Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
6 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
ชีวิตลิขิตได้



ครอบครัวเรากับครอบครัวของน้า หรือน้องสาวของแม่ มีลูกคู่ขนานกันมาตลอด ลูกพี่ลูกน้องเกิดในปีเดียวกัน อายุเท่ากัน ถึง ๖ คน

หลายคู่แตกต่างกันมากบ้าง น้อยบ้าง ตามฐานานุรูปที่แต่ละคนดลบันดาลให้เป็นไป เมื่อมองเข้าไปในชีวิตของทั้งสองท้อง สองครอบครัวที่ต่างมีแม่เป็นพี่น้องกัน คู่ที่ความแตกต่างกันมาก เห็นที่จะเป็นพี่ชายผมคนหนึ่ง

พี่ชายคนนี้มีร่างกายแข็งแรง เป็นคนกล้าไม่กลัวใคร ค่อนข้างหุนหันพลันแล่น เรียนถึงชั้นประถมห้าก็ไม่เอาแล้ว อยากหาเงินใช้เอง อาชีพช่างตัดผมเห็นจะเหมาะกับเขา เขาบอกว่างานเบาสบาย ส่องกระจกหล่อได้ทั้งวัน ไม่ต้องตากแดดตากลมผิวกร้านดำอย่างชาวสวนเหมือนพี่น้องบางคน จึงไปสมัครเรียนตัดผมชาย ระหว่างนั้นอาศัยกินข้าวก้นบาตรพระ จนได้เป็นช่างตัดผมสมใจนึก



เขาภูมิใจนักหนาที่ข้าราชการระดับสูงของจังหวัดล้วนเป็นลูกค้าขาประจำ จะว่าคุยเก่งก็ไม่ใช่ ฝีมือดีก็ไม่เชิง คงเป็นที่หน้าตารับแขก ไม่ซอกแซกจู้จี้ ไม่เซ้าซี้น่ารำคาญ ไม่คุยน้ำลายแตกฟอง...ผมรู้ดี ผมเคยเป็นลูกค้าคนหนึ่งที่ไม่เคยจ่ายสตางค์ค่าตัดผม !

ช่วงชีวิตที่ยึดอาชีพช่างตัดผม เขานึกอยากเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ตั้งแต่ชกมวย พ่อค้าผลไม้ ขายของเก่า เช่าพระเครื่อง และอะไรอีกหลายอย่าง

สุดท้ายกลับมาอาชีพเดิม เคยยืนทั้งวันจนน่องเขียวคล้ำก็ผ่านมาแล้ว มาบัดนี้นับเวลาล่วงเลยมาจนอายุครบ ๖๐ บั้นปลายท้ายที่สุดตอนนี้เป็นเจ้าของร้านตัดผมเล็กๆ จะเกษียณอายุตัวเองรึก็ยังไม่แก่ ยังหาเลี้ยงครอบครัวตัวเป็นเกลียว บำนงบำนาญไม่เคยได้กับเขา วันนี้คงครึ้มๆใจบ้างล่ะที่ได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุถึงครึ่งพันบาท



กล่าวฝ่ายลูกพี่ลูกน้องคู่ขนานของพี่ชายช่างตัดผม หรือลูกชายของน้องแม่ที่ต่างมีอาชีพทำสวน สมัยก่อนตอนเด็กๆ ไปมาหาสู่วิ่งเล่นด้วยกันเป็นประจำ ไม่เคยรู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นใด ที่เห็นจะแตกต่างจากพี่ชายของผมคงจะเป็นเรื่องความตั้งใจเรียนหนังสือ

เมื่อจบชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว เขาไปสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก ขณะที่เรียนนายสินปีแรก มีผลการเรียนดีจึงได้รับการคัดเลือกไปเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร แล้วแยกเหล่าไปเรียนโรงเรียนนายร้อย จ.ป.ร. จบมารับราชการทหารก้าวหน้าไปตามจังหวะของชีวิต สุดท้ายปั้นปลายเขาเกษียณอายุเมื่อประดับยศนายพลแล้ว

ผมขอคารวะในการต่อสู้และการออกแบบชีวิตของท่านพี่ทั้งสอง ทำให้วิญญูชนอย่างผมอดทึ่งไม่ได้ครับ


Create Date : 06 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 14 เมษายน 2555 22:35:36 น. 34 comments
Counter : 3531 Pageviews.

 
สองพี่น้องต่างกันมาก ถึงเป็นพี้น้อง ความคิดเเละการดำเนินชิวิตของเเต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
เเต่ละคนทั้งช่างตัดผมหรือท่านนายพล ต่างก็ภูมิใจในความสามารถของตนเอง
ทุกคนทำหน้าที่ได้ดีที่สุดมาจนปัจจุปัน
ต้องขอขอบคุณท่านทั้งสองที่ปฎิบัติหน้าที่ตลอดมาค่ะ



บางคนจบต่างประเทศกลับไปทำงานหน้าที่สุดเเถว
ก็ถูกถากถางว่า..โอยพ่อเป็นนายพล..ต้องทำงานขั้นนี้เรอ?

ในต่างประเทศถ้าไม่เลือกงาน ไม่มีตำเเหน่งให้ งานกระจอกเล็กๆก็ทำกันเเม้จะเรียนสูงขนาดไหนก็ตาม

มีญาติคนนึงตั้งเเต่เด็ก อยากเป็นคนเก็บชยะ เพราะได้ท่องเที่ยวทั่วไปค่ะ
เเต่เมื่อโตขึ้น..เลือกผู้หญิงมากขนาด ทานข้าว อ้าปากก่อนก็ไม่เอา..ขำกันมากๆค่ะ


โดย: YUCCA วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:30:14 น.  

 


โดย: MaFiaVza วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:2:58:29 น.  

 


โดย: Tonkra49 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:4:23:32 น.  

 




หวัดดีค่ะคุณอิม
นั่นจิคะ เหมือนมินเลยนะ บางทีเคยนั่ง ๆ นึก
เปรียบเทียบญาติพี่น้อง ฝ่ายพ่อ ฝ่ายแม่ เหมือนกัน
บางคนสมัยเด็ก ๆ เรียนเก่งมาก
เกียรตินิยมธรรมศาสตร์นะคะสมัยนั้นอ่ะ
ไป ๆ มา ๆ ไปได้แฟนคนอิสาน
เคยทั้งทำงานเอกชนและรับราชการ
สุดท้ายไปค้าขายอยู่ที่ร้อยเอ็ดโน่น
ปล. สดชื่นในวันที่อากาศดี ๆ นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:43:00 น.  

 
ชีวิต เป็นเรื่องมหัศจรรย์มากครับ
วาสนา หรือนิสัยของใครมันนั่นแหละครับ
ตัวลิขิต


โดย: ดาวส่องทาง วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:46:11 น.  

 
เพราะคนมองต่างกัน
บางทีการทำงานตัดผมก็สบายใจมากกว่าที่ต้องมาทำงานสายทหารที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้อื่นก็ได้นะคะ
แบบคิดว่าการมีเงินเยอะในบั้นปลายหรือไม่ อยู่ทีนิสัยการใช้เงิน และการออมมากกว่าน่ะค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:42:13 น.  

 
สวัสดีครับคุณอิม

ในความจำเจของชีวิต หากมีความฝันที่เจือความสุขอยู่
ย่อมช่วยเติมพลังให้ชีวิตใช่ไหมครับ

ใช่ครับคุณอิม อย่างพี่ชายของคุณอิมไง เขายืนตัดผมทั้งวัน ยืนจนขาแข็ง บางช่วงของชีวิต อาจนึกเบื่อ อยากหางานอื่นๆลองทำดูบ้าง เพื่อเติมพลังชีวิตให้กล้าแกร่งขึ้น แต่เมื่อลองแล้วไม่ประสพความสำเร็จ มันไม่ใช่ ก็กลับมาประกอบอาชีพเดิม ที่ทำแล้วมีความสุขไงละครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:45:01 น.  

 
นึก ๆ ดูอะไรก็ไม่แน่นอนนะคะ มีลูกของน้าที่เป็นเพื่อนเล่นกับเราตั้งแต่เด็ก สนิทกัน

ราว 5-6 ปีก่อน เธอเบื่อเจ้านายมาก ๆ เลยตัดสินใจลาออกจากงานแล้วไปหาเรื่องไปรียนต่อที่ออสเตรเลีย

ที่บ้านเธอคัดค้านกัน เพราะมองว่าจริง ๆ เจ้าตัวก็จบปริญญาโทจากเมืองนอกมาแล้ว ไม่เห็นจะต้องไปเรียนอีก

อีกอย่างถึงเรียนจบแล้ว ชีวิตก็ต้องทำงานต่อไป

จะหนีได้อย่างไร

ท้ายที่สุด เธอไปออสเตรเลีย แล้วต่อมาย้ายไปเรียนที่แคนาดา เห็นว่าค่าใช้จ่ายถูกกว่า

ไป ๆ มา เธอมีครอบครัวและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเลย

ไกลกันจริง ๆ พ่อแม่เธอเคยบินไปเยี่ยมเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว กลับมาแล้วบอกว่า คงไปอีกไม่ไหวแล้ว เหนื่อยเดินทางเหลือเกิน

เธอชวนรัชชี่บินไปเที่ยวเหมือนกัน แต่การเดินทางเป็น 20 กว่าชม. บนเครื่องบิน รัชชี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน เพราะให้มากสุดที่เคยไปยุโรปราว 10 ชม. นิด ๆ ก็เมื่อยแทบแย่แล้ว

สรุปวา่มัีนเป็นเรื่อง destiny ใช่มั้ยคะเนี่ย


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:08:45 น.  

 
เป็นความสุขในชีวิต ที่แตกต่างนะคะ



โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:52:45 น.  

 
ดูเหมือนมีญาติพี่น้องคล้ายๆกัน แต่ก่อนพวกญาติลูกพี่ลูกน้องนี้จะสนิทกันเหมือนเป็นพี่น้องท้องเดียวกันผิดกับคนสมัยนี้มาก

แต่ก่อนอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ไปมาหาสู่กันไม่เว้น เข้าบ้านโน้นออกบ้านนี้ นอนบ้านโน้นบ้านนี้ กินข้าวบ้านโน้นบ้านนี่ สนุกสนานทำให้มีความใกล้ชิด ตอนนี้โตๆกันหมด แต่ละคนก็ไปประกอบอาชีพกันคนละอย่าง สุขสบายบ้าง ขัดสนบ้างแล้วแต่ สิ่งที่ยังเหมือนห่วงโซ่ใจก็คือใครลำบากมา คนที่มีกว่าก็ช่วยเหลือกันไปค่ะ

มารุ่นลูกเราก็ไม่รู้ว่าจะมีแบบนี้อีกรึเปล่านะคะ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:29:54 น.  

 
ชะตาคงลิขิตมาให้เดินทางต่างกันมั้งคะ


โดย: popang (popang ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:10:33 น.  

 
ผมชอบช่างตัดผมนะครับ เป็นอาชีพที่ต้องคุยกับคนมากมายหลายอาชีพ
เรื่องพี่น้องคู่ขนาน แต่ยิ่งนาน ก็ยิ่งต่างกันไกลไปเรื่อยๆ มันจะว่าตลกก้ไม่ตลกนะครับ

นึกถึงคนสมัยก่อนชอบมีลูกเยอะๆ ครอบครัวผมก็คล้ายๆกันครับ แม่ กับ น้องสาว คือน้าสาวผม อายุใกล้ๆ กัน แต่งงานไล่ๆ กัน มีลูก ไล่ๆ กัน แต่ไม่ถึงขนาดครอบครัวคุณ IM มีอายุเท่ากัน 6 คู่ และ ก็แตกต่างกันบ้างครับ

อย่างผมไม่รวย เวลาเจอญาติที่เป็นเศรษฐีก็ไม่อยากคุยกับเขาเหมือนกัน


โดย: dj booboo วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:2:16:21 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ มีความสุขมากๆนะค่ะ


โดย: Tonkra49 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:22:22 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่

ผมรู้จักคุณป้าท่านนึงซึ่งขายก๋วยเตี๋ยวมาตั้งแต่สาว
จนตอนนี้จะ 80 ยังไม่เลิกขายเลยครับ

บ้านคุณป้าใหญ่ยังกะวังครับ 555

ลูกเป็นนายพล
อีกคนเป็นหมอ

สุดยอดครับ










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:14:10 น.  

 
ผมเป็นคนที่ชอบอ่านมาคั้งแต่เด็ก
โดยไม่มีใครบอกหรือบังคับคัรบพี่
ตอนเรียนอยุ่ห้องสมุดเป็นที่สิงสถิตย์ของผมเลยล่ะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:52:52 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
ทุกคนต่างที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตนเอง ขอโทษที่หายไปเสียหลายวัน งานมากมายที่ต้องสะสางรออยู่เพียบ ไม่มีเวลาแม้จะเปิดเน็ตเล่นเลยค่ะ คิดถึงเพื่อนชาวbloggangมากๆ คุณim สบายดีนะ มีความสุขมากมายคร่าาาาาา


โดย: เกศสุริยง วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:17:29:03 น.  

 
บางครั้งก็น่าคิดชีวิตนี้
พระ ผี เทวดา ส่งมาหรือ?
จึงได้เกิดความต่างอย่างกึกกือ
แต่ที่แน่นั้นก็คือคู่ชีวิต...

ไม่ใช่ญาติพี่น้องท้องฝาแฝด
มายืนแผดร้องด่าว่าผิดผิด
ยังทนได้ทนไปในทางทิศ
กรรมลิขิตให้มาพบลบใช้เวร
........

วันนี้ขอฉวยโอกาสระบายความในใจหน่อยครับ คิดแบบนี้มานานแล้ว ว่าทำไม้ ทำไม...


โดย: ลุงบูลย์ (pantamuang ) วันที่: 8 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:01:33 น.  

 
สวัสดีวันสีชมพูค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิดมากมาย สุดท้ายก็ต้องสุดแล้วแต่เวรกรรมที่สร้างไว้แต่ชาติปางก่อนด้วยแหละค่ะ


โดย: ไผ่สวนตาล วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:14:57:09 น.  

 

แต่ละคน ก็แต่ละความคิด ผลบุญ

บวกกับการกระทำและจิตสำนึก

จึงนำพามาเป็นเช่นนี้




โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:16:27:08 น.  

 
สายัณห์สวัสดีค่ะคุณอิม
+============================+

รอบแรกแวะมาอ่าน..แล้วแว๊บบบบบบบบ
รอบสองมาอ่านซ้ำแล้วเม้นท์ด้วยค่ะ หุ หุ

"ชีวิตลิขิตได้" แต่คงไม่ทั้งหมดค่ะ
นี้เป็นความเชื่อส่วนตั๊ว ส่วนตัว

และเชื่อว่า "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น..ไม่ใช่ความบังเอิญ"
หากเป็นไปด้วยความมุ่งหวังและตั้งใจของตัวเอง
ไม่ว่าเป็นเรื่องใด ๆ "ผิด ชอบ ชั่ว ดี" มีที่มาเสมอค่ะ


โดย: สาวบ้านนอก ณ ขอนแก่น วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:52:57 น.  

 
แวะมาเยี่ยมกันคืนวันอังคาร

มีความสุขกันทุกคนก่อนนะจร้า



โดย: สาวสะตอใต้ วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:34:06 น.  

 
ชอบจังเรื่องราวแบบนี้..คุณอิมเล่าได้น่าติดตามเหมือนเคย..

นัทเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ตั้งใจเรียน เลยต้องมีชีวิตแบบกระท่อนกระแท่นไปวันๆ นึกขึ้นมาทีไร เสียใจทุกทีที่ไม่ตั้งใจเรียนให้ดีๆ..งงมีความสุขมากๆค่ะคุณอิม


โดย: Why England วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:40:14 น.  

 
จะมีอาชีพอะไร ถ้าตั้งใจทำจริง ๆ ก็ได้ดีไม่ยาก พี่น้องทั้งสองท่าน ถึงจะอาชีพจะต่างกัน แต่ความตั้งมั่นทำงานก็ไม่ต่างกันเลย น่าชื่นชมจริง ๆ ค่ะ


โดย: haiku วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:48:46 น.  

 
เมษาปีหน้าแก้ตัวใหม่ครับพี่ 555
สงสัยต้องใช้หมิงหมิงเป็นแม่เหล็กด้วยอีกแรง 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:33:06 น.  

 


โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 10 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:39:03 น.  

 
สวัสดีครับ
เมื่อวาน ผมนั่งคุยกับเพื่อนคนหนึ่ง เรื่องการเลี้ยงดูลูก และเรื่องจุดมุ่งหมายของชีวิต
ผมบอกถึงเรื่องผมเองว่า ผมเองเป็นลูกชาวนาจนๆคนหนึ่ง อยู่ที่อำเภอ ที่คนส่วนมากจะออกมาจากถิ่นเดิม เพื่อไปแสวงหาโชคลาภ ความสะดวกสบายของชีวิต เพราะที่นั่น ธรรมชาติไม่เอื้ออำนวยต่อการทำการเกษตรเท่าไร มีแม่น้ำที่มีนำเค็มขึ้นถึงในหน้าแล้ง รู้จักกันในขณะนั้นว่า ลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรคีธรรมราช
เรา เนื่องจากความยากจน พ่อแม่ที่มีความรู้หน่อยก็จะพยายามส่งลูกไปเรียนหนังสือในเมือง เพื่อจะได้ เป็นเจ้าคนนายคน เพราะนั่นคือวิธีเดียวที่จะมีความสะดวกสบาย กลับมาช่วยเหลือ จุนเจือพี่น้องหน้าดำๆได้
ครับก็คือการใต่เต้า เข้าสู่ระบอบราชการ เพราะเราไม่มีต้นทุนในทางเศรษฐกิจ ที่จะทำการค้าสู้กับคนรวยอื่นๆ

เราได้รับการปลูกฝังแบบนี้ และก็เป็นจริงด้วย เพราะคนที่เข้าสู่ระบบราชการได้ ก้มักจะเป้นเจ้าคน นายคนเมื่ออายุมากเข้า เพราะระบบราชการ ออกแบบไว้แบบนั้น แบบที่ความชั่วไมมี ความดีไม่ปรากฏ สิ้นปีก้เอาไป 1 ขั้น นานเข้าๆ รับราชการนานๆ อาวุโสก้มากกว่าคนอื่น ก้ได้เป็นหัวหน้าคน นี่พูดถึงทั่วไปนะครับ

แต่พอถึงตอนนี้ ผมไม่ได้ปลูกฝังให้ลูก ต้องเป็นเจ้าคน นายคนอีกต่อไปแล้ว เห็นตรงกันว่า เอาแค่ให้ลูกเรา สามารถ มีชีวิตไม่ลำบาก ไม่ต้องรวยมากๆ มีพออยู่พอกิน ตามอัตภาพ ไม่ต้องเป็นเจ้าคนนายคนหรอก แต่หากเป็นไปได้ อยากให้ช่วยเหลือคนอื่น ที่เขาลำบากกว่าหากช่วยได้ มีชีวิตอยู่อย่างสามารถเคารพตนเองได้ เมื่อมองในกระจก เราคิดว่าก็เพียงพอแล้ว สมถะ ให้มีควงามสุขภายใน เท่านั้นพอจริงๆ

ขอให้มีความสุขนะครับ
หนาวแล้ว หนาวลมก็ห่มผ้า
หนาวฟ้า ก็ผิงไฟ นะครับ

ระลึกถึงเสมอ



โดย: คนตาพิการ วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:04:33 น.  

 
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ



โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:31:29 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ วันศุกร์ ค่ะคุณอิม
พรุ่งนี้ก็หยุดพักผ่อนอีก 2 วันแล้ว
มีความสุขมาก ๆ นะคะ


โดย: มินทิวา วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:07:37 น.  

 
ความแตกต่างกันของวิถีชีวิตของแต่ละคน

แม้จะมีจุดเริ่มต้นที่ไม่ต่างกันมากนัก

แต่ในตอนกลางและปลายแห่งชีวิต

กลับมีข้อให้เปรียบเทียบกันมากเหลือเกิน

เช่นนี้แล้ว คงต้องยกให้เป็นเรื่องของชะตาชีวิตเพียงสถานเดียวกระมัง....

มองแบบนี้แล้ว จะสบายใจด้วยกันทุกฝ่าย

ไม่มีใครต้องโทษการตัดสินใจของตัวเองในอดีต...

ขอบคุณที่นำชีวิตต่างชะตา มานำเสนอสู่กันฟังครับ


ป.ล. อัพบล็อกแล้วครับ

วันนี้เสนอเรื่อง ดอกปีบครับ...


โดย: ลุงแว่น วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:9:37:18 น.  

 

มาบอกว่าอัพบล็อกยกใหม่ตั้ง
ขึ้นตราชั่งอีกทีวีศิลป์
เอาฝีมือแก่เก่าเราหากิน
แม้ไม่ใช่ศิลปินนามประเทือง

ลองไปดูเถิดครับจับสาระ
เรื่องขยะเรื่องนี้อาจมีเฟื่อง
มีต่อต่อหกตอนผ่อนไปเปลือง
กว่าจบเรื่องขยะนี้ที่ลุงทำ(ให้ครู)


ฮ่า ๆ เอาของเก่ามาหากินอีกเช่นเคย อิ ๆ


โดย: ลุงบูลย์ อีกครั้ง (pantamuang ) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:39:47 น.  

 
"ขึ้นตราชั่งอีกที ทีวีศิลป์"

ตกไปตัวนึงครับ พิมพ์รีบ ๆ แล้วงี้ทุกที


โดย: ลุงบูลย์ อีกครั้ง (pantamuang ) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:41:42 น.  

 
หวัดดีค่ะ คุณ IM โอย ป้าเดซี่ไม่ได้เข้าบล็อกนี้นานเลย นานพอ ๆ กับไม่ได้เข้าบล็อกตัวเองน่ะแหละ อิอิ

รูปบล็อกนี้แอบน่ากลัวอ่ะค่ะ

ชอบคำว่า 'ฐานานุรูป' มาก เป็นคำที่ป้าเดซี่ไม่เคยนึกถึงเลยนะเนี่ย เพราะมากค่ะ

เรื่องราวของคุณพี่ทั้งสอนท่าน จะว่าไปแล้ว ท่านก็ถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้วทั้งสองท่านนะคะ

คนเราเนี่ย..ความสุขในการใช้ชีวิต การทำงาน สำคัญที่สุดนะคะ ถ้าได้ทำอะไรที่ทำแล้วมีความสุข นั่นแหละ ประสบความสำเร็จแล้วนะคะ


โดย: Oops! a daisy วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:50:45 น.  

 
แวะมาชมอีกครั้งหนึ่งครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:15:38:48 น.  

 
แวะมาส่งเข้านอนค่ะ



โดย: แม่หมู (jamaica ) วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:23:20:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Insignia_Museum
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]




ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
New Comments
Friends' blogs
[Add Insignia_Museum's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.