ตัวเลขจากโมนาโค การที่มาร์ก เว็บเบอร์ เป็นผู้ชนะในรายการโมนาโค กรังด์ปรีซ์ 2012 ซึ่งนับเป็นผู้ชนะคนที่ 6 จากการแข่งขัน 6 สนามแรกของปีนี้ ทำให้ถือว่าเป็นปีที่การแข่งขันเปิดกว้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟอร์มูล่าวัน ส่วนที่เราล้อกันว่ารถที่เข้าเส้นชัย 5 คันแรกนั้นตามกันมาเป็นขบวนรถไฟเลยทีเดียวก็มีเรื่องเกี่ยวข้องกับสถิติด้วยนะคะ โดยความห่างในการเข้าเส้นชัยระหว่างคันที่ 1 ถึงตันที่ 5 นั้นครอบคลุมด้วยเวลาเพียง 4.101 วินาที คิดเป็นสถิติอันดับที่ 5 สำหรับการเข้าเส้นชัยใกล้เคียงที่สุดใน 5 อันดับแรกของการแข่งขันฟอร์มูล่าวันเท่าที่ผ่านมา ส่วนสถิติ 4 อันดับแรกได้แก่ อันดับที่ 1: อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ 1971 - ระยะห่างระหว่าง 5 คันแรก 0.61 วินาที ผู้ชนะได้แก่ ปีเตอร์ เกธิน อันดับที่ 2: สแปนิช กรังด์ปรีซ์ 1981 - ระยะห่างระหว่าง 5 คันแรก 1.240 วินาที ผู้ชนะได้แก่ ฌิลส์ วิลเนิฟ อันดับที่ 3: แคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ 1999 - ระยะห่างระหว่าง 5 คันแรก 2.805 วินาที ผู้ชนะได้แก่ มิก้า ฮัคคิเน่น อันดับที่ 4: ยูโรเปียน กรังด์ปรีซ์ 1997 (เฆเรซ) - ระยะห่างระหว่าง 5 คันแรก 3.789 วินาที ผู้ชนะได้แก่ มิก้า ฮัคคิเน่น นอกจากนี้การแข่งขันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีสถิติที่น่าสนใจเกิดขึ้นอีกมากมาย ไปติดตามกันได้เลยค่ะ รอบควอลิฟาย - มิชาเอล ชูมัคเกอร์ ควอลิฟายได้เวลาดีที่สุดเมื่อวันเสาร์ แต่ไม่อาจถูกประกาศให้เขาได้ตำแหน่งโพลอย่างเป็นทางการเนื่องจากต้องรับโทษปรับกริด 5 อันดับจากสนามก่อน และยังทำให้ทีมเมอร์เซเดสพลาดการได้โพลครั้งที่ 10 ในประวัติศาสตร์การแข่งขันฟอร์มูล่าวันของทีม นอกจากนี้ชูมัคเกอร์ยังไม่ได้รับการบันทึกสถิติอันทรงเกียรติสำหรับผู้ที่ได้โพลโพซิชั่นขณะอายุ 43 ปีขึ้นไปร่วมกับนิโน่ ฟาริน่า ฮวน มานูเอล ฟานจิโอ และแจ๊ก บราบัม - ผลพวงจากการโดนปรับกริดของชูมัคเกอร์ ทำให้นิโค รอสเบิร์ก เพื่อนร่วมทีมขยับขึ้นมาออกตัวจากแถวหน้าเป็นครั้งที่ 3 สำหรับเขาในฟอร์มูล่าวัน ส่วนชูมัคเกอร์ต้องออกจากกริดที่ 6 ซึ่งเป็นอันดับออกสตาร์ทเดียวกันกับชัยชนะครั้งแรกของเขาในโมนาโคเมื่อปี 1992 มิชาเอล ชูมัคเกอร์ - นอกจากนี้การถูกปรับกริดของชูมัคเกอร์ ส่งผลให้ตำแหน่งโพลตกเป็นของมาร์ก เว็บเบอร์ ไปโดยปริยาย โดยนับเป็นโพลครั้งที่ 10 ของตัวเขาในฟอร์มูล่าวัน เป็นโพลที่ 40 ของเร้ดบูล และเป็นการออกตัวจากแถวหน้าครั้งที่ 50 ของทีมอีกด้วย - เว็บเบอร์ได้โพลครั้งนี้นับเป็นคนที่ 5 ในการแข่งขัน 5 สนามล่าสุด แต่ที่เคยเกิดขึ้นมากกว่านี้ต้องย้อนไปในปี 2003 เมื่อมีผู้ได้โพลสลับหน้ากันไป 6 คนใน 6 สนามติดต่อกันนับตั้งแต่ยูโรเปียน กรังด์ปรีซ์ จนถึงอิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ - ผลการควอลิฟายของเซบาสเตียน เวทเทล ครั้งนี้นับเป็นผลงานที่แย่ที่สุดของเขาในการควอลิฟายที่โมนาโคนับตั้งแต่มาอยู่กับเร้ดบูล และจะมีผลงานที่แย่กว่าเพื่อนร่วมทีมปีเว้นปี (2010 / 2012) - นับเป็นสนามที่ 2 ติดต่อกันของการแข่งขันปีนี้ที่ผู้ที่ได้ตำแหน่งโพลไม่ได้สตาร์ทจากตำแหน่งดังกล่าวเนื่องจากต้องรับโทษ และยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่บราซิเลียน กรังด์ปรีซ์ 2010 ที่ไม่มีแชมป์โลกออกตัวจากแถวหน้า การแข่งขัน - ก่อนที่เว็บเบอร์จะได้ชัยชนะเมื่อวันอาทิตย์ ในปีนี้เขายังไม่เคยควอลิฟายได้ตำแหน่งโพล ไม่เคยออกตัวจากแถวหน้า ยังไม่ได้ขึ้นโพเดียมหรือนำการแข่งขันแม้สักรอบเดียว ชัยชนะครั้งนี้ยังเป็นการขึ้นโพเดียมครั้งที่ 31 โดยทำให้มีจำนวนขึ้นโพเดียมเท่ากับแจ๊ก บราบัม อดีตนักขับเพื่อนร่วมชาติ ซึ่งครองสถิติในอันดับที่ 29 ร่วม และยังเป็นการเปลี่ยนจากโพลเป็นชัยชนะได้เป็นครั้งแรกของเขาในรอบ 6 สนาม หลังจาก 5 ครั้งก่อนหน้านี้ยังทำไม่สำเร็จ (ตุรกีและเบลเยียม 2010 / สเปน อังกฤษ และเยอรมัน 2011) - เร้ดบูลได้ชัยชนะครั้งนี้เป็นครั้งที่ 29 ของทีมและยังเป็นการชนะที่โมนาโค 3 ปีซ้อน ซึ่งสถิติสูงสุดที่ทีมชนะติดต่อกันที่นี่เป็นของแม็คลาเรน ตั้งแต่ปี 1988-1993 โดยเป็นผลงานของอแลง พรอสต์ 1 ครั้งและไอร์ตัน เซนน่า 5 ครั้ง รอบแรกของการแข่งขันที่โมนาโคปีนี้ - ผลงานอันดับที่ 2 ของรอสเบิร์กเป็นโพเดียมแรกของเขาในโมนาโค และยังเป็นโพเดียมแรกของเมอร์เซเดสในฐานะผู้ผลิตนับตั้งแต่เริ่มต้นการแข่งขันชิงแชมป์โลกมา - นอกจากเฟอร์นันโด อลอนโซ่ จะได้โพเดียมอันดับที่ 3 แล้ว เขายังจบการแข่งขันแบบมีคะแนนเป็นสนามที่ 18 ติดต่อกันแล้ว โดยคิดเป็นสถิติอันดับที่ 3 เทียบเท่ากับที่เขาเคยทำได้มาแล้วระหว่างเตอร์กิช กรังด์ปรีซ์ 2005 ถึงเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ 2006 สำหรับสถิติที่มากกว่านี้มีเพียงสถิติของชูมัคเกอร์ 24 ครั้ง ระหว่างฮังการี 2001 ถึง มาเลเซีย 2003 และสถิติของเซบาสเตียน เวทเทล 19 ครั้ง ระหว่างบราซิล 2010 ถึง อินเดีย 2011 ที่มากกว่าเขา - เซอร์จิโอ เปเรซ เป็นเจ้าของเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap) ได้ในการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ ถือเป็นนักขับเม็กซิกันคนที่ 2 ที่สามารถทำได้ต่อจากเปโดร โรดิเกซ ในรายการเฟร้นช์ กรังด์ปรีซ์ 1968 - ในปีนี้นอกจากการแข่งขันผ่านมาแล้ว 6 สนาม ได้ผู้ชนะ 6 คน ยังมีผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดแตกต่างกันทั้ง 6 สนามอีกด้วย - เฮกกิ โควาไลเน่น จบการแข่งขันในอันดับที่ 13 เป็นผลงานที่ดีที่สุดของเขานับตั้งแต่มอนซ่าปีที่แล้ว และยังทำให้ทีมแคเทอร์แฮมมีคะแนนสะสมประเภททีมอยู่ในอันดับที่ 10 ในขณะนี้ - การที่เจนสัน บัตตัน ไม่จบการแข่งขันสนามนี้ทำให้เขาหลุดจากคะแนนสะสม 6 อันดับแรกเป็นครั้งแรกนับจากบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ 2010 - เฟลิเป้ มาสซ่า นำการแข่งขันในรอบที่ 30 ทำให้เขาเป็นนักขับคนที่ 12 ที่เคยขึ้นนำการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งมีจำนวนมากกว่าคนที่นำการแข่งขันตลอดปี 2011 ถึง 4 คนด้วยกัน นอกจากนี้ในฤดูกาลนี้ยังไม่มีนักขับคนใดที่นำการแข่งขันได้เกินกว่า 2 สนามติดต่อกัน - ผลงานของชูมัคเกอร์ในปีนี้เท่าที่ผ่านมาประกอบด้วยอันดับที่ 10 จำนวน 2 ครั้ง ไม่จบการแข่งขันด้วยปัญหาทางเทคนิค 3 ครั้ง และไม่จบการแข่งขันเนื่องจากอุบัติเหตุ 1 ครั้ง เท่ากับว่าเขาลงแข่งขันด้วยระยะทางรวม 1,003 กิโลเมตร เท่านั้น มากกว่าเพียงแค่สถิติของโรแมง โกรส์ฌอง ซึ่งลงแข่งได้เพียง 942 กิโลเมตรในปีนี้ *ข้อมูลจาก autosport.com/f1 ภาพจาก telegraph.co.uk และ biser3a.com   Create Date : 30 พฤษภาคม 2555 4 comments Last Update : 30 พฤษภาคม 2555 18:49:15 น. Counter : 1576 Pageviews. Share Tweet

ขอบคุณมากครับ   โดย: ลุ่มน้ำตาปี IP: 118.173.226.26 30 พฤษภาคม 2555 20:42:44 น.

ขอบคุณครับ MSC ปีนี้ลำบากจัง   โดย: ton IP: 58.8.160.14 30 พฤษภาคม 2555 22:32:05 น.

ปีนี้ พนักงานเก็บสติติได้โบนัสอื้อแน่ อิอิ   โดย: runtaro IP: 172.30.50.71, 202.183.217.251 31 พฤษภาคม 2555 12:02:57 น.

อ่านสถิติต่างของสนามนี้แล้ว มึนตึบเลย เหมือนว่า ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันซักอย่างในการหาผู้ที่จะเป็นแชมป์เลย   โดย: เกลียดแดง IP: 202.122.130.31 31 พฤษภาคม 2555 14:48:11 น.