สวัสดีค่ะเพื่อนๆ

จากการอ่านนิตยสาร Secret เมื่อเดือนที่แล้ว

พบข่าวเกี่ยวกับนิทรรศการหนึ่งที่น่าสนใจ

เลยตั้งใจไป หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ เพื่อชมนิทรรศการดังกล่าวค่ะ

ฝนตกตลอดเส้นทาง

บรรยากาศอึมครึมคล้ายวันนี้ค่ะ (31.05.13)

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

รถที่บ้านมาส่งหน้าหอศิลป์

จขบ. ลงจากรถขณะฝนยังตกอยู่

ได้เวลาเข้าชมด้านในค่ะ

อ่านป้ายแนะนำนิทรรศการต่างๆสักครู่

นิทรรศการ "ภาวนากับลายพู่กัน ศิลปะแห่งสติ"

โดย พระอาจารย์ติช นัท ฮันห์ พระมหาเถระนิกายเซน

ซึ่งท่านได้เดินทางมาจาริกธรรมในประเทศไทย

ทางหมู่บ้านพลัมจึงได้รวบรวมผลงานศิลปะของท่านนำมาจัดนิทรรศการ

นิทรรศการนี้จัดบริเวณชั้นใต้ดิน

มีวีดีโอให้ชม ตรงจุดลงทะเบียน

เจ้าหน้าที่แนะนำให้เดินชมเป็นวงกลม

วงกลมแบบเซน

มีความหมายสำคัญหลายอย่างได้แก่

1. ความว่าง

2. เปี่ยมด้วยจักรวาล

3. ที่ว่าง

4. ทุกอย่างเกี่ยวเนื่องเป็นดั่งกันและกัน

I have arrived, I am home
ฉันมาถึง ฉันมาถึงบ้านแล้วข้อความนี้เป็นเครื่องเตือนใจที่ดีมากสำหรับเราในการฝึกปฏิบัติการกลับมาถึงที่นี่และขณะนี้ เมื่อเราอยู่กับปัจจุบันขณะอย่างเต็มเปี่ยมณ ที่นี่และขณะนี้ เราจะรู้สีกว่านี่คือบ้านที่แท้จริงของเรา



ความที่นิทรรศการจัดเป็นวันสุึดท้ายและโอกาสชมงานศิลปะต้นฉบับของท่านอาจารย์คงมีไม่บ่อยนักจขบ. จึงถ่ายทุกภาพและทุกคำบรรยายเพื่อเก็บไว้ทำให้เดินไปเดินมาทั่วงานฯไม่สามารถเดินเป็นวงกลมตามคำแนะนำได้ค่ะ











Breathe, Smile, Now
หายใจ ยิ้ม เดี๋ยวนี้
การหายใจและการยิ้มเป็นเครื่องมือที่สำคัญของเราในการฝึกสติการหายใจและยิ้มอย่างมีสติ ช่วยให้เราดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะได้อย่างมีความสุข



Drink your tea
ดื่มชาเถอะการปฏิบัตินี้คือการทำทีละอย่าง ซึ่งจะช่วยให้เราสัมผัสกับสิ่งที่เราทำอยู่อย่างลึกซึ้งการดื่มชาคือเพียงแค่ดื่มชา ปล่อยความกังวลและความคิดออกไป และเพียงแค่อยู่ตรงนั้นอย่างเต็มเปี่ยมกับถ้วยชา
"ถ้วยชาในมือทั้งสอง สติถึงพร้อมอยางสมบูรณ์จิตและกายของฉันดำรงอยุ่ ณ ที่นี่และขณะนี้"







A cloud never dies
ก้อนเมฆไม่เคยตายเมื่อเงื่อนไขพร้อม ก้อนเมฆเปลี่ยนไปเป็นสายฝน หิมะ หรือลูกเห็บก้อนเมฆไม่เคยเกิด และไม่เคยตาย ปัญญารู้แจ้งของอนิมิตหรือการไร้รูปสัญลักษณ์และการเป็นดั่งกันและกัน ช่วยให้เราตระหนักรู้ว่า ทุกชีวิตดำเนินไปในรูปแบบที่แตกต่างกันไม่กลัวการเกิดและการตาย การมาและการไปอีกต่อไปเพราะว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นความคิด เราได้ค้นพบของขวัญแห่งการไร้ความกลัว











ตัวอย่างคำบรรยายภาพสองภาษา




ดอกไม้ที่จัดเน้นความเรียบง่าย








หลังจากชมนิทรรศการ "ภาวนากับลายพู่กัน ศิลปะแห่งสติ" แล้วก็เิดินชมส่วนอื่นในอาคารต่อนะคะ



ห้องสมุดศิลปะ อยู่ชั้นใต้ดินเช่นกัน







บรรยากาศเงียบสงบ เย็นสบาย น่านั่งมากค่ะ



Internet Zone



มุมอ่านหนังสือของเด็กๆ



วันนี้ไ่ม่มีผู้ปกครองพาเด็กๆมาเลยค่ะ



มุมอ่านหนังสือ ได้รับแสงจากธรรมชาติ







ห้องสมุดศิลปะ มีน้ำดื่มบริการ ด้านขวาของภาพ



ออกจากห้องสมุดฯเดินขึ้นบันไดตรงโถงบันไดมีบริการรับวาดภาพเหมือน



หนึ่งในร้านค้าภายในอาคารนอกจากร้านจำหน่ายสินค้าแล้วยังมีร้า่นกาแฟและร้านขนมด้วยค่ะ



ขึ้นบันไดต่อค่ะ ภายในอาคารโดยเฉพาะห้องแสดงนิทรรศการ จะใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติให้มากที่สุด 



ถุงกระดาษเพ้นท์ลายการ์ตูนนำมาใส่ศรีษะแล้วถ่ายภาพ ติดกำแพง



สาวน้อยต่างชาติกำลังชมภาพถ่าย



ห้องจัดนิทรรศการชั้นบน







ทางเดินโค้งเหนือห้องจัดนิทรรศการ



จขบ.ไม่ได้เดินขึ้นไปค่ะคงมีโอกาสครั้งต่อไป



ออกจากหอศิลปกรุงเทพฯ ได้เวลาอาหารยามบ่ายเดินข้ามไปมาบุญครอง เลือกร้าน MK ละกันค่ะความที่ไปคนเดียวเลยสั่งอาหารเพียงเท่านี้

เผือกทอด



บะหมี่เกี๊ยวกุ้งเป็ดย่าง




การเดินที่ หอศิลปแห่งกรุงเทพฯมหานคร ในวันนี้ ทำให้ได้พบสถานที่ใหม่เป็นทางเลือกในการพักผ่อนสำหรับตัวเองที่รู้สึกสงบ และได้ความรู้เพิ่มขึ้นค่ะ หากมีโอกาสก็ตั้งใจจะไปที่นี่อีกหลายๆครั้งเพราะมีนิทรรศการน่าสนใจจัดให้ชมตลอดปีสนใจรายละเอียด คลิกชมได้ที่ //www.bacc.or.th/ นะคะ



ขอบคุณเพื่อนๆที่เดินเที่ยวด้วยกันในวันนี้และทักทายที่บล๊อกเสมอนะคะขอบคุณคุณป้าเก๋า และคุณพีชสำหรับของแต่งบล๊อกพบกันใหม่บล๊อกหน้าค่ะ