|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ต้นเผือกกับปู
การใช้พื้นดินเพาะปลูกอย่างคุ้มค้าเห็นที่จะไม่มีใครเกินชาวสวนที่นี่ นอกจากจะยกร่องเพื่อปลูกพืชล้มลุกแล้ว ข้างท้องร่อยปริ่มๆน้ำยังทำเชิงเป็นครึงวงกลมคล้ายกับหิ้งพระข้างฝาผนังเรียงกันไปตลอดร่อง เพื่อปลูกเผือก
เผือกกับน้ำเป็นของคู่กัน ยิ่งน้ำมากยิ่งดี ยังไม่เคยเห็นหัวเผือกที่ไหนใหญ่โตเท่า เมื่อมันโตเต็มที่ ใบและก้านของมันปกคลุมร่องน้ำระหว่างร่องสวน เมื่อนั้นแหละคุณเอ๋ย การรดน้ำผักบนร่องจะทุลักทุเลมาก ลองนึกภาพใบเผือกคล้ายใบบอนที่ยื่นออกมาจากข้างตลิ่ง แล้วคนสวนเข็นเรือเครื่องยนต์รดน้ำผักไปในดงเผือกนั้น การบำรุงรักษาต้นเผือกไม่มีอะไรยุ่งยาก ปล่อยให้มันงอกงามไปตามสบาย เพียงแต่กำจัดศัตรูของมัน ไม่ให้มากัดกิน นอกจากตัวหนอนแล้ว ยังมีปูที่ใช้ก้ามของมัน ตัดก้านเผือกอย่างกับคีมคมๆ ผมไม่แน่ใจว่ามันตัดก้านเอาไปกินหรือตัดเล่นๆ แต่เจ้าของเผือกไม่มีอารมณ์สนุกด้วย ช่วงที่เผือกยังไม่โตเต็มที่ ชาวสวนจะหาทางกำจัดปู เห็นแล้วน่าสงสาร ใครจะรู้บ้างว่า ถึงแม้คนไม่กินมัน แต่กว่ามันจะโตใหญ่ต้องหลบเลี่ยงปลาตัวใหญ่ที่ชอบกินปูอ่อนๆ
การล่าปูจึงเกิดขึ้นในยามคำคืนอยู่เสมอๆ ชาวสวนใช้รำข้าวผสมกับดินปั้นเป็นก้อนกลมๆขนาดเท่าลูกเปตอง ก่อนค่ำ เขาเอาลูกกลมๆนี้ไปโยนลงน้ำตามหัวมุมของร่องสวน ซึ่งมีที่ว่างและลึกกว่า แต่ละจุดจะใช้ 4-5 ลูก รอเวลาประมาณสามทุ่ม แหปากหนึ่งกับไม้ที่หยิบฉวยมาได้คืออาวุธล่าปู นักล่าทอดแหคลุมไปบนจุดนัดพบ ขณะที่ประชากรปูกำลังมะรุมมะตุมอาหารที่ล่อไว้ หารู้ไม่ว่ากำลังหลงกลคนปลูกเผือก เมื่อสาวแหขึ้นมา จะมีปูติดขึ้นมาทั้งครอบครัว หรืออาจมีเพื่อนบ้านติดร่างแหมาด้วย ภาพต่อไปคงไม่อาจบรรยายได้ว่าชะตาชีวิตของพวกมันจะเป็นเช่นใด ปูที่ดำเนินสะดวกแพร่พันธุ์เร็วมาก ไม่เคยเห็นมีใครจับปูเหล่านี้มากิน สีของลำตัวออกสีแดงเข้ม คนที่นั่นชอกกินปูม้าปูทะเลมากกว่า สวนปูดองนั้นน่าจะเป็นปูน้ำจืดตามท้องนา ไม่ใช่ปูตามร่องสวนอย่างที่ว่า ในความรู้สึกบอกว่าปูนาสะอาดกว่าปูสวน เหตุที่ชาวบ้านไม่กินปูตามร่องน้ำคลองท้องสวน ไม่เคยมีใครชี้แจงไว้เป็นหลักฐาน ไม่มีใครเคยถามหรือสงสัย ทำให้เด็กๆอย่างเราพลอยมองปูเหล่านี้ว่ามันไม่ใช่อาหาร อาจเป็นเพราะเคยเห็นภาพของเหลวสีดำๆในกระดองของมัน หรือว่าดินแดนแถบนี้มีความอุดมสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินอยู่แล้ว จึงไม่มีใครสนใจจะกินมัน
การล่าปูเป็นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ชาวสวนทำด้วยความจำใจ หากช่วงเวลาต่อมาเขาปลูกพืชนิดอื่น ปูและชาวสวนดูจะเป็นมิตรกันเหมือนเดิม เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
Create Date : 31 มีนาคม 2554 |
|
9 comments |
Last Update : 1 เมษายน 2554 19:54:12 น. |
Counter : 7871 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 2 เมษายน 2554 1:16:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธารน้อย 24 เมษายน 2554 23:40:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: tuy IP: 110.49.233.198 15 กรกฎาคม 2554 12:17:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: วันสดใส 21 กรกฎาคม 2554 7:10:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: สุพรรษาทองคะหะ IP: 1.47.194.198 13 มกราคม 2564 15:50:51 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]
|
ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
|
|
|
|
|
|
|
|
สองวันก่อนดูข่าวต่างประเทศ
ที่อเมริกามีการจับและทำลายคางคกยักษ์
เพราะมันมีพิษทำให้สัตว์ที่กินมันเข้าไปแล้วตาย
คางคกยักษ์แพร่พันธุ์เร็วมาก เลยต้องปราบ
คงเป็นการสร้างสมดุลกระมัง