Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
3 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
ยายของผมเชื้อสายเขมร



คุณยายคนซ้ายมือ


น้องของแม่ผมเคยกระซิบให้ผมฟังว่า แม่ของท่านหรือยายของผมเป็นชาวเขมร ที่จริงท่านน่าจะให้รายละเอียดมากว่านี้ ยายแต่งงานกับก๋งซึ่งเป็นคนจีน ทีญาติทางฝ่ายก๋งเห็นสืบกันนักว่ามาจากเมืองไหน ใครเป็นเครือญาติบ้าง ใครเป็นใหญ่เป็นโตในเมืองไทย แต่ทำไมยายของผมจึงไร้ประวัติความเป็นมา

ผมเกิดที่ราชบุรี เมืองนี้มีชนหลายเผ่าพันธุ์มาตั้งรกราก รวม 8 เชื้อชาติ ได้แก่ คนไทยภาคกลางพื้นถิ่น ชาวไทยจีน ไท-ยวน ไทยมอญ ไทยกะเหรี่ยง ไทยลาวโซ่ง ไทยลาวตี้และไทยเขมร

ที่ว่ายายของผมเป็นเชื้อสายเขมรนั้น จะถามใครก็ไม่ได้ แม้แต่น้องของแม่ผมก็ยังอ้ำๆ อึ้งๆ ว่าจะโทร.ไปถาม ก็คิดว่าไปรบกวน ท่านแก่มากแล้ว อย่ากระนั้นเลย ไปถาม google ดีกว่า ผมได้ข้อมูลจาก ม.ราชภัฏจอมบึง ว่า

ชาวเขมรลาวเดิมเป็นชื่อเรียกประชากรกลุ่มหนึ่งของจังหวัดราชบุรีที่ไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ กล่าวถึงถิ่นกำเนิดเดิมและสาเหตุของการอพยพครัวเข้ามาอยู่ในจังหวัดราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียง นอกจากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่บางคนว่า ถูกกวาดต้อนมาจากทางเหนือ ปัจจุบันชาวเขมรลาวเดิมตั้งบ้านเรือนกระจัดกระจายในหลายท้องที่ของจังหวัด

ได้แก่ ในท้องที่บางส่วนของตำบลคุ้งกระถิน และตำบลคุ้งน้ำวน เขตอำเภอเมืองราชบุรี อำเภอปากท่อ ที่ตำบลวัดงานงาม หมู่ 3 บ้านกอไผ่ ตำบลบ่อกระดาน ที่บ้านบ่อตะคร้อ บ้านหัวถนน และบางส่วนของตำบล ดอนทราย ที่หมู่บ้านหนองจอก อำเภอวัดเพลง ที่ตำบลวัดเพลงบริเวณวัดศรัทธาราษฎร์ บ้านบางนางสูญ ตำบลเกาะศาลพระที่บ้านคลองขนอน คลองพะเนาว์ บ้านโคกพริก อำเภอบางแพ ที่ตำบลหัวโพ บ้านดอนมะขามเทศ ตำบลวังเย็น ที่บ้านเตาอิฐ บ้านหนองม่วง ตำบลวัดแก้ว ที่บ้านเสาธง บ้านทำนบ ตำบลบางแพ ที่บ้านท่าราบ ฯลฯ

ชาวเขมรลาวเดิมมีภาษาพูดสำเนียงคล้ายภาษาลาวอีสาน ศัพท์สำนวนบางคำคล้ายกับภาษาไทยเหนือและอีสาน เช่น พูด =เว้า, ปวดฟัน = ปวดแค้ว, ไม่กลัว = บ่หย่าน เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ (ฉบับหอสมุดแห่งชาติ) ก็ได้กล่าวถึงการกวาดต้อนเขมรจากเมืองโพธิสัตว์ เสียมราฐและพระตะบองมาไว้ที่ราชบุรี เขมรเหล่านี้ไม่ใช่เขมรลาวเดิมเพราะมีภาษาพูดที่แตกต่างกัน เขมรกลุ่มนี้ใช้ภาษาพูดเช่นเดียวกับเขมรในประเทศกัมพูชา และตั้งบ้านเรือนอยู่สองฝั่งแม่น้ำแม่กลองด้านตะวันออกของเมืองราชบุรี เช่น ที่บ้าน พงสวาย บ้านคลองแค บ้านคุ้งกระถิน บ้านคุ้งน้ำวน บ้านอู่เรือ บ้านรากขาม บ้านห้วยหมู และบ้านเด่นกระต่าย เขตอำเภอเมืองราชบุรีบ้านสมถะ ตำบลบางโตนด บ้านสนามชัย ตำบลเจ็ดเสมียน อำเภอโพธาราม และอำเภอปากท่อ ที่บ้าน โคกพระ ตำบลปากท่อ ตำบลหนองกระทุ่ม ที่บ้านหนองกระทุ่ม ฯลฯ


เมื่ออ่านจบ ผมยังสงสัยต่อไปว่า แล้วยายของผมเป็นเขมรลาว หรือว่าเขมรที่มาจากกัมพูชากันแน่

วันนี้ ถึงผมจะรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ผมคิดว่าคนไทยน่าจะรวมกันเป็นหนึ่ง แล้วคิดถึงปัจจุบันและอนาคต อย่างเพลงชาติที่ว่า ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย...



Create Date : 03 มกราคม 2553
Last Update : 9 มกราคม 2553 23:01:02 น. 36 comments
Counter : 6095 Pageviews.

 
แวะมาทักทายค่ะ


โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:13:27:07 น.  

 
โหพี่คะ..เชื้อชาติพี่นี่จะเยอะไปไหน...

เทศกาลทีคงไหว้กันจ้าล่ะหวั่น..จีนมั่ง ไทยมั่ง

คงสนุกดีเนอะ


โดย: ยัยป๋อ (ลายมือยุ่งๆของคนไม่มีเวลา ) วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:14:15:51 น.  

 
เห็นรูป ปุ๊บ ชอบรูปคุณยายเลย เป็นภาพเก่า แต่ดูยังใหม่มากไม่มียับหรือมีรอยตำหนิตรงไหน

บล็อกแบบเล่าเรื่องในอดีตของเจ้าของบล็อก เป็นอะไรที่ผมชอบอ่านครับคุณอิม อยากจะทราบ หากมีใครเขียน จะรีบกระโดดเข้าไปอ่านเลย

อย่างของตาติ๊ก 'สกุลเพชร' นั่นเขาก็เขียนเล่าเรื่องในตระกูลของเขาได้ดี เสียดายไม่รู้ว่าทำไมตอนหลังตาติ๊กจึงลบเรื่องต่างๆที่เขียนออกไป

บล็อกผมยังไม่เริ่มเขียนเล่าประวัติของญาติพี่น้องครับ อาจจะ อาจจะ สักที คงจะเริ่มจากญาติใกล้ชิดที่สุด หากจะเขียนจริงๆ


โดย: yyswim วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:15:34:01 น.  

 
สวัสดีคุณ i m แหมนี่ผมอยากจะเติม b ลงตรงกลางชื่อคุณนะนี่ ถ้าไม่เกรงใจ

ส.ค.ส. ฝีมือคุณ im ภาพเมืองกรุงเทพที่คุณโพสต์คำอวยพรไว้ในบล็อกผม ผมดูแล้วบรรยากาศมันร้อน ๆ ดู "ค่อยน่าไว้วางใจประเทศไทย" ถ้าคุณ im ว่างช่วยเขียนวิวทุ่งนา หนองน้ำ มีบัวบาน หรือมี ป่าเขา มีสวน มีกระท่อมให้ดูบ้างซีครับ ก่อนที่ภาพพวกนั้นจะหาไม่เจอ หรือมีแต่ในจินตนาการ ผมเองเสียด้าย เสียดาย ไม่มีเวลาวาด กับว่า "ของจริงมันหาบ่ได้แล้ว" โอ้ย ต่อไปจะสวรรค์หรือนรกดี

ขอบคุณในคำพรปีใหม่ ขอให้คุณ im จงมีความสุขความเจริญและมีความก้าวหน้าในทุก ๆ ด้านนะครับ


โดย: ลุงบูลย์ IP: 118.173.114.63 วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:15:54:13 น.  

 
ขอโทษคุณอิม เขียนตกไปคำหนึ่ง ที่ถูกคือ "ดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจประเทศไทย


โดย: ลุงบูลย์ IP: 118.173.114.63 วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:15:57:44 น.  

 
รูปคุณยายนั้นยังเก็บรักษาได้ดีเยี่ยมเลยนะคะพี่อิม...อ่านแล้วนึกถึงเรื่องโครงกระดูกในตู้..ว่าคุณยายของพี่อิมจะร่วมสมัยกับท่านเหล่านั้นหรือไม่ อยากทราบจังว่าการกวาดต้อนผู้คนจากเสียมเรียบ โพธิสัตว์และพระตะบอง ไม่ทราบว่ามีขึ้นในสมัยใด พศ.ใด น่าลองสืบหาดู บางทีนกยังนึกอยากรู้ว่าปู่ย่าตาทวดของเรามาจากไหน...แต่พอทราบว่าเป็นเชื้อสายมอญล่ะค่ะ....ว่าแล้วไปลองสืบถามที่บ้านดูบ้างดีกว่า
ปล.ชอบเรื่องวันนี้นะคะ พี่อิมเขียนสนุก


โดย: Popang (popang ) วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:16:33:20 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณ IM

ประวัติศาสตร์เนี่ยเป็นเรื่องที่สนุกและน่าค้นหานะคะ ยิ่งประวัติศาสตร์ ง่าย ๆ ใกล้ ๆ ตัว อย่าง...เราเป็นใคร...เรามาจากไหนเนี่ย ยิ่งเป็นเรื่องที่น่ารู้ น่าค้นคว้าเข้าไปใหญ่

สมัยเรียน ป้าเดซี่เคยทำธีสิสก่อนเรียนจบ ต้องไปสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่างซึ่งคือชาวลาวโซ่งแถวนอกเมืองนครปฐมค่ะ

บางบ้าน เค้ายังมีขนบประเพณีการแต่งกายแบบเดิม ๆ อยู่ เห็นแล้วทึ่งมาก ที่เค้าไม่ถูกกลืนไปด้วยวัฒนธรรมคนเมือง

ภาพคุณยายทั้งเก่าและเก๋ค่ะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:19:38:18 น.  

 
พระราชพงศาวดารในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้กล่าวไว้ว่า

“ ครั้นกองทัพไทยเลิกกลับมา สมเด็จพระนารายณ์ราชาก็พากองทัพญวนขึ้นมารักษาเมืองดังกล่าว เจ้าพระยาจักรีเดินทัพมากลางทาง ทราบว่าญวนมาช่วยเขมร ก็กวาดต้อนครอบครัวเมืองบาราย เมืองโพธิสัตว์ และจับได้ว่าขุนนางเขมร คือ พระยายมราช ชื่อ ควร พระยารามเดชะ ชื่อ มู พระยาไกร ชื่อ ลาย พระยาแสนท้องฟ้าชื่อ ลาย รวมกับครอบครัวที่ได้ในครั้งนั้นหมื่นเศษ ส่งเข้ามากรุงธนบุรี แล้วยึดเอาเมืองพระตะบอง เมืองนครเสียมราฐรักษาไว้ ครอบครัวเขมรที่เข้ามาครั้งนั้น เจ้ากรุงธนบุรีโปรดให้ไปตั้งบ้านเรือนอยู่เมืองราชบุรี “

ข้อความดังกล่าวนี้ เป็นหลักฐานที่สำคัญที่แสดงไว้แน่ชัดว่า เมื่อปี พ.ศ. 2314 ในสมัยกรุงธนบุรี มีการกวาดต้อนชาวเขมรจำนวนมากมาไว้ที่เมืองราชบุรี

อ้างอิงจาก
นางพูนศรี จีบแก้ว (ภัณฑารักษ์ 6 หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี)


โดย: Insignia_Museum วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:20:40:21 น.  

 
ขอบคุณค่ะ...รบกวนพี่อิมเลย...แหะๆ..ได้ความรู้เพิ่มเติมดีมากๆค่ะ.....อย่างงี้ก็น่าจะมีวัฒนธรรมอาหารหรือการกินการอยู่ที่คล้ายกับทางเขมรอยู่บ้างนะคะ


โดย: โปแป้ง (popang ) วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:8:57:15 น.  

 
ต้นตระกูลของคุณอิมดูดี ไฮโซอยู่นะคะ

ภาพคุณยาย...สวย คลาสสิกและบ่งบอกถึงความมั่งคั่งอยู่นะคะ

นักล่าฯเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายายตัวเองเป็นใครมาจากไหน

รู้แต่ว่าเป็นแขก...แต่ไม่รู้แขกจากไหน

ที่มาของยายนักล่าฯมืดมนยิ่งกว่าจขบ.อีกค่ะ

เพราะหนีครอบครัว พ่อแม่พี่น้องมาอยู่ตัวคนเดียวเลย

ท่านเสียไปหลายปีแล้ว...แต่ก็คิดถึงยายอยู่ทุกวัน


ป.ล.อัพบล็อกแล้วค่ะ เชิญนะคะ


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.8.221.26 วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:11:33:42 น.  

 
เชื้อชาติ เป็นเครื่องมือทางการเมืองของชนชั้นปกครอง เป็นแซ่หนามของชาวยุโรปที่เฆี่ยนต่อกลุ่มชนเล็กๆ น้อยให้หวาดหวั่น ไทยรวมทั้งนักวิชาการบางคนก็รับทัศนะนี้เข้ามา และพร้อมที่จะเฆี่ยนต่อคนกลุ่มชนที่เล็กกว่า


โดย: sarntee วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:14:26:34 น.  

 
อืม .. เราเป็นคนราชบุรี แถว ๆ ที่คุณพูดเลย
ที่ ต.คุ้งน้ำวน มีหมู่บ้านเรียกกันว่า หมู่ลาว นะ
ส่วนที่ว่าเป็นคนเขมร น่ะ ก็น่าจะใช่ เพราะ คนแถวคุ้งกระถิน คุ้งน้ำวน น่าจะเป็นชาวเขมรอพยพมา แต่มาจากไหน เราก็ไม่รู้เหมือนกัน
สมัยเราเด็กๆ ก็ได้ยินอะไร ๆ เกี่ยวกับเขมรเหมือนกัน
แถววัดเพลง ส่วนใหญ่ จะเป็นคนมอญนะ


โดย: Life & Learn วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:16:56:01 น.  

 


สวัสดีปีใหม่ ช้าไปหน่อยครับ อยากจะบอกรูปส.ค.ส.สวยมากครับ และชอบเอนทรีนี้มาก คุณยายผมเป็นชาวยองครับ คุณตาเป็นเงียว ไทยใหญ่ ลายสักเต็มขาเลยครับ


โดย: สัญจร ดาวส่องทาง วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:23:24:29 น.  

 
ภาพคุณยายสวยมากค่ะ
คุณ IM ก็ช่างค้นคว้ารายละเอียด


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:2:06:00 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ความสุขสดชื่นแบบมีชีวิตชีวา จงเป็นของคุณ IM นะคะ


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:11:38:49 น.  

 
คุณอิมเปิดเผยว่า คุณป็นคนมร ถ้ามาอยู่แถวบ้านลุงท่าจะเดือดร้อน จากพวก "ปลุกและปลูกปั่น กระแสคลั่งชาติ ก็ขนาดวิศวกรที่ถูกเขมรจับขังคุกข้อหาเปิดเผยเที่ยวบิน พอฝ่ายที่ไม่ใช่รัฐบาลไปช่วยออกมาได้ พวก เห้ แถวบ้านลุงมันยังเป็นโกรธเป็นแค้น หาว่าเป็นแผนของ...

แล้วตอนที่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งไปเขมรแค่เอาผ้าขาวม้าห้อยคอ ทำแค่เนี้ย มันก็ด่าทอหาว่าขายชาติ

ในรถทัวร์ที่ลุงไปเชียงตุง พอได้ยินลุงอดไม่ได้แย้งไปว่า "พูดเกินไป คุณอคติหรือเปล่า" พูดแค่นี้ มันพาลเลิกคบกับลุงไปเลย แล้วไปนินทาว่าไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ ในสมาคมลุงเลยเป็น ม หัวเน่า แต่ก็ภูมิใจที่เป็น "ไท" แท้ ไม่ตกเป็นท่าสความคิดของใคร


โดย: ลุงบูลย์ IP: 118.173.119.135 วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:12:18:22 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังไป 5 วันครับ

สาเหตุเนื่องมาจากเหตุผลดังที่ผมชี้แจงไว้ที่บ้านแล้ว

มาเจอเรื่องชาวไทยเชื้อสายเขมรที่อยู่ในจังหวัดราชบุรีเข้า

ก็ให้รู้สึกว่าเป็นความรู้ใหม่ ไม่เคยรู้มาก่อน

ว่ากันถึงการกวาดต้อนผู้คนจาก "ประเทศราช" หรือดินแดนที่กองทัพฝ่ายต่าง ๆ ยกไปตีได้

เอามาเป็นเชลย เอามาเป็นทาสเป็นไพร่

นับเป็นยุทธวิธีดั้งเดิมของการสงครามสมัยก่อน

เพราะในยุคนั้น "คน" นับเป็นยุทธปัจจัยสำคัญ

ขอให้มีคนมากเข้าไว้ จะคิดอ่านทำอะไรมันก็ง่าย

ตรงข้าม ไม่มีคน หรือมีคนน้อย

จะทำอะไรก็ดูเหมือนจะติดขัดเสียหมด

เพราะเครื่องมือทุ่นแรงยังมีไม่กี่อย่าง

หลัก ๆ ยังต้องพึ่งพาแรงงานจากคนเป็นส่วนใหญ่

คนจึงถูกมองเป็นยุทธปัจจัย ยึดเมืองได้ต้องกวาดต้อนเอามาเป็นเชลย เอามาเป็นกำลังฝ่ายตน

นักสิทธิมนุษยชนสมัยนี้ ถ้ากลับไปอยู่ในยุคอดีต

คงต้องร้องแร่แห่กระเชอกันคอแตก

แต่มองอีกด้านหนึ่ง ข้อนี้ก็ดีเหมือนกัน

ีดียังไง?

ลองกลับไปอ่านประวัติศาสตร์สมัยก่อน

แทบไม่เคยได้ยินว่ามีการ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" แบบที่นาซีทำในเยอรมัน หรือในกำพูชา

ผิดกับยุคหลัง ๆ

เพราะยุคหลัง ๆ เครื่องจักรเครื่องกล และอาวุูธที่ทันสมัย

กลายมาเป็นยุทธปัจจัยสำคัญ ไม่ใช่อยู่ที่ "คน" เหมือนเมื่อก่อน

การกวาดต้อนคนมาเป็นเชลยจำนวนมาก ๆ มีแต่จะเพิ่มภาระเลี้ยงดู

ก็เลยเกิดการสังหารหมู่กันบ่อย ๆ

มองประวัติศาสตร์แล้วลองคิดตาม

มันก็ได้แง่คิดแตกแขนงไปเรื่อย

คนที่ีศึกษาประวัติศาสตร์อย่างถ่องแท้

จึงมีวิสัยทัศน์กว้างไกลกว่าคนที่ไม่ได้ศึกษา

เสียดายที่สมัยนี้

วิชา "ประวัติศาตร์" ที่เคยร่ำเรียนกันอย่างจริง ๆจัง ๆ

ถูกแยกย่อย เอาไปใส่ไว้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาชื่อประหลาด ๆ เสียหมด

เด็กยุคหลังก็เลยไม่ได้ตระหนักประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง

พอพื้นไม่แน่น

ใครเอาพงศาวดารฉบับที่เขียนขึ้นแบบนั่งเทียนบ้าง เขียนเพื่อผลทางการเมืองบ้าง มาอ่านให้ฟัง

ก็พาลเชื่อเป็นตุเป็นตะว่านั่นคือประวัติศาสตร์แท้จริง

ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

อยู่บ้านนี้เมืองนี้

มีแต่ต้องทน ๆ และ ทน....


โดย: ลุงแว่น วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:18:39:38 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังไป 5 วันครับ

สาเหตุเนื่องมาจากเหตุผลดังที่ผมชี้แจงไว้ที่บ้านแล้ว

มาเจอเรื่องชาวไทยเชื้อสายเขมรที่อยู่ในจังหวัดราชบุรีเข้า

ก็ให้รู้สึกว่าเป็นความรู้ใหม่ ไม่เคยรู้มาก่อน

ว่ากันถึงการกวาดต้อนผู้คนจาก "ประเทศราช" หรือดินแดนที่กองทัพฝ่ายต่าง ๆ ยกไปตีได้

เอามาเป็นเชลย เอามาเป็นทาสเป็นไพร่

นับเป็นยุทธวิธีดั้งเดิมของการสงครามสมัยก่อน

เพราะในยุคนั้น "คน" นับเป็นยุทธปัจจัยสำคัญ

ขอให้มีคนมากเข้าไว้ จะคิดอ่านทำอะไรมันก็ง่าย

ตรงข้าม ไม่มีคน หรือมีคนน้อย

จะทำอะไรก็ดูเหมือนจะติดขัดเสียหมด

เพราะเครื่องมือทุ่นแรงยังมีไม่กี่อย่าง

หลัก ๆ ยังต้องพึ่งพาแรงงานจากคนเป็นส่วนใหญ่

คนจึงถูกมองเป็นยุทธปัจจัย ยึดเมืองได้ต้องกวาดต้อนเอามาเป็นเชลย เอามาเป็นกำลังฝ่ายตน

นักสิทธิมนุษยชนสมัยนี้ ถ้ากลับไปอยู่ในยุคอดีต

คงต้องร้องกันระงม...

แต่มองอีกด้านหนึ่ง ข้อนี้ก็ดีเหมือนกัน

ดียังไง?


โดย: ลุงแว่น วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:18:46:11 น.  

 
ลองกลับไปอ่านประวัติศาสตร์สมัยก่อน

แทบไม่เคยได้ยินว่ามีการ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" แบบที่นาซีทำในเยอรมัน หรือในกัมพูชา

ผิดกับยุคหลัง ๆ

เพราะยุคหลัง ๆ เครื่องจักรเครื่องกล และอาวุูธที่ทันสมัย

กลายมาเป็นยุทธปัจจัยสำคัญ ไม่ใช่อยู่ที่ "คน" เหมือนเมื่อก่อน

การกวาดต้อนคนมาเป็นเชลยจำนวนมาก ๆ มีแต่จะเพิ่มภาระเลี้ยงดู

ก็เลยเกิดการสังหารหมู่กันบ่อย ๆ

มองประวัติศาสตร์แล้วลองคิดตาม

มันก็ได้แง่คิดแตกแขนงไปเรื่อย

คนที่ีศึกษาประวัติศาสตร์อย่างถ่องแท้

จึงมีวิสัยทัศน์กว้างไกลกว่าคนที่ไม่ได้ศึกษา

เสียดายที่สมัยนี้

วิชา "ประวัติศาตร์" ที่เคยร่ำเรียนกันอย่างจริง ๆจัง ๆ

ถูกแยกย่อย เอาไปใส่ไว้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาชื่อประหลาด ๆ เสียหมด

เด็กยุคหลังก็เลยไม่ได้ตระหนักประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง

พอพื้นไม่แน่น

ใครเอาพงศาวดารฉบับที่เขียนขึ้นแบบนั่งเทียนบ้าง เขียนเพื่อผลทางการเมืองบ้าง มาอ่านให้ฟัง

ก็พาลเชื่อเป็นตุเป็นตะว่านั่นคือประวัติศาสตร์แท้จริง

ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

อยู่บ้านนี้เมืองนี้

มีแต่ต้องทน ๆ และ ทน....


โดย: ลุงแว่น วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:18:49:30 น.  

 
เขมรนี่ข้ามมาไกลเชียวนะคะ
มาถึง"เมืองราดรี"..
นึกว่าอยู่แค่แถวสุรินทร์ บุรีรัมย์ ซะอีก
มาซะไกลเลย..ดีไม่ข้ามไปเมืองมะละแหม่ง(พม่านู่น)



คุณยาย ท่าทางเป็นคนใจดีและอ่อนหวานนะคะ
ส่วนเพื่อนคุณยายดูเข้มและน่าจะเป็นสาวมั่นของยุคนั้น
ได้ถ่ายรูปไว้ซะด้วย
คงจะเปรี้ยวและกล้าไม่เบาเลย...ขอเดา

เราว่าเราเข้ามา ment แล้วนะคะ
เมื่อวันก่อน..สงสัยมัน ment ไม่ติด
com ..อาจเดี้ยงไปเสียก่อน



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:22:21:05 น.  

 
ประทับใจรูปถ่ายครับ
ตระกูลผมไม่มีรูปแบบนี้เลย ปู่ย่าตายายกว่าจะได้ถ่ายรูปก็แก่แล้ว



โดย: คุณม้าม วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:22:53:28 น.  

 


โดย: เกศสุริยง วันที่: 6 มกราคม 2553 เวลา:16:12:05 น.  

 
คุณ IM สามารถสืบทราบเชื้อสายได้ไกล แถมยังผูกพันธ์หลายเชื้อชาติ เห็นคุณยายถ่ายรูปแบบสมัยเก่าแล้ว ผมนึกถึงแต่ก่อนข้างบ้านผมก็มีรูปคุณทวดของเขาถ่ายกับครอบครัว คุณทวดยังตัวเล็กๆ เลย โบราณมากครับ

ผมมีเชื้อสายจีนก็คงสืบขึ้นไปได้แค่ 3 รุ่น แต่ทางยายก็เป็นคนไทย มีเชื้อสายมอญ-ลาว นึกไปนึกมาเราไม่มีเชื้อไทยเลย


โดย: dj booboo วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:1:26:23 น.  

 


วันนี้ได้ฤกษ์อัพบล็อกแรกของปีขาลแล้วครับ...




....เป็นบ้านน้อย ร้อยฝัน รังสรรค์สวย

ใช่โชคช่วย ล้วนแรงฉุด ด้วยอุตส่าห์

เอาใจสู้ เอามือทำ ตรากตรำมา

เป็นชีวา เป็นรากฐาน เป็นบ้านเรา.....



โดย: ลุงแว่น วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:6:49:48 น.  

 
ใกล้มากค่ะ เราท่าจะสืบเชื้อมาใกล้กันมาก
เพราะเราเป็นคนราชบุรี อยู่คุ้งกระถิน วัดเกาะศาลพระนั่นแหละ
แต่ไม่ยักรู้ว่าตัวเองมีเชื้อเขมร หลงว่าเป็นมอญมาอยู่นาน ฮา
พ่อเราเป็นจีน ค่ะ อืม ลูกครึ่งนะเนี่ย
กลับบ้านบ้างเปล่าคะ


โดย: ยิปซี IP: 124.121.48.106 วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:7:40:01 น.  

 
หวัดดีค่ะ

คนไทยเชื่อสายไทยแท้ๆ หายากเหมือนกันนะคะ

อัยย์เอง ไทยแค่ 25 เปอร์เซ็นต์เองค่ะ

.........

อัพบล็อกแล้ว เชิญนะคะ


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 115.67.185.48 วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:20:01:07 น.  

 
คุณ IM ยังมีภาพคุณยาย ที่สมบูรณ์มากเลย ยังกะเพิ่งถ่ายใหม่เลยค่ะ

เดี๊ยนเองเชื้อจีน 100% ค่ะ

ไม่มีเชื้ออื่นเลย อิอิ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:21:59:27 น.  

 
สวัสดีครับ

สวัสดีปีใหม่ ขอให้สุขกาย สุขใจ โรคภัยไม่มาราวี นะครับ

ห่างหายกันไปนานเหมือนกัน ไม่ได้หายไปใหนหรอกครับ แต่มีเรื่องต้องทำเยอะมากๆ ก็เลยไม่ได้นำเรื่องที่น้องโรสเขียนไว้ มา update

เมื่อไม่ได้เข้ามา ก้เลยไม่ได้เยี่ยม เยียนพี่ๆ น้องๆ ส่วนน้องโรสนั้นก้เขียนเอาไว้หลายเรื่อง

เมื่อเวลาผ่านไป นานๆ กลายเป็นว่าเหมือนเรือที่แล่นลับไป ค่อยๆห่างสายตากันไปทุกที

ตอนนี้ เรือลำนั้น แล่นกลับมาแล้ว หลังจากไปหลงอยู่กับสาหร่ายทะเล และความงดงาม แห่งท้องทะเลอันไกลโพ้น นานไปหน่อย

คิดถึงครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆทุกคนครับ

เรื่องเชื้อชาตินั้น มนุษย์เรา ถ้าสืบเชื้อสายกันไปแล้ว เป้นพี่ น้องกันทั้งนั้น โดยเฉพาะ เขมร ไทย ลาว พม่า เป้นกลุ่มคน ที่มีที่มาในกลุ่มเดียวกัน เพียงแต่ ด้วยทางการเมือง การปกครอง มาเรียกกันว่า ประเทศนั้น ประเทศนี้

ผมเองก็ไม่ทราบว่าเราจะเป้นเช่นนี้กันไปอีก นานเท่าไร คนเขมร ลาว กับคนไทย เทือกเถา เหล่ากอ อยู่ในลุ่มนำเดียวกัน คนละฝั่งคลอง จับปลา ปลูกข้าว ข้ามเรือไป มา เมากัน เมื่อถึงเทศกาล บ้านโน้น บ้านนี้ แล้ววันนี้ เพราะคนกรุงเทพ กลุ่มหนึ่ง ที่ไปแบ่งแยก แล้วปกครอง พวกเราคนละฝั่ง จะมาฆ่ากันหรือ เพื่ออะไรกัน เพื่อใคร เมื่อไร เราจะไม่ยอมให้คนอื่นมาปั่นหัว เหมือนจิ้งหรีดกันบ้างล่ะ จอ้งหรีด มันกัดกันตายไปข้างหนึ่ง แต่จิ้งหรีดได้อะไร เจ้าของต่างหากล่ะ ที่ได้เงินพนัน จริงไหมครับ

พูดแล้ว น้ำลายชักเปรอะ พอก่อนนะครับ



โดย: ทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์ (คนตาพิการ ) วันที่: 7 มกราคม 2553 เวลา:22:07:17 น.  

 
เคยมีคนทางราชบุรี เป็น อบต ถามมาว่าอยากทราบที่มาของเชื้อสายเขมรของตนที่แถว ๆ อำเภอหนึ่งในราชบุรี

ก็บอกไปตามหลักฐานที่มีคือเรื่อง "เขมรลาวเดิม" แต่บางคนทางนั้นมีคำอธิบายว่ามาจากสุรินทร์

ซึ่งอาจเป็นการอธิบายเลี่ยง ๆ ด้วยเห็นว่าสุรินทร์มีคนเขมรเยอะ

เลยบอกเขาไปว่าหากยังพบเจอคนแถวราชบุรีที่พูดเขมรได้วานบอกหน่อย

เพราะจะลองเช็คสำเนียงดูว่าพอใกล้เคียงกับเขมรแถวไหน

แต่เห็นเขาบอกว่ามีศาลปะกำช้างด้วย คงเคยเลี้ยงช้างในอดีต

หากพบเจอคนที่ยังพูดได้กรุณาบอกด้วยครับ หากมีเวลาและโอกาสจะได้ไปเช็ค


โดย: c (chaiwatmsu ) วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:4:56:13 น.  

 
ผมก็เป้นคนไทยเชื้อสายเขมรคนหนึ่งคับ อาคัยอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ คณุยายเป็นคนญวน คุณตาเป็นคนเขมร อยากรู้จังภาษาเขมใในราชบุรีจะคล้ายเขมรในสุรินทร์มัย
ชั่วยบอกที


โดย: ไทสุรินทร์ IP: 202.12.97.100 วันที่: 25 เมษายน 2553 เวลา:23:46:39 น.  

 
เขาบอกชื่อสถานที่มาด้วยครับแต่ผมความจำเสื่อม เห็นว่าจะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นตลาดน้ำหรือตลาดโบราณ เลยจะสืบค้นข้อมูล
แต่เขาบอกว่าเลิกพูดเกือบหมดแล้วครับ


โดย: c (chaiwatmsu ) วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:41:28 น.  

 
ตนำบายหรือดำบาย ว่า หุงข้าว,โฮบบาย คือ ทานข้าว,
ดื่มน้ำ เรียก เพอะตึ๊ก ลองถามน้องแม่ดู ถ้าใช่ เขาเรียก ขแมร์กรอม (เขมรต่ำ) Nice to meet you.


โดย: คนสุรินทร์เหลา IP: 125.25.46.47 วันที่: 22 กันยายน 2553 เวลา:11:14:57 น.  

 
ประเทศไทยในอดีตเป็นประเทศเขมรทั้งหมด พ่อขุนรามคำแหงยึดอำนาจจากเขมรได้ก็บังคับให้พวกเขมรพูดภาษาไทย พวกเขมรจึงกลายเป็นไทยแท้ ลืมชาติ


โดย: ไทยแท้ IP: 180.180.166.245 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:11:54:31 น.  

 
คนไทยแท้คือพวกลาวพวน ลาวโซ่ง นี้คือไทยแท้ พ่อขุนรามคำแหง ไปดูลาวพวน ลาวโซ่งที่สุโขทัยนี้คือพวกเดียวกัน พวกนี้คือไทยแท้


โดย: สมนึก IP: 180.180.166.245 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:11:57:38 น.  

 
ภาษาไทยนี้เป็นภาษาที่พ่อขุนรามคำแหงสร้างมาเพื่อบังคับให้พวกเขมรพูด เพื่อให้ลืมชาติตัวเอง เป็นการกลืนชาติ ไทยแท้คือพวกลาวกินข้าวเหนียว


โดย: สมรัก IP: 180.180.166.245 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:12:00:06 น.  

 
กองทัพกุบไลข่านของมงโกลซื่งปกครองจีนได้ยกกองทัพมาตีเขมรแตก พ่อขุนรามคำแหงได้กบฎต่อเขมรยึดอำนาจจากเขมรแล้วบังคับให้เขมรพูดภาษาที่ตัวเองสร้างขึ้นมาจากภาษาลาวผสมภาษาเขมร บาลี สนกฤต เขมรโดนกุบไลข่านตี 2 ครั้ง ถึงได้เกิดประเทศไทยขึ้นมา


โดย: สมรัก IP: 180.180.166.245 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:12:06:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.