The Place Beyond the Pines (2012) : ผลของการกระทำในอดีต
หนังเรื่องนี้เเบ่งเรื่องราวเป็นสามพาร์ทชัดเจน คือ เรื่องของโจร เรื่องของตำรวจ และก็เรื่องราวของทายาทของทั้งสอง
1
''ถ้าแกขับเร็วเหมือนสายฟ้าแลบ จุดจบก็มอดไหม้เหมือนฟ้าผ่า''
ในพาร์ทแรกหนังเล่าถึง 'ลุค' นักบิดมอเตอร์ไซค์วิบาก ที่พบว่าตัวเองเป็นพ่อของเด็กน้อยเจสัน แต่เด็กคนนั้นมีครอบครัวมีพ่อใหม่แล้ว โดยแม่ของเด็ก(แฟนเก่าลุค)แต่งงานใหม่ แต่ลุคยังอยากดูแลลูกของเขา อยากให้ลูกของเขาได้มีชีวิตที่ดี อยากรับผิดชอบชีวิตลูกของเขา แต่ด้วยความที่ตัวของเขาไม่มีเงิน หาเช้ากินค่ำด้วยอาชีพบิดมอเตอร์ไซค์โชว์ วันหนึ่งเพื่อนของเขาแนะนำเขาว่า
''นายมีลูกเล็กนะ อาชีพแบบนี้เลี้ยงดูลูกไม่ได้หรอก แต่ฉันงานๆหนึ่ง มันไม่ใช่งานที่ถูกกฏหมายหรอก แต่นายจะมีเงินพอที่จะเลี้ยงลูก มันคืองานปล้นธนาคาร ถ้าทำไม่บ่อยและระวังก็จะไม่ถูกจับ นายเป็นนักบิดที่เก่งที่สุดที่ฉันเคยเห็นมานะ''
ลุคเก็บมาคิดไม่นาน ก็ตัดสินใจออกปล้นธนาคาร และเขาก็ได้เงินมา แต่ปัญหาก็คือ เเฟนเก่าของเขามีครอบครัวใหม่ไปแล้ว และสามีใหม่ของเธอ (พ่อใหม่ของเจสัน) ไม่อยากให้ลุคมายุ่งกับครอบครัวของเขา มันเลยเป็นปัญหาลุคเผลอไปทำร้ายพ่อใหม่ของเจสัน เขาต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อเป็นค่าประกันตัว เขากลับมาชวนเพื่อนออกปล้นใหม่ อยากได้เงินอีกๆเยอะ เพื่อเอาไปให้ลูก แต่เพื่อนของเขาไม่เอาด้วยแล้ว เพราะธนาคารเริ่มมีการป้องกันหนาแน่นขึ้น ตำรวจก็เริ่มเฝ้าระวัง แต่ลุคก็ตัดสินใจออกปล้นใหม่ลำพัง
จนเกิดเรื่องราวยิงกันกับตำรวจ คราวนี้ลุคโดนยิงเสียชีวิต ก่อนเขาจากไปเขาย้ำกับโรมิน่า (แม่ของเด็กน้อยเจสัน) ว่า ''อย่าให้ลูกรู้เรื่องของเขานะ''
สุดท้ายเขาก็จากไปเหมือนกับในฐานะโจรปล้นธนาคารที่หลายๆคนมองว่าของเป็นคนร้าย
-----------------------------------------------------
2
''โจรนั่นมันตายแล้ว และนายก็กลายเป็นฮีโร่''
ในพาร์ทแรกหนังเล่าถึงเรื่องของโจรปล้นธนาคารที่ออกปล้นเพื่อหาเงินมาดูเเลลูกของเขา จนถึงพาร์ทที่สอง
ปัง ปัง!!
สิ้นเสียงปืนนายตำรวจดาวรุ่ง 'เอเวอรี่' ลั่นไกใส่โจรทันทีที่เปิดประตู ลุคยิงสวนมาโดนขาของนายตำรวจดาวรุ่งบาดเจ็บ และทันทีที่เเลกกระสุนกันร่างของลุคก็ตกลงมาทางหน้าต่างหัวกระแทกกับพื้นข้างล่างดับคาที่เกิดเหตุ
หลังจากเหตุการณ์นั้นเอเวอรี่ได้ความดีความชอบ ถูกยกย่องเป็นฮีโร่ปราบโจรปล้นธนาคาร เมื่อมีการสอบสวนเกี่ยวคดีนี้เอเวอรี่จะบอกว่า ''เขายิงป้องกันตัว และโจรคนนั้นยิงเขาก่อน'' จนศาลตัดสินว่าเอเวอรี่ไม่มีความผิด เเละได้เหรียญฮีโร่ กลายเป็นตำรวจดาวรุ่งชื่อดัง
ด้วยความที่เป็นนายตำรวจที่ขึ้นชื่อว่า ''ฮีโร่'' ในใจเอเวอรี่รู้สึกผิดกับเหตุการณ์นั้น แต่พ่อของเขาแนะนำว่า ''แกควรใช้เรื่องราวเหล่านี้ให้แกได้เลื่อนขั้น''
เอเวอรี่เป็นตำรวจที่ทะเยอทะยานอยากจะไปได้ไกลในอาชีพ เขายอมแม้กระทั่งแบล็คเมล์เพื่อนร่วมอาชีพ เพื่อจะให้ได้ยศที่สูงขึ้น และเขาก็ทำสำเร็จ
ภายใต้หน้ากากฮีโร่ของเขามันแลกมาด้วยความที่ต้องทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพ ทำร้ายครอบครัวของใครสักคน และที่สำคัญอาจจะทำร้ายชีวิตของเด็กคนหนึ่งไปเลย
------------------------------------------------------
3
''พ่อของผมเขาคือใคร?''
หลังเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ 15 ปี เอเวอรี่ได้เลื่อนขั้นกลายเป็นนายตำรวจใหญ่ ได้เข้าชิงตำแหน่งอัยการของเมือง มีลูกชายเข้าสู่วัยรุ่น
ส่วนทางด้าน 'เด็กชายเจสัน' (ลูกของลุค) ก็ได้เติบโตขึ้น และโชคชะตาก็เล่นตลกให้ 'เจสัน' ได้ไปเป็นเพื่อนกับ 'เอเจ' (ลูกชายของเอเวอรี่)
ทั้งสองเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่นในครอบครัว ด้วยประเด็นของ ''พ่อ''
พ่อของเจสันเสียชีวิตไปนานแล้ว จนเจสันไม่รู้ว่าพ่อแท้ๆของเขาเป็นใคร เป็นคนยังไง แต่ยังโชคดีที่ 'โคฟี่' พ่อเลี้ยงของเขาเอาใจใส่รักเขาเหมือนลูก
''ขอถามได้ไหมครับว่าพ่อของผมเป็นใคร''
''ก็ฉันไงพ่อของนาย ฮ่าๆ ฉันนี่แหละรักนายเหมือนลูกแท้ๆ ส่วนเจ้านั่นมันไม่ใช่พ่อของนาย มันแค่ให้กำเนิดนาย''
ส่วนทางด้านเอเจแม้จะมีพ่อแม่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า แต่พ่อของเอเจ(เอเวอรี่) ไม่ค่อยมีเวลาให้เอเจ เรียกได้ว่าปล่อยปละละเลยก็ได้ เอเวอรี่มักจะบอกลูกของเขาว่า ''ที่ฉันทำทุกอย่างเนี่ยก็เพื่อแก'' แต่ด้วยความที่ไม่มีเวลาดูแล ไม่มีเวลาสั่งสอน ทำให้เอเจเติบโตมาด้วยปมที่เหมือนไม่มีพ่อ ขาดความอบอุ่น ทำให้เขากลายเป็นเด็กไม่เอาไหน และชอบเล่นยาอีกด้วย
บทสรุปของตัวละครในเรื่องจะเป็นยังไงต่อไปติดตามในหนังนะครับ
------------------------------------------------------
หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีครบรสเลยนะ ทั้งดราม่า จิกกัด อาชญกรรม อะไรต่างๆ เคยเห็นนักวิจารณ์บางคนยกหนังเรื่องนี้ว่า
''เป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวพ่อลูกได้ดีที่สุด''
ผมค่อนข้างเห็นด้วยเลยนะ เพราะหนังเล่าถึงเรื่องราวของ ''พ่อลูก'' ได้หลายมิติเอามากๆ พ่อทุกคนมีความรักลูก แต่รักแบบคนละแบบ สั่งสอน ดูแลลูกก็คนละแบบแต่ที่สังเกตได้ก็คือ ''พ่อทุกคนมีความหวังดีให้ลูกได้ดีแบบจริงๆ''
ตัวหนังได้ Ryan Gosling, Bradley Cooper, Ray Liotta, Eva Mendes, Dane DeHaan และ Emory Cohen มาร่วมจอ เรียกว่าแค่ชื่อนักแสดงก็ดึงดูดมากๆแล้ว ตัวหลัก ตัวสมทบ รวมถึงตัวประกอบเล่นดีทุกคนครับ
แถมผู้กำกับก็คือ Derek Cianfrance (Blue Valentine, The Light Between Oceans) ซึ่งเป็นคนที่เล่าเรื่องดราม่าๆ ออกมาได้เก่งมากๆอยู่เเล้ว คือแกทำหนังออกมาไม่มาก แต่คุณภาพเชื่อขนมกินได้ครับ
หนังเรื่องนี้นอกจากการเล่าเรื่อง การแสดงแล้ว งานภาพและดนตรีประกอบก็ยอดเยี่ยม เพราะมันถ่ายทอดบรรยากาศเหงาๆ ออกมาได้ดี เล่าถึงหลายชีวิตที่มันมีอะไรให้คิด ให้แบกรับตลอดเวลา
มันเป็นหนังที่กดดันเรื่องหนึ่งเลยนะ เพราะการตัดสินในทุกซีนของเรื่องมันอาจเปลี่ยนชีวิตไปเป็นอีกแบบได้เลย ตัวละครในเรื่องทุกตัวไม่มีขาวล้วน และดำสนิท มันเหมือนชีวิตคนจริงๆ ที่มีความรักโลภโกรธหลง บางครั้งก็ทำถูก บางครั้งก็ทำผิด แต่ทุกอย่างก็ต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง ทำผิดวันนี้ บางทีผลกระทบก็อาจจะตามมาอีกหลายปีต่อมาก็ได้นะ
ใครที่ชอบดูหนังดราม่าเรื่องนี้ไม่ควรพลาดครับ
คะแนนความชอบส่วนตัว 8.5/10
วันที่: 19 มกราคม 2564 เวลา:16:30:44 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [