Arcane (2021) อาร์เคน : ตำนานลีกออฟเลเจ็นดส์
''ไม่ว่าเธอจะอยู่ไหน จุดมันขึ้น ฉันจะตามหาเธอ ฉันสัญญา''
''ฉันไม่มีทางแลกตัวเธอกับพวกเขา ไม่ว่ากับอะไรทั้งนั้น''
ก่อนจะเขียนถึงแอนิเมชั่นเรื่อง ต้องออกตัวก็ว่า ถ้าพูดถึงเกม League of Legends เกมที่นำมาสร้างเป็นแอนิเมชั่นเรื่องนี้ ยอมรับเลยว่าความรู้ต่อเกมๆ นี้ ส่วนตัวเป็น 0 เลย รู้จักเพียงชื่อเกมเท่านั้น ไม่เคยเล่น ไม่เคยรู้เรื่องราวเลยด้วย
ฉะนั้นสิ่งที่นำมาเขียนถึงแอนิเมชั่นเรื่องนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่พบเจอในแอนิเมชั่นเท่านั้น มิใช่มาจากเกมแต่อย่างใด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องยอมรับเลยว่า เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
''ความยอดเยี่ยม'' ของแอนิเมชั่นเรื่องนี้เหมือนกับสิ่งที่ตัวละคร ''ซิลโก้'' บอกกับ ''จิ๊งซ์'' ในเรื่องนี้ที่ว่า ''ฉันไม่มีทางแลกแอนิเมชั่นเรื่องนี้ กับเรื่องไหนทั้งนั้น เธอไร้ที่ติ''
อย่างแรกก็คือเรื่องนี้ได้ Set โลกของ Arcane ออกมาได้ดี แค่ภาคนี้ก็เผยให้เรารู้จักเมือง ''พิลต์โทเวอร์'' เมืองเบื้องบนของชนชั้นสูง กับ เมือง ''ซอน'' เมืองใต้พิภพของชนชั้นล่าง โดยเรื่องนี้เล่าจากมุมมองของตัวละคร ''ชนชั้นล่าง'' พวกเขาแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือ ''กลุ่มที่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์'' อยากให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเมืองชั้นล่างดีขึ้น แต่ต้องสร้างด้วยความสันติ หลีกเลี่ยงความรุนแรง ไม่พยายามไปปะทะกับเมืองชั้นบน และอีกกลุ่มก็คือ ''กลุ่มที่ต่อสู้ด้วยข้อเสนอจะเป็นเอกราชโดยสิ้นเชิงจากเมืองชั้นบน ไม่งั้นก็สงคราม''
ทั้งสองกลุ่มต้องการให้เมืองที่พวกเขาอยู่ดีขึ้น ปราศจากความกลัวจากชนชั้นบน แต่ด้วยอุดมการณ์ทั้งสองที่แตกต่างกัน จึงต้องปะทะกันอยู่เรื่อยๆ
ก่อเป็นตัวละครที่เคยเป็นเสมือนพี่น้องกัน สู้การที่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน จากรุ่นสู่รุ่น
ในเรื่องเราจะได้เห็นมิติของตัวละครทุกตัว ไม่ว่าตัวดี หรือว่าตัวละครที่เราเรียกว่า ''ตัวร้าย''
ทุกตัวละครมีมิติของพวกเขาซ่อนอยู่ มีมุมมองที่ทำให้คนดูอย่างเราแอบเห็นด้วยในบางครั้ง คือถ้ามองอีกมุม ตัวละครบางตัวก็ไม่ใช่ตัวร้ายอะไรขนาดนั้น แค่บางครั้งไม่ได้แสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าคนดูก็เท่านั้น
นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมหลงรัก ''แอนิเมชั่น'' เรื่องนี้ ทุกอย่างมิได้มีเพียง ''สีขาว'' และ ''สีดำ'' เพียงอย่างเดียว แต่มันเจือปนกันไปตลอดทั้งเรื่อง
ไม่ว่ากับ ''คนชั้นบน'' และ ''คนชั้นล่าง'' ทุกอย่างมันจะดูขัดแย้ง มีอุดมการณ์แตกต่างกันตลอด
ความยอดเยี่ยมของเรื่องนี้ก็คือ ''สิ่งที่ถ่ายทอดออกมา ความรัก และ ความขัดแย้ง'' ที่เหมือนจะต่อสู้กันตลอดเวลา
ถ้าพูดถึงงานภาพ เรื่องนี้ได้ทำได้ดี เนื้อเรื่องก็ดี เพลงประกอบก็ไพเราะ และยังสื่อความหมายของเรื่องราวได้ดีด้วย
โดยรวมชอบมาก เพิ่งดูซีซั่นแรกจบประทับใจมากๆ ว่าแล้วก็ขอตัวไปดูซีซั่นสองต่อเลยละกัน
คะแนนความชอบส่วนตัว 9.5/10
วันที่: 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา:20:31:28 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [