Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
20 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
"ลุงซ้ง" คนโกยดิน



การทำสวนอย่างชาวดำเนินสะดวก จะขุดเป็นร่องๆ มีน้ำหล่อเลี้ยง มีคันดินกันน้ำท่วมรอบขนัดสวน หมั่นถอนหญ้า เห็นพื้นดินโล้นๆ สะอาดเอี่ยม เดินได้ไม่ระคายเท้า

สมัยก่อนอาชีพที่ต้องใช้พลกำลังมาก ก็มี แบกหาม ขุดดิน และโกยดิน เป็นอาชีพของลูกผู้ชายโดยเฉพาะ พวกผู้หญิงก็จะรับจ้างเก็บผัก ถอนหญ้า ปลูกผัก มีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน

"โกยดิน" ในที่นี้หมายถึงเอาดินจากใต้น้ำ อาจเป็นในคลอง ท้องร่องน้ำในสวน นำขึ้นไปวางในที่ที่จะเสริมดิน ไม่มีการใช้เครื่องทุ่นแรง อาชีพโกยดินจะต้องใช้ความชำนาญ ต้องมีร่างกายที่แข็งแรง มีลำแขนที่เรียกว่ามะขามข้อเดียว อุ้มก้อนดินได้ลูกโตๆ ได้ค่าแรงมากกว่าอาชีพอื่น แถมมีข้าวต้มเลี้ยงรอบบ่ายด้วย



งาน "โกยดิน" ไม่มีวันจบวันสิ้น ในร่องสวนแต่ละขนัด จะมีจำนวนร่องแตกต่างกันไป อาจเป็น 10 ถึง 20 ร่อง จะมีการโกยดินเสริมขอบร่องอย่างน้อยปีละครั้ง จะควักดินจากใต้น้ำยกขึ้นไปแปะที่ข้างร่องแล้วเกลี่ยให้เรียบ ทำเหมือนช่างโบกปูน

การโกยดินอีกแบบหนึ่งคือการโกยดินเสริมคันดินรอบขนัดสวน จะควักดินจากลำคลอง หรือลำประโดง แล้วส่งต่อกันขึ้นไปวางบนคันดินอีก 2-3 ทอด ก้อนดินแต่ละเที่ยวคงจะหนักเท่ากับกระดาษ A4 ซ้อนกัน 5 รีม ลูกจ้างโกยดินบางคนเคยเป็นนักมวยมีชื่อจากเวที่มวยดังใน กทม. มาแล้ว เมื่อว่างเว้นจากการชกมวย ก็มายึดอาชีพโกยดินไปพลางๆก่อน

ถึงแม้ว่าจะเป็นการควัก หรือตักดินด้วยมือเปล่า คนโกยดินก็ต้องเรียนรู้วิธีโกยที่ถูกต้อง ไม่โกยดินชิดตะลิ่งมากเกินไป เดี๋ยวจะทำให้ร่องพัง หรือคันดินทรุดได้ การโกยดินจะต้องตักดินไปตามลำดับ ทำเหมือนกับตักขนมหม้อแกงที่ค่อยๆเริ่มจากริมๆ ไม่ใช่ตักตรงกลางจนเละ

ท่าการควักดิน แล้วแต่ความถนัด หากโกนดินก้อนใหญ่ จะใช้เท้าเหยียบๆเป็นขอบสี่ด้าน แล้วจึงเอามือตัดด้านใต้ฐานของดิน จะได้ก้อนดินรูปสี่เหลี่ยมสวยงาม ส่วนการโกนดินแปะข้างร่อง จะใช้มือกางระหว่างนิ้วโป้ง กับอีก 4 นิ้ว กดไปบนดินเหลว เอามือทั้งสองข้างช้องเข้าหากัน จะได้ดินขนาดย่อม นำไปแปะข้างร่อง เป็นคันดินเล็กๆไปตลอดร่องเพื่อเวลารดน้ำผัก น้ำจะได้ขัง ไม่ไหลออกหมด

คนโกนดินจะมีมือใหญ่มาก มีเส้นเอ็นเส้นเลือดขึ้นโปนที่เดียว ตามฝ่ามือ นิ้วมือ เต็บไปด้วยบาดแผลไปทั่ว ทั้งแผลเก่าและแผลใหม่ การถูกหอยบาดบ้างขณะโกยดิน จึงเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เคยเห็นคนโกยดินใช้ยาเหลือง ยาแดงใส่แผล



ครอบครัวเรามี "ลุงซ้ง" รับจ้างโกยดินให้กับสวนของเราโดยเฉพาะ เราสร้างกระท่อมน้อยๆให้อาศัยพักนอน กระท่อมหลังคามุงจากมีไม้รวกขัดล้อมรอบ ที่นอนยกพิ้นไม้กระดานสูงราว 1 เมตร เพื่อแยกสัดส่วนกับงูเงี้ยวเขี้ยวขอ

ในกระท่อมของลุงซ้ง ไม่มีอะไรมาก มีชุดหล่อๆ 1-2 ชุด และกางเกงจีนใส่ทำงาน ที่แขวนเสื้อก็ใช้กิ่งมะม่วงแห้งๆ ผูกเชือก เท่านี้ก็เก๋ไก๋แล้ว บางมื้อลุงซ้งจะต้องหุงหาอาหารเอง กินง่ายอยู่ง่าย ส่วนมากแล้วทางบ้านก็จะเอากับข้าวไปเผื่อ

ลุงซ้งเป็นคนช่างคุย มักจะเล่าความหลังให้ฟังบ่อยๆ ว่า เคยมีครอบครัวที่มั่นคง มีสวนทำกินเป็นหลักฐาน ฐานะอยู่ในขั้นดี ลูกชายโตเป็นหนุ่มแล้ว แต่ไม่เคยเล่าต่อว่าที่แยกจากภรรยามาอยู่ที่ดำเนินฯในกระท่อมเล็กๆด้วยสาเหตุอะไร



ลุงซังมีตารางพักผ่อนที่คาดไม่ถึง ทุก 2 สัปดาห์จะต้องนั่งรถประจำทางไปเยาวราช กทม. แกกระซิบกระซาบให้ฟังว่า จะไปแถวๆสามแยกเยาวราชตามประสาหนุ่มโสด แต่ไม่ได้เล่าให้เด็กๆฟังว่าแถวนั้นมันมีดีอะไร เห็นแต่พวกผู้ใหญ่หัวเราะกันคิกคักเวลาลุงซ้งเล่าเรื่องที่ไปเที่ยวมา

ลุงซ้งจะนุ่งกางเกงจีนเป็นประจำ ไม่เคยใส่เสื้อ จะใส่เสื้อเฉพาะวันที่เดินทางไปเที่ยวไกลๆ สำหรับงานบวช งานแต่ง งานศพ ลุงซ้งไม่จำเป็นต้องเสนอหน้าไปร่วมงาน จึงไม่มีรายจ่ายทางสังคม วันๆไม่ค่อยได้ใช้เงิน เหล้ายาปลาปิ้งไม่แตะต้อง อย่างดีก็แค่สูบยาใบจาก สุขภาพดีไม่เคยมีปัญหา

เรื่องการดูแลความสะอาดของร่างกายนั้น ลุงซ้งให้ความสำคัญมาก จะทำตัวหล่อเฟี้ยวตลอดเวลา ใช้น้ำมันใส่ผม หวีผมเรียบแปล้ โชว์หน้าอกที่เริ่มเหี่ยว ตอนนั้นลุงซ้งอายุราว 50 กว่าๆ แล้ว ดูยังไม่แก่นัก เพียงแต่ฟันฟางบางซี่จะหลุดไปบ้าง

ถึงแม้ลุงซ้งจะเป็นลูกจ้างประจำที่บ้าน นั่นมิได้หมายความว่าใครๆก็ใช้แกทำอะไรอื่นที่นอกที่เหนือจากการโกนดินได้ แกยินดีที่จะทำหน้าที่โกนดินอย่างเดียว แบกหามไม่ยุ่ง เก็บผักดายหญ้าไม่เอา สมัยนี้เรียกว่าผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

ที่น่าเห็นใจลุงซ้งมาก ตอนแกต้องมาโกยดินที่ขนัดสวนด้านหนึ่ง ชาวบ้านแถวนั้นเลี้ยงหมู ขี้หมู หรือสิ่งปฏิกูลจากหมูจึงไหลลงตามน้ำมาที่ข้างสวน จนกลายเป็นดินโคลนเหลวๆ ลุงซ้งไม่ยี่หระกับภาระกิจนี้ ลงโกยดินอย่างไม่รู้สึกรู้สากับดินเลนที่ผสมน้ำล้างคอกหมูนั้นเลย



ผมจำไม่ได้ว่าลุงซ้งหายไปจากครอบครัวเราเมื่อไร เพราะผมต้องทิ้งชีวิตชาวสวนเข้ามาเรียนต่อที่ กทม. แต่ทุกวันนี้ยังจำสีหน้าของลุงซ้งที่ร่าเริง ไม่มีความทุกข์กับใครเขาสักกะนิดเดียว ในกระท่อมมุงจากหลังนั้น



Create Date : 20 กันยายน 2552
Last Update : 9 มกราคม 2553 20:59:50 น. 44 comments
Counter : 9529 Pageviews.

 
มาอ่านเรื่องลุงซ้ง คนสวนตัวจริง

การทำสวนเป็นทั้งศาตร์และศิลป์นะคะ

แค่การควักดิน ก็ไม่ง่าย ใช่สักแต่ควัก หรือโกย แต่ต้องทำอย่างเนี้ยบ

บล็อกวันนี้สวยงาม ภาพเขียนสวยมากกกกกกกกก

ภาพแบบนี้ ดูได้ไม่เบื่อ คนเขียนต้องลึกซึ้งกับชนบทไทยจริงๆ

ขอบคุณบล็อกดีๆเช้าวันหยุดค่ะ


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 115.67.83.206 วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:7:26:36 น.  

 


หวัดดีค่ะ คุณอิม
มาอ่านเรื่องของลุงซ้งแล้ว ทำให้มินคิดถึง
แม่บ้านของมิน ตอนมินยังเด็ก ๆ เหมือนกันค่ะ
อยู่กับมินและพี่ ๆ น้อง ๆ ตั้งแต่มินซัก 4-5 ขวบมั๊ง
พอมินเรียนมัธยมต้องไปเป็นนักเรียนประจำ
พอปิดเทอมกลับบ้าน พี่เขาก็ไม่อยู่แล้ว
บางครั้ง ทุกวันนี้ ก็ยังคิดถึงว่าเขาจะเป็นไงมั่งอ่ะค่ะ
ปล.มีความสุขมาก ๆ กับวันหยุดพักผ่อนอีกวัน นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:9:03:36 น.  

 
สวัสดีค่ะ
อ่านแล้ว คิดถึงบ้านที่ต่างจังหวัด คิดถึงเรื่องราวสมัยเด็ก ค่ะ


โดย: ผักแป้น วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:9:28:58 น.  

 
ลูกจ้างกับนายจ้างในสมัยหนึ่ง

มีความสัมพันธ์กันประดุจญาติ

แทนความสัมพันธ์เชิงนิติกรรมแต่ตอนต้น

เพราะว่าจ้างกันที ไม่ใช่ชั่วครั้งชั่วคราว ประเดี๋ยวประด๋าว

อยู่กันเป็น 5 ปี 10 ปี

จึงเกิดความผูกพันทางใจกันขึ้น

แม้บางครั้ง

จะมีคนอื่นมาให้ค่าแรงมากกว่า

แต่เขาก็พร้อมจะอยู่ที่เก่า

ก็เพราะเยื่อใยที่เรามองไม่เห็น

ได้ถักทอหัวใจของทั้งผู้จ้าง และลูกจ้างเข้าไว้ด้วยกันเสียแล้ว

ความสัมพันธ์แนวนี้

นับวันจะหาได้ยากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน...


โดย: ลุงแว่น วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:9:45:58 น.  

 
เหมือนย้อนอดีต"เด็กบ้านสวน"เลยนะนี่ อ่านสนุก ได้รายละเอียด น่าติดตาม

ชอบภาพประกอบเป็นภาพวาดได้อารมณ์ดีมากๆเลย ขอแอดนะครับ อยากมาอ่านเรื่องอื่นอีก


โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:11:01:55 น.  

 
เพิ่งเคยได้ยินคำว่า"โกยดิน" ใช้เรี่ยวแรงกำลังกายมากพอดูนะคะ

แต่คนสมัยก่อนอึดและอดทนกว่าสมัยนี้มากมายนะคะ ไม่ต้องอื่นไกล เปรียบเทียบรัชชี่กับรุ่นแม่ โอ้โฮ จน ณ วันนี้ยังมีกำลังวังชา ทำอะไรเองได้จนคนรุ่นใหม่อายค่ะ ขนาดมีเครื่องอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม

"แต่ทุกวันนี้ยังจำสีหน้าของลุงซ้งที่ร่าเริง ไม่มีความทุกข์กับใครเขาสักกะนิดเดียว ในกระท่อมมุงจากหลังนั้น" รัชชี่สังเกตอย่างหนึ่งคนกลุ่มนี้บางทีดูมีความสุขใจทีเดียวนะคะ ไม่ค่อยคิดมาก


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:17:48:44 น.  

 
วันนี้ได้รับความรู้ใหม่ๆพร้อมภาพสวยๆ

ขอบคุณมากนะคะ .....


โดย: หยุ่ยยุ้ย IP: 58.9.34.6 วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:18:20:53 น.  

 
มาช้านิดนึงค่า..พอดีไปข้างนอกเพิ่งกลับมา.....พี่อิมเขียนเรื่องนี้ได้ดีมากๆ นกจะบอกว่ารูปนั้นก็สวยแต่ชอบที่เขียนมากกว่า....เหมือนว่าจะปูทางเพื่อบอกว่าลุงซ้งเคยมีชีวิตที่ผกผัน มีอุบัติเหตุชีวิตอย่างใดอย่างนึงมาก่อน...อืมม์.....หรือนี่คือบทแรกของเรื่องสั้น?
รายละเอียดการขนดินนั้นบรรยายได้กระจ่างเห็นภาพเลย....ฮาตรงการพักผ่อนของแกนี่จิคะ...อิอิ.....เยี่ยมๆ....รออ่านตอนต่อไปนะคะ ( เชื่อว่ามีแน่นอน )


โดย: popang (popang ) วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:19:27:52 น.  

 
ลุงซ้งแกใช้ชีวิตแบบพอเพียงมีความสุขตามอัตภาพ
ชีวิตคนสมัยใหม่เดี๋ยวนี้หาไม่ได้แล้วมัง

มาอ่านบทความบ้านคุณ IM ต้องคิดถึงวัยเด็กทุกทีเหมือนนั่งไทม์แมชชีน สู่อดีตเมื่อครั้งยังเด็กค่ะ

สมัยก่อนที่บ้านก็จะมีคนงานหลายคนทั้งหญิง-ชาย
ทำหน้าที่ต่างกันไป พวกผู้หญิงก็จะทำงานบ้าน แบ่งงานไปคนละอย่างสองอย่าง
ที่แน่ๆคือคนงานที่บ้านอยู่กันเป็นสิบกว่าปี จนเหมือนเป็นญาติ เดี๊ยนเป็นเด็กเขาก็จับอาบน้ำแต่งตัว พอโตเป็นวัยรุ่นก็สรรหาของสวยๆงามๆให้ คิดถึงพวกเขาเหล่านั้นจริงๆค่ะ
เดี๋ยวนี้หาคนทำงานบ้านที่เชื่อถือได้ ยากค่ะ

ขอชมว่ารูปภาพวันนี้สวยมากค่ะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:19:32:25 น.  

 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mylovepopang&month=20-09-2009&group=4&gblog=12
มีคอนเสิร์ตมาฝากค่ะ......ชาวบ้านนิดนึงนะคะ.....อิอิ


โดย: popang (popang ) วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:19:53:58 น.  

 
ภาพประกอบการบรรยายสวยมากครับ


โดย: อนันต์ครับ วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:20:27:03 น.  

 
สวัสดียามเช้ามืดค่ะ นอนหลับแล้วไม่ฝันนะคะ


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:0:18:36 น.  

 
อ่านเพลินเลยค่ะ
นึกภาพลุงซ้งออกเลย
ภาพประกอบก็สวย ให้บรรยากาศบ้านสวนมาก

นึกภาพมือที่ถูกอะไรบาด แล้วหวาดเสียวแทนจัง

อ่านมาถึงตอนการพักผ่อนของลุงซ้ง
คุณ IM มีวิธีการเล่าที่นุ่มนวล แนบเนียนมากค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:1:29:15 น.  

 
มาฝากบ้านค่ะ จะไปเที่ยวภูเก็ต ออกเดินทางวันนี้
อั๊พบล๊อกขำขันไว้ว่างๆก็ไปอ่านะคะ




โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:4:56:29 น.  

 
อ้าว...อยู่ดีๆก้พลัดพรากกันไปเหรอค่ะ
สวนที่ดำเนินดูมีน้ำสมบูรณ์ดีจังเลยค่ะ

ชาวนาแถวบ้านใชประตูน้ำปิดเปิดเอาค่ะ
ทะเลาะกันทุกทีเวลาน้ำหลาก
ชาวนาจะเปิดน้ำออก ชาวบ้านข้างประตูน้ำ
ไม่ได้ทำนาก็ไม่ยอม เปิดประตู เถียงกันไปมา
ค่ำคืนของคืนนั้นน้ำก็ได้ระบายออก ดดยการขุดถนนค่ะ
ขึ้นหน้าหนึ่งทุกปีเหมือนกันช่วงนั้น ขุดมันใกล้ๆประตูน้ำนั่นแหละค่ะ
ขุดเล็กนิดเดียว สักพักก็จะกว้างขึ้นเรื่อยๆเอง
เพราะแรงน้ำกัดเซาะ เด็กนักเรียนเดินทางไม่ได้ ก็อาศัยไปกัน
ทางเรือหางยาวค่ะ บางทีก็ที่บ้านพายเรือไปส่ง
ขากลับก็กลับเรือหางยาว

เด็กๆก็สนุกดี ชอบไปช้อนกุ้งช้อนปลา


โดย: Fullgold วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:14:48:41 น.  

 
นึกถึงตอนช้อนปลาเข็มมากัดกัน

เด็กสมัยนี้คงไม่รู้จักแล้วมั้ง


โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:15:05:37 น.  

 


ลืมเอาดอกไม้มาฝากค่ะ เลยกลับมาอีกรอบ


โดย: Fullgold วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:15:13:15 น.  

 


สวัสดีค่ะ...

อ่านเรื่องลุงซังแล้วเพลินดีจังเลยนะคะ...

อาชีพนี้ไม่เคยรู้จักมาก่อนค่ะ...พิถีพิถันมากเหมือนกันนะคะ เพราะที่บ้านมีแต่นาข้าว...ไม่มีสวนผลไม้ค่ะ
อาชีพทุกๆอาชีพ..แต่ละคนก็ถนัดไม่เหมือนกันนะคะ(ผู้เชี่ยวชาญน่ะค่ะ) แถวบ้านก็ต้องมีรับจ้างไถนา...หว่านข้าว..และก็ดำนา....ต่างกรรมต่างวาระ..ต่างสถานที่...
ทุกอย่างแลกเปลี่ยนกันได้(ความรู้ประสบการณ์น่ะค่ะ)

ขอบคุณความรู้ใหม่ๆนะคะ...


โดย: คนชุมแสง วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:15:25:41 น.  

 
แวะมาเยี่ยมพร้อมส่งข่าวว่า

อัพบล็อกเล้กๆน้อยๆค่ะ


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 58.8.88.227 วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:16:52:25 น.  

 
ขอชมอย่างจริงใจว่า

เป็นสารคดีที่น่าอ่าน คุณ im น่าจะเขียนให้ยาวกว่านี้ แต่จะว่าไปนี่ก็เป็นเรื่องสั้นหรือสารคดีสั้นจากชีวิตจริงที่น่าอ่านมาก ๆ อยากอ่านต่อ บอกได้คำเดียวว่าถูกริดสิดวงมาก ๆ

ภาพวาดนั้นเล่าก็ยังชอบแนวนี้อยู่ อาจจะเบลอ ๆ กว่านี้แบบที่เรียกว่า อิมเพรสชั่นนิตส์นั่นก็โคตรชอบ แต่แบบอื่นไม่เล่น (เพราะมั่วได้ และตอนเรียนลุงก็เคยมั่ว)

ถ้าคุณ im ชอบงานนี้เห็นทีจะต้องอ่าน "กาฝากต้นโพธิ์" ของลุงที่จะออกมาไม่นานเกินรอ แต่ สนพ.นานมีบุ๊คจะตั้งชื่อใหม่ว่าอย่างไรไม่รู้


โดย: ลุงบูลย์ IP: 118.173.119.140 วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:19:09:22 น.  

 
Tags Maker is a Text Image Generator to write Messages, Comments or Tags on Pictures

goodnight นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 21 กันยายน 2552 เวลา:19:49:50 น.  

 


ขอบคุณค่ะ...

ได้กำลังจากคุณ IM เสมอเลยนะคะ...

จ๊อกก็อยากถ่ายได้ดีขึ้นไปเรื่อยๆนะคะ
แต่ไม่ค่อยได้ออกทริปบ่อยเท่าไหร่
ทั้งนี้และทั้งนั้นเรื่องเลนส์ก็มีส่วนสำคัญด้วย
เหมือนกันนะคะ...จะสิ้นเปลืองก็ตรงนี้แหล่ะค่ะ
ถ้าเราเอามาเป็นอาชีพ..ก็ต้องลงทุนน่ะคะ
แต่ไม่รู้จะไปถึงดวงดาวหรือเปล่า..อิอิ..



โดย: คนชุมแสง วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:9:08:22 น.  

 
^
^^^
^^^^

ขอโทษนะคะส่งรูปผิดให้ค่ะ...
ลบออกได้นะคะ....พอดีมีฝากรูปไว้ 2 ชื่อ
เลยเอามาผิดน่ะค่ะ




โดย: คนชุมแสง วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:9:12:28 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
สวัสดียามสายๆค่ะคุณim วันนี้ครูเกศมาหาคุณimด้วยความคับแค้นใจ ครูเกศเรียนเชิญไปตั้งกระทู้กันที่บ้านครูเกศหน่อยค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะคุณim


โดย: เกศสุริยง วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:10:36:06 น.  

 
ฮ่า ฮ่า แอบมาเซฟภาพเขียนงามๆไว้ดูด้วย ชอบมากครับคุณim ฮิ ฮิ


โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:17:25:49 น.  

 
อยากอ่านเรื่องแบบลุงซ้งอีก มีภาค ๒ ไหมหนอ


โดย: ลุงบูลย์ IP: 118.173.116.67 วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:20:19:54 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณ IM

พักนี้ป้าเดซี่ได้ฤกษ์มาเยี่ยมคุณ IM ตอนหนังจะลาโรงแล้วทุกที วันนี้ฉายหนังเรื่อง ลุงซ้ง specialist ทางด้านการโกยดินนะคะ

เป็นบล็อกที่ดำเนินเรื่องได้เนิบนาบ แฝงเรื่องราวที่น่าสนใจ ที่ป้าเดซี่ไม่เคยรู้มาก่อนเยอะแยะเลย สนุกเหมือนเคยค่ะ บล็อกนี้

อ่านถึงบางวรรค บางตอน เดาว่าคุณ IM พิมพ์ไปก็ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ไปด้วย เดาถูกชิมิส์

และตอนที่ทำเอาป้าเดซี่ยิ้มกริ่มก็ตอนนี้แหละค่ะ

ที่นอนยกพิ้นไม้กระดานสูงราว 1 เมตร เพื่อแยกสัดส่วนกับงูเงี้ยวเขี้ยวขอ

ภาพเขียนประกอบบล็อก เข้าใจว่าเป็นของสะสมชิมิส์คะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:22:03:53 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอิม...อ่านแล้วเพลิน..นึกภาพได้เลย.รูปประกอบก็สวยมากๆ..โดยเฉพาะรูปสุดท้าย..ชอบมากๆ

มีความสุขมากๆค่ะคุณอิม..


โดย: Why England วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:23:28:23 น.  

 
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mylovepopang&month=23-09-2009&group=5&gblog=48

น่าน ตอนที่หลงเหลือค่พี่อิม


โดย: popang วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:9:05:43 น.  

 
ในการจ้างแขกโกยดิน เจ้าของสวนจะต้องต้มข้าวต้ม หรือที่บ้านสวนเรียกกันว่า "แปะม้วย" มีกับ 2-3 อย่าง เช่น ยำกุ้งแห้ง มะนาวดอง เต้าหู้ยี้ หรือปลาเค็มทอด แล้วแต่เจ้าของสวนจัดให้ ซึ่งจะต้องต้มเลี้ยงแขกตอนบ่าย ๆ
มีเรื่องตลกเล่าให้ฟังต่อกันมาว่า มีเจ้าของสวนรายหนึ่ง
มักชอบให้มะนาวดองเลี้ยงแขกโกยดินเป็นประจำทุกวัน
จนแขกโกยดินเบื่อมะนาวดองมาก จึงเทมะนาวดองลงคลองทิ้งทุกวัน เจ้าของสวนคิดว่าแขกโกยดินชอบกินมะนาวดอง จึงจัดมาให้ทุก ๆ วัน และความจริงก็ปรากฏ
ในเย็นวันหนึ่งขณะที่เลิกงานในสวนแล้ว เจ้าของสวนรายนั้นได้ลงไปอาบน้ำที่ท่าน้ำหน้าบ้าน พลันก็เห็นมะนาวดองลอยมาตามน้ำ ความจริงจึงปรากฏว่า ที่มะนาวดองหมดชามทุก ๆ วัน ไม่ใช่เพราะความอร่อย แต่เป็นเพราะความเบื่อมากกว่า
เมื่อเล่าถึงเรื่องนี้ในหมู่ลูกชาวสวนดำเนินฯ จะต้องอดหัวเราะกันไม่ได้


โดย: โจโจ้ (คลองมอญ) IP: 125.27.181.46 วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:11:01:19 น.  

 


รางวัลค่ะ จุ๊บ จุ๊บ อิอิ

วันนี้อัพบล็อกเอราวัณค่ะ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:12:28:44 น.  

 
+ เห็นด้วยกับหลายๆ คห. ข้างบนครับ ทั้งเรื่องภาพประกอบอันแสนงาม และเรื่อง ศาสตร์และศิลป์ของการดำเนินอาชีพเฉพาะทาง ที่แม้จะเป็นงานที่หลายๆ คนอาจดูเหมือนต้อยต่ำ แต่ก็ต้องใช้ความสามารถในการทำงานนี้อยู่ไม่น้อยทีเดียว จากที่อ่านที่พี่ IM เขียนมา

+ ลุงซ้งเค้าดำเนินชีวิตแบบพอเพียงจริงๆ เนาะครับ และเห็นด้วยว่าพี่ IM นำเสนอเรื่องราวในอดีตของตัวเองในอารมณ์แบบนี้ เหมือนเป็นเรื่องสั้นชั้นดี อ่านเพลินเรื่องนึงทีเดียวเลยนะครับเนี่ย


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:14:56:40 น.  

 

...ขอพระองค์ จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน..ครับ...


โดย: ต.ต. (สกุลเพชร ) วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:21:19:54 น.  

 

แทนคำขอบคุณ สำหรับทุกกำลังใจ เกศสุริยง
สร้างกริตเตอร์
| .postjung.com">ฟังเพลง | เล่นเกมส์ | ซื้อ-ขาย
แวะมาขอบคุณค่ะim สำหรับกำลังใจที่มีให้ คุณพระคุ้มครองนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:8:05:16 น.  

 
ภาพประกอบเรื่อง "สวย"
เรื่องประกอบภาพ "งาม"

งั้นคำว่า "หมดแรงข้าวต้ม" ก็มีที่มาแบบนี้หรือเปล่าครับ



โดย: c (chaiwatmsu ) วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:14:09:46 น.  

 
เรื่องเล่าของวิถีชีวิตคนพื้นบ้าน

บางครั้งน่าแปลกดีเหมือนกันที่เราได้หวนนึกถึงใครบางคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และวันหนึ่งด้วยภารกิจหน้าที่บางอย่างที่พาเราห่างออกมา และก็หลงลืมเขาไป... ลืมไปนานจนวันหนึ่งที่เราได้รำลึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ... แล้วเราก็นึกถึงเขาได้.. บางครั้งมันเหมือนความฝันชอบกล

ชอบจังครับเรื่องราวของวิถีชีวิตของผู้คนบ้านสวนแบบนี้


โดย: bite25 วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:20:26:44 น.  

 
ไม่มั่นใจครับว่า "หมดแรงข้าวต้ม" มีที่มาแบบนี้ครับ

คนจีนที่ดำเนินสะดวกนิยมกินข้าวต้มเป็นอาหารกลางวัน
ครับ ไม่อยู่ท้อง หากต้องทำงานหนักๆ จะหมดแรงข้าวต้ม
ซะก่อน


โดย: Insignia_Museum วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:21:21:14 น.  

 


แวะมารับฟังเรื่องราว"ลุงซัง"
และชมภาพประกอบสวยๆได้อารมณ์ดีจังค่ะ

ไม่ได้เข้ามา say hello สักพัก
สบายดีนะคะ...



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:22:38:46 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ชมพร วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:2:12:15 น.  

 
พักนี้งานข้าว

หมดแรงข้าวต้มเหมือนกันค่ะ...

ก็เลยอัพบล็อกสีเขียวสั้นๆ...แวะไปนะคะ


โดย: นักล่าน้ำตก วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:13:56:14 น.  

 
เรื่องของลุงซ้ง คนโกยดิน ทำให้ผมนึกถึงสมัยเด็กๆ ที่บ้านแม่ที่ปทุมฯ ทำสวนผักเหมือนกัน บางทีร่องสวนจะกว้างจนเด็กๆ กระโดดไม่ผ่าน ตกน้ำตกท่า ก็จะมีการเรียกคนมาโกยดินอย่างว่านี้เหมือนกันครับ


โดย: dj booboo วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:18:33:36 น.  

 


ชอบภาพวาดจังค่ะ
แต่ชอบเป็นพิเศษก็รูปเด็ก กับน้องหมาค่ะ
น่ารักดี

ฝันดีนะคะ


โดย: Fullgold วันที่: 25 กันยายน 2552 เวลา:23:00:42 น.  

 

.........ฮิฮิ.............


โดย: ตาติ๊ก...น๊ะน๊ะ..ครับ (สกุลเพชร ) วันที่: 26 กันยายน 2552 เวลา:10:48:34 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายค่ะคุณim ตอนนี้อ่างทองน้ำใกล้ท่วมแล้ว คงจะลำบากน่าดู ช่วงนี้ผลุบๆโผล่ๆหน่อยนะคะ แต่ถ้ามีโอกาสจะรีบมาเยี่ยมทันทีเลยค่ะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:22:24:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.