พฤษภาคม 2563

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Schindler's List (1993) : ผมน่าจะช่วยชีวิตพวกเขาได้มากกว่านี้


 

การฆาตกรรมคนยิวกว่า 6 ล้านคนในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมที่โหดร้ายที่สุดในโลก เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ทศวรรษ ชาวยิวรวมถึงชาวโลกก็ยังคงไม่ลืมการกระทำอันป่าเถื่อนของมนุษย์ต่อมนุษย์เหตุการณ์นี้
 

หนังเรื่อง Schindler's List (1993) คือหนังที่เล่าจากเหตุการณ์จริง โดย Steven Spielberg ผู้กำกับที่มีเชื้อสายยิว ซึ่งเป็นเชื้อสายที่เคยประสบกับโศกนาฏกรรมครั้งนี้โดยตรง
 

แต่ด้วยการที่บรรพบุรุษของเขาย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่แผ่นดินอเมริกาตั้งแต่เขายังไม่ลืมตาดูโลก และการได้ย้ายที่อยู่บ่อยๆในช่วงวัยเด็ก ทำให้ในละแวกบ้านของเขาแทบไม่มีเพื่อนชาวยิวเลย กล่าวก็คือตัวตนของเขาเริ่มห่างไกลกับคำว่า 'ยิว' ไปทุกที
 

แต่ความเป็นยิวของเขาทำให้เขาแปลกแยกกับคนละแวกนั้น รวมถึงเพื่อนในโรงเรียนต่างๆ ทำให้เขามักจะถูกแกล้ง และเหตุผลนี้ทำให้เขามักจะทำนั้นแนวที่หลบหนีจากอะไรบางอย่างด้วย ศัตรูเป็นตัวอะไรที่น่ากลัวกว่า ไล่มาตั้งแต่รถบรรทุก ฉลาม ไดโนเสาร์ หรือแม้แต่นาซีในอินเดียน่า โจนส์
 

แต่สุดท้ายภายในเขาคือชาวยิว และมันต้องเป็นชาวยิวแท้ๆ ที่จะถ่ายท้องเหตุการณ์อันโหดร้ายแบบในหนัง Schindler's List ได้อย่างชัดเจน แม้ในตอนเเรกเขาจะปฏิเสธไม่ยอมทำหนังเรื่องนี้และพยายามจะผลักดันให้ผู้กำกับมือดีคนอื่นมาทำแทน
 

แต่ในที่สุดเขาก็ยอมลงมือกำกับหนังเรื่องนี้เอง และมันก็เป็นหนังเรื่องแรกๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าผู้กำกับคนนี้ไม่ใช่แค่ผู้กำกับหนังเน้นเอาบันเทิง แต่เป็นผู้กำกับที่เล่าเรื่องหนักๆผ่านมุมมองของความโหดร้ายได้เหมือนกัน
 

หนังเปิดเรื่องโดยการให้แสงไฟจากเทียนค่อยๆดับลง ความโหดร้ายและความสิ้นหวังค่อยๆ มาเยือน และความหลากสีของเรื่องถูกย้อมไปด้วยสีขาวดำ หนังเดินเรื่องด้วยภาพขาวดำเพื่อปกปิดความโหดร้าย ที่สื่อให้เห็นแบบจะแจ้ง และปกปิดสีของดอกไม้ สีของพื้นหลังที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ในเรื่องราวอันแสนหดหู่เช่นนี้
 

ตลอดสามชั่วโมงกว่าๆ เราจึงต้องอยู่กับสีขาวดำ แต่ก็มีเด็กหญิงสวมชุดแดงโผล่เข้ามา เด็กคนนั้นวิ่งออกมาท่ามกลางเหตุการณ์อันโหดร้าย ชาวยิวถูกฆ่า ถูกใช้เป็นเเรงงาน ถูกไล่ต้อนให้จนมุม แต่เด็กคนในชุดสีแดงคนนี้เป็นสีเเห่งความหวังที่วิ่งมาโดยไม่มีใครสนใจ
 

มันก็เหมือนกับสื่อให้เราคือผู้นำของประเทศต่างๆในยุคนั้น พวกเขารู้ว่าเกิดเหตุการณ์ร้าย รู้ว่าชาวยิวที่จับ ถูกใช้งาน และถูกฆ่าอย่างทารุณ แต่จะมีใครบ้างที่คิดทำอะไรจริงๆจังๆ เพื่อหยุดเหตุการณ์เหล่านี้เลย
 

ภาพของหนังจึงเต็มไปด้วยเหตุการณ์หดหู่ๆ ที่ทำร้ายเรามาตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ตลอดสามชั่วโมงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด หดหู่ และเครียด เป็นหนังที่ดีแต่ถ้าจะให้หยิบมาดูบ่อยๆก็คงไม่ไหว เพราะมันโหดร้ายกับจิตใจเกินไป
 

''ชีวิตแม้มันจะสั้น แต่มันก็คือชีวิต''
 

คะแนนความชอบส่วนตัว 9/10




Create Date : 24 พฤษภาคม 2563
Last Update : 24 พฤษภาคม 2563 18:05:07 น.
Counter : 1226 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไมเคิล คอร์เลโอเน
Location :
กำแพงเพชร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



สวัสดีชาวบล็อคทุกคนนะครับ

''ชีวิตก็เหมือนกับกล่องช็อตโกแล็ต เราไม่รู้ว่าเปิดจะเจออะไร''