Furiosa: A Mad Max Saga (2024) ฟูริโอซ่า มหากาพย์แมดแม็กซ์
ถ้าเทียบ Mad Max ยุคหลัง ระหว่างภาค Fury Road กับฉบับนี้ ขอบอกว่าแม้จะเป็นหนังจากแฟรนไชส์เดียว แต่แนวทางการเล่าเรื่องไปคนละแบบเลย
ภาค Fury Road จะเน้นที่แอ็คชั่น โชว์สตั๊นท์แบบ Nonstop คอหนังแอ็คชั่นน่าส่วนใหญ่จะชอบภาคนั้นมากๆ
แต่ Furiosa: A Mad Max Saga จะเป็นการเล่าเรื่องความแค้นของ 'ฟูริโอซ่า' (หนึ่งในตัวละครจากภาค Fury Road)
โดยเล่าย้อนไปตั้งแต่ 'ฟูริโอซ่า' ยังเป็นเด็ก อาศัยอยู่ที่ดินแดนกรีนเพลสอันอุดมสมบูรณ์ แต่วันหนึ่ง 'เดเมนตัส' ผู้ค้นหาดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ มาบุกเข้า ฟูริโฮซ่าพลาดท่าถูกจับไป และแม่ของเธอก็ตามมาช่วย แต่ก็ถูกเดเมนตัสฆ่าอย่างโหดเหี้ยมต่อหน้าเธอ
ก่อนจากไปแม่ของเธอเขียนแผนที่ดวงดาวไว้ที่แขนของฟูริโอซ่า เธอบอกกับลูกของเธอว่า ''สัญญานะว่าจะหาทางกลับบ้าน'' ฟูริโอซ่าให้สัญญา และจะไม่บอกที่อยู่อันอุดมสมบูรณ์ให้เดเมนตัสรู้เป็นเด็ดขาด เธอจึงถูกจับไว้เป็นเฉลยเพื่อวันหนึ่งเธอจะหลุดปากพูดตำแหน่งบ้านของเธอออกมา ประจวบกับที่เดเมนตัสพบว่ามีอีกอาณาจักรที่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่คือเมือง 'ซิทาเดล' ที่ปกครองโดย 'อิมเมอร์ทัล โจ' ทำให้สงครามชิงอาณาจักรพร้อมปะทุขึ้นทุกเมื่อ ในขณะที่ฟูริโอซ่าก็รอวันที่จะชำระเเค้น
สิ่งที่หนังเรื่องนี้แตกต่างจากภาค Fury Road ก็คือเรื่องนี้มีการปูเนื้อเรื่องนะครับ และปูแบบยาวมากๆ ด้วยแบบว่า กว่าจะกลายมาเป็นน้องจอยที่เราเห็นกันก็ปาไปเกือบๆ ชั่วโมง
ในส่วนของแอ็คชั่นคือทำได้ดีไม่แพ้ภาค Fury Road เลย คือดูสนุกมาก ฉากยิงปืน ฉากไล่ล่ากลางถนน คือมันส์มากๆ องค์ประกอบทุกอย่างดีมาก ทั้งการแสดง งานภาพ งานสตั๊นท์ และดนตรีประกอบ ทุกๆ อย่างส่งเสริมกันเป็นอย่างดี ถ้าจะลองเครื่องเสียง เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เหมาะมากๆ
ด้านการแสดงทุกคนเล่นได้ดีมาก โดยเฉพาะสองตัวหลัก Anya Taylor-Joy กับ Chris Hemsworth ที่คนแรกก็สื่อสารจากสายตาได้ดี แค้นคือแค้นจริงๆ เจ็บคือเจ็บจริงๆ ส่วนคนหลังก็ยียวนกวนประสาทเหลือเกิน
โดยรวมหนังสนุกดี องค์ประกอบโดยรวมดีมากๆ ฉากแอ็คชั่นก็ยังมันส์เหมือนเดิม (เพียงแต่จะไม่เยอะเเบบ Fury Road)
คะแนนความชอบส่วนตัว 7.5/10
ชอบแบบดินแดนไร้เสียงมากกว่า
ภาคที่ลงโรงนี่ยิ่งชอบมาก