Singapore Grand Prix 2011 - Race Day: แค่คืบเท่านั้น
แม้เมื่อวานหนุ่มน้อยจากเฮพเพนไฮม์ยังไม่สามารถคว้าแชมป์โลกปีนี้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ แต่กับโจทย์ที่เขาต้องการอีกเพียงแค่ 1 แต้ม จึงไม่น่ายากกับอีก 5 สนามที่เหลือ...
สรุป 3 อันดับบนโพเดียมรายการสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์
1. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 1h59:06.537 2. เจนสัน บัตตัน (แม็คลาเรน) + 1.737 3. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) + 29.279
ผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap): เจนสัน บัตตัน (แม็คลาเรน) 1:48.454 -- รอบที่ 54
ผลการแข่งขันทั้งหมด //www.formula1.com/results/season/2011/854/6903/
ข้อมูลการเข้าพิตทั้งหมด //www.formula1.com/results/season/2011/854/6903/pit_stop_summary.html
เซบาสเตียน เวทเทล กับแชมป์ลำดับที่ 9 ของปี
เป็นครั้งแรกของเซบาสเตียน เวทเทล ที่นำการแข่งขันตั้งแต่ไฟแดงดับ 5 ดวงจนถึงเส้นชัยโดยไม่มีใครแตะอันดับที่ 1 แทนเขาแม้เจ้าตัวเพิ่งออกจากพิต เหตุการณ์เดียวที่สร้างความเสียวไส้ให้ผู้นำคือการที่รถโลตัสของเฮกกิ โควาไลเน่น ถูกปล่อยออกจากพิตเฉือนหน้าเขากระชั้นชิดในการเข้าพิตครั้งสุดท้ายในรอบที่ 49 ซึ่งภายหลังเอฟไอเอได้สั่งปรับทีมโลตัสเป็นเงิน 10,000 ยูโรจากกรณีนี้ด้วย
งานหลักตั้งแต่ออกตัวของเวทเทลจึงเป็นการทิ้งระยะห่างจากกลุ่มให้ได้มากจนพอใจ โดยมีเจนสัน บัตตัน ติดตามมาในอันดับที่ 2 ตั้งแต่เริ่มเช่นกัน แม้ตอนช่วงท้ายของการแข่งขัน บัตตันจะลดความห่างจาก 10 วินาทีกว่าจนมาเหลือเพียง 2-3 วินาที แต่เวทเทลก็ใช้ประโยชน์จากกลุ่มรถช้าเป็นกันชน และสามารถเข้าเส้นชัยได้สบายๆ
กลุ่มถัดมาที่แฟนๆ ได้ลุ้นกันสนุก เริ่มจากคู่เฟอร์นันโด อลอนโซ่กับมาร์ก เว็บเบอร์ โดยเป็นอีกสนามหนึ่งที่ฝ่ายหลังออกตัวได้ไม่ดีซึ่งบวกกับกริดอยู่ในด้านสกปรกกว่า จึงสูญเสียตำแหน่งได้ง่ายดาย อลอนโซ่ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 3 ตั้งแต่รอบแรกแต่ระหว่างการแข่งขันกระทั่งออกจากพิตครั้งที่ 1 แต่เว็บเบอร์ก็ไล่ตามมาแซงเขาได้สองครั้งสองครา โดยเฉพาะครั้งหลังเป็นการแซงหลังช่วงเซฟตี้คาร์ และนักขับออสซี่ก็สามารถยึดอันดับสุดท้ายบนโพเดียมไว้ได้จนจบการแข่งขัน
เมื่อพูดถึงเซฟตี้คาร์ ของคู่สนามสิงคโปร์ มาปีนี้มีต้นเหตุที่ทำให้ต้องออกมาเกิดจากมิชาเอล ชูมัคเกอร์ ที่ไปเสยล้อหลังขวาของเซอร์จิโอ เปเรซ จากการกะจังหวะแซงผิดพลาดในรอบที่ 28 ส่งผลให้รถของเขาลอยและพุ่งชนกำแพงอย่างจัง โดยเอฟไอเอได้ลงโทษเขาด้วยการ "ประณาม" ภายหลังการแข่งขัน ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้เซฟตี้คาร์ต้องออกมาวิ่งนำการแข่งขันอยู่ช่วงหนึ่ง
แต่คู่เอกประจำสัปดาห์จริงๆ แล้วตกเป็นคู่ของเฟลิเป้ มาสซ่ากับลูอิส แฮมิลตัน ที่มีเรื่องค้างกันมาตั้งแต่รอบควอลิฟายจนกระทั่งในการแข่งขันคู่นี้ก็ยังไม่วายมีกระทบกระทั่งซ้ำอีกรอบ หลังจากทั้งคู่ต่างเข้าพิตแรกของตนในรอบที่ 11 เมื่อกลับสู่การแข่งขันแล้วปรากฏว่าแฮมิลตันซึ่งเป็นฝ่ายตามหลังพยายามแซงมาสซ่าแต่ไม่สำเร็จ ปีกหน้ารถแม็คลาเรนเสียหายและล้อหลังขวาของมาสซ่าก็ยางแตกจากการถูกชน นอกจากแฮมิลตันต้องเข้าไปเปลี่ยนปีกหน้าใหม่แล้ว เขายังต้องได้รับโทษขับผ่านพิต (drive-through penalty) อีกด้วย ถึงกระนั้นเขายังสามารถไล่อันดับขึ้นไปถึงอันดับที่ 5 ในขณะที่มาสซ่าซึ่งออกอาการโมโหคู่กรณีอย่างมากจบการแข่งขันในอันดับที่ 9
ในเรื่องการลงโทษหลังการแข่งขัน เอฟไอเอยังได้ปรับเงินทีมเรโนลต์เป็นจำนวน 7,500 ยูโร โทษฐานให้ข้อมูลกับบรูโน่ เซนน่า ผิดพลาด โดยเมื่อการแข่งขันเข้าสู่ภาวะปกติหลังช่วงเซฟตี้คาร์ เซนน่าได้รับคำสั่งจากทีมให้ไล่แซงเซอร์จิโอ เปเรซ ขึ้นไป ทั้งๆ ที่เปเรซเร็วกว่า 1 รอบ ผลสุดท้ายทั้งคู่ก็ชนกัน เป็นเหตุให้เอฟไอเอพิจารณาว่าทีมให้ข้อมูลตำแหน่งของนักขับผิดพลาด ก่อให้เกิดอุบัติเหตุที่หลีกเลี่ยงได้
สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 14
ประเภทนักขับ 1. เซบาสเตียน เวทเทล (เร้ดบูล) 309 คะแนน 2. เจนสัน บัตตัน (แม็คลาเรน) 185 คะแนน 3. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 184 คะแนน 4. มาร์ก เว็บเบอร์ (เร้ดบูล) 182 คะแนน 5. ลูอิส แฮมิลตัน (แม็คลาเรน) 168 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด //www.formula1.com/results/driver/2011/
ประเภททีม 1. เร้ดบูล-เรโนลต์ 491 คะแนน 2. แม็คลาเรน-เมอร์เซเดส 353 คะแนน 3. เฟอร์รารี่ 268 คะแนน 4. เมอร์เซเดส 114 คะแนน 5. เรโนลต์ 70 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภททีมทั้งหมด //www.formula1.com/results/team/2011/
การลุ้นแชมป์โลกปีนี้คงจะประกาศได้อย่างเป็นทางการในสนามหน้า แต่สำหรับรองแชมป์โลกคงจะอีกยาวไม่น้อย ติดตามกันได้กับสนามที่ 15 ในรายการเจแปนิส กรังด์ปรีซ์ ในวันที่ 7-9 ตุลาคม ค่ะ
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 ภาพจาก formel1.de
Create Date : 26 กันยายน 2554 |
|
25 comments |
Last Update : 26 กันยายน 2554 10:57:16 น. |
Counter : 1324 Pageviews. |
|
|
|
ใครจะเป็นรองแชมป์ว๊า ห้า ห้า ห้า