วัดเขมาภิรตาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 74 หมู่ที่ 8 ถนนพิบูลสงคราม ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี
พระอารามแห่งนี้เดิมเป็นวัดโบราณ สร้างขึ้นก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา เรียกกันว่า
“วัดเขมา” ไม่ปรากฏนามผู้สร้าง แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงสันนิษฐานว่า เป็นวัดที่ชาวเขมรมาสร้างไว้ และเอานามเขมรมาตั้งชื่อ เพราะคำว่า “เขมา” หรือ “เขมะ” หรือเขมะรัฐ แปลว่า “เขมร” นั่นเอง
วัดเขมาฯ ถูกทิ้งร้างไปนาน จนกระทั่งในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ได้โปรดให้เจ้าฟ้ามงกุฎ พระราชโอรส (ซึ่งต่อมาได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4) เสด็จฯ ไปเฝ้าสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ กราบทูลขอวัดเขมาฯ เพื่อเป็นวัดในพระบรมราชินูปถัมภ์สำหรับกฐินในสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี จากนั้นได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์เพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดเขมาฯ เป็นการใหญ่อีกครั้ง เพื่อฉลองพระคุณสมเด็จพระบรมราชชนนี โดยทรงจัดซื้อที่สวนถวายเพิ่มเติม ขุดคูรอบวัด ปฏิสังขรณ์ในพระอุโบสถ ทั้งรวมโปรดฯ ให้จิตรกรเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง และทรงสร้างพระอสีติมหาสาวก 80 องค์ พระมหาเจดีย์ พระวิหารน้อย 2 หลัง ศาลาการเปรียญ กุฏิทรงไทย หอพระไตรปิฎก หอสวดมนต์ หอระฆัง สะพาน ฯลฯ แล้วโปรดให้เพิ่มสร้อยต่อท้ายนามวัดว่า
“ภิรตาราม” เป็น
“วัดเขมาภิรตาราม” และได้เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าพระกฐินยังพระอารามแห่งนี้ด้วย
เมื่อ พ.ศ. 2401 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระอินทร์แปลง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำริด ศิลปะสุโขทัย จากพระราชวังจันทรเกษม พระนครศรีอยุธยา ลงมาประดิษฐานเบื้องหน้าพระประธานในพระอุโบสถวัดเขมาฯ
นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังได้โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายพระตำหนักแดงจากวัดโมลีโลกยาราม ไปปลูกเป็นกุฏิเจ้าอาวาสวัดเขมาฯ ตำหนักแดงหลังนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงสร้างถวายเป็นที่ประทับของสมเด็จกรมพระศรีสุดารักษ์ พระพี่นางองค์น้อย ครั้นสมเด็จกรมพระศรีสุดารักษ์สิ้นพระชนม์ สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี ผู้เป็นพระธิดาได้ประทับต่อมา
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระที่นั่งมูลมณเฑียร ในพระบรมมหาราชวัง มาปลูกไว้ทางด้านเหนือของวัดเขมาฯ
ที่มา : https://mgronline.com/dhamma/detail/9590000011233