Princess Mononoke (1997) เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร
เมื่อสองวันก่อนก็เพิ่งได้สัมผัสคำว่า ''แผ่นดินไหว'' กับตัวเองครั้งแรกในชีวิต เพราะก่อนหน้านี้เคยเห็นเพียงจาก ''ภาพข่าว'' หรือ ''ภาพยนตร์'' เท่านั้น
เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ทำให้เข้าใจว่า ''ประเทศไทย'' ที่เขาว่าปลอดภัยจากภัยพิบัติรุนแรงจากธรรมชาติ บัดนี้มันไม่ใช่แล้วล่ะ เมื่อประมาณยี่สิบปีก่อน ภาคใต้ก็เจอกับสึนามิ มาวันนี้เกือบทั้งประเทศเจอแผ่นดินไหว
ผมไม่ทราบว่ามันเกิดจากอะไร เปิดยูทูปดูข่าว คนต่างชาติบอกว่า หลายๆ ประเทศเขาเจอจนรับมือได้แล้ว มีเพียงประเทศที่ไม่ค่อยเจอเหตุการณืเหล่านี้ก็จะคิดว่ามันรุนแรง เพราะว่ายังไม่เคยได้เรียนรู้วิธีการรับมือ
ธรรมชาติให้อะไรมนุษย์หลายๆ อย่าง แต่บางครั้งธรรมชาติก็พร้อมจะทำลายล้างมนุษย์ได้ทุกเมื่อ
ถ้าพูดถึงเรื่องของ ''มนุษย์'' กับ ''ธรรมชาติ'' แล้ว ก็มีการ์ตูนจิบลิเรื่องนึงที่เคยเล่าถึงเรื่องนั้น เป็นเรื่องราวระหว่าง ''มนุษย์'' กับ ''ธรรมชาติ'' (กว่าจะโยงเข้าเรื่องได้นะ 
)
ซึ่งแอนิเมชั่นเรื่องนี้เปิดเรื่องมาให้เห็นฉากที่ 'เจ้าชายอาชิทากะ' ต่อสู้กับอสูรร้ายหมูป่าผู้อาฆาตแค้นมนุษย์ อาชิทากะปราบมันลงได้ แลกกับแผลที่ติดเชื้อคำสาป และในเมื่อช้าเขาจะต้องตาย เขาจึงออกเดินทางเข้าป่าเพื่อหาทางแก้คำสาปนี้ และได้พบกับเจ้าหญิงโมโมโนเกะ มนุษย์ที่เป็นลูกสาวของหมาป่า และเขาก็ต้องตกไปอยู่ท่ามกลางสงครามความเกลียดชังระหว่าง ''มนุษย์'' กับ ''เหล่าสัตว์ป่า'' ที่คิดว่ามนุษย์เป็นผู้ทำลายต้นไม้ ทำร้ายสัตว์ป่า ทำลายแหล่งน้ำ และทำลายธรรมชาติ
Princess Mononoke ถือเป็นแอนิเมชั่นที่เล่าเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าฝ่ายมนุษย์ หรือฝ่ายธรรมชาติ ล้วนมีเหตุผลของตน ซึ่งบางทีมันก็ขัดแย้งกันอยู่เสมอ และเมื่อเกิดขัดแย้งกันขึ้น มันก็นำไปสู่ความโกรธ เมื่อโกรธก็นำไปสู่ความแค้น และเมื่อแค้น.... มันก็นำเป็นสู่เรื่องที่มันไม่ดีเสมอ
ประเด็นของเรื่องนี้อาจจะดูคล้ายๆ Avatar ภาคแรก ที่มนุษย์ได้มีโอกาสไปเรียนรู้วิถีชีวิตในธรรมชาติ เรียนรู้ว่าต้นไม้ทุกต้น สัตว์ป่าทุกตัว ล้วนมีเทพคอยปกปักรักษา ถ้าไปทำลายมันก็จะมีผลตามมา และเมื่อได้เรียนรู้วิถีชีวิตธรรมชาติ ก็เริ่มเข้าใจธรรมชาติ และเริ่มชั่งใจระหว่างเรื่องของ ''มนุษย์'' กับ ''ธรรมชาติ''
เรื่องนี้กำกับโดย Hayao Miyazaki ที่เคยมีผลงานอย่าง Spirited Away, My Neighbor Totoro, The Wind Rises แล้วก็วางมือไปพร้อมกับสตูดิโอจิบลิ แต่ล่าสุดก็ยังกลับมาทำ The Boy and the Heron เกือบคว้าออสการ์อีกตัวได้เหมือนกัน
โดยรวม Princess Mononoke ถือเป็นงานแอนิเมชั่นจิบลิอีกเรื่องที่เรียกได้ว่าคุณภาพคับแก้ว ลึกซึ้ง แต่ก็ยังไม่ทิ้งด้านความบันเทิง
ส่วนตัวชอบที่เอาเรื่องราวความเชื่อเทพเจ้าแบบญี่ปุ่นมาใช้ ดูจบก็พอจะเข้าใจความโกรธาของธรรมชาติที่มีต่อมนุษย์ แต่ฉากต่อสู้ของเรื่องนี้ก็แอบรุนแรงไม่เบาเลยนะ ทั้งหัวขาด แขนขาด มีให้เห็นจนชินตา
คะแนนความชอบส่วนตัว 7.5/10
วันที่: 30 มีนาคม 2568 เวลา:18:49:53 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [