Inside Out 2 (2024) มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง 2
''บางครั้งบางคราว เธอก็ทำพลาด และบางครั้ง เธอก็ตำหนิตัวเองเกินไป แต่ทุกสิ่งที่เธอเป็นก็ทำให้เธอเป็นเธอ และเรารักทั้งหมดที่เธอเป็น''
หลังจากภาคแรกที่เข้าฉายเมื่อเก้าปีก่อน ภาคนี้ 'ไรลีย์' ก็เริ่มเติบโตขึ้นไปอีกวัย โดยใจความหลักของภาคนี้จะเล่าถึง ''การเติบโต'' ที่จะเริ่มมาพร้อมความคาดหวัง ความกดดัน ไปจนถึงความผิดพลาด ทำให้ภาคนี้ไรลีย์ก็จะมีตัวละครที่เป็นอารมณ์เพิ่มขึ้นจากภาคที่แล้ว หลักๆ ก็คือ 'ว้าวุ่น' และ 'เขินอาย'
ในเมื่อเติบโตขึ้น ภายในจิตใจมีอารมณ์ต่างๆ มากขึ้น เป็นธรรมดาที่ตัวไรลีย์ก็เริ่มมีความสับสนในตัวเองมากขึ้น นำไปสู่เรื่องราวแสนอลเวง ภายในจิตใจของไรลีย์ ที่ทำให้ตัวเธอต้องก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านี้ไปให้ได้
โดยในหนังเลือกเอาเหตุการณ์ตอนไรลีย์กำลังคัดตัวเพื่อเข้าทีมฮ็อกกี้มาเล่า คือช่วงนี้ถ้าดูผ่านๆ ก็เหมือนเหตุการณ์ทั่วไปของคนเรา แต่ถ้าดูในรายละเอียดเข้าไป มันก็เหมือนช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิตเลยนะ บางทีมันก็เป็นช่วงเวลาสำคัญของวัยนั้นได้เลย การได้คัดเลือกเข้าทีมกีฬาโปรด การที่กำลังจะได้ไปเจอเพื่อนใหม่ การที่กำลังสูญเสียเพื่อนเก่า การเรียนรู้ ความกดดันต่างๆ การที่ไม่อยากให้ตัวเองต้องผิดพลาด วันที่ต้องการ ''การยอมรับ'' ถ้าเราย้อนไปดูตัวเองในวัยสิบสามขวบ เรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ บางทีมันอาจเป็นโลกทั้งใบของเราในช่วงวัยนั้นเลย
ทำให้ช่วงเวลานี้ 'ว้าวุ่น' จะเป็นตัวละครที่ต้องทำงานหนักที่สุด เพื่อจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็น แต่บางทีความว้าวุ่นจำนวนมากๆ ในจิตใจ ก็ทำให้สับสนในตนเองเหมือนกัน
''ในวันนั้นฉันจะดีพอไหม เพื่อนของฉันจะรู้สึกอย่างไร''
เด็กวัยนั้นจะมีความสับสนวุ่นวายในเรื่องแบบนี้เข้ามา เอาจริงๆ มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญเลยนะ เพราะว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงส่งผลไปถึง ''บุคลิก'' ในระยะยาวของคนนั้นๆ ได้เลย
ถือเป็นแอนิเมชั่นแนว Coming of age ที่มีประเด็นสื่อสารเรื่องราวเหล่านี้ออกมาได้ดี ตามสไตล์ Pixar เลยครับ
สิ่งที่ชอบอีกอย่างก็คืองานภาพ ดนตรีประกอบของเรื่อง โดยเฉพาะธีมหลัก ที่ฟังแล้วดูเหงาๆ เศร้าๆ ดี
แต่การเล่าเรื่องส่วนตัวยังคิดว่าช่วงต้นๆ ถึงกลางเรื่อง ยังดูหนืดๆ ไปหน่อย คือยังไม่ใหม่ ไม่ตื่นเต้นเท่าที่ควร แต่ยังดีที่แอนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่ยาวมาก และกลับมาได้ในตอนท้ายเรื่อง
"ส่วนตัวชอบดูซีนที่มีฉากความทรงจำต่างๆ ไม่ว่าทั้งดีหรือไม่ดี ความทรงจำเหล่านั้นมันสำคัญนะ เพราะมันทำให้เราเป็นเราได้แบบทุกวันนี้"
ถ้าดูภาคแรกแล้วชอบ ภาคนี้ก็ยังคิดว่าไม่ควรพลาด
คะแนนความชอบส่วนตัว 8/10