหิ้งพระข้างฝาผนังเรียงกันไปตลอดร่อง เพื่อปลูกเผือก

เผือกกับน้ำเป็นของคู่กัน ยิ่งน้ำมากยิ่งดี ยังไม่เคยเห็นหัวเผือกที่ไหนใหญ่โตเท่า เมื่อมันโตเต็มที่ ใบและก้านของมันปกคลุมร่องน้ำระหว่างร่องสวน เมื่อนั้นแหละคุณเอ๋ย การรดน้ำผักบนร่องจะทุลักทุเลมาก ลองนึกภาพใบเผือกคล้ายใบบอนที่ยื่นออกมาจากข้างตลิ่ง แล้วคนสวนเข็นเรือเครื่องยนต์รดน้ำผักไปในดงเผือกนั้น

การบำรุงรักษาต้นเผือกไม่มีอะไรยุ่งยาก ปล่อยให้มันงอกงามไปตามสบาย เพียงแต่กำจัดศัตรูของมัน ไม่ให้มากัดกิน นอกจากตัวหนอนแล้ว ยังมีปูที่ใช้ก้ามของมัน ตัดก้านเผือกอย่างกับคีมคมๆ ผมไม่แน่ใจว่ามันตัดก้านเอาไปกินหรือตัดเล่นๆ แต่เจ้าของเผือกไม่มีอารมณ์สนุกด้วย ช่วงที่เผือกยังไม่โตเต็มที่ ชาวสวนจะหาทางกำจัดปู เห็นแล้วน่าสงสาร ใครจะรู้บ้างว่า ถึงแม้คนไม่กินมัน แต่กว่ามันจะโตใหญ่ต้องหลบเลี่ยงปลาตัวใหญ่ที่ชอบกินปูอ่อนๆ



การล่าปูจึงเกิดขึ้นในยามคำคืนอยู่เสมอๆ ชาวสวนใช้รำข้าวผสมกับดินปั้นเป็นก้อนกลมๆขนาดเท่าลูกเปตอง ก่อนค่ำ เขาเอาลูกกลมๆนี้ไปโยนลงน้ำตามหัวมุมของร่องสวน ซึ่งมีที่ว่างและลึกกว่า แต่ละจุดจะใช้ 4-5 ลูก

รอเวลาประมาณสามทุ่ม แหปากหนึ่งกับไม้ที่หยิบฉวยมาได้คืออาวุธล่าปู นักล่าทอดแหคลุมไปบนจุดนัดพบ ขณะที่ประชากรปูกำลังมะรุมมะตุมอาหารที่ล่อไว้ หารู้ไม่ว่ากำลังหลงกลคนปลูกเผือก เมื่อสาวแหขึ้นมา จะมีปูติดขึ้นมาทั้งครอบครัว หรืออาจมีเพื่อนบ้านติดร่างแหมาด้วย ภาพต่อไปคงไม่อาจบรรยายได้ว่าชะตาชีวิตของพวกมันจะเป็นเช่นใด

ปูที่ดำเนินสะดวกแพร่พันธุ์เร็วมาก ไม่เคยเห็นมีใครจับปูเหล่านี้มากิน สีของลำตัวออกสีแดงเข้ม คนที่นั่นชอกกินปูม้าปูทะเลมากกว่า สวนปูดองนั้นน่าจะเป็นปูน้ำจืดตามท้องนา ไม่ใช่ปูตามร่องสวนอย่างที่ว่า ในความรู้สึกบอกว่าปูนาสะอาดกว่าปูสวน เหตุที่ชาวบ้านไม่กินปูตามร่องน้ำคลองท้องสวน ไม่เคยมีใครชี้แจงไว้เป็นหลักฐาน ไม่มีใครเคยถามหรือสงสัย ทำให้เด็กๆอย่างเราพลอยมองปูเหล่านี้ว่ามันไม่ใช่อาหาร อาจเป็นเพราะเคยเห็นภาพของเหลวสีดำๆในกระดองของมัน หรือว่าดินแดนแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินอยู่แล้ว จึงไม่มีใครสนใจจะกินมัน

การล่าปูเป็นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ชาวสวนทำด้วยความจำใจ หากช่วงเวลาต่อมาเขาปลูกพืชนิดอื่น ปูและชาวสวนดูจะเป็นมิตรกันเหมือนเดิม เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน




 

Create Date : 31 มีนาคม 2554
9 comments
Last Update : 1 เมษายน 2554 19:54:12 น.
Counter : 7871 Pageviews.

 

สงสารเจ้าปูน้อย

สองวันก่อนดูข่าวต่างประเทศ
ที่อเมริกามีการจับและทำลายคางคกยักษ์
เพราะมันมีพิษทำให้สัตว์ที่กินมันเข้าไปแล้วตาย
คางคกยักษ์แพร่พันธุ์เร็วมาก เลยต้องปราบ
คงเป็นการสร้างสมดุลกระมัง

 

โดย: ซองขาวเบอร์ 9 31 มีนาคม 2554 21:39:27 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาเยี่ยมยามสายๆ ช่วงนี้อากาศแปลก ที่อ่างทองเมื่อวานก่อนหนาวมากมาวันนี้ร้อนมากอีกแล้ว โลกใบนี้เริ่มแปรปรวน มนุษย์เริ่มอยู่ในโลกใบนี้ยากเข้าทุกที.....หวังว่าคุณim คงสบายดีนะคะ

 

โดย: เกศสุริยง 1 เมษายน 2554 11:41:54 น.  

 


เข้าใจครีเอทะนะคะต้นเผือกกับปู
อิอิอิ

 

โดย: อุ้มสี 2 เมษายน 2554 1:16:14 น.  

 

เพิ่งทราบหน้าตาของต้นเผือกตอนนี้ล่ะค่ะ
นึกว่าจะเหมือนกับต้นมัน ที่อยู่บนพื้นดิน
หน้าตาคล้ายต้นบอนเลยนะคะ
แต่ถ้าอยู่ในร่องสวน หนูว่ามันหน้าตาคล้ายต้นคูณ
ที่เอามาแกงส้ม

เรื่องต้นบอน สมัยเด็ก ๆ เกือบโดนตบปากหลายรอบค่ะ
เขาแกงส้มคูณ ก็ไปบอกว่า แกงบอน กินแล้วคันปาก
ถ้าหลบไม่ทัน สงสัยเลือดกลบปากนะคะ

บ้านยายที่สามพราน เวลามีงานทีไร ต้องแกงบอนไม่คันปากทุกครั้ง แล้วต้องตักใส่ถุงกลับมาด้วยเป็นของอร่อยที่หายาก

ไม่รู้จักต้นเผือก ไฉนมาลงท้ายเรื่องบอนได้ สงสัยมือคันน่ะค่ะ

 

โดย: kimmybangkok (kimmybangkok ) 2 เมษายน 2554 12:29:19 น.  

 

เพิ่งจะเห็นต้นเผือกนี่แหละค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปเยือน ที่ blog นะคะ

และขอบคุณสำหรับความรู้ต่าง ๆ

 

โดย: ธารน้อย 24 เมษายน 2554 23:40:52 น.  

 

ตลกดี มีทุกอารมณ์ด้วย

 

โดย: tuy IP: 110.49.233.198 15 กรกฎาคม 2554 12:17:40 น.  

 

มองหาปูใต้ต้นเผือกค่ะ เพิ่งเคยเห็นต้นเผือกด้วย

 

โดย: วันสดใส 21 กรกฎาคม 2554 7:10:43 น.  

 

ย่าเคยทำ ต้มเผีอกกับหมู อร่อย หอม มัน ติดใจมาจนทุกวันนี้เลยค่ะ แต่ต้นเผือกนี่เพิ่งได้เห็นที่นี่ล่ะค่ะ มันเหมือนต้นบอนเลย ทางใต้เรียก ออกดิบ ไม่รู้ว่าต้นเดียวกันหรือปล่าว

 

โดย: จันทร์ไพลิน 26 สิงหาคม 2555 9:10:35 น.  

 

ทางบอนดิบ

 

โดย: สุพรรษาทองคะหะ IP: 1.47.194.198 13 มกราคม 2564 15:50:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.