จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2557
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
10 ตุลาคม 2557
 
All Blogs
 

กระสุนปริศนา ตอนที่ ๑๔

นวนิยาย สืบสวนสอบสวนของ นักสืบพราน เล่มที่ ๒
เรื่องที่ ๒ - กระสุนปริศนา

ตอนที่ ๑๔


พราน เจนเชิง ก้าวขึ้นบันไดชั้นบนสำนักงานของเขาอย่างเร่งร้อน
กัลยา ยกมือทำสัญญานให้กับเขา ขณะที่เขากำลังจะผ่านโต๊ะหล่อนไป

พราน ชะงักอยู่กับที่ เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

กัลยา ยกหัวแม่มือชูขึ้น แล้วยกมือขึ้นแตะขมับในท่า วันทยาหัตถ์ แล้วชี้นิ้วเข้าไปในห้องของพราน

พราน พยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาโยนหมวกไว้บนโต๊ะของ กัลยา จัดเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อย แล้วเปิดบังตาเข้าไป ทำท่าแปลกใจเล็กน้อย เมื่อเห็น สารวัตรพจน์ นั่งอยู่บนเก้าอี้รับแขกตัวหนึ่ง 

เกรียง และ พิชิต กำลังคุยกันด้วยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง

“ สวัสดีครับ ท่านสารวัตร ” พรานเอ่ยทักขึ้น “ วันนี้ มีข่าวดีอะไรหรือครับ ”

“ เปล่า... พราน ” สารวัตรพจน์ พูดขึ้น และยิ้ม
“ วันนี้ว่างๆ ผ่านมาทางนี้ เห็นไฟสำนักงานของคุณยังเปิดอยู่ ก็เลยแวะเข้ามาคุยด้วย ทำไมอยู่กันจนมืดค่ำป่านนี้เหล่า พราน ”

“ เรามีธุระปรึกษาอะไรกันเล็กน้อย สำหรับคดีใหม่ที่เรารับไว้ ก็เลยอยู่กันค่ำไปหน่อย ”

“ คุณไปไหนมา หรือว่า เพิ่งจะมาถึง ” สารวัตรพจน์ถาม ทำกิริยาเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะเอาคำตอบ

“ ท่านสารวัตรถาม เกรียง กับ พิชิต เขาแล้วไม่ใช่หรือครับ ”
พราน พูดเรื่อยๆ มองไปทาง พิชิต และเกรียง

“ ครับ ” เกรียงพูดขึ้นก่อน “ ผมบอกท่านสารวัตรแล้วว่า หัวหน้านัดพวกผมไว้ที่นี่สองทุ่ม ผมยังบ่นอยู่เลยว่า ทำไมมาช้า เกือบจะสองทุ่มครึ่งอยู่แล้ว ก็พอดีหัวหน้าโผล่เข้ามา ” 

สารวัตรพจน์หัวเราะอย่างอารมณ์เย็น

พราน เปิดหีบบุหรี่ หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ขณะที่สารวัตรพจน์พูดว่า
“ ผมมีข่าวดีเหมือนกันที่จะบอกคุณวันนี้ ”

“ อะไรครับ ”
พรานถามตามควันบุหรี่ออกมา

“ เรารู้แล้วว่า ยุพดี อยู่ที่ไหน ”
สารวัตรพจน์ พูด ตาจับอยู่ที่ พราน

พราน เดินไปนั่งที่ขอบโต๊ะ ด้วยกิริยาที่ไม่สนใจกับข่าวนั้น
“ อย่างนั้นหรือครับ ... ก้อดี ... อยู่ที่ไหนครับ ”

“ ผมยังบอกไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหน... แต่เวลานี้ เราส่ง พิชัย คู่หมั้นของแก ให้ไปคอยดักพบยุพดี อยู่แล้ว เชื้อแน่ว่า คงจะทำให้ผลของการสืบสวนดีขึ้น ”

“ทำไมท่านสารวัตรจึงไม่อาตัว ยุพดี มาเสียเลย ”

สารวัตรพจน์ ม้วนริมฝีปาก ส่ายหน้าช้าๆ
“ สู้ให้คู่หมั้นเขาพูดกันเองเสียก่อนจะดีกว่า... ผมอยากรู้ด้วยว่า ยุพดีอยู่ที่นั่น เพราะใครเป็นคนพาไป ”

“ ท่านสารวัตรจะให้ผมช่วยอะไรบ้างไหมครับในเรื่องนี้ ผมยินดีที่จะช่วย ”
“ ไม่ต้องก็ได้ พราน... ประเดี๋ยวคงจะรู้เรื่อง ”

พราน พยักหน้าช้าๆ
“ คงจะทำให้คดีขาวกระจ่างขึ้นมากทีเดียว ”

สารวัตรพจน์ ยิ้ม ตาจับอยู่ที่ พราน พูดว่า
“ ผมก็ว่าเช่นนั้น ”

เสียงเครื่องพูดดังขึ้น และมีเสียงของ กัลยา ดังมาทางเครื่องพูดว่า
“ โทรศัพท์ถึงท่านสารวัตรพจนฺค่ะ ”

พราน พยักหน้าไปที่เครื่องโทรศัพท์
“ เชิญซีครับ ท่านสารวัตร ”

สารวัตรพจน์ ยิ้ม อย่างผู้ชนะ เดินไปที่เครื่องโทรศัพท์ ยกหูโทรศัพท์ขึ้นพูด ตาจับอยู่ที่ พราน
“ ฮัลโหล... นี่ พจน์ พูด ”

ครั้นแล้วสีหน้าของเขาค่อยๆ เปลี่ยนไป และกลับตัวหันหลังให้ พราน
“ ว่าไง... ที่ไหน... โรงแรม “ เทวะ..” ยังงั้นหรือ... อั๊วจะไปเดี๋ยวนี้... เลิกกัน ”

เขาวางโทรศัพท์ลงอย่างช้าๆ เม้มริมฝีปาก หันมามองดูทางสหายนักสืบทั้งสาม พ฿ดว่า
“ ผมมีธุระจะต้องรีบไป บางที... ประเดี๋ยวอาจจะต้องกลับมาที่นี่อีก ”
แล้วผลุนผลันออกจากห้องไป โดยไม่ได้ร่ำลาผู้ใด

พรานลุกขึ้นจากมุมโต๊ะที่นั่งอยู่ เดินกลับไปกลับมา สายตาเขาจ้องจับอยู่กับพื้นห้อง มือทั้งสองข้างล้วงลงในกระเป๋ากางเกง ในลักษณะที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

เกรียง รินบรั่นดีใส่ถ้วยเชิงใบเล็ก ส่งให้กับหัวหน้าของเขาอย่างรู้ใจ 

พราน รับถ้วยบรั่นดี กรอกรวดเดียวลงไปในลำคอ แล้วเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของเขา เคาะท้าวเก้าอี้เล่น 

เสียงเครื่องพูดดังขึ้น กัลยา พูดมาว่า
“ คุณผกา มาค่ะ ”

พราน เหลือบตาดูเครื่องพูด นิ่งอยู่พักหนึ่ง จึงพูดตอบไป
“ เชิญเข้ามาได้ ”

บังตาประตูถูกผลักเปิดเข้ามา ผกา ในเครื่องแต่งกายเรียบๆ คล้องกระเป๋าถือไว้ที่แขนข้างซ้าย ก้าวเท้าเข้ามา

พราน ชี้ที่เก้าอี้ตรงหน้าของเขา ให้หล่อนนั่ง เขาแบมือออกทันทีที่ ผกา นั่งลงเรียบร้อย

ผกา ยังมีแววของความศร้าโศกกราดอยู่ทั่วใบหน้า หล่อนเปิดกระเป๋าถือ หยิบซองจดหมายสีขาวเก่าๆ ออกมาซองหนึ่ง ส่งให้ พราน 

พราน รับซองจดหมายนั้นมาเปิด หยิบเอากระดาษข้างในที่มีข้อความเขียน ออกมาอ่าน

มันมีข้อความเป็นเชิงขู่เข็ญ ถาวร ถึงเรื่องไม่ให้มาเกี่ยวข้องกับการกระทำของผู้เขียนจดหมายฉบับนั้น ในการติดต่อกับผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ได้ระบุชื่อไว้ ตอนท้ายของจดหมายมีลายเซ็นว่า “ ธรรมนูญ ”

พราน เงยหน้าขึ้น พูดว่า
“ อีกฉบับหนึ่งเล่าครับ ”

ผกา ชี้ไปที่ซองจดหมาย
“ ดิฉันใส่มันรวมกันอยู่ในนั้น ”

พราน ยกซองขึ้นดูอีก เขาพยักหน้า ล้วงหยิบเศษกระดาษอีกแผ่นหนึ่งออกมา อ่านข้อความในเศษกระดาษนั้น ซึ่งเขียนไว้ว่า

“ ยุพดีที่รัก
        วันนี้ ขอพบหน่อย ที่เดิม เวลาเดิม
                                    ธรรมนูญ ”

พราน เปรียบเทียบลายมือของกระดาษทั้งสองแผ่นนั้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่า เป็นลายมือของคนๆ เดียวกัน

เขายิ้มเล็กน้อย เม้มริมฝีปาก พับกระดาษทั้งสองแผ่นนั้นลงไปในซองเดิม
“ คุณพบจดหมายทั้งสองฉบับนี้อย่างไร ”

“ มันซุกอยู่กับกองเสื้อผ้าของ ถาวร ค่ะ ”
ผกา ตอบ ยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับที่จมูก

“ ดิฉันกลับไปบ้านวันนี้ ก็เลยค้นเสื้อผ้าของ ถาวร เขาออกทั้งหมด เพื่อจะเอาไปรวมเก็บให้พ้นๆ ตาเสียที... ดิฉันไม่อยากเห็นอะไรทุกอย่างที่เป็นของเขาเหลืออยู่ มันทำให้ดิฉันอดคิดถึงเขาไม่ได้ ดิฉันจึงได้พบจดหมายสองฉบับนี้ซุกอยู่ คุณคิดว่า มันจะมีประโยชน์อะไรบ้างไหมคะ ”

พราน ยิ้ม... เขาเคาะซองจดหมายเล่นกับโต๊ะ
“ เห็นจะมีประโยชน์... ไม่เลวเลยทีเดียว คุณผกา ”

ผกา ยิ้มอย่างเนือยๆ
“ ดิฉันอยากจะช่วยเหลือทุกอย่างที่จะทำให้คดีนี้ขาวระจ่างขึ้นมา เราจะไปโทษคุณยุพดี เสียทีเดียวก็ไม่ได้ ดิฉันไม่เชื่อว่า ยุพดี จะเก่งกาจพอที่จะฆ่า ถาวร ได้ ขณะนี้ ทางตำรวจเขาดูจะเชื่อมันอย่างนั้น เขายังตามหาตัว ยุพดี อยู่ เท่าที่ดิฉันทราบ ”

“ ครับ สารวัตรพจน์ บอกผมว่า เขารู้กันแล้วว่า ยุพดี อยู่ที่ไหน ”
“ ตายจริง... คุณมิแย่หรือคะ ”
ผกา พูด นัยน์ตาวาว

“ ผมจะแย่อย่างไร ” พราน เลิกคิ้วถามยิ้มๆ
“ ก้อ... เขาว่ากันว่า คุณเป็นคนพาคุณยุพดี ไปเก็บไว้... คุณอะไร ที่เป็นคู่หมั้นของคุณยุพดี ก็ว่าเช่นนั้น ”

พราน หัวเราะ
“ ผมน่ะ ไม่แย่... ผมชอบเสียอีกที่เขาตามตัว ยุพดี ได้ ”

“ ทำไม ”

พราน ไม่ตอบ เขาจับตาอยู่ที่ ผกา แล้วพูดว่า
“ ผมอยากจะถามอะไรคุณสักอย่าง ”

“ เชิญซีคะ.. ดิฉันยินดีให้คำตอบทุกอย่าง โดยไม่ปิดบัง ”

“ ในคืนวันเกิดเหตุ พิชัย ได้ไปหาคุณที่บ้าน เวลาประมาณ สองทุ่ม ใช่ไหมครับ ”

ผกา พยักหน้าเล็กน้อย
“ ใช่ค่ะ ”

“ เขาไปหาคุณทำไม ”
“ เขาไปบอกดิฉันว่า สามีของดิฉันกำลังอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่บังกาโลว์ “ประสานสุข” และผู้หญิงคนนั้นคือคู่หมั้นของเขา เขาถามดิฉันว่า จะทำอย่างไรดี ”

“ คุณว่าอย่างไร ”

“ ดิฉันบอกเขาว่า ดิฉันรู้สึกเบื่อ และเฉยๆ เสียแล้วในเรื่องความเจ้าชู้ของ ถาวร เขาชวนดิฉันไปดูกับเขา ดิฉันบอกว่า ดิฉันไม่อยากไป แล้วแต่ว่าเรื่องนี้ เขาเองต่างหากที่จะว่าอย่างไร เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นคู่หมั้นของเขา เขาโกรธดิฉัน หาว่าเป็นใจกับสามี แล้วเขาก็ผลุนผลันออกจากบ้านดิฉันไป หลังจากที่ได้พูดว่า เขาจะจัดการของเขาเอง ถ้าเช่นนั้น ”

“ คุณไม่ได้บอกเรื่องนี้กับผม ในวันที่ผมไปพบกับคุณ ”

ผกา มองดู พราน อย่างวิงวอน
“ ดิฉันยังไม่เคยรู้จักคุณ และไม่ทราบว่าคุณจะมาไม้ไหนกับดิฉัน และนึกไม่ถึงในตอนนั้นว่า จะถึงกับมีการฆ่ากัน พอดิฉันได้ทราบข่าวจากคุณว่า ถาวร ถูกฆ่า ดิฉันเสียใจ และตกใจจนพูดไม่ถูก คุณก็เห็นแล้วในวันนั้น ”

“ เขาเป็นเพื่อนกับ ถาวร ค่ะ ...กับดิฉัน ไม่ได้รู้จักอะไรกันดี เราไม่เคยพูดกันเลย ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เราได้พูดกัน ”

พรนน เอื้อมมือไปเปิดหีบบุหรี่ หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ แล้วพูดขณะโยนก้านไม้ขีดลงในที่เขี่ยบุหรี่
“ คุณธรรมนูญ กับคุณ มีความสนิทสนมกันแค่ไหน ”

ผกา หน้าฉงน ถามว่า
“ ใครนะคะ ”

“ คุณธรรมนูญ ผู้จัดการบริษัทไทยการค้า ”

ผกา ยิ้มน้อยๆ
“ ดิฉันได้เคยบอกคุณแล้วใช่ไหมว่า ดิฉันเคยแต่ได้ยินชื่อจาก ถาวร ”

“ แต่มันไม่จริง ”
“ ค่ะ ถูกแล้ว...ไม่จริง ” ผกา หัวเราะเบาๆ “ เพราะในคราวนั้น ดิฉันยังไม่รู้จักคุณดี และไม่ทราบจุดประสงค์ของคุณ ดิฉันจะบอกความจริงกับคุณอย่างไรได้ ”

“ ความจริงคืออะไร ”
“ เรารู้จักกันมานานแล้วค่ะ... ก่อนดิฉันแต่งงาน ”

“ หลังจากคุณแต่งงานแล้ว คุณกับเขา ยังคงติดต่อกันอยู่หรือเปล่า ”
“ ก็มีบ้าง ฉันท์เพื่อน ”

“ คุณยังสนิมสนมกับเขาดีอยู่หรือ ”

ผกา ทำท่าลังเล
“ ก็.. ไม่มีอะไรมากไปกว่าความเป็นเพื่อน... ข้อนี้ ถาวร เขาก็รู้... เขารู้มาแต่ก่อนแต่งงานแล้วว่า ดิฉันสนิมสนมกับ ธรรมนูญ อย่างไร ”

พราน พยักหน้าช้าๆ เขากระดกซองจดหมายที่ถืออยู่ในมือ พูดว่า
“ จดหมายสองฉบับนี้ จะนำความลำบากมาสู่ ธรรมนูญ ”

ผกา มีสีหน้าสลดลง หล่อนพูดเบาๆ
“ เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ... ดิฉันจะเห็นคนอื่นดีกว่าสามีของดิฉันได้อย่างไร ”

“ คุณจะขัดข้องไหม ถ้าผมจะส่งจดหมายทั้งสองฉบับนี้ ให้กับท่านสารวัตรพจน์ ”

ผกา นิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วพูดว่า
“ แล้วแต่คุณซีคะ... การที่ดิฉันนำมาให้คุณ ก็เพราะเชื่อว่า คุณคงจะมีวิธีการสืบสวนที่แนบเนียนกว่าทางตำรวจ ดิฉันเพิ่งรู้กิติศัพท์ของคุณจากพวกเพื่อนๆ หลังจากที่ได้พบกับคุณที่บ้านในวันนั้น ”

พราน หัวเราะเบาๆ
“ เอาละครับ... ขอบคุณมากสำหรับความไว้วางใจที่คุณมีต่อผม... ผมจะดำเนินเรื่องต่อไปด้วยตัวของผมเอง จดหมายสองฉบับนี้มีความหมาย ทำให้ผมเกิดความคิดอะไรขึ้นหลายอย่าง มันทำให้รูปคดีแปรไปคนละเรื่องกับที่ผมคาดหมายไว้ตั้งแต่ต้นทีเดียว ” 

“ ครั้งแรก คุณก็คงจะเชื่อว่า คุณยุพดี เป็นคนฆ่าคุณถาวรจริงๆ เหมือนกัน อย่างนั้นหรือคะ ”

พราน ยิ้ม เขาไม่ตอบว่าอะไร ดูดบุหรี่ พ่นควันเฉยอยู่

ผกา ลุกขึ้นยืน
“ ถ้าเช่นนั้น ดิฉันเห็นจะกลับได้แล้ว ไม่มีอะไรแล้ว ใช่ไหมคะ ”

พราน ลุกขึ้นเช่นกัน เขายิ้ม และพูดว่า
“ ครับ ”

ผกา พนมมือไหว้
“ ดิฉันลาละค่ะ... สวัสดี ”

“ ครับ... สวัสดี ”

มีเสียงฝีเท้าอย่างเร่งรีบกระชั้นเข้ามา

ผกา กำลังจะเปิดบังตาออกไป ร่างของสารวัตรพจน์ ก็ผลักบังตาเข้ามาเสียก่อน เขาชะงัก เมื่อหันไปเห็นผกา และพูดว่า
“ อ้อ... คุณผกา... สวัสดีครับ... มาทำไมครับ ”

ผกา ยกมือไหว้ สารวัตรพจน์
“ มาหาคุณพรานค่ะ.. เพื่อชี้แจงอะไรนิดหน่อย ”

“ เขาเรียกคุณมาหรือครับ " 
“ มิได้ค่ะ... ดิฉันมาอง ”

สารวัตรพจน์ หรี่ตา มองดู พราน แล้วหันมาทาง ผกา
“ คุณจะกลับหรือ ”

“ ค่ะ ”

“ ประเดี๋ยวก่อนซิครับ.. ผมมีข่าวไม่สู้จะดี เกี่ยวกับนักสืบของคุณ คุณรู้ไหมว่า พิชัย ถูกฆ่าตายเสียแล้ว ”

ผกา ถอยหลังซุดกายลงกับเก้าอี้
“พิชัย คู่หมั้นของคุณยุพดีน่ะหรือคะ ”

สารวัตรพจน์ พยักหน้า
“ เขาถูกฆ่าตายที่โรงแรม “ เทวมิตร”... และที่นั่น เป็นที่ที่เราพบว่า ยุพดี ไปหลบซ่อนอยู่ ”

ผกา หันมามองหน้า พราน คล้ายจะตั้งคำถาม

พราน ไม่พูดอะไร กิริยาปกติ จับสายตา สารวัตรพจน์ อย่างไม่เกรงกลัว

สารวัตรพจน์ พูดว่า
“ เราพบ ยุพดี ในห้องที่ พิชัย ถูกฆ่า เราได้รับความรู้จากผู้จัดการโรงแรมว่ายุพดี ได้ไปเช่าโรงแรมนั้นมาตั้งแต่วันที่เราได้ทราบว่า แกหายออกจากบ้านไป พิชัย เพิ่งจะไปอยู่ที่โรงแรมในวันนี้ ”

“ เพราะท่านสารวัตรส่งไป ” พราน ต่อให้ พร้อมกับยิ้ม

สารวัตรพจน์ เดินเรื่อยๆ ไปที่หน้าต่าง พูดในขณะเดินว่า
“ เรื่องนั้นไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่า ระหว่างที่ ยุพดี อยู่ที่โรงแรมนั้น ได้เคยมีผู้ชายแปลกหน้าไปที่โรงแรมสองครั้งด้วยกัน ครั้งแรก วันที่ ยุพดี เพิ่งจะไปถึง และ ครั้งที่สอง คือวันนี้ ในตอนใกล้เคียงกับที่เราได้รับแจ้งถึงการฆาตกรรมของ พิชัย เด็กประจำลิฟต์ สามารถจะบรรยายรูปร่างลักษณะของชายผู้นั้นได้ ”

เขาชำเลืองมาทาง พราน แล้วก้มหน้ามองดูพื้น เดินกลับไปกลับมา พลางพูดต่อไป

“ ถึงแม้ว่า ยุพดี จะไม่ยอมบอกว่า คนๆ นั้นคือใคร แต่ผมก็พอจะรู้ว่า เป็นใคร เวลานี้ เราก็ได้ตัว ยุพดี ไปแล้ว อาวุธปืนที่ใช้ในการฆาตกรรม... เรายังค้นใม่พบ แต่คนๆ นั้น ก็ต้องมีส่วนรับรู้ในฐานะคนสบคบ หรือสมรู้ กับคดีฆาตกรรมรายนี้ ซึ่งมี ยุพดี เป็นผู้ต้องหา อย่างน้อย เขามีส่วนได้พบศพของ พิชัย แต่เขาไม่ได้ปฎิบัติตามกฎหมาย คือ ไม่ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในทันที การหลบหนีจากที่เกิดเหตุของเขา เป็นพิรุธอย่างหนึ่ง ที่ส่อให้เห็นว่า เขาเกรงกลัวความผิด ใช่ไหม พราน ”

เขาหยุดชะงักเท้าอยู่กับที่ และหันมามอง พราน

พรานยิ้ม ก้มศีรษะเล็กน้อย

“ ถูก... แต่ผมยังไม่เข้าใจว่า ท่านสารวัตร หมายถึงใคร ”

สารวัตรพจน์ หัวเราะ เขาหันไปทาง เกรียง และ พิชิต ซึ่งยังคงนิ่งฟัง สายตาจับอยู่ที่สารวัตรพจน์
“ คุณเกรียง บอกผมว่า เขานัดกับคุณไว้ที่นี่ สองทุ่ม แต่คุณมาช้า ผิดเวลา ปกติ คุณไม่เคยผิดเวลา คุณไปไหนมา พราน ”

พราน เอนหลังพิงพนักเก้าอี้
“ ผมไปพบลูกค้าของผมมา ”

“ ใคร ”

“ ผมบอกไม่ได้ มันเป็นเรื่องของสำนักงาน ”

สารวัตรพจน์ หัวเราะ เริ่มต้นเดินไปตามความกว้างของห้อง พลางพูดไปด้วยว่า
“ พิชัย ถูกฆ่าด้วยอาวุธปืน บาดแผลเหมือนกับ ถาวร ไม่มีผิด คือ คนร้ายใช้ปืนจ่อกับหมอน แล้วยิงเข้าไปที่ท้ายทอย เพื่อป้องกันเสียง นุ่นจากหมอนแตกกระจายเกลื่อนห้องน้ำ เขาตายในทันที คนร้ายคนนี้ เป็นคนๆ เดียวกับที่ฆ่าสามีของคุณผกา ”

สารวัตรพจน์ หันไปทาง ผกา เมื่อพูดถึงตอนนี้ ครั้นแล้วจึงพูดต่อไป
“ ทั้งสองคราว ยุพดี ปรากฎในที่เกิดเหตุ คุณจะให้ผมเข้าใจอย่างไร ”

ผกา ละสายตาจาก สารวัตรพจน์ ไปทางพราน หล่อนจ้องตาเขาเขม็ง 

สารวัตรพจน์ เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า พราน พูดว่า
“ พราน ผมถามคุณจริงๆ คุณอยู่ในที่เกิดเหตุกับ ยุพดี หรือเปล่า ”

พราน จ้องสายตากับ สารวัตรพจน์
“ ยุพดี พูดว่าอย่างไรเล่าครับ ”

“ ยุพดี ไม่ยอมพูดอะไรทั้งสิ้น ”

พราน ขมวดคิ้วแวบหนึ่ง แล้วยิ้ม
“ ท่านสารวัตร อาจสอบได้จาก ยุพดี ไม่ใช่จากผม ”

“ หมายความว่า คุณปฎิเสธ ”

พราน หัวเราะเบาๆ
“ ผมขอให้ท่านสารวัตรถามคุณยุพดี ”

สารวัตรพจน์ ล้วงมือลงไปในกระเป๋าเสื้อ แบมือออกตรงหน้า พราน ในฝ่ามือของสารวัตรพจน์ มีปุยนุ่นก้อนเล็กๆ รวมอยู่ เขามองดู พราน พูดว่า
“ นี่อะไร ”

พราน มองดูของสิ่งนั้นนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเงยหน้ามองสรวัตรพจน์ พูดว่า
“ คล้ายกับนุ่น ”

สารวัตรพจน์ กำมือยัดสิ่งนั้นลงในกระเป๋าเสื้อตามเดิม
“ มันเป็นนุ่นชนิดเดียวกับที่เราพบกระจุยจากหมอนในห้องน้ำที่พบศพของ พิชัย นุ่นก้อนนี้ ผมพบที่ไหนรู้ไหม ”

พราน สั่นหน้า

สารวัตรพจน์ หัวเราะเบาๆ ท้าวขอบโต๊ะ ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ พราน
“ ผมพบที่หัวบันได ทางขึ้นสำนักงานของคุณนี่เอง ยังใหม่และสด ไม่ใช่ถูกทิ้งค้างไว้เลย ”

“ เมื่อไรครับ ”

“ ตอนที่ผมขึ้นมาเดี๋ยวนี้เอง ” 
สารวัตรพจน์ ย้ำคำหนักแน่น และมองดู พรานอย่างเยาะเย้ย

พราน นั่งนิ่ง เขาก้มหน้ามองดูโต๊ะ ในท่าพิงพนักเก้าอี้เฉยอยู่

สารวัตรพจน์ ค่อยๆ ผละไปจากโต๊ะ หยุดยืนนิ่งอยู่กลางห้อง
“ มันเป็นคำตอบที่ดีอยู่แล้ว ไม่ใช่หรือ พราน ” 

พราน เงยหน้าขึ้นช้า ๆ มองดูทุกๆ คนในห้อง

พิชิต และ เกรียง มองดูหัวหน้าของเขาอย่างมีกังวล

ผกา มีแววตาสงสัย

ส่วน สารวัตรพจน์ นั้น มองดู พรานอย่างผู้ชนะ และยิ้มอยู่ในที

พราน พูดขึ้นว่า
“ ท่านสารวัตรจะเอาอย่างไรต่อไป ”

สารวัตรพจน์ หัวเราะเบาๆ
“ ผมจะต้องเอาตัวคุณไปสอบสวน ”

“ เดี๋ยวนี้หรือครับ ”
สารวัตรพจน์ พยักหน้าช้าๆ

พราน เม้มริมฝีปากนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า
“ ผมอยากจะขอเวลาท่านสารวัตร สักสามชัวโมง ”

“ หมายความว่าอย่างไร ”

“ จากเวลานี้ไปสามชั่วโมง ผมจะมอบตัวให้ท่านสารวัตร ”

“ ผมขอทราบเหตุผล ”

พราน ทำท่าอึดอัดใจ
“ จำเป็นหรือครับ ”

“ จำเป็น ”

พราน ทำท่าลังเลอยู่ชั่วขณะ แล้วพูดว่า
“ ผมมีนัดกับบุคคลๆหนึ่ง ที่สามารถจะให้ความจริงที่เป็นประโยชน์แก่เรื่องนี้ในคืนวันนี้ เวลา ๔ ทุมตรง ที่โรงแรม เทวมิตร ห้องเลขที่ ๒๑๐ ”

“ ห้องที่ ยุพดี พัก ”

“ ผมไม่ทราบว่า ใช่หรือไม่ แต่เขานัดกับผมที่ห้องหมายเลข ๒๑๐ ผมจะไปที่นั่นก่อนเวลา ๔ ทุ่ม และจะอยู่แต่ในนั้น ท่านสารวัตรอาจให้ทางโรงแรมคอยเช็คผมไว้ก็ได้ แต่ข้อสำคัญ อย่าให้มีตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบ ไปเกียวข้อง เพราะเขาอาจไม่กล้าไปปรากฎตัวตามนัด และโปรดอย่าได้ถามผมว่า เขาเป็นใคร ”

สารวัตรพจน์ ยืนนิ่ง ในท่าใช้ความคิด ตกลงใจเป็นครู่ใหญ่
“ ตกลง คุณมีเวลาอีก ๓ ชั่วโมง ”

เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
“ เวลานี้ สามทุ่มสิบนาที คุณมีเวลาถึง สองยามกับ สิบนาที ผมจะไม่เกี่ยวข้องกับคุณจนถึงเวลานั้น ”

พูดจบ สารวัตรพจน์ ก็สาวเท้าเปิดบังตาออกไป

พราน หันมาทาง ผกา กล่าวว่า
“ สวัสดีครับ คุณผกา ”

ผกา ลุกขึ้นยืน มองดู พรานอยู่ครู่หนึ่ง ยกมือไหว้ กล่าวคำสวัสดี แล้วเปิดบังตาตามออกไป

พราน นั่งเก้าอี้ของเขานิ่งอยู่ ยกข้อมือขึ้นดู นาฬิกา ยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม มองไปที่ เกรียง
“ ขอบรั่นดีผมอีกสักเป๊กเถอะ เกรียง ”

เขาเอื้อมมือไปเปิดเครื่องพูด ขณะที่อีกมือหนึ่งยื่นไปรับบรั่นดีจาก เกรียง พูดลงไปในเครื่องพูดว่า
“ กัลยา ... จองห้องหมายเลข ๒๑๐ ที่โรงแรมเทวมิตร ไว้ให้ผม สำหรับคืนนี้ ผมจะไปใช้ห้อง เวลา สามทุ่มสิบห้านาที และเวลา ๑๕ นาทีจะห้าทุ่ม ถ้าคุณไม่ได้รับข่าวอะไรจากผม ให้โทรศัพท์บอกสารวัตรพจน์ ให้รีบไปพบกับผมที่นั่นโดยด่วน... เข้าใจไหม... กัลยา ”

“ ค่ะ ”

พราน ยกถ้วยบรั่นดี เทรวดเดียวลงในลำคอ





 

Create Date : 10 ตุลาคม 2557
1 comments
Last Update : 11 ตุลาคม 2557 3:56:33 น.
Counter : 463 Pageviews.

 

 

โดย: ก้นกะลา 12 ตุลาคม 2557 22:16:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.