ตั้งแต่โลกเราต้องเผชิญกับสถานการณ์ Covid-19 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไล่ดูหนังที่เกี่ยวกับโลกระบาดมาหลายเรื่องตั้งแต่ Outbreak (1995) และ Contagion (2011) จนมีความรู้สึกแบบว่า
''มันเริ่มจะเบื่อ เริ่มจะเอียนหนังแนวนี้ซะเเล้ว''
คือแค่เจอในชีวิตจริงก็เซ็งแย่เเล้ว มาเจอเรื่องแบบนี้ในหนังอีก
แต่นึกขึ้นได้ว่าเคยพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนคนหนึ่งเกี่ยวกับหนังเรื่อง Perfect Sense (2011) (ตั้งแต่ยังไม่มีสถานการณ์โรคระบาด) ตอนนั้นเราพูดถึงหนังเรื่องนี้ก็เพราะว่า Eva Green เเสดง แต่ก็ทราบดีว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีเรื่องเลยล่ะ
หนังเรื่องนี้เล่าถึงความรักของ 'เชฟหนุ่ม' กับ 'สาวนักระบาดวิทยา' ในวันที่โรคระบาดเริ่มเข้าคุกคามโลก
ซึ่งโรคระบาดชนิดนี้มันค่อยๆ ทำลายประสาทการรับกลิ่น การรับรส ไปจนถึงการได้ยิน และการทำให้คลั่งขาดสติไปเลย ซึ่งมันจะค่อยๆรุนแรงขึ้นมาตามลำดับ
ตอนแรกมนุษย์จะค่อยๆ ปรับตัว แบบ New Normal ถ้าเริ่มสูญเสียการรับรส ก็ทำอาหารรสจัดไปซะ เริ่มมีการป้องกันตัว แต่ถึงจุดๆหนึ่งมันก็เกินจะควบคุม
และยิ่งหนังเล่าในมุมมองของ 'คนสองคน' ที่กำลังพัฒนาความสัมพันธ์กันแล้วยิ่งหดหู่ ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดกับพวกเขาเลย
''วันหนึ่งเพื่อน นายจะมีความรัก และนายจะเป็นทุกข์''
ตัวหนังเมื่อเล่าในช่วงเวลาที่โรคระบาดหนักๆ แบบนี้ โทนมันเลยออกไปทางหดหู่สักหน่อย มีการใช้โทนภาพเข้มๆ เสมือนบนฟ้ามีเมฆฝนตลอดเวลา
หนังยังได้การแสดงของ Ewan McGregor กับ Eva Green ที่แสดงได้ดีเลยนะ เคมีก็เข้ากันดีด้วย
แถมงานด้านงานภาพ การเลือกโลเคชั่น ไปจนถึงดนตรีประกอบก็ทำได้ดีมากๆ องค์ประกอบเหล่านี้ลงตัวเสียเหลือเกิน
และสุดท้ายอย่างที่บอกครับ ไม่ว่าหนังจะเน้นดราม่า จะเล่าถึงเรื่องของโรคระบาด มีสถานการณ์อันน่าหดหู่ แต่ตัวหนังจริงๆ ''มันคือหนังโรแมนติก!!!''
ที่ข้ามเวลาให้คนดูในสถานการณ์นี้ได้รับชม มันเป็นอะไรที่เหมาะกับตอนนี้จริงๆ แม้ส่วนตัวจะแอบเบื่อกับหนังแนวโรคระบาด แต่หนังเรื่องนี้เป็นหนังโรคระบาดที่แตกต่างจากเรื่องอื่นตรงที่เล่าจากมุมมองของตัวละครหลักไม่กี่ตัวเเถมยังเน้นไปที่เรื่องของความรัก
เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งเลยครับ แต่ขอเตือนนิดนึงนะว่า หนังเรื่องนี้เรท 18+ นะ มีฉากรุนแรง หดหู่ และโป๊เปลือยบ้างเหมือนกัน
คะแนนความชอบส่วนตัว 7.5/10
ดูหน้าหนังไม่น่าเป็น 18+ ได้เลยจ้า