พฤษภาคม 2567

 
 
 
1
2
3
4
7
8
9
10
13
15
16
17
20
21
23
24
26
27
28
29
30
 
 
22 พฤษภาคม 2567
All Blog
4 Kings 2 (2566)


''ตั้งแต่มึงเรียนช่าง มึงเคยเห็นกูเป็นเพื่อนมั้ยวะ''

ตอนเห็นตัวอย่าง 4 Kings ภาค 2 ครั้งแรก ก็ไม่คิดว่าหนังจะมาทางดราม่าหนักๆ แบบนี้ เพราะในตัวอย่างหนังสื่อไปทางแอ็คชั่นตีกันแบบดิบๆ ตัวละครพัฒนาจากแค่ตีกัดด้วยไม้ ด้วยมีด เพิ่มมาเป็นมีอาวุธปืน

จนเมื่อหนังเข้าฉายในโรง กระแสหนังก็เปลี่ยนไป แบบว่านี่คือหนึ่งในหนังเด็กช่างตีกันที่ดีที่สุดของไทย และดราม่าก็ทำออกมาได้ดีมากๆ

จนเมื่อหนังเข้าฉายใน Netflix ต้องเพิ่มความคาดหวังเข้าไป ที่ส่วนตัวก็ชอบภาคแรกมากๆ อยู่แล้ว ภาคนี้ก็คาดว่าน่าจะชอบเช่นกัน

ตัวหนังเปิดว่าด้วยเด็กช่าง ''บู'' กับ ''กนก'' กำลังไล่ตีกัน (ภาคที่เเล้วบทเด่นจะอยู่ที่ ''อิน'' กับ ''ชล'')

จน 'ตุ้มเม้ง' หนึ่งในกลุ่มของกนก หนีตายไปในย่านสลัมแห่งหนึ่ง ไปพบกับ 'ยาท เด็กบ้าน' จึงไปขอหลบพวกบูที่กำลังไล่ตามมา แต่ปรากฏว่า ดันไปเจอยาทที่แค้นเด็กช่างเป็นทุนเดิมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสเข้าโรงพยาบาล

ทางฝั่ง 'บ่าง กนก' ยังคงค้างคาใจเรื่องเพื่อนของเขาโดนทำร้าย ต้องการไปเอาคืนฝั่งบู แม้ว่าเพื่อนของเขา ตุ้มเม้งต้องการจะทิ้งชีวิตความเป็นเด็กช่างไปแล้วก็ตาม....

''มึงเปลี่ยนจากเอาคืน เป็นทุกอย่างในชีวิตกูคืนได้มั้ย''

ภาคนี้ยังคงความยอดเยี่ยมตามความคาดหวังได้ โทนหนังดิบและดาร์คกว่าภาคแรกพอสมควร โดยเฉพาะตัวละครของ 'ยาท เด็กบ้าน' และ 'บ่าง กนก' ที่หนังเน้นไปที่มิติเรื่องราวของสองคนนี้มากกว่าใครเขา

หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบคำถามสังคมว่า ทำไมเด็กช่างถึงต้องตีกัน ทำไมต้องรักความเป็นสถาบันขนาดนั้น(แบบผิดๆ) แต่หนังจะเน้นไปที่ผลกระทบ ผลลัพธ์ของการตีกัน หลังจากการลงไม้ลงมือกัน คนที่เจ็บ คนที่ได้รับผลกระทบ มันไม่ได้มีแค่คนที่ตีกันอย่างเดียว ยังมีคนที่อยู่รอบข้าง เขาได้รับผลกระทบไปด้วย แล้วบางทีก็อาจจะรุนแรงกว่าที่เห็นก็ได้

และผลลัพธ์เหล่านั้นก็นำพาไปสู่อะไรที่เกินกว่าคำว่า ''ศักดิ์ศรี'' ไปพอสมควร

อย่างเช่นตัวละคร 'ยาท เด็กบ้าน' ที่เกลียดเด็กช่างเอามากๆ หนังไม่ได้พยายามทำให้ตัวละครนี้เป็นคนดี ตัวละครนี้ไม่ใช่คนดี เป็นเด็กที่โตมาจากสลัม ติดยา ใช้ความรุนแรง แต่ก็ยังมีมุม มีมิติ ในตัวละคร มุมที่เขายังเป็นห่วงคนใกล้ตัว มุมที่เขาเป็นคนธรรมดาตอนที่ไม่ได้ใช้ความรุนแรง ทำให้เรายังมีมุมที่เข้าใจตัวละครนี้

และอีกหลายๆ ตัวละคร ในเรื่องที่จะมีมุมแบบนี้ มีมิติในด้านนี้เช่นกัน

มันจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ''ในบางครั้งเราเกลียดตัวละครเหล่านี้ไม่ลง แม้ว่าพวกเขาจะมีพฤติกรรมที่รุนแรงมากๆ ในก่อนหน้านี้'' (ในบางครั้งนะ)

ต้องชมทีมงานและนักแสดงในหนังเรื่องนี้ทุกคนครับ เรื่องบทอะไรต่างๆ ยกระดับจากภาคแรกขึ้นมาเยอะเลย (ทางด้านนักแสดงมีซีนให้ปล่อยของเยอะด้วย)

ไม่ใช่ว่าภาคแรกไม่ดีนะ ภาคแรกก็มีส่วนที่ดีมากๆ อยู่เช่นกัน แต่ภาคนี้มันดาร์คกว่า หลายๆ ฉากดูแล้วกดดัน ดูเเล้วเครียดตามได้เลยนะ

โดยรวมถือว่าหนังทำได้ดีตามความคาดหวัง ดีใจมากๆ ที่หนังไทยในช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ยังคงมาตรฐานที่ดีไว้ได้มาก หวังว่าหนังไทยจะคงมาตรฐานนี้ไปอีกนาน และพัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆ คือดูเรื่องนี้จบแล้วหวังแบบนั้นได้เลย 😊

คะแนนความชอบส่วนตัว 8/10 (ด้านเพลงประกอบหนังภาคนี้ก็ดีงามมากๆ แค่เปิดมาด้วยเพลง ดีเกินไป ของ smile buffalo ก็เพิ่มความน่าสนใจในช่วงแรกได้มากๆ แล้วล่ะ)



Create Date : 22 พฤษภาคม 2567
Last Update : 22 พฤษภาคม 2567 10:36:25 น.
Counter : 332 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไมเคิล คอร์เลโอเน
Location :
กำแพงเพชร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



สวัสดีชาวบล็อคทุกคนนะครับ

''ชีวิตก็เหมือนกับกล่องช็อตโกแล็ต เราไม่รู้ว่าเปิดจะเจออะไร''