Hick (2011) : อีกฟากของชีวิตที่อาจไม่สวยงามดั่งฝัน
เมื่อสิ่งที่เผชิญอยู่มันแย่ เราก็อยากจะหนีจากตรงนี้ไป
หนังเรื่องนี้เล่าถึง ''ลูลี่'' เด็กหญิงที่โตมาในครอบครัวที่ไม่อบอุ่น พ่อก็ขี้เหล้า แม่ก็ดูเหมือนจะหน่ายครอบครัว เป็นครอบครัวที่ใกล้จะแตกแยกเต็มที
เด็กหญิง ''ลูลี่'' เธอเริ่มทนกับชีวิตตรงนี้ไม่ได้ จึงอยากจะหนีจากมันไป เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้านเริ่มออกเดินทางหวังจะไปเสี่ยงโชคที่ ''ลาส เวกัส'' และระหว่างทางได้พบกับ ''เกล็นด้า'' หญิงสาวที่ผ่านที่ผ่านโลกมามาก เป็นที่พึ่งพาของเธอ และ ''เอ็ดดี้'' ชายหนุ่มที่เหมือนจะพาเธอกลับไปอยู่ในวังวงเดิมๆ
หนังเรื่องนี้จะพูดถึงเด็กหญิงที่ถึงแม้จะเกิดมาในครอบครัวและสภาพสังคมที่เลวร้ายขนาดไหน (ว่ากันว่าเธอเกิดในบาร์ด้วยซ้ำ) แต่เธอก็เป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
เด็กที่มองโลกอย่างสวยงามผ่านการวาดรูปของเธอ โดยเชื่อว่าสักวันหนึ่งชีวิตจะดีขึ้นกว่านี้ และถ้าบ้านที่อยู่แล้วรู้สึกว่ามันแย่ รู้สึกมันไม่ดี เธอก็แค่หนีไปจากชีวิตตรงนี้ ออกไปเผชิญโลกภายนอกลำพัง และเชื่อว่าชีวิตก็จะดีขึ้นเอง
นั่นเป็นความคิดที่ดูเหมือนจะถูกครึ่งนึงและไม่ถูกครึ่งนึง
เคยมีสุภาษิตที่ว่า ''หญ้าอีกฝั่งอาจไม่สวยงามเสมอ''
นั่นก็จริงครับ
''ลูลี่'' คิดว่าถ้าเธอหนีออกจากบ้านที่แสนจะแย่แล้ว สังคมข้างนอกอาจจะไม่แย่ขนาดนี้ เอาจริงๆ มันก็ไม่ใช่ซะที่เดียวครับ
สังคมภายนอกอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ ถ้าเราไปเจอคนไม่ดีเข้า
แต่โชคดีที่ 'ลูลี่' ไปเจอ 'เกล็นด้า'
ครั้งแรกที่พบเกล็นด้า เธอบอกกับเกล็นด้าว่า ''ฉันมีเงินเยอะนะ''
'เกล็นด้า' ได้ยินดังนั้นจึงสอน 'ลูลี่' กลับไปว่า
''อย่าเที่ยวไปบอกใครนะว่าเธอมีเงินเยอะ มันอันตราย''
แต่โลกนี้มันมีทั้งคนดีและก็คนไม่ดี
คนถัดมาที่เธอเจอก็คือ 'เอ็ดดี้' ชายหนุ่มเจ้าอารมณ์ที่หวังจะล่อลวงเธอไปในทางที่ไม่ดี
หนังเรื่องนี้ดูไปดูมานี่มันหนัง Coming of Age ดีๆเรื่องหนึ่งเลยนะ แม้จะแฝงไปด้วยดราม่าตลกร้าย แต่มันก็ทำให้เราได้เห็นชีวิตเด็กคนหนึ่งที่กำลังเปลี่ยนผ่านวัย จากวัยเด็กสู่วัยสาว ที่กระซิบบอกเราว่า
''แม้หญ้าอีกฝั่งอาจไม่สวยงามเสมอ'' แต่ ''หญ้าฝั่งนี้มันก็ไม่สวยเหมือนกัน''
คือถ้าลงยังอยู่ในสภาพสังคมแบบนี้ โดยที่ไม่คิดผลักดันตัวเองออกจากที่แบบนี้ เราก็จะกลายเป็นคนเหมือนที่อยู่ในสภาพสังคมนี้ไปเลย''
กลับกันถ้าเราผลักดันตัวเองออกจากที่ๆเราคิดว่ามันแย่ เราอาจจะไปเจอที่ๆแย่กว่านี้ โหดร้ายกว่านี้ก็ได้ แต่นั่นก็เป็นโอกาสเรียนรู้ชีวิตมิใช่หรือ?''
อีกฟากของชีวิตมันอาจไม่สวยงามดั่งที่เราเคยฝันไว้ แต่มันก็ผลักดันให้เราออกมาเห็นโลกที่ไม่เคยได้เห็น
ผมชอบหนังเรื่องนี้เพราะมันเป็นหนังที่มีบรรยากาศชนบท ลูกทุ่งๆ และการถ่ายภาพก็สวยด้วย
แถมหนังพาให้เราติดตามตัวละครไป เฝ้าดูชีวิตของเธอว่าจะเจอกับอะไร และเรียนรู้จากสิ่งนั้นไปพร้อมๆกัน
และหนังได้ดาราฝีมือดีๆมาแสดงทั้งนั้นเลย ทั้ง Chloë Grace Moretz ที่เรื่องนี้น้องกำลังอยู่ในวัยน่ารัก (แบบเด็กๆ) เลย คือหนังมีโอกาสใช้เสน่ห์ตรงนี้ของเธอได้เต็มที่ 😍
Eddie Redmayne ที่ตอนนั้นยังไม่ดังแบบทุกวันนี้ ฝีมือแกดีอยู่แล้วครับ อย่างที่เรารู้คือหลังจากนั้นไม่กี่ปีแกก็ได้ออสการ์ตามมา
Blake Lively อันนี้ดาราระดับแม่เหล็ก แต่มาเล่นบทสาวเซอร์ๆ ยังดูดี
และ Alec Baldwin ในบทรับเชิญเล็กๆ
ยังมี Trevor Duke-Moretz (พี่ชาย Chloe) มาเข้าฉากเล็กๆด้วย เหมือนแกมาคอยเฝ้าน้องและผู้กำกับก็เรียกมาร่วมจอเล็กๆ
ตัวหนังแม้ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรมาก แต่ก็อยู่ในระดับดูเพลินๆ ดูบรรยากาศ ดูการแสดงดีๆ ถือว่าพอใช้ได้ครับ
ปล. ชอบประโยคในหนังที่พ่อลูลี่บอกกับลูลี่ว่า
''หนูดูเหมือนแม่ครั้งแรกที่เราเจอกันเลย ผมบลอนด์ เธอน่ารักมาก พ่อขออะไรอย่างหนึ่งสิ น่ารักแบบนี้ตลอดไปนะ''