|
รูป หรือสสาร คือ อะไร(จบ) |
|
กล่าวโดยสรุป ในเรื่องสสาร พระพุทธศาสนาแสดงว่ามีสสารขั้นมูลฐาน ๔ ชนิด ที่เรียกว่า "มหาภูตรูป" ซึ่งมีลักษณะเป็นพลังคือภาวะแข็ง ภาวะดึงดูดหรือยึดเกาะ ภาวะร้อน ภาวะไหวหรือเคลื่อน (ปฐวี อาโป เตโช วาโย) สสาร หรือ พลังสสารดังกล่าวนี้ มีอยู่อย่างเคลื่อนไหวตลอดเวลาโดยมีการเคลื่อนไหวเป็น ๔ จังหวะ คือ อุปจยะ สันตติ ชรตา อนิจจตา ซึ่งจังหวะทั้ง ๔ นี้ รวมเรียกว่า ขณะหนึ่ง สสาระจึงมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วมาก แต่ยังช้ากว่าการเคลื่อนไหวของจิต ๑๗ เท่า
สสารเหล่านี้ โดยตัวมันเองเป็นกลาง คือ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ไม่มีคุณภาพใดๆ แต่เมื่อรวมกันแล้วก็ก่อให้เกิดคุณสมบัติต่างๆ ดังกล่าวนี้ขึ้นมาพร้อมๆ กันในตัวสสารนั้นๆ สสารเหล่านี้มีอยู่อย่างแยกกันไม่ได้ เพราะต่างอาศัยซึ่งกันและกัน และผลของการรวมตัวกันของสสารเหล่านี้นั่นเอง ที่ก่อให้เกิดเป็นก้อนสสารขึ้น โดยก้อนสสารในขั้นแรกสุดนั้นมีขนาดเล็กมากจนไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาธรรมดา เห็นได้ด้วยตาทิพย์หรือด้วยญาณเท่านั้น
ก้อนสสารขั้นแรกสุดนี้ เรียกว่า กลาปะ หรือ ปรมาณู สสารเหล่านี้ แม้จะรวมตัวเป็นก้อนสสาร หรือ ก้อนวัตถุ แต่ก็ไม่ติดกันเป็นอันเดียว หรือชิ้นเดียว แต่มีช่องว่างระหว่างธาตุแต่ละอย่างอยู่เสมอ ช่องว่างดังกล่าว เรียกว่า อากาสธาตุ หรือ ปริจเฉทรูป และธาตุ หรือ สสารแต่ละอย่างนั้น เมื่อรวมกันเป็นก้อนสสาร หรือก้อนวัตถุแล้ว ก้อนวัตถุนั้นอาจจะเปลี่ยนสภาพเป็นต่างๆได้ เช่น เหล็ก อาจเป็นแท่งเหล็กธรรมดา หรือ เผาไหม้เป็นเหล็กร้อน หรือ เผาจนละลายกลายเป็นของเหลว
แต่ธาตุแต่ละธาตุที่รวมตัวกันเป็นท่อนเหล็กนั้น จะไม่เปลี่ยนลักษณะหรือภาวะของตนเอง ยังคงรักษาลักษณะหรือภาวะของตนเองอยู่เสมอ คือ ปฐวี คงเป็นปฐวีเหมือนเดิม อาโป คงเป็นอาโปตามเดิม เป็นต้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว พระพุทธศาสนาจึงแสดงว่าธาตุเหล่านี้ มีอยู่จริง เพราะคงภาวะ หรือ ลักษณะพื้นฐานของตนเองไว้เสมอ (ภูตานิ วิชฺชมานตตา)
Create Date : 20 พฤษภาคม 2565 |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2565 8:09:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 144 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|