เตรียมยางไปสปา
ในที่สุดวันพักร้อนครึ่งฤดูกาลของชาวฟอร์มูล่าวันก็กำลังจะสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อเข้าสู่สุดสัปดาห์ของการแข่งขันสนามที่ 12 ในรายการเบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ ในอีก 2-3 วันข้างหน้านี้แล้วนะคะ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวจากทีมต่างๆ ให้เห็น และหนึ่งในฝ่ายที่ต้องเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ก็คือยางปิเรลลี่นั่นเอง
ปิเรลลี่เลือกยางฮาร์ดสีเงินและยางมีเดียมสีขาวมาให้นักขับใช้ในสนามนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ของการจับคู่ยางทั้งสองชนิดถัดจากสนามเซปังเมื่อต้นปี นั่นหมายถึงว่าสนามสปา-ฟรองคอร์ชองป์ความยาว 7.004 กิโลเมตรเป็นสนามที่กินยางไม่ใช่น้อย เนื่องจากเป็นสนามความเร็วสูงทั้งทางตรงและในโค้ง อย่างเช่นโค้งโอรูจ (Eau Rouge) อันโด่งดังที่เปรียบเหมือนการขึ้นโรลเลอร์โคสเตอร์ ดังนั้นในการแข่งขันทั้งหมด 44 รอบ ยางจึงต้องรับบทหนักอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การแข่งขันที่นี่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความอดทนของยางขณะสนามแห้งเท่านั้น ด้วยภูมิประเทศที่เป็นป่าเขาและสนามยังกินบริเวณกว้าง ทำให้มีโอกาสเจอฝนตกในสนามสปาได้เสมอ เป็นได้ทั้งตกหนักทั่วสนามและตกเพียงบางส่วนของสนาม ทีมจึงต้องวางกลยุทธ์อย่างยืดหยุ่นเพื่อรับมือกับลมฟ้าอากาศด้วย
สำหรับข้อมูลทางเทคนิคที่น่าสนใจของยางสำหรับสนามนี้มีดังต่อไปนี้ค่ะ
- นักขับใช้คันเร่งเต็มที่เกือบ 75% ในการขับ 1 รอบ สนามสปาจึงเป็นหนึ่งในสนามที่ใช้ความเร็วมากที่สุดในปฏิทินการแข่งขัน พอๆ กับสนามมอนซ่าของอิตาลี การใช้ความเร็วสูงก็จะทำให้ยางมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อตั้งองศาหน้ายาง (camber set-up) เพื่อการเกาะถนนสูงสุด
- ด้วยสภาวะแรงกดในสนามสปา รถจึงต้องได้รับการเซ็ตในเรื่องความสูงของพื้นรถและระบบกันสะเทือนมาเป็นอย่างดี โดยยางก็เป็นส่วนหนึ่งของระบบกันสะเทือนนั้นด้วย
- ถึงจะเป็นสนามที่มีชื่อเสียงจากการใช้ความเร็วสูงบนทางตรง แต่รถก็ยังต้องได้รับการเซ็ตดาวน์ฟอร์ซในระดับปานกลางเพื่อเข้าโค้งความเร็วสูงได้อย่างสมบูรณ์แบบ แรงลากก็ยังมีความสำคัญโดยเฉพาะการเข้าโค้งแฮร์พิน "ลา ซูร์ส" (La Source) ซึ่งการยึดเกาะของยางเป็นสิ่งสำคัญในการออกโค้งนี้ได้อย่างราบรื่น
- การขับรถขึ้นโค้งโอรูจ ยางหน้าต้องรับแรงกดในแนวดิ่งมากกว่า 1,000 กิโลกรัมด้วยกัน
ประวัติศาสตร์ของปิเรลลี่ในเบลเยียม ปิเรลลี่เคยประสบชัยชนะในรายการเบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ ในสนามสปารูปแบบเก่ารวม 5 ครั้ง ระหว่างปี 1950 ถึง 1954 จากผลงานของฮวน มานูเอล ฟานจิโอ 2 ครั้ง อัลแบร์โต้ อัสคารี่ 2 ครั้ง และนิโน่ ฟารีน่า 1 ครั้ง สำหรับชัยชนะปีที่แล้วซึ่งเป็นของเซบาสเตียน เวทเทล ก็เป็นปีแรกที่ปิเรลลี่กลับเข้าสู่ฟอร์มูล่าวันอีกครั้ง โดยนอกจากฟอร์มูล่าวันแล้ว ปิเรลลี่ยังประสบความสำเร็จกับการแข่งขันในซีรีส์อื่นๆ ในสนามสปาแห่งนี้ โดยเฉพาะการแข่งขันจีทีกับรถหลากหลายค่าย อย่างเช่น มาเซราติ MC12 หรือเชฟโรเลต คอร์เวต C6R เป็นต้น
คุณทราบหรือไม่ว่าสนามสปารูปแบบเก่ามีความยาวถึง 14 กิโลเมตร!
สนามสปาสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 1921 และความยาวแรกเริ่มก็คือ 14.1 กิโลเมตร ใช้เป็นสนามแข่งขันทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์สำคัญๆ หลายรายการ จนกระทั่งถึงการแข่งขันฟอร์มูล่าวันในปี 1970 เป็นการแข่งขันรายการสุดท้ายบนสนามเก่าก่อนที่จะต้องมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งในเรื่องความปลอดภัยและระบบสาธารณูปโภคของสนาม หลังจากสนามนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสนามแข่งที่อันตรายที่สุดในยุคนั้น เพราะรถแข่งเริ่มมีสมรรถนะสูงขึ้น สนามแบบเก่าจึงรองรับการแข่งขันได้ไม่ดีพออีกต่อไป ในการปรับปรุงต้องมีการตัดแทร็คบางส่วนออก แต่ยังพยายามคงลักษณะเด่นของสนามเอาไว้ สนามสปายุคใหม่จึงกลับมาจัดการแข่งขันได้อีกครั้งในปี 1979 ด้วยความยาว 7 กิโลเมตร ซึ่งหลังจากนั้นก็ยังมีการปรับปรุงบ้างอีกเล็กน้อย แต่ความยาวของสนามก็ยังคงไม่ต่างกันนัก
วันนี้เราก็เลยมีคลิปวันเก่าๆ ที่สปามาฝากทุกคนด้วยค่ะ
เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ 1961
คลิปจากยูทูบโดยคุณ tvspnd1228
เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ 1970
คลิปจากยูทูบโดยคุณ wippermann
คลิปจากยูทูบโดยคุณ pisaric
*ข้อมูลจาก nextgen-auto.com และ spa-francorchamps.be
Create Date : 28 สิงหาคม 2555 |
|
9 comments |
Last Update : 29 สิงหาคม 2555 16:01:00 น. |
Counter : 1556 Pageviews. |
|
|
|
- เฟอร์รารี่เผยโฉมเครื่องยนต์ใหม่ V6 สำหรับการแข่งขันในปี 2014 แล้วที่โรงงานในมาราเนลโล่ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงทดสอบวัดแรงม้า (dyno test)
- สื่อในฝรั่งเศสเปิดเผยว่าโรเบิร์ต คูบิซ่า อดีตนักขับของบีเอ็มดับเบิ้ลยูและโลตัส-เรโนลต์ ซึ่งประสบอุบัติเหตุหนักจากการแข่งขันแรลลี่ที่อิตาลีเมื่อต้นปี 2011 ไปร่วมทดสอบรถแรลลี่ของฟอร์ดในฝรั่งเศส โดยที่จริงฟอร์ดกล่าวแต่เพียงว่าเป็นนักขับที่ไม่อยากเปิดเผยตัวตนมาร่วมทดสอบเป็นเวลา 4 วันกับทีม แต่นักข่าวก็ยังไปล่วงรู้มาจนได้
- นอกจากโลตัสที่คาดว่าจะส่ง "ดับเบิ้ลดีอาร์เอส" ลงในสนามสปาแล้ว แหล่งข่าวบางแห่งยังคาดว่าแม็คลาเรนอาจเป็นอีกทีมที่จะปล่อยระบบนี้ในการแข่งขันสุดสัปดาห์นี้ด้วยเช่นกัน
- เอฟไอเอแถลงข่าวจัดการแข่งขันรถยนต์ซีรีส์ใหม่ "ฟอร์มูล่า อี แชมเปี้ยนชิป" (FIA Formula E Championship) เป็นการแข่งขันรถพลังงานไฟฟ้า โดยคาดว่าจะมีทีมแข่งขัน 10 ทีม นักขับ 20 คนลงแข่งขัน ซึ่งจะมีการทดลองวิ่งก่อนในปีหน้าและจะเริ่มแข่งขันจริงในปี 2014 ทั้งนี้มี Formula E Holdings Ltd (FEH) เป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขัน ส่วนสนามที่ใช้แข่งขันคาดว่าจะเป็นใจกลางเมืองสำคัญๆ ของโลก