กันยายน 2567

1
2
3
4
5
6
7
9
10
14
16
17
19
20
22
25
26
28
 
 
All Blog
The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001) อภินิหารแหวนครองพิภพ


''ข้าภาวนาไม่ให้แหวนมาหาข้า ภาวนาไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น''

ปฐมบทของเรื่องราวการนำแหวนไปทำลายของฮอบบิทน้อย 'โฟรโด แบ็กกิ้นส์'

ตอนมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรกต้องย้อนไปเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นมีหนังแฟนตาซีเข้าฉายในช่วงเวลาไล่เลี่ยนกันอยู่สองเรื่อง คือ The Lord of the Rings กับ Harry Potter

ซึ่งเป็นหนังที่สร้างจากนวนิยายเหมือนกัน แนวแฟนตาซีเหมือนกัน แต่รายละเอียดของเรื่องแตกต่างกันชัดเจน เรียกว่าเจาะตลาดคนละกลุ่มกันเลย

โดย The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring คือภาคต้นของไตรภาค เล่าถึงเหล่าคณะพันธมิตรแห่งแหวน ที่ประกอบด้วย พ่อมดเทา, ฮอบบิท, มนุษย์, เอลฟ์ และคนแคระ โดยมีภารกิจคือต้องนำแหวนของจอมโฉด 'เซารอน' ไปทำลาย โดยต้องมิให้แหวนถูกช่วงชิงไปอยู่ในมือศัตรู

ยอมรับเลยว่าการดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรก ครั้งต่อๆไป อีกหลายๆ ครั้ง จนมาถึงครั้งล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ คือหนึ่งในประสบการณ์การดูหนังที่ดีที่สุดเรื่องนึง ของหนังที่ได้ดูในชีวิตเลย

หรือพูดง่ายๆ แบบให้คะแนนส่วนตัวเลยว่า หนังชุดไตรภาค The Lord of the Rings เป็นหนังโปรดอีกเรื่อง เพราะหลังจากนี้ที่กำลังจะเขียนถึงล้วนมีเพียงแต่คำชมต่อหนังเรื่องนี้ทั้งสิ้น 😊

โดยอย่างแรกอย่างที่กล่าวเลยก็คือ หนังเรื่องนี้ถือเป็นการเปิดไตรภาคที่น่าสนใจและน่าติดตามมากๆ

โดยผู้กำกับ Peter Jackson ได้เนรมิตโลก มิดเดิ้ลเอิร์ธ (Middle-earth) จากหนังสือของ J.R.R. Tolkien ออกมาอย่างน่าสนใจ และสมจริงแบบฉบับหนังแฟนตาซี

แม้จะเป็นหนังแฟนตาซี แต่ถ้าสร้างโดยไม่ยึดหลักความสมจริงแบบที่ควรจะเป็น (โอเวอร์เกินไป) ตัวหนังก็จะขาดความน่าสนใจ ความน่าติดตาม และการทำให้คนดูเชื่อและอินไปกับเรื่องได้ทันที

แต่ไม่ใช่กับหนัง The Lord of the Rings ที่แม้ว่าหนังจะมีทั้งฮอบบิท พ่อมด เอลฟ์ คนแคระ ออร์ค หรือแม้กระทั่งก็อบลิน แต่หนังสามารถทำให้คนดูเชื่อได้ว่ามีเผ่าเหล่านี้อยู่ร่วมโลกกับมนุษย์ได้ โดยสเกลพลังไม่ได้เหลื่อมล้ำกันมาก ตอนต่อสู้กันจริงๆ ก็สามารถสู้กันได้เลย

หนังยังมีคาแรคเตอร์ของตัวละครที่ชัดเจน แม้จะมีตัวละครเยอะ เผ่าหลายเผ่า แต่เพียงการโผล่มาไม่กี่ซีน คนดูก็จะสามารถจำชื่อ หรือแม้กระทั่งลักษณะนิสัยของตัวละครได้เลย ซึ่งมีไม่กี่เรื่องที่สามารถทำแบบนี้ได้

งานภาพ งานศิลป์ต่างๆ รวมถึงโลเคชั่นในหนังทำออกมาได้ดี อลังกาล สมจริง

ดนตรีประกอบก็เป็นอีกเรื่องที่ทำได้ Perfect แต่ละโลเคชั่น แต่ละเหตุการณ์ล้วนมีธีมประกอบแบบมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองทั้งสิ้น

การแสดงก็ยอดเยี่ยม เหมือนกับเป็นตัวละครนั้นจริงๆ

ส่วนด้านฉากรบต่างๆ ในภาคนี้ยังมีไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการสู้แบบกองโจร จำนวนไม่เยอะ แต่ฉากแอ็คชั่นถือว่าสนุกมากๆ

โดยรวมขอยอมรับเลยนะครับ ว่าอยากจะหาข้อติหนังเรื่องนี้มากๆ แต่นานๆ ทีจะมีหนัง Epic ระดับนี้ถูกสร้างมา แม้เป็นภาคต้นของไตรภาค แม้จะหยิบมาดูในวันที่โลกซีจีที่ไปไกลกว่าตอนหนังเข้าฉายมาก

ก็ยังยอมรับว่า ''หนังยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิม'' แม้แต่หนังแฟนตาซีในยุคปัจจุบันก็ยังหาเรื่องไหนมาทัดเทียมได้ยากมากๆ

เป็นหนังที่เปิดไตรภาคได้ Perfect สามารถนำเป็นเป็นต้นแบบให้หนังรุ่นหลังๆ รวมถึงคนทำหนังรุ่นหลังได้เลย ว่าการจะทำหนังไตรภาคให้สนุก มันไม่มีข้ออ้างว่า ''นี่ภาคเปิดไตรภาคนะ ภาคต่อไปจะสนุกแน่'' มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป แค่ตอนเปิดไตรภาค ก็สามารถทำให้ยอดเยี่ยมได้เหมือนกัน

คะแนนความชอบส่วนตัว 10/10



Create Date : 11 กันยายน 2567
Last Update : 11 กันยายน 2567 15:05:58 น.
Counter : 526 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณหอมกร, คุณnewyorknurse

  
เดี๋ยวนี้หนังสเกลใหญ่ไปทำซีรีย์หมดจ้า

โดย: หอมกร วันที่: 12 กันยายน 2567 เวลา:7:34:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไมเคิล คอร์เลโอเน
Location :
กำแพงเพชร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



สวัสดีชาวบล็อคทุกคนนะครับ

''ชีวิตก็เหมือนกับกล่องช็อตโกแล็ต เราไม่รู้ว่าเปิดจะเจออะไร''