ไป ๆ มา ๆ ช่วงนี้ได้โพสท์บล็อก อาทิตย์ละ 1 ครั้งซะแล้ว ... ขอบคุณเพื่อน ๆ สำหรับข้อความน่ารัก ๆ ทิ้งไว้ให้นะคะ ช่วงนี้ตามไปเยี่ยมช้าหน่อย อย่าเพิ่งงอนกันน้อ


สองสามวันที่ผ่านมา ไปหัดทำขนมผักกาด หรือ Turnip Cake มาค่ะ มีชื่อภาษาอังกฤษ ประกอบด้วย เพราะไปอ่านวิธีทำขนมผักกาดของชาวจีนมาด้วย ประกอบกับอ่านวิธีทำแบบไทย ๆ ของเราด้วย ดูส่วนผสมและวิธีทำแล้ว เกือบจะเหมือนกัน มีต่างกันนิดหน่อย ... ของจีน เขาใส่กุนเชียงลงไปด้วย แต่ไม่ใส่ถั่ว หรือเม็ดบัว ในขณะเดียวกันของไทยเราก็มีใส่กระเทียมเจียวลงไปด้วย ... เราอยากให้ถึงรสมาก ๆ อร่อยที่ตัวขนมผักกาดเลย เลยเอาทั้งวิธีของจีนและของไทยมาผสมกันค่ะ .... มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันนะคะ













ส่วนผสม

1. หัวผักกาดขาว 900 กรัม
2. กุนเชียง 200 กรัม
3. กุ้งแห้ง 50 กรัม
4. เม็ดบัว หรือ ถั่วต้ม 1 ถ้วย
5. เห็ดหอม 40 กรัม
6. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผัดเครื่อง) + ½ ช้อนโต๊ะ (สำหรับทาพิมพ์)
7. กระเทียมสับหรือบด 2 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 6 กลีบใหญ่)
8. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
9. เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
10. พริกไทยขาวป่น ½ ช้อนชา
11. เกลือ 1 + ½ ช้อนชา
12. หอม เฉพาะส่วนใบเขียว ซอยละเอียด 3 ต้น (ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ)
13. ผักชี ซอยละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
14. แป้งข้าวเจ้า 225 กรัม
15. แป้งเท้ายายม่อม 35 กรัม (3 ช้อนโต๊ะ)
(เขาบอกแป้งเท้า สะกดด้วยสระ เ-า นะคะ)

16. น้ำเปล่า 2 ¼ ถ้วยตวง
(หรือ น้ำคั้นหัวผักกาด 1 ¼ ถ้วย + น้ำแช่เห็ดหอม ½ ถ้วย
+ น้ำแช่กุ้งแห้ง ½ ถ้วย)





วิธีการเตรียมส่วนผสม (บางอย่าง) - พอดีขยันถ่ายภาพมาค่ะ บอกละเอียดไปเลยเนาะ


1. วิธีการเตรียมหัวผักกาด - เราบอกทั้งแบบของจีนและแบบของไทยเลยนะคะ เผื่อเลือกไปใช้ เราว่าดีทั้งสองแบบค่ะ ผลออกมา ขนมก็ไม่ต่างกันมาก


ก. วิธีการเตรียมหัวผักกาดแบบจีน



ปอกเปลือกหัวผักกาด แล้วขูดเป็นเส้น ๆ จะใช้ที่ขูดขีสแบบในภาพหรือที่ขูดเส้นมะละกอก็ได้ค่ะ เสร็จแล้วก็เทน้ำต้มเดือดประมาณให้ท่วมเส้นหัวผักกาด ... ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที






แล้วก็เทใส่กระชอน รอให้เย็นลง แล้วบีบน้ำออก เอาเส้นหัวผักกาดพักไว้ในถ้วยต่างหาก ... ตวงแช่หัวผักกาดไว้ 1 ¼ ถ้วย




ข. วิธีการเตรียมหัวผักกาดแบบไทย




ขูดหัวผักกาดให้เป็นเส้น ๆ แล้วก็นำไปคั้นกับเกลือ (ตามสูตรเราใช้เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา หรือ ประมาณ 4 ช้อนชา) คั้นเส้นหัวผักกาดจนน้ำออกมามาก ๆ .. ประมาณ 2-3 นาที เสร็จแล้วก็บีบเอาเส้นหัวผักกาดขึ้นจากน้ำ นำไปล้างด้วยน้ำเปล่า ๆ อีกประมาณ 2 ครั้ง แล้วบีบขึ้นจากน้ำ พักไว้




2. วิธีการเตรียมกุ้งแห้ง



แช่กุ้งแห้งในน้ำต้มหรือน้ำร้อน ประมาณ 30 นาที - เสร็จแล้วก็บีบน้ำออก หากกุ้งตัวใหญ่ ก็หั่นเป็นลูกเต๋าชิ้นเล็ก ๆ ดังรูป ตวงน้ำแช่ไว้ประมาณ ½ ถ้วย





3. วิธีการเตรียมเห็ดหอม



แช่เห็ดหอมในน้ำต้มหรือน้ำร้อน ประมาณ 30 นาที บีบเอาน้ำออก หั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าเล็ก ๆ ดังรูป ตวงน้ำแช่ไว้ประมาณ ½ ถ้วย





4. วิธีการเตรียมน้ำสำหรับกวนแป้ง




กรณีเตรียมเส้นหัวผักกาดแบบวิธีจีน - เอาน้ำแช่หัวผักกาด + น้ำแช่กุ้ง + น้ำแช่เห็ดหอมผสมกันพักไว้ จะได้น้ำรวมกัน 2 + ¼ ถ้วยตวง - ในภาพโชว์แค่ 2 ถ้วยตวง อิอิ

กรณีเตรียมเส้นหัวผักกาดแบบไทย - ตวงน้ำเปล่า 2 + ¼ ถ้วย ไว้ใช้แทนเลยค่ะ




5. วิธีการเตรียมกุนเชียง



หั่นกุนเชียงให้เป็นลูกเต๋าชิ้นเล้ก ๆ (เราใช้กุนเชียงของชาวจีน รสชาติจะไม่ออกหวานแหลมเหมือนบ้านเรา - ซึ่งถ้าหากใช้กุนเชียงของจีนแบบนี้เขาให้เอาไปนึ่งก่อน ประมาณ 10 นาที แล้วค่อยเอามาหั่นค่ะ)





6. วิธีการเตรียมเม็ดบัว



เราใช้เม็ดบัวแห้ง นำไปต้มให้สุก แกะแยกเป็นครึ่งเม็ด จะได้ไม่ชิ้นใหญ่มาก พักไว้ ...

จะใช้ถั่วลิสง หรือทั้งสองอย่างรวมกันก็ได้ ค่ะ






วิธีการเตรียมหอม กระเทียมบด และส่วนผสมอื่น ๆ ก็คงไม่ต้องพูดถึงนะคะ ... มาดูวิธีทำกันค่ะ ง่ายมาก ๆ ... จุกจิกหน่อยก็ตรงช่วงการเตรียมส่วนผสมนี่แหละ




วิธีทำ




1. เอากะทะตั้งไฟกลางให้ร้อน ใส่น้ำมัน อุ่นให้ร้อน ใส่กระเทียมสับหรือบด ลงเจียว จนได้สีเหลืองหอม เอากุนเชียงลงผัดต่อประมาณ 1 นาที





2. ใส่กุ้งแห้งและเห็ดหอมลงผัดต่อประมาณนาทีกว่า ๆ จนได้กลิ่นหอม ๆ






3. ใส่เม็ดบัว (หรือถั่วลิสงต้ม) หัวผักกาด ผัดพอให้เข้ากัน






4. ใส่เครื่องปรุงรสต่าง ๆ คือ น้ำตาลทราย เหล้าจีน พริกไทยขาวป่น และเกลือ ผัดให้เข้ากัน






5. ใส่ใบผักชีและหอมซอย คนให้เข้ากัน ปิดไฟ พักไว้ให้เย็นลง







6. เอาแป้งข้าวเจ้าและแป้งเท้ายายม่อม ใส่อ่างผสมขนาดกลาง ค่อย ๆ รินน้ำ ที่เตรียมไว้ (แบบจีน ก็น้ำหัวผักกาด+น้ำเห็ดหอม+น้ำแช่กุ้งแห้ง แบบไทยก็น้ำเปล่า อย่างที่บอกข้างบนนะคะ) เทลงผสมทีละน้อยก่อน นวดแป้งทั้งสองให้เข้ากันดี ประมาณ 1 นาที แล้วค่อย ๆ เทน้ำที่เหลือลงผสม จะได้น้ำแป้งเหลว ๆ แบบในภาพ






7. เทน้ำแป้งลงผสมกับเครื่องผัดในกระทะ คนให้เข้ากันดี






8. เทขนมใส่พิมพ์ ที่ทาน้ำมันพืชบาง ๆ ทั่วทั้งพิมพ์ นำไปนึ่งบนลังถึงที่อุ่นน้ำต้มไว้เดือดแล้ว ... ระยะเวลาสุกก็แล้วแต่พิมพ์ที่เราใช้ และความหนาของขนมค่ะ ... เรานึ่งประมาณ 35 นาที พอขนมสุก จะสังเกตเห็นว่าขอบขนมจะแยกออกจากพิมพ์ หน้าขนมอาจจะแฉะ ๆ นิดหน่อย เพราะไอน้ำจากฝาปิดหม้อ ก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ พอขนมเย็นเนื้อขนมก็จะเฟิร์มเอง ... เอาขนมออกจากลังถึง พักไว้ให้เย็นที่อุณหภูมิห้อง แล้วแกะออกจากพิมพ์ ...


------------------------------------------



ส่วนผสมน้ำจิ้ม - ให้ 2 สูตรเลยนะคะ แบบน้ำจิ้มซีอิ๊วดำเปรี้ยว กับน้ำจิ้มพริกน้ำส้ม แบบธรรมดา







ส่วนผสมน้ำจิ้มซีอิ๊วดำ

1. ซีอิ๊วดำหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำส้มสายชูกลั่น 4 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือ ¾ ช้อนชา
6. พริกสดบด 5 เม็ด หรือตามชอบ
(ถ้าได้พริกสีส้มจะดีค่ะ ของเรามีแต่สีแดง น้ำพริกเลยสีโดดแดงเลย)


วิธีทำ

เอาส่วนผสมทั้งหมด ยกเว้นพริกสดบด ใส่หม้อซอสเล็ก ๆ นำไปตั้งไฟกลาง หมั่นคนจนน้ำตาลละลายดี ต้มต่อไปอีกประมาณ 1 นาที ลดไฟเป็นต่ำ ใส่พริกสดบดลงไป คนไปอีกซักครู่พอให้กลิ่นพริกหายเหม็นเขียว ก็ยกลง


ส่วนผสมน้ำจิ้มพริกน้ำส้ม

1. น้ำส้มสายชูกลั่น 4 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ (ชอบออกหวานหน่อย 5 ช้อนโต๊ะ)
4. เกลือ 1 ช้อนชา
5. พริกสดบด 5 เม็ด หรือตามชอบ
(ถ้าได้พริกสีส้มจะดีค่ะ ของเรามีแต่สีแดง น้ำพริกเลยสีโดดแดงเลย)


วิธีทำ

เหมือนน้ำจิ้มซีอิ๊วดำค่ะ เอาส่วนผสมทั้งหมด ยกเว้นพริกสดบด ใส่หม้อซอสเล็ก ๆ นำไปตั้งไฟกลาง หมั่นคนจนน้ำตาลละลายดี ต้มต่อไปอีกประมาณ 1 นาที ลดไฟเป็นต่ำ ใส่พริกสดบดลงไป คนไปอีกซักครู่พอให้กลิ่นพริกหายเหม็นเขียว ก็ยกลง







อยากเล่นลายใบผักชี ก็เด็ดเอาใบที่คิดว่าลายสวย ทาน้ำมันส่วนบนของใบ แล้วแปะลงบนพิมพ์ ในทิศทางที่สวนทางกับความเป็นจริง เวลาแกะพิมพ์ จะได้ด้านกลับกันน่ะค่ะ ... ** ทำก่อนเทส่วนผสมขนมลงในพิมพ์













ถ้าถามว่าเวอร์ชั่นเตรียมหัวผักกาดแบบไหนอร่อยกว่ากัน เราว่าไม่แตกต่างกันมาก ถ้าเตรียมแบบจีน เอาขนมที่สุกเข้าตู้เย็นค้างไว้ซักคืน วันรุ่งขึ้นถึงทาน รสชาติจะอร่อยขึ้นกว่าวันแรกมาก หอมด้วยค่ะ

จับหั่นแล้วนำไปทอดน้ำมันน้อย ๆ แบบไฟจี่ ๆ … แล้วจิ้มน้ำจิ้ม หรือจะหั่นทานกับน้ำจิ้มเลยก็อร่อยค่ะ … ส่วนตัวเราว่าอร่อยอยู่นะคะ … เหมือนที่เคยซื้อเขาทาน เพียงแต่แบบนี้จะทรงเครื่องกว่ามาก วันนี้ตั้งใจจะทำเวอร์ชั่นผัด สำหรับถ่ายภาพด้วย แต่มืดแล้วค่ะ ขอเป็นพรุ่งนี้นะคะ แล้วจะมาเล่าสู่ฟัง

------------------------------------------------

ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่แวะมานะคะ สุขสันต์วันหยุด แล้วจะแวะไปเยี่ยมกันค่ะ

Create Date : 02 มีนาคม 2555
Last Update : 2 มีนาคม 2555 9:58:09 น.		106 comments
Counter : 15284 Pageviews.
Share Tweet