Oppenheimer (2023) ออพเพนไฮเมอร์
''เราทำมันไปแล้ว....''
ถ้าพูดถึงด้านตัวเนื้อหาของหนัง จะเป็นเรื่องราวอัตชีวประวัติของ 'เจ. โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์' บิดาแห่งอาวุธนิวเคลียร์ ตั้งแต่ช่วงก่อนจะคิดค้นระเบิดนิวเคลียร์ที่เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล ช่วงผลกระทบชีวิตและจริงใจของเขาหลังการระเบิด จนถึงช่วงที่เขาต้องขึ้นศาลเพราะเขาได้เปลี่ยนแปลงจุดยืนเรื่องปรมาณู
ทฤษฎีก็พาคุณมาได้แค่นี้ .....
ตัวหนังค่อนข้างจะเข้มข้น คือตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ แม้หนังจะไม่มีฉากแอ็คชั่น ฉากตื่นตา เต็มไปด้วยบทสนทนามากมาย แต่บทสนทนานั่นล่ะครับ เปรียบเสมือนฉากแอ็คชั่นของเรื่อง ที่จะค่อยๆ ไต่ระดับความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงช่วงท้ายของเรื่องที่แทบจะละสายตาจากไม่ได้จริงๆ
ต้องชมการเล่าเรื่องของ Christopher Nolan และดนตรีประกอบโดย Ludwig Göransson แม้จะไม่ได้มีดนตรีที่ติดหูแบบของ Hans Zimmer ที่ Nolan มักจะเรียกใช้ในเรื่องก่อนๆ แต่จะช่วยเสริมความระทึกให้ตัวหนังเป็นอย่างดี แบบช่วงฉากตื่นเต้นๆ ดนตรีของแกจะเสริมความเร้าใจได้ดีจริงๆ
อีกอย่างที่เป็นจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ก็คือ กองทัพนักแสดงที่ขนมาแบบมากหน้าหลายตา ทั้งบทเยอะบ้าง น้อยบ้าง แต่มาเยอะจริงๆ เอาแค่หลักๆ ก็มี Cillian Murphy, Emily Blunt, Robert Downey Jr. , Josh Hartnett, Florence Pugh, Matt Damon, Dane DeHaan, Rami Malek, Casey Affleck, Jason Clarke และอีกมากมาย คือ Cast ได้อลังกาลมาก เพิ่มสีสันให้ตัวหนังเป็นอย่างดีเลย เรื่องการแสดงไม่มีอะไรต้องห่วงแน่นอน
แถมหนังยังมีบทสนทนาคมๆ แทรกมาในหนังเรื่อยๆ อีกด้วย
แม้ส่วนตัวจะคิดว่าตัวหนังไม่ได้ดูง่ายนักและไม่ได้ยากเกินไป แม้ตอนดูจะรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ตัวหนังสนุกมาก ตัวหนังเอาอยู่จริงๆ ต่อให้ความยาวของหนังจะถึงสามชั่วโมง แต่ก็ทำให้โฟกัสอยู่กับหนังตั้งแต่ต้นจนจบได้ ต้องยกนิ้วให้เลย
เป็นหนังอีกเรื่องของ Christopher Nolan ที่ไม่อยากให้พลาด เเละควรค่าแก่การเก็บไว้ใน Collection อีกเรื่องเลยครับ
คะแนนความชอบส่วนตัว 8/10