เช้าวันรุ่งขึ้นที่ลพบุรี ที่พักที่โรงแรม วินเซอร์ รีสอร์ทสะดวกสบายทีเดียวค่ะ โรงแรมนี้แบ่งที่พักเป็นสองส่วนคือส่วนอาคารโรงแรมสามชั้นและบังกาโล จขบ. พักห้อง VIP 7 บังกาโลสีเหลืองในภาพขวา จอดรถในโรงรถแล้วขนสัมภาระได้สะดวก สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้พื้นฐาน ห้องปรับอากาศ ทีวี น้ำอุ่น ฟรี Wifi และอาหารเช้า ซึ่งต้องเดินไปอีกอาคารหนึ่ง หลักๆมีสลัดผัก ขนมปัง ข้าวต้ม ขนมจีน ข้าวสวย กับข้าวสองสามอย่าง น้ำผลไม้ ผลไม้ กาแฟและโอวัลติน
321/1 ม.8 ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี 15000 Tel. 036-411689, 036-422554, 036-422844
ช่วงสายของวันนี้ตั้งใจไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ค่ะ
ขับรถจากโรงแรมที่พักจอดบริเวณด้านข้างพิพิธภัณฑ์แล้วเดินผ่านซุ้มประตูมายังจุดชำระค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมเข้าชมชาวไทย 30 บาท
เปิด วันพุธ - อาทิตย์ เวลา 8.30 -16.30 น.
ปิด วันจันทร์ - อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์
พระนารายณ์ราชนิเวศน์
เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2209 บนพื้นที่ 41 ไร่ ณ เมืองลพบุรี เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ล่าสัตว์ ออกว่าราชการ และต้อนรับแขกเมือง พระองค์ทรงประทับ ณ พระราชวังแห่งนี้ประมาณ 8-9 เดือนในช่วงปลายรัชกาลและเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231
ภายหลังการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระนารายณ์ราชนิเวศน์ถูกทิ้งร้าง จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์โปรดให้บูรณะพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสร้างพระที่นั่งขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2399 และพระราชทานนามว่า พระนารายณ์ราชนิเวศน์
พื้นที่ทั้งหมดภายในพระราชวังแบ่งออกเป็น 3 เขตคือ
เขตพระราชฐานชั้นนอก
มีอาคารที่สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้แก่
* อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก จากบันทึกของชาวฝรั่งเศสกล่าวว่าระบบการจ่ายทดน้ำ เป็นผลงานของชาวฝรั่งเศสและอิตาลี โดยน้ำที่เก็บในถังเป็นน้ำที่ไหลมาจากอ่างซับเหล็ก โดยผ่านมาทางท่อดินเผาที่เชื่อมมาจากอ่างซับเหล็ก เพื่อนำน้ำมาใช้ภายในพระราชวัง
* หมู่ตึกพระคลังศุภรัตน์หรือหมู่ตึกสิบสองท้องพระคลัง ตั้งอยู่ระหว่างอ่างเก็บน้ำและตึกเลี้ยงต้อนรับแขกเมืองมีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนผนังประตูและหน้าต่างเจาะเป็นช่องโค้งแหลมจำนวน 12 ห้องโดยเรียงกันเป็นแถวยาว 2 แถว แถวละ 6 ห้องมีถนนตัดผ่าตรงกลางระหว่างแถว สันนิษฐานว่าใช้เป็นสถานที่เก็บทรัพย์สมบัติหรือเก็บของ
* ตึกพระเจ้าเหา สันนิษฐานว่าเป็นหอพระประจำพระราชวัง มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในตึก ซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้อาจมีชื่อว่า พระเจ้าเหา จึงเป็นที่มาของชื่อตึกแห่งนี้
* ตึกเลี้ยงต้อนรับแขกเมือง ตั้งอยู่กลางอุทยานทางตอนใต้ของหมู่ตึกพระคลังผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าลักษณะเป็นตึกชั้นเดียวก่ออิฐถือปูน ผนังเจาะเป็นช่องประตูและหน้าต่างลายโค้งแหลมล้อมรอบด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ 3 สระตรงกลางสระมีน้ำพุมากกว่า 20 จุด สมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้พระราชทานเลี้ยงแก่คณะทูตจากประเทศฝรั่งเศส ณ สถานที่นี้ใน พ.ศ. 2228 และ พ.ศ. 2230
* โรงช้างหลวง มีทั้งหมด 10 โรงด้วยกันและช้างที่ยืนโรงอยู่คงเป็นช้างทรงของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชหรือเจ้านาย
เขตพระราชฐานชั้นกลาง
มีพระที่นั่งที่สร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช 2 องค์ และสร้างในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้แก่
พระที่นั่งจันทรพิศาล
พระที่นั่งจันทรพิศาลตามบันทึกของชาวฝรั่งเศสกล่าวว่า เป็นหอประชุมองคมนตรีสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2401 โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นใหม่บริเวณที่เดิมเป็นพระที่นั่งสถาปัตยกรรมแบบไทยแท้ใช้เป็นท้องพระโรง ด้านหน้ามีมุขเด็จสำหรับออกให้ข้าราชการเฝ้า ภายในแบ่งเป็นท้องพระโรงหน้าด้านทิศตะวันออกและท้องพระโรงด้านทิศตะวันตกกั้นด้วยประตูซึ่งกั้นระหว่างเขตพระราชฐานชั้นกลางและเขตพระราชฐานชั้นในซึ่งในส่วนท้องพระโรงหลังมีบันไดเข้าออก 4 ช่องทางนอกจากนั้นยังมีทางเชื่อมต่อกับพระที่นั่งพิมาน มงกุฏ
หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฏ
หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ ประกอบไปด้วยอาคารทั้งหมด 4 หลังโดยด้านหน้าสูง 2 ชั้นด้านหลังมีความสูง 3 ชั้นส่วนหน้าตรงกลางเป็นบันไดขนาดใหญ่ขนาบด้วยมุขซึ่งยื่นออกมาทั้งด้านซ้ายและด้านขวาหลังคาเป็นโครงสร้างไม้ทรงปั้นหยายกจั่วสูงชายคาสั้นกุดมุงด้วยกระเบื้องกาบกล้วยทับแนวด้วยปูนปั้นแบบจีนผนังเจาะช่องหน้าต่างระหว่างเสาและมีทุกชั้น
ส่วนที่ 3 เขตพระราชฐานใน
มีพระที่นั่งที่สร้างขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและมีอาคารที่สร้างขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังต่อไปนี้
*พระที่นั่งสุทธาสวรรย์ เป็นพระที่นั่งในเขตพระราชฐานชั้นในเป็นพระที่นั่งสองชั้นก่ออิฐถือปูนมุงหลังคากระเบื้องเคลือบแบบจีน เป็นพระที่นั่งที่ประทับของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระองค์เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งองค์นี้เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2231 โดยทางพิพิธภัณฑ์ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบนฐานของพระที่นั่งองค์นี้
*หมู่ตึกพระประเทียบ ตั้งอยู่หลังพระที่นั่งพิมานมงกุฎเป็นตึกชั้นเดียว 2 หลัง ก่อด้วยอิฐปูน 2 ชั้น มี 8 หลัง สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักของข้าราชการฝ่ายใน สร้างขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เดินอ้อมหลังพระที่นั่งพิมานมงกุฏ อาคารขวาภาพล่างคือด้านหลังของพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท
ขวามือเป็นสวนและโอสถศาลา
บริเวณกำแพงใกล้ๆโอสถศาลาพบชิ้นส่วนของท่อดินเผาที่กล่าวถึงข้างต้น จากบันทึกของชาวฝรั่งเศสที่ว่าระบบการจ่ายทดน้ำเป็นผลงานของชาวฝรั่งเศสและอิตาลี โดยน้ำที่เก็บในถังเป็นน้ำที่ไหลมาจากอ่างซับเหล็ก โดยผ่านมาทางท่อดินเผาที่เชื่อมมาจากอ่างซับเหล็ก เพื่อนำน้ำมาใช้ภายในพระราชวัง
ด้านหลังพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท
ผนังด้านนอกพระที่นั่งตรงมณฑปชั้นล่าง เจาะเป็นช่องเล็กๆ รูปโค้งแหลมคล้ายบัว สำหรับตั้งตะเกียงในเวลากลางคืน เช่นเดียวกับที่ซุ้มประตูและกำแพงพระราชฐานชั้นกลางและชั้นใน ซึ่งมีช่องสำหรับวางตะเกียง ประมาณ 2,000 ช่อง
พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ ธัญญมหาปราสาท
พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาทสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อปี พ.ศ. 2209 เป็นพระที่นั่งท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกรับคณะราชทูตในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มียอดแหลมทรงมณฑป ศิลปกรรมแบบไทยผสมผสานกับฝรั่งเศส ประตูและหน้าต่างท้องพระโรงด้านหน้าทำเป็นรูปโค้งแหลมแบบฝรั่งเศส ส่วนตัวมณฑปด้านหลังทำประตูหน้าและหน้าต่างเป็นซุ้มเรือนแก้วฐานสิงห์แบบไทย ตรงกลางท้องพระโรงมีสีหบัญชร เป็นที่เสด็จออกเพื่อมีปฏิสันถารกับผู้เข้าเฝ้าในท้องพระโรงตอนหน้า
ผนังภายในท้องพระโรงประดับด้วยกระจกเงา ซึ่งโปรดให้คนไปจัดซื้อมาจากประเทศฝรั่งเศส ดาวเพดานเป็นช่องสี่เหลี่ยมประดับลายดอกไม้ทองคำและแก้วผลึก
หลวงศรีมโหสถ กวีเอกในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้พรรณนาความงดงามของพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท ไว้ว่า
ดุสิตปราสาทสร้อย สมพุทธ
สูงเทริธารมารุต ช่อชั้น
พรหมพักตร์ฉัตรเฉลิมสุด เสาวภาคย์
นาคพะพานพลดหลั้น เลียบเลื้อยลงมา
เครดิต https://oknation.nationtv.tv/blog/surasakc/2007/10/04/entry-1
บริเวณท้องพระโรงนี้ เมื่อ 20 มีนาคม 61 ทีมงานละครบุพเพสันนิวาส นำโดยคุณหน่อง อรุโณชา ผู้จัดละคร คุณใหม่ ภวัต ผู้กำกับ ขุนศรีวิสารวาจา หรือ โป๊ป ธนวรรธน์ ปั้นจั่น ปรมะ ไอ้จ้อย หรือ น้องโมสต์ วิศรุต และนักแสดงในเรื่องที่แสดงเป็นบุคคลที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ปราบต์ ปฎล รับบทเป็น ขุนหลวงนารายณ์ หนู สุรศักดิ์ รับบทเป็นพระยาโกษาเหล็ก บิ๊ก ศรุต รับบท พระเพทราชา เดินทางมาร่วมบวงสรวงและสักการะสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคล
เครดิต https://www.khaosod.co.th
ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส สร้างปรากฏการณ์และความสุขให้คนจำนวนมาก บรรยากาศในภาพข่าวแตกต่างจากวันที่ไปโดยสิ้นเชิงค่ะ วันนั้นมีเพียงนักศึกษาสวมชุดครุยมาถ่ายภาพ
และน้องผู้หญิงแต่งชุดไทยเพียงคนเดียวค่ะ
จากพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท ผ่านพระที่นั่งพิมานมงกุฎที่เข้าชมก่อนหน้าแล้วเพื่อเข้าชมภายในพระที่นั่งจันทรพิศาล
ออกจากพระที่นั่งจันทรพิศาลเป็นทางเดินตรงไปยังซุ้มประตูเข้า-ออกหลัก
บรรยากาศภายในพระที่นั่งพิมานมงกุฏพระที่นั่งจันทรพิศาลและอาคารอื่นในพิพิธภัณฑ์จะบันทึกในตอนต่อๆไปค่ะ
ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะมานะคะ ขอบคุณคุณป้าเก๋าและคุณมาเรีย ณ ไกลบ้าน สำหรับของแต่งบล็อกค่ะ
|
ผมไปมาแต่เก็บภาพมาน้อยมากครับ ก็ร้อนๆ บล็อกหน้าอัพบล็อกขอข้อมูลคุณต๋าไปประกอบนะครับ
พักที่เดียวกันเลยครับ กลางคืนได้ยินเสียงรถไฟด้วย
อาหารเช้าก็บริการถึงที่เลย