Godzilla Minus One (2023) ก็อดซิลล่า ไมนัส วัน
เป็นหนังก็อดซิลล่า ที่ตั้งตารอคอยเอามากๆ แต่ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ทางค่าย Toho ต้นสังกัดไม่ได้ขายลิขสิทธิ์เข้าฉายในประเทศไทย (รวมทั้งอีกหลายๆ ประเทศ) ทำให้พลาดไปดูในโรง แล้วไม่รู้ว่าจะได้ดูในสตรีมมิ่งเมื่อไหร่ นั่นเป็นเครื่องหมายคำถามที่ติดอยู่ในใจ ''แฟนคลับพี่ก็อด'' ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน
จนไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ข่าวว่าทางช่องทางธรรมชาติได้นำ Godzilla Minus One ฉบับ HD มาทำซับไทยแล้วนะ ถ้าจะดูก็ดูได้เลย
ยอมรับแบบตรงๆ แมนๆ เลยนะครับว่า มีความตั้งใจจะกดเข้าไปดูหลายครั้งมากเเล้วล่ะ แต่จังหวะเเละเวลายังไม่ได้สักที คาดว่าน่าจะอีกไม่นาน (ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบเดิมนะ)
จนกระทั่งวันที่ 1 มิถุนายน 2567 ตามเวลาประเทศไทย ทาง Netflix ก็ประกาศว่า
''ได้นำ Godzilla Minus One แบบถูกลิขสิทธิ์ พร้อมเสียงพากย์ไทย มาฉายเเล้วนะ!!!''
สร้างความประหลาดใจให้แฟนคลับพี่ก็อดชาวไทยทั้งหลาย ตามแบบชื่อภาคพี่ก็อดภาคนี้เลยครับ
''ก็อดซิลล่า ไม่นัดวัน'' นึกจะมาก็มาเลย
ทำให้ไม่พลาดที่จะมาเปิดดูแบบไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เสียที
หนังเล่าถึงเหตุการณ์ในช่วงหลังปี 1945 ที่เพิ่งผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 มาหมาดๆ ญี่ปุ่นเพิ่งโดนนิวเคลียร์ถล่ม แถวอยู่ดีๆ สัตว์ประหลาดยักษ์ในตำนาน ที่ชาวประมงหลายๆคน เล่าลือว่า มันชอบแอบมากินปลา ก็ปรากฏกายขึ้น สร้างความเจ็บปวดให้กับคนญี่ปุ่นอีกระลอก
ในหนังพี่ก็อดฉบับนี้ จะเน้นไปที่ตัวละคร 'ชิกิชิมะ' นักบินหน่วยรบพิเสษ ที่มีเหตุการณ์เจ็บปวดฝังใจกับเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ จนต้องหาวิธีกำจัดมัน
ซึ่งตัวหนังเล่าเรื่องค่อนข้างดี พี่ก็อดฉบับนี้ ก็ทั้งดุ ทั้งอึด จนไม่รู้จะหาวิธีมาฆ่ายังไง
แค่ฉากเปิดเรื่องที่ไปถล่มเกาะทหาร หรือฉากที่มันไล่ตามเรือ ฉาก Atomic Breath (ทุกฉาก) คือสร้างความสะพรึงได้ตลอด จนแอบจินตนาการไปว่า ถ้าเป็นเราไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นคงจะกลัว ขวัญเสียจนทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ (ตัวละครในเรื่องในหลายๆ ฉากก็เช่นกันนะ)
ในเรื่องนี้ฝั่งที่ต้องหาวิธีต่อกรกับ ''ก็อดซิลล่า'' ก็คือ ''คนญี่ปุ่น'' ซึ่งดูๆ แล้ว แทบจะหาวิธีเอามันลงไม่ได้เลย ต่อให้สหประชาชาติมาช่วยกันก็ไม่รู้จะสู้กับ ''พี่ก็อดฉบับนี้'' ยังไง
ยังแอบคิดว่า ต่อให้เอา ''คอง'' ฉบับที่เพิ่งฉายไป มาสู้ ยังไม่รู้จะสู้ยังไงเลย ตัวนี้มันโหดจริงๆ
เป็นก็อดซิลล่าฉบับที่ดูสิ้นหลังมากๆ แต่ฉากต่อสู้ช่วงท้ายๆ ถือว่าทำได้ดีมากๆ เลยครับ
โดบรวมแล้ว ตัวหนังถือว่าสนุก องค์ประกอบต่างๆ ดี Special effects สวย, ดนตรีประกอบดีงามมาก มีการเอาซาวน์ก็อดเดิมที่เราคุ้นเคยมาใช้ได้ดี, แต่หนังจะเน้นไปที่ดราม่าชีวิตของตัวละครหลักที่เจ็บปวดกับสิ่งที่เจอมา
คะแนนความชอบส่วนตัว 8.5/10 (สมคำร่ำลือแล้วล่ะ)
วันที่: 2 มิถุนายน 2567 เวลา:21:09:12 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [