|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ใครมีไข่เป็ดในตู้กับข้าวบ้าง ?

ในกล่องข้าวกลางวันของผม บางวันมีเพียงไข่ดาวฟองเดียวกับข้าวสวยที่อัดแน่น สำหรับกระเพาะเล็กๆของวัยเด็กก็เพียงพอแล้ว
ที่บ้านของเราและคนในละแวกนั้นกินแต่ไข่เป็ด เปลือกสีขาว ฟองใหญ่กว่าไข่ไก่เล็กน้อย เมื่อทอดเสร็จแล้วจึงได้น้ำได้เนื้อกว่า จะปรุงอาหารอะไรที่ต้องใส่ไข่จะนึกถึงแต่ไข่เป็ด ในครัวจะมีไข่เป็ดพร้อมอยู่เสมอ ผมไม่รู้สึกถึงกลิ่นคาวของมันที่มีมากกว่าไข่ไก่ ผมว่าไข่ไก่ทอดนั้นรสชาติแปลกๆและไม่อร่อย เข้าใจว่าไข่ไก่นั้นใช้ทำขนมหวานอย่างพวกทองหยิบทองหยอด หรือลวกแบบสุกๆ ดิบๆ เป็นอาหารเช้ากับกาแฟดำ ไมโล โอวัลติน

พวกผู้ใหญ่เขากินไข่ลวกกันในตอนเช้ามืดก่อนไปทำงานหรือเดินทาง ที่ท่ารถดำเนินฯจะมีร้านกาแฟ เจ้าของร้านขยันมาก เปิดร้านก่อนไก่โห่ ระหว่างรอรถผู้คนจะสั่งไข่ไก่ลวก เยาะเกลือ พริกไทย วิธีกินประหลาดๆอยู่ นั่นคือยกแก้วใส่ไข่ลวกกรอกเข้าปากขณะที่โกร่งคอโชว์ลูกกระเดือก กะว่ามันจะลงสู่กระเพาะโดยไม่ผ่านลิ้นหรือการเคี้ยวเลย
รุ่นพี่คนหนึ่งมีวิธีกินไข่ไก่แบบแปลกๆ เขาตอกไข่ไก่ดิบๆลงไปในขวดน้ำอัดลมเซเวนอัพ น้ำอัดลมจะมีปฏิกริยากับไข่จนฟองฟู่ล้นขวด เหมือนไข่ขาวเริ่มสุก แล้วยกขึ้นดื่มทั้งขวด ผมไม่รู่ว่าวิธีกินแบบนี้มีใครเขาทำกันบ้าง

ชาวบ้านมักจะเลี้ยงเป็ดกันมากก่อนตรุษจีน กะว่าโตกำลังดีเมื่อเทศกาลนั้นมาถึง ครอบครัวคนจีนจึงไม่ต้องไปซื้อเป็ดไหว้เจ้ากันที่ไหน ชาวบ้านเลี้ยงเป็ดด้วยหอยกาบสดๆ หอยกาบงมได้จากดินเลนทั่วไป ไม่ต้องซื้อหาอีกเหมือนกัน หอยกาบมีตามลำคลองอย่างเหลือเฟือเพราะคนไม่กินมัน
ในตอนกลางวันมักจะปล่อยให้ฝูงเป็ดหากินตามใจชอบไปตามลำคลอง ในช่วงหน้าน้ำท่วม เป็ดจะร่าเริงมาก มันมีอาณาจักรเพิ่มขึ้นสุดลูกหูลูกตา ว่ายน้ำหาหอยหาปลากันเพลินที่เดียว

เป็ดฝูงเล็กๆประมาณ 5-10 ตัวที่ปล่อยไปหากินตอนเช้า ตกเย็นเป็ดกลับมาหาเจ้าของจำนวนน้อยกว่าเดิมก็มี พวกขี้เหล้ามักหาโอกาสจับเป็ดเชือดแกล้มเหล้าบ่อยๆ การจับเป็ดไม่ยาก เขาใช้ความแม่นของการปาก้อนหินไปยังเป้าหมายที่เป็นจุดอ่อนที่สุดของเป็ด นั่นคือคอยาวๆของมัน
พูดถึงเป็ดแล้ว ถ้าไม่พูดถึงเป็ดพะโล้เหมือนขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง เป็นพะโล้เป็นอาหารชั้นยอดของคนแถวนั้น เคยมีคนทำเป็ดพะโล้อร่อยมาก พายเรือขายไปตามลำคลอง เขาใช้ใบตองแห้งเย็บเป็นกระทงที่เล็กกว่าฝ่ามือสำหรับใส่เป็ดชิ้นเล็กๆให้ลูกค้า สำหรับเด็กๆแล้ว ไม่ค่อยมีโอกาสกินเป็ดพะโล้ในยามปกติ ยกเว้นตรุษจีน หรือสาร์ทจีนเท่านั้นที่พอได้ลิ้มรส
ผมมาอยู่กรุงเทพหลายสิบปีจนคุ้นเคยกับไข่ไก่อย่างคนเมืองหลวง ความเคยชินทำให้นิสัยการบริโภคเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้ผมกินไข่เป็ดทอดหรือเจียวไม่ได้เลย ติว่ามันคาวเกินไป หากเป็นไข่เค็มก็โอเคครับ
Create Date : 16 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 16 ตุลาคม 2553 8:05:41 น. |
|
26 comments
|
Counter : 6089 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:8:07:00 น. |
|
|
|
โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:8:11:28 น. |
|
|
|
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:8:59:34 น. |
|
|
|
โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:10:30:13 น. |
|
|
|
โดย: หน่อยอิง วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:13:41:18 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:15:12:58 น. |
|
|
|
โดย: sansook วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:21:04:04 น. |
|
|
|
โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 16 ตุลาคม 2553 เวลา:21:42:06 น. |
|
|
|
โดย: เกศสุริยง วันที่: 17 ตุลาคม 2553 เวลา:0:56:36 น. |
|
|
|
โดย: เรือนเรไร วันที่: 17 ตุลาคม 2553 เวลา:8:45:06 น. |
|
|
|
โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 17 ตุลาคม 2553 เวลา:10:55:22 น. |
|
|
|
โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 17 ตุลาคม 2553 เวลา:11:42:12 น. |
|
|
|
โดย: POPANG (popang ) วันที่: 17 ตุลาคม 2553 เวลา:21:25:11 น. |
|
|
|
โดย: แมวหง่าว (chaiwatmsu ) วันที่: 18 ตุลาคม 2553 เวลา:8:21:46 น. |
|
|
|
โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 18 ตุลาคม 2553 เวลา:11:03:34 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 18 ตุลาคม 2553 เวลา:12:27:15 น. |
|
|
|
โดย: haiku วันที่: 18 ตุลาคม 2553 เวลา:17:56:18 น. |
|
|
|
โดย: nathanon วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:5:56:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:6:12:02 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแว่น วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:8:47:33 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 ตุลาคม 2553 เวลา:6:15:18 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]

|
ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
|
|
|
|
|
|
|
|