|
รูป หรือสสาร คือ อะไร(ต่อ) |
|
ธาตุหรือสสารทั้ง ๔ ชนิดมีอยู่อย่างไร ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค อธิบายว่าธาตุ ๔ ต่างอาศัยซึ่งกันและกัน ดังนี้
ปฐวีธาตุ มีอยู่โดยอาโปธาตุช่วยยึดไว้ เตโชธาตุช่วยรักษาสภาพไว้ วาโยธาตุช่วยพยุงหรือช่วยให้คงรูปทรง
อาโปธาตุ อาศัยปฐวีธาตุ เตโชธาตุช่วยรักษาไว้ วาโยธาตุช่วยพยุงไว้
เตโชธาตุ อาศัยปฐวีธาตุ อาโปธาตุช่วยยึดไว้ วาโยธาตุช่วยพยุงไว้
วาโยธาตุ อาศัยปฐวีธาตุ อาโปธาตุช่วยยึดไว้ เตโชธาตุช่วยทำให้อุ่น (มีอุณหภูมิ) (วิสุทธิ.ทุติย.194)
จากคำอธิบายเรื่องธาตุ ๔ ดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นว่า ปฐวีธาตุเป็นธาตุหลัก เพราะเป็นที่อาศัยของธาตุอื่นๆ สภาพของความมีอยู่ของธาตุ ๔ ดังกล่าวนี้ จึงอาจเทียบได้กับโครงสร้างของอะตอมในวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน นั้นคือปฐวีธาตุมีสภาพคล้ายกับ nucleus ของ atom โดยมีอนุภาค คือ ธาตุอีก ๓ ธาตุเคลื่อนไหวหรือวิ่งวนอยู่โดยรอบนั่นเอง
จากการรวมตัวกันของธาตุ ๔ นี้เอง จึงก่อให้เกิดก้อนสสารขั้นต้นที่เรียกว่า กลาปะ ขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นก้อนสสารที่เล็กที่สุดจนมองไม่เห็นด้วยตาธรรมดา ก้อนสสารที่เล็กที่สุดนี้บางที่พระพุทธศาสนาเรียกว่า ปรมาณู เล็กมากจนต้องเทียบด้วยอากาศ (อากาสโกฎฐาสิโก) ซึ่งมีความหมายว่า เหมือนกับไม่มีนั่นเอง (อากาส = อวกาศ) ปรมาณูจึงเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาธรรมดา (มังสจักขุ) เห็นได้ด้วยตาทิพย์เท่านั้น (อภิ.แปล.78/377) ดังที่คัมภีร์สัมโมหวิโนทนีอธิบายไว้ว่า "ปรมาณู นาม อากาสโกฏฺฐาสิโก มํสจกฺขุสฺส อาปถํ นาคจฺฉติ ทิพฺพจกฺขุสฺเสว อาคจฺฉติ" ในคัมภีร์เดียวกันได้ให้มาตราวัดเพื่อแสดงขนาดของปรมาณู ไว้ดังนี้
36 ปรมาณู = 1 อนู 36 อนู = 1 ตัชชารี (เกิดจากอนูนั้น) 36 ตัชชารี = 1 รถเรณู (ฝุ่นที่เกิดจากรถวิ่ง) 36 รถเรณู = 1 สิกขา (ไข่เหา) 7 สิกขา = 1 โอกา (ตัวเหา) 7 โอกา = 1 ธัญญมาส (เม็ดข้าวเปลือก) ฯลฯ (อภิ.แปล 78/378)
เพราะฉะนั้น จึงกล่าวได้อย่างไม่ผิดว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นคนแรกที่เสนอทฤษฎีปรมาณูแก่โลก รวมทั้งเรื่องพลังงานอันเป็นสถานะแรกสุดของสสารด้วย
Create Date : 19 พฤษภาคม 2565 |
Last Update : 20 พฤษภาคม 2565 8:14:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 141 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|