Kingdom of Heaven (2005) มหาศึกกู้แผ่นดิน
''A King may move a man, a father may claim a son, but remember that even when those who move you be Kings, or men of power, your soul is in your keeping alone.''
เคยมีหนังสงครามที่เข้าฉายเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เป็นหนังที่คำวิจารณ์แตกออกเป็นสองกลุ่มคือ กลุ่มที่ชอบ และไม่ชอบ บางคนว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดี เล่าถึงประวัติศาสตร์สงครามครูเสดได้ดี ชี้ให้เห็นถึงมุมมองทางศาสนาหลายมุมมอง แต่อีกกลุ่มก็ว่าตัวหนังมันยังขาดในด้านความบันเทิง ส่วนที่สนุกที่บันเทิงก็มีแต่ยังไม่ถึง
แต่ก่อนผมก็เคยอยู่ในกลุ่มแรก คือตอนนั้นเพิ่งผ่านหนังแนวนี้มาทั้ง Braveheart, Gladiator, Troy อาจจะรวมถึงหนังที่ผสมความแฟนตาซีเข้าไปหน่อยอย่าง The Lord of the Rings
ทำให้เมื่อดู Kingdom of Heaven จบ ตอนนั้นจึงจัดหนังเรื่องนี้ไว้ในอันดับท้ายๆ ของหนังแนวนี้เลย
แต่ด้วยองค์ความรู้ที่เพิ่มมากขึ้น ไปพร้อมๆ กับอายุที่มากขึ้น การกลับมาดูหนังเรื่องนี้แล้ว รู้สึกชอบมากยิ่งขึ้น แน่นอนกว่าอาจจะยังไม่เท่าสี่เรื่องแรกที่กล่าวมา แต่ก็ขยับช่องว่างของความชอบเข้าไปใกล้อีกเรื่อยๆ
สิ่งที่ชอบในหนังเรื่องนี้ก็คือแง่คิดแง่มุมต่างๆ ที่สื่อออกมาผ่านบทสนทนา งานภาพที่สวยอย่าบอกใคร งานดนตรีก็ยังถือว่าใช้ได้ แถมนักแสดงก็ขนมาทั้ง Orlando Bloom, Jeremy Irons, Liam Neeson และ Eva Green (คนนี้ขโมยซีนได้ทุกซีน)
ส่วนหนังกำกับโดย Ridley Scott คนนี้เชื่อว่าคอหนังหลายๆ คนรู้มือดีอยู่แล้ว (จริงๆ มีฉบับ Director's Cut ตามออกมาอีกทีหลังด้วยนะ)
โดยรวมหนังถือว่าเดินเรื่องน่าติดตาม บทสนทนาคมคาย งานภาพสวยมาก ถ้าชอบหนังแนวประวัติศาสตร์สงคราม อยากให้ลองพิจารณาหนังเรื่องนี้ไว้ แม้ความบันเทิงอาจจะยังไม่เต็มขั้นเมื่อเทียบหนังขึ้นหิ้งในแนวเดียวกัน หรืออาจจะต้องมีพื้นฐานด้านสงครามครูเสดมาบ้าง แต่เชื่อว่าก็ไม่น่าพลาดครับ
คะแนนความชอบส่วนตัว 8/10