ละครวิทยุ
เมื่อ 40-50 ปีมาแล้ว ความบันเทิงสำหรับผู้คนทุกระดับชั้น ต้องยกให้ละครวิทยุ ช่วงนั้นโทรทัศน์ขาวดำเริ่มมีให้ดูกันบ้างแล้ว แต่ราคาแพงมาก จะมีเฉพาะบ้านกำนัน ร้านค้าประจำอำเภอ แต่วิทยุทรานซิสเตอร์สามารถหาซื้อได้ในราคาไม่แพงนัก ชาวบ้านธรรมดา คนชนบทตามท้องไร่ท้องนา ป่าเขา ก็สามารถเข้าถึงแหล่งบันเทิงทางวิทยุได้เท่าเทียมกัน หนึ่งในความบันเทิงนั้นคือ "ละครวิทยุ" เรื่องหนึ่งในละครวิทยุที่อยู่ในความทรงจำ เมื่อคิดถึงครั้งใดเหมือนเสียงนายเอก พระเองจะก้องอยู่ในหูทุกครั้ง ละครเรื่องนั้นชื่อเรื่อง "โนรา" นิยายสมัยนั้น ผู้ประพันธ์บางท่านใช้ชื่อนางเอกเป็นชื่อเรื่อง หากจะให้เล่าเนื้อเรื่องคงจะจำไม่ได้ แต่กลับจำเสียงพูดของนางเอกที่หวานปานน้ำผึ้งและเคล้าด้วยความเศร้าสร้อยนั้นได้ คณะละครที่ขึ้นชื่อขณะนั้น ก็มี คณะผาสุขวัฒนารมณ์, กันตนา, แก้วฟ้า, เสนีย์ บุษปะเกศ, เกศทิพย์, มิตรมงคล, สองหนึ่งสาม, นิลิกานนท์, อัชชาวดี ฯลฯ ผู้เขียนคิดว่า ชายหญิงที่มีเสียงไพเราะที่สุดที่เคยได้ฟังมามีอยู่ 2 ท่าน และเป็นเสียงพระเอกนางเอกตลอดกาล คือ คุณจีราภา ปัญจศิลป์ และคุณวิเชียร นิลิกานนท์ คุณวิเขียรและคุณจีราภา เสียพระเอกอีกท่านหนึ่งของกรมประชาสัมพันธ์ คือคุณชัยวิชิต อติศัพท์ เสียงทุ้ม หล่อ แฟนละครติดกันง่อมแงม จนต้องติดตามมาขอดูตัว พอเจอตัวจริง ก็ไม่ยอยเชื่อ เพราะไม่เหมือนกับภาพในจินตนาการ คิดว่าแต่งตัวดี สมาร์ท ตอนนั้นคุณชัยวิชิตใส่ชุดสีกากี ดูอย่างไงก็ไม่ใช่ ให้รูปก็ไม่เอา แฟนละครผิดหวังกันเป็นแถวเรื่องผีจากคณะกันตนา ขึ้นชื่อมาก เสียงของเจ้าของคณะ น้ำเสียงเย็นๆ มีอำนาจอยู่ลึกๆ ฟังแล้วขนลุก บวกกับเพลงประกอบในแนวสยองขวัญ ทำให้นึกถึงผีขึ้นมาจริงๆ แต่น่าแปลกที่เวลาออกอากาศของละครเรื่องผีมักจะอยู่ในช่วงเที่ยงวัน แต่ถึงกระนั้นความน่ากลัวก็ไม่ได้จางหายไปไหน สถานีวิทยุ ว.พ.ท. มีละครเกือบตลอดวัน เริ่มกันตั่งแต่เช้าจนค่ำมืดดีกดื่น ส่วนใหญ่จะแสดงตอนละ 30 นาที น่าจะเป็นการใช้เวลาที่กำลังพอดี ไม่น่าเบื่อ จะมีโฆษณาระหว่างพักครึ่ง แต่ละบทที่พูดมีเพลงประกอบขั้น การนึกในใจจะเป็นเสียงแอ็กโค่ ถ้านางเอกที่ขี้อายสักหน่อยจะคิดในใจมากๆ ก่อนที่เอ่ยสักคำขั้นตอนการดำเนินเรื่อง แต่ละคณะมีวิธีการนำเสนอที่เป็นสูตรคล้ายๆกัน คือ เริ่มต้น ผู้บรรยายทักทายผู้ฟัง บอกชื่อคณะละคร วัน เวลาที่ออกอากาศ ชื่อเรื่อง ชื่อเจ้าของบทประพันธ์ ชื่อผู้เขียนบทละครวิทยุ เล่าถึงความเดิมตอนที่แล้ว ผู้ฟังบางคนอาจไม่ได้ฟัง เพื่อย้ำเตือนความทรงจำของผู้ฟังอีกครั้ง ต่อมา บรรยายถึงฉาก ตามด้วย วัน เวลา สถานที่ บรรยากาศโดยย่อ เมื่อละครจบตอน จะเปิดเพลงประกอบในช่วงท้าย กล่าวปิดรายการ สรุปเหตุการณ์ที่ยังค้างคาใจในช่วงท้ายๆ หรืออาจตั้งเป็นคำถามถึงเหตุการณ์ข้างหน้าว่าจะดำเนินไปอย่างไร พร้อมทั้งกล่าวเชิญชวนให้ฟังละครในตอนต่อไป กล่าวคำอำลา เปิดเพลงส่งท้าย เป็นอันจบของละครตอนหนึ่งๆคณะนุชและสหาย ลงใน Bangkok Post เมื่อ 10 ปีมาแล้ว เสียงที่ใช้ประกอบการแสดง ก็ใช้สิ่งของใกล้ตัว เช่น หากมีฉากขี่ม้า ใช้เคาะกะลามะพร้าวเป็นเสียงฝีเท้าม้า เกรียงฉาบปูนไว้แทนเสียงฟันดาบ สายเทปคาสเซ็ตที่พันยุ่งเหยิงไว้แทนเสียงกรอบแกรบ สวบสาบเมื่อพระเอกต้องเข้าป่า หรือแม้แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างฉากกินข้าว ก็เตรียมจานชามช้อนส้อมมากระทบกันให้สมจริง ปัจจุบัน คณะละครวิทยุเที่ยังออกอากาศทางสถานีวิทยุภาคเอเอ็มเหลืออยู่เพียง นิลิกานนท์, นุชและสหาย, รังสิมันต์, สองหนึ่งสาม, เกศทิพย์ ซึ่งเกศทิพย์เป็นคณะที่ก่อตั้งมายาวนานกว่า 40 ปี ยังคงใช้เทปม้วน (เทปปริวล์ ที่ขณะนี้เลิกผลิตไปแล้ว) เป็นอุปกรณ์ในการอัดเสียและเพลงประกอบจากแผ่นเสียงขนาดใหญ่รุ่นเก่า เด็กรุ่นลูกรุ่นหลาน อาจจะสงสัยว่าทำไม๊ ทำไมคนรุ่นคุณลุง คุณป้าที่อายุเกิน 40 ปี บางคนชอบเก็กเสียงหล่อ ออกแนวทุ้มๆ แบบพระเอง นางเอก ผู้เขียนคิดว่าเสียงของตัวละครที่เขาฟังวิทยุสมัยยังเด็ก คงเป็นแม่แบบในการพูดของคนรุ่นนั้น เมื่อเขายังเด็กคงเป็นนักฟังละครวิทยุตัวยงแน่ๆเลยครับVIDEO VIDEO VIDEO
Create Date : 26 ตุลาคม 2551
Last Update : 21 กรกฎาคม 2555 11:16:19 น.
34 comments
Counter : 17476 Pageviews.
ละครวิทยุตอนนี้ก็ยังมีอยู่นะคะ เคยเปิดเจอ ที่สถานีวิทยุวัดสังฆทาน เป็น นิทานธรรม ค่ะ