หนังเล่าประเด็นดราม่าออกมาได้ดีเลยนะ แม้ประเด็นที่หนังนำมาเล่นอาจไม่ใหม่มาก แต่ก็ทำออกมาได้ดี
การที่เราจะเลี้ยง ''เด็ก'' คนหนึ่งให้โตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ ต้องทำอย่างไรหนอ? และยิ่งเฉพาะ ''เด็ก'' คนนั้นเป็น ''อัจฉริยะ''
หนังเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังโปรดของผมสองเรื่อง
เรื่องแรกคือ Good Will Hunting เรื่องที่สองคือ I Am Sam
นึกถึงหนังเรื่อง Good Will Hunting ก็เพราะว่าประเด็นคล้ายๆกัน เรื่องการที่คนบางคน ค้นพบ ''เด็กอัจฉริยะ'' และต้องการให้เขาใช้ความสามารถนั้นให้ถูกทาง ซึ่งความ''อัจฉริยะ'' สามารถทำให้คนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลก อาทิ นักคณิตศาสตร์เอกของโลก แต่คำถามคือ ''เด็กอัจริยะ'' ต้องการแบบนั้นหรือไม่?
อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้นึกถึงหนังเรื่อง I Am Sam ก็เพราะว่า บางคนเห็นว่า เด็ก คนนั้นไม่เหมาะกับผู้ปกครองแบบนั้น สามารถหาผู้ปกครองที่ดีกว่าให้ได้ เด็กสามารถมีชีวิตที่ดี หรือแม้แต่ชีวิตที่พร้อมกันนั้นได้ คำถามคือ....อะไรที่ทำให้คุณคิดว่า ผู้ปกครองคนนั้นไม่พร้อม หรือ เด็กจะมีความสุขและมีชีวิตที่ดีได้ ถ้าเกิดหาผู้ปกครองที่พร้อมกว่า(ทั้งด้านวิถีชีวิต,คนทอง,ครองครัว และสิ่งแวดล้อม)
เป็นคำถามที่ตอบยากนะ
ลองนึกถึงเราเป็นพบเด็กคนหนึ่งที่อยู่ในครองครัวที่ขาดแคลน ส่วนเราเป็นผู้มั่งมี แล้วคิดว่าถ้าเราอยากจะไปเอาเด็กคนนั้นมาเลี้ยงแล้ว คิดว่า เด็กจะอยากอยู่กับเรา(ผู้พร้อมกว่า) หรืออยากอยู่กับครอบครัวที่อยู่มาแต่กำเนิดแม้จะขาดแคลน ไม่เพียบพร้อม แต่ความผูกพันธ์ และ ความอบอุ่น ก็แลกมาด้วยเงินทอง และความสุขสบายไม่ได้แน่นอน<<เรื่องแบบนี้คนเราสามารถมองได้ต่างกันนะ
ของแบบนี้มันต้องดูที่ความต้องการของ ''เด็กคนนั้น'' เราเข้าใจ ''เด็ก'' คนนั้นจริงๆหรือป่าว และตลอดมาชีวิตเราเป็นแบบสิ่งที่เราต้องการจริงๆ หรือมีคนขีดเส้นให้เดินกันแน่? ประเด็นนี้หนังก็ทำออกมาได้ดี จิกกัดสังคมแม้ไม่เจ็บมาก แต่ก็แสบๆคันๆ
สิ่งที่เจ็บปวดคือ ''ลูกต้องขึ้นศาลสู้กับแม่ในการชิงสิทธิเลี้ยงดูหลาน''
เรื่องนี้ผมไม่อยากเล่าอะไรไปมากกว่านี้ แต่ขอบอกว่าหนังมันดีจริงๆ มีครบรสทั้งความ อบอุ่น คอมเมดี้ โรแมนติก และดราม่าที่ทำเอาน้ำตาไหลได้เหมือนกัน อยากแนะนำให้หลายๆคนไม่อยากพลาดหนังดีๆแบบนี้ครับ
เป็นหนังคืนฟอร์มของ ผู้กำกับ Marc Webb หลังจากไปเสียคนกับ สไปเดอร์แมน (แต่โดยส่วนตัวชอบ สไปเดอร์แมนของแกนะ)
คะแนนความชอบส่วนตัว 8.5/10