Group Blog
All Blog
✯ ✯ ✯ แกงป่าปลาทะเล ✯ ✯ ✯







แกงป่าปลาทะเล


ก่อนทำแกงป่าปลาทะเล
  หรือกุ้ง หรือหมึก หรือหอย
อะไรก็แล้วแต่ที่มันมาจากท้องทะเลน่ะ 
 ต้องขอพูดก่อนว่าสูตรที่เราจะบอกนี้
มันเป็นสูตรของคนทะเลเก่าแก่เขาทำกินกัน 
 แต่ปัจจุบันนี้อาหารการกิน
มันสารพัดดัดแปลงได้มากมาย 
  เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาถกเถียงกันหรอกนะ
ว่าใครใช่ใครไม่ใช่ 
  หรือใครอร่อย ใครไม่อร่อย 
 เพราะการทำอาหารนั้น
มันขึ้นอยู่กับผู้ปรุงเป็นหลัก 
  ปรุงอย่างไรล่ะถึงจะอร่อย
ไม่ใช่ต้องใช้ผงชูรสช่วย
  ซึ่งเราเรียกว่า คนไร้ฝีมือ 
 เอาละๆๆ เข้าเรื่องซะทีเดี๋ยวเครียด ......


แกงป่าทะเลบ้านเรานั้น 
  เขาโขลกน้ำพริกแกงป่ากันเอง
โดยใช้เครื่องแกงน้ำพริกแกงเผ็ดนั่นแหละ 
ใส่พริกขี้หนูสดเพิ่ม
 แต่เขาไม่โขลกจนละเอียดยิบหรอกนะ
พอหยาบเล็กน้อย
พอเห็นเม็ดพริกนั่นแหละ
    แต่ก็ค่อนข้างไปในทางละเอียด
น้ำแกงป่าของเราจะไม่ขุ่นด้วยข้าวคั่วหรอกนะ
   ปัจจุบันบางร้านเขาแกงป่ากลัวน้ำไม่ข้น
เขาก็ใช้ข้าวคั่วผสมลงไปในน้ำพริกด้วย
  แล้วแต่จะพลิกแพลงกันไปก็แล้วกัน
เราใช้มะเขือพวง  กระชายซอย  และถั่วฝักยาว
พริกชี้ฟ้าเขียวแดง  และใบกระเพรา

วิธีทำก็ง่ายๆเอากะทะตั้งไฟใส่น้ำลงไปเล็กน้อย
เอาน้ำพริกแกงป่าลงไปผัดพอหอมใส่ปลาลงไป
  อย่าคนมากเดี๋ยวคาว แค่คลุกปลาให้เข้ากับน้ำพริก
   จากนั้นก็เติมน้ำลงไปแค่ขลุกขลิก เติมน้ำปลา 
 แล้วรอจนเดือดพล่านใส่ปลา
  มะเขือพวง กระชายซอย
ถั่วฝักยาว  พริกชี้ฟ้าที่หั่นไว้ 
 พอเดือดไม่ต้องเคี่ยว 
ก็ชิมดู อย่างดีก็เติมแค่น้ำปลานั่นแหละ
เพราะไม่รู้จะเติมอะไรอีก
  ความหวานที่ได้จากน้ำแกงก็เกิดจาก
ความหวานของเนื้อปลาที่แกงนั่นแหละ 
  ใส่ใบกระเพรา แล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง ยกลงทันที


 น้ำพริกเผ็ดจัดจนปากแสบร้อน มันถึงจะสะใจ
เอ้า....ไปลองทำกินกันดูนะ 
 ทำเองกินเองอย่าลืมให้กำลังใจตัวเองด้วยล่ะ
แหม....ใครแกงจ๊ะ
อร่อยสุดยอดไปเล้ย.....ฮ่าๆๆๆๆ เอิ๊กกกก



และที่เห็นเราแกงนี้เราใช้ปลาใส้ตัน
 หรือกะตักตัวใหญ๋แกงน่ะ
อร่อยสุดยอดไปเล้ย....











Create Date : 15 พฤษภาคม 2554
Last Update : 9 มิถุนายน 2559 12:49:48 น.
Counter : 6100 Pageviews.

1 comment
### ปลาต้มระกำ อาหารยอดฮิตของคนทะเล ###


























ปลาต้มระกำ

ก่อนอื่นมารู้จัก ลูกระกำ กันก่อนนะ 
 ระกำเป็นพืชตระกูลเดียวกันกับสละนั่นแหละ 
  แต่มีลักษณะของผลแตกต่างกันคือ
ระกำจะมีผลสีแดงออกส้ม สวย
 และลูกจะป้อมๆ ค่อนข้างไปทางกลม 
 ส่วนสละจะมีผลรี สีค่อนข้างคล้ำและเข้มกว่ามาก
จนเกือบกลายเป็นแดงดำเชียว
ส่วนรสชาตินั้น ระกำจะมีรสเปรี้ยว 
 ใช้ทำอาหารเช่น น้ำพริกระกำ
หรือทำปลาต้มน้ำระกำ หรือนำไปแช่อิ่ม
หรือดองแบบมะม่วงดอง
แต่ต้องเอาเปลือกออกก่อน
   ส่วนสละจะมีรสหวานมากกว่าเปรี้ยว
  จะใช้กินดิบ หรือนำไปทำสละลอยแก้ว 
  อาหารของคนรวย
ที่พยายามเรียกตนว่าผู้ดีไงจ๊ะ ฮิๆๆ
ปัจจุบันหาซื้อได้ทั่วไป
   โดยเฉพาะขณะนี้กำลังมีงานผลไม้ที่จังหวัดระยอง
ควรไปเที่ยวกันนะ เที่ยวไทยเงินไม่ไหลออกนอก 
  เราจะพบทั้งระกำและสละ 
 หาซื้อได้มากมายในหน้าร้อนนี้จ้า......



ปลาที่จะนำมาต้มระกำ
  เราจะใช้เนื้อปลาเช่นเนื้อปลาเก๋า
หรือ เนื้อปลากะพง 
 หรือเนื้อปลาอะไรก็ได้ แล้วแต่ชอบ 
    แต่ถ้าจะให้อร่อยและประหยัด
ควรใช้ปลาตัวเล็กเช่นปลาข้างตะเภา
  ปลาทู หรือปลาเห็ดโคนก็ได้ทั้งนั้น 
 เป็นอาหารท้องถิ่นกินง่าย
ของภาคตะวันออกบอกให้รู้



วิธีทำก็ทำปลาซะก่อน 
  การทำปลาใช้ปลาอะไรทำก็ไปอ่าน
วิธีทำจากเรื่อง ยกทะเลมาแฉก็แล้วกัน 
 ไม่อยากบอกซ้ำให้เบื่อ 
 จากนั้นก็แกะเปลือกระกำออก ฝานเอาเนื้อออก 
 ส่วนเม็ดหากไม่อยากทิ้ง
ก็ทิ้งไปในหม้อต้มก็ได้
   จะได้รู้ว่ามันคือเม็ดระกำไง 
 ฮ่าๆๆๆๆ เผลอกินเข้าไป
ลื่นไหลติดคอ ตายเอาง่ายๆนะจ๊ะ



น้ำสะอาดพอประมาณ
ใส่หม้อตั้งไฟจนเดือดพล่าน
ใส่น้ำปลาใส่ระกำที่ฝานเนื้อไว้ลงไป
ต้มพอเดือดพล่าน
ใส่ปลาลงไป ไม่ต้องคนเพราะมันจะคาว
   เมื่อเดือดกะประมาณปลาสุก
  ก็ชิมดูรส มันจะออกเปรี้ยวและเค็ม
ปนหวานจากเนื้อปลา
  ถูกใจแล้วก็ยกลงซะอย่าเคี่ยวนาน
เพราะเนื้อปลาจะแข็งกินไม่อร่อย 
  กินกับข้าวสวยร้อนๆ  ซดน้ำต้มระกำตามไป
โอ๊ย...อร่อยจนไม่รู้ลืมเชียวนะ
     ลองทำกินกันดูนะง่ายๆ  อร่อยด้วย
ขอให้ทุกท่านประสบแต่โชคดี
   และมีโอกาสได้ลิ้มรส
 "ปลาต้มระกำ" กันอย่างทั่วถึง
นะจ๊ะ.....แควนๆๆๆ 
 ซู๊ด.....อ้า....สะใจจริง...จริง





 

 

 






Create Date : 14 พฤษภาคม 2554
Last Update : 9 มิถุนายน 2559 12:44:29 น.
Counter : 9435 Pageviews.

3 comment
### ปลาเก๋าสามรส ###
















ปลาเก๋าสามรส


ก่อนอื่นเตรียมปลาเก๋าตัวประมาณสัก 8 ขีด

หรือไม่เกิน 1กิโลนี่แหละตัวกำลังสวยและพอดีจาน

จัดการขอดเกร็ดปลาเก๋าให้สะอาดตัดเหงือก

และควักใส้ทิ้งไปซะ ส่วนอื่นไม่ต้องตัดทิ้ง

จากนั้นก็บั้งตามตัวปลา บั้งห่างหน่อยถี่นักมันไม่สวย

เวลาทอดแก้มปลาจะเปิด ครีบทุกครีบจะกางออกมา

รอยบั้งจะชัดเจน สวยเชียวละ ล้างให้สะอาดผึ่งไว้



พริกชี้ฟ้าต้องใช้เม็ดแดงๆนะ หั่นเล็กๆให้เป็นลูกเต๋า

อย่าใหญ่มากนักนะ หัวกระเทียมปอกเปลือกทุบแล้วสับ

มะเขือเทศใช้ลูกเดียวพอเอาเม็ดออกหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋าเล็กๆ

หัวหอมใหญ่ก็เช่นกันหัวเดียวพอหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ เช่นกัน

สงสัยละซี ทำไมไม่ตำรวมกันล่ะ เอ๊ะ

แล้วทำไมใส่มะเขือเทศ กับหัวหอมใหญ่ล่ะ

ฮ่าๆๆๆ อย่าขมวดคิ้วซิจ๊ะเดี๋ยวแก่ไม่สวยนะ

จะทำกินทั้งทีมันต้องสวยและรสชาติเยี่ยม

และแลดูน่ากินอีก จึงต้องใช้กลเม็ดพิชิตมันไง

เอ้า....เฉลย พริกชี้ฟ้าต้องหั่น

เล็กๆเป็นลูกเต๋าเพราะเวลาผัดมันจะเห็นเป็นพริกน่ะ

แม้จะรวมกันแล้วเละมันก็แสดงความเป็นพริกอยู่ดี

มะเขือเทศก็เช่นกันเมื่อลงไปผัดน่ะเละแน่ๆ

แต่ช่วยเสริมสีสันและความเปรี้ยวขึ้นอีก

หอมหัวใหญ่เธอก็เละแต่ก็ยังเป็นแผ่นเล็กๆ

ดูยังไงก็รู้ว่าใส่หอมหัวใหญ่

เธอจะช่วยความหวานเพื่มขึ้นอีกไง

หายสงสัยหรือยังจ๊ะ แควนๆพันธุ์แท้ทั้งหลาย

ส่วนผสมอื่นๆก็มีน้ำตาลทราย

ทำไมต้องใช้น้ำตาลทรายก็เพราะ

เธอจะทำให้รสชาติพุ่งกระฉูดไง

แต่ถ้าใช้น้ำตาลปี๊บละก็ขอบอกว่า

หอบผ้าเข้าป่าไปเลย

แก้ยังไงก็ไม่หายหรอกนะ

ใส่น้ำส้มสายชูเล็กน้อยเพิ่มความเปรี้ยว

และสีสันไม่เปลี่ยน

แต่ถ้าใส่มะขามเปียกละก็

ผัดแล้วจะดำไปเลย สีไม่สวย

ถ้าอยากให้น่ากินขึ้นไปอีกหน่อย

ก็เตรียมผักชีไว้สักก้านหั่นแล้วโรยตอนจบไงจ๊ะ



จัดการตั้งกะทะให้ร้อนใส่น้ำมันปาล์มลงไปเยอะๆ

 เวลาทอดให้ท่วมตัวปลา

(จำไว้นะทอดใช้น้ำมันปาล์ม ผัดใช้น้ำมันถั่วเหลือง

หรือน้ำมันอื่นๆแล้วแต่ชอบ

เพราะน้ำมันเหล่านี้มันมีคุณสมบัติเฉพาะตัวมันเอง

 บางอย่างทอดได้ผัดไม่ดี

บางอย่างผัดดีทอดไม่ดี O.K นะ)



เมื่อกะทะร้อนจัดมากแล้วเราจึงใส่ปลาลงไปทอด

จากนั้นก็เบาไฟลงไปบ้างเพราะหากโหมกระหน่ำเกินไป

กว่าปลาจะสุกก็จะใหม้เสียก่อน

ทอดไฟกำลังดี จนปลาสุกเหลืองกรอบเล็กน้อย

 ตักใส่จานรอไว้

เรามักจะพูดสอนลูกสอนหลานเสมอว่า

กับข้าวจะอร่อยก็ขึ้นอยู่กับไฟด้วย

ต้องพยายามสังเกตุและศึกษาเปลวไฟด้วย

ควรจะใช้ไฟแรงมากหรือน้อยแค่ไหน

กะดูนะจ๊ะอย่าปล่อยเลยไป



เตรียมกะทะใหม่อีกครั้ง

คราวนี้ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อยแค่ฉาบทั่วกะทะก็พอ

เอาทุกอย่างที่หั่นเตรียมไว้ลงไปผัดพร้อมกัน

พอสุกเข้ากันดีแล้ว โปรดสังเกตุว่า

ทุกอย่างจะแสดงเป็นตัวของมันเอง

ให้เรารู้ว่า ฉันคือพริกนะ ฉันน่ะมะเขือเทศ

 และฉันคือหัวหอมใหญ่

ดูดีๆนี่ไงฉันกระเทียมสับไงคุณ

 เติมน้ำตาลทราย น้ำปลา ใส่ลงไปพอประมาณ

จากนั้นก็ใส่น้ำส้มสายชูนิดหน่อยก็พอ

คลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่วผัดจนเดือดน้ำตาลละลาย

เป็นน้ำผสมน้ำปลาและน้ำส้มจนเป็นเนื้อเดียวกัน

แล้วก็ชิมดูนะว่าได้สามรสตามชอบหรือยัง

ขาดรสอะไรก็เติมรสนั้นไปค่อยๆเติมอย่าบุ่มบ่ามใจร้อน

เดี๋ยวจะเสียรสชาติแล้วจะแก้ยากนะจ๊ะ

สังเกตุดูดีๆ สีสันเครื่องปรุงต่างๆที่เราเอาผัดรวมกันน่ะ

สีแดงสดใสน่าเจี๊ยะ เมื่อได้รสชาติเป็นที่น่าพอใจแล้ว

ก็ตักราดลงไปบนตัวปลาทอดนั่นแหละ

ราดให้ทั่วจากหัวไปหาง สีแดงสดงดงามน่ากินดีแล้ว

ก็โรยผักชีสักหน่อย เพื่ออาศัยสีเขียวไปตัดกับสีแดง

ให้แลดูน่ากินยิ่งขึ้นไปอีก

เสร็จแล้วจ้า ปลาเก๋าราดพริกสามรสสูตรเราเอง

ไม่ง้อแม่ใดๆทั้งสิ้นลองไปทำกินกันนะ

อร่อยแล้วอย่าลืมยิ้มให้เราด้วยนะ ฮ่าๆๆๆ




(ตามภาพเราแล่เอาแต่เนื้อปลาไปทอด

เพราะปลาตัวหย่ายมาก)








Create Date : 13 พฤษภาคม 2554
Last Update : 9 มิถุนายน 2559 12:37:26 น.
Counter : 4277 Pageviews.

2 comment
### ต้มส้มปลากระบอก ###









ต้มส้มปลากระบอก

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเจ้าของภาพสวยๆ 
 ที่เรานำมาให้ดูเป็นส่วนประกอบ
ของการปรุงต้มส้มปลากระบอก ทุกท่านนะคะ 
 ขอให้ทุกท่านประสบแต่โชคดี มีความสุข
  และเจริญก้าวหน้าตลอดไป 
 ขอขอบคุณมา ณ. ที่นี้อีกครั้งค่ะ



เอาละมาทำต้มส้มปลากระบอกกัน 
  ก่อนอื่นต้องไปเลือกซื้อปลากระบอกมาก่อน 
  ซื้อจากแม่ค้าที่ขายปลาโดยไม่มีแผงลอยประจำ
เพราะแม่ค้าพวกนี้จะเป็นพวกหาเองขายเอง 
 ปลามีไม่มากหรอกและไม่มีทุกวันด้วย 
  วันไหนได้มามากพอขาย
 โชคไม่ดีก็โดนเทศกิจจอมแอ๊ค
จับปรับซะอีก หมดกัน 
 เฮ้อ....โลกแห่งความลืมตัว
เขาก็แค่ขายพักเดียวเท่านั้น
 ก็มาจับไปปรับซะหมด 
 จะเหลือเงินไว้กินใช้ไม๊เนี่ยะ 
ทีหน้าตลาดสด
ให้ตบแต่งทาสีให้สวยไม่รู้จักไปทำ
ปล่อยให้เป็นคราบดำด้วยเชื้อราซะงั้น
   อ้าวเรื่อยเปื่อยไปแล้วเรา ขอโทษๆ
   มาพูดเรื่องปลากระบอกกันดีกว่า
   เลือกปลาสดๆนะ ตัวไม่ค่อยใหญ่หรอกนะ
เพราะหากันเอง
เตรียมเครื่องปรุง  ขิง
 (อ่อนหรือแก่ก็ได้ ถ้าแก่จะดับคาวปลาได้
มากกว่าขิงอ่อนแต่จะมีรสเผ็ดกว่า)
หัวหอม กะปิดี พริกไทยเม็ด
(ใช้สีดำนะมันมีคุณค่ากว่ามาก
แม้จะทำให้น้ำไม่สวย แต่ก็มีประโยชน์มากมาย)
ต้นหอม มะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลาดี
   เอาละครบเครื่องแล้ว


วิธีทำก็เอาพริกไทยดำโขลกให้ละเอียดก่อน
จากนั้นก็โขลกหอมกับกะปิรวมเข้าด้วยกัน 
 กะเอาพอประมาณ  ใช้ปลาเป็นหลัก
ปลามากก็ใส่มากหน่อย
จากนั้นก็หั่นขิงซอยละเอียด
 ปริมาณตามชอบอีกนั่นแหละ 
 ต้นหอมล้างหั่นท่อน
ยาวประมาณท่อนละหนึ่งนิ้วครึ่งก็พอ
(ไม่ต้องเอาไม้บรรทัดวัดนะกะเอาด้วยสายตา 
 ทำอะไรทำง่ายๆ อย่ายุ่งยากมากนักเดี๋ยวจะเบื่อ)
มะขามเปียกก็คั้นเอาน้ำพอประมาณไม่มาก
อย่าให้เปรี้ยวเกินไปไม่อร่อย


เอ้าต้มน้ำร้อนจะใส่ภาชนะใดทำ
ก็ไม่ต้องพิถีพิถันทำง่ายๆสบายใจ 
น้ำเดือดเอาพริกไทยหอมกะปิ
ที่ได้โขลกรวมกันไว้ใส่ลงไปละลายในน้ำ 
 เติมน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บ ลงไป
  พอเดือดชิมดูให้ได้สามรสนะ 
 อย่าให้รสอะไรมันนำหน้ามันจะไม่อร่อย
  ต้องรสชาติพอกัน
   เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งใส่ตัวปลาลงไป
 ไม่ต้องใช้ทับพีคนนะเดี๋ยวเหม็นคาว
   รอจนน้ำต้มเดือดอีกครั้งกะประมาณปลาสุก 
 จึงใส่ขิงลงไป พอเดือด
ชิมดูรสอีกครั้ง ให้รสชาติสามรสพอดี
( ระวังน้ำตาลหน่อยอย่าใส่มากนัก
เพราะธรรมดาเนื้อปลาก็ออกรสหวานอยู่แล้ว )
ใส่ต้นหอมที่หั่นไว้แล้วยกลงจากเตาทันที 
  เสร็จแล้ว ต้มส้มปลากระบอก
  ตักแจกๆ กันไปให้ทั่ว เพื่อความสวยงาม
เราอาจจะใช้ผักชีโรยหน้าก็ได้
ลองทำกินกันเองนะจ๊ะ 
 ไปกินที่ร้านเขาก็ฟันเต็มที่ละ 
 และยังแถมใส่ผงชูรสให้เรากินอีก 
  ต้องการรักษาสุขภาพต้องทำกินเองจ้า 
  ขอให้ทุกท่านประสบโชคดี
และสนุกกับการรับประทาน
ต้มส้มปลากระบอกฝีมือตัวเองนะจ๊ะ.

.......................... 






Create Date : 12 พฤษภาคม 2554
Last Update : 26 มิถุนายน 2560 5:37:39 น.
Counter : 4238 Pageviews.

2 comment
### อาหารจานโปรด "ปลาฉลามผัดขิง" ###























ปลาฉลามผัดขิง

"ปลาฉลามผัดขิง"
สูตรของคนทะเลไม่ยากอย่างที่คิด
แต่ถ้าได้ลองสักนิด จะติดใจไม่รู้ลืม
ก่อนอื่นขอเล่าความเป็นมา
ของการนำปลาฉลามมากินกันก่อนนะ
 เมื่อประมาณ หกสิบปีมาแล้วตั้งแต่จำความได้
พ่อเราจับโป๊ะ ได้ปลาฉลาม หูดำติดโป๊ะมาสามตัว
ตัวไม่ใหญ่มากหรอก
ขนาดตัวละประมาณ กิโลกว่าๆเท่านั้น
แม่ค้าที่มาซื้อปลาที่บ้านก็ไม่ยอมซื้อไปขาย
 อ้างว่าไม่มีคนกิน
ดังนั้นพ่อเราเลยจัดการกินมันซะเอง
ดยการนำปลาฉลามมาผัดขิงมันซะเลย
สาเหตุที่ต้องเป็นขิง
เพราะปลาฉลามนั้นคาวแรงมาก
ส่วนขิงนั้นดับคาวได้อย่างชงัด
 มันจึงลงตัวกันพอดี
เราเห็นพ่อเราเอากะทะใส่น้ำค่อนกะทะ
แล้วตั้งไฟให้เดือดพล่าน
จากนั้นพ่อก็เอามือจับที่หัวปลาฉลาม
แล้วยกมันทั้งตัว
ใส่ลงไปในกะทะน้ำเดือดๆนั่นแหละ
แต่ไม่ยอมปล่อยหัวมันลงไปนะ
 จัดแจงพลิกตัวปลาฉลามลวกน้ำร้อนไปมาจนทั่ว
 แล้วก็เอาขึ้นมาจัดการเอากะละมังใส่น้ำลงไป
เกือบเต็มกะละมังแล้วก็ล้างปลาฉลาม
โดยเอามือถูอย่างกับถูขี้ไคลเรานั่นแหละ
ถูไปทั่วตัวปลาเลยนะ
พ่อบอกว่าปลาฉลามไม่มีเกร็ดหรอก
 แต่หนังตรงที่สากๆน่ะต้องถูออกให้หมด
จนเหลือแต่หนังแท้ๆ ที่เหมือนหนังปลาทั่วไป
 และถ้าหากเราไม่นำไปลวกน้ำร้อนละก็
อย่าหวังเลยว่า จะล้างปลาฉลามได้สะอาด


พ่อจัดการเอามีดตัดหัวปลาฉลาม
และล้วงใส้มันทิ้งไปจนหมด
จากนั้นก็ล้างน้ำอีกทีให้สะอาด
แล้วก็แล่เนื้อปลาออกทั้งสองด้าน
ตัดครีบทั้งหมด และหางด้วย เก็บไว้
 แล้วทิ้งก้างกลางไป
 จากนั้นก็หั่นเนื้อปลาฉลามออกเป็นชิ้นๆ
 หนาประมาณครึ่งนิ้ว
หั่นไปทั้งหนังนั่นแหละ
ส่วนครีบและหางก็หั่นชิ้นพอคำ
 ใส่ตะแกรงพักไว้


พ่อซื้อขิงแก่มาปอกเปลือกแล้วหั่นบางๆ
 แล้วซอยให้ละเอียด
ก็มากอยู่นะ ซอยแล้วตั้งชามนึง
พ่อบอกว่าขิงอ่อนก็ใช้ได้นะ
 แต่รสชาดมันเผ็ดสู้ขิงแก่ไม่ได้
และขิงแก่นั้นหอมกว่า
 ดับคาวปลาฉลามได้ดีกว่า
 พ่อจึงให้ขิงแก่ซอยทุกครั้ง
พ่อทุบกระเทียมซอยเพื่อเตรียมไว้เจียวก่อนผัด
พ่อว่ามันดับกลิ่นดี เมื่อเรียบร้อยแล้ว
พ่อจึงจัดการผัดขิงปลาฉลามต่อไป


พ่อเอากะทะตั้งไฟให้ร้อนใส่น้ำมันหมูลงไป
 ใส่กระเทียบสับลงไปเจียวไม่ต้องให้เหลืองหรอก
 แค่พอหอมก็ใส่เนื้อปลาฉลามลงไปผัด
วิธีการผัดก็เหมือนกันคือต้องผัดเบาๆ
 ค่อยๆๆพลิกไปมา
เพราะปลาจะคาวแรงได้
สักพักก็ใส่ขิงซอย ใส่เต้าเจี้ยว
 เติมน้ำลงไปนิดนึงพอขลุกขลิก
สักพักพอเดือดก็คลุกเคล้าผัดให้เข้ากันให้ดี
ชิมดูรสชาติถูกใจแล้วจึงตักใส่ชาม
พ่อแบ่งสองชาม กินกับข้าวหนึ่งชาม
กินกับเหล้าหนึ่งชาม
ฮ่าๆๆๆๆ ครื้นเครงร้องเพลงกันลั่น
 ไม่รู้ว่าปลาฉลามผัดขิงอร่อย
หรือ ว่าคนทำเมาสุราซะแล้ว
 เฮ้อ...นี่แหละชีวิตชาวประมงละ


สำหรับเราแล้ว ปลาฉลามผัดขิงน่ะผัดเมื่อไร
กินข้าวหมดสองจานทุกที อร่อยจริงๆ
 กินไปสะใจไป นี่แน่แกดุนักรึ
จะจับมาผัดขิงซะให้หมดเลยละ ฮ่าๆ
เห็นด้วยกับเราไม๊ล่ะ ไม่ลองไม่รู้นะจ๊ะ
ลองผัดกินดูแล้วจะพูดว่า
"รู้อย่างงี้กินซะนานแล้วละ" เอิ๊กๆๆ













Create Date : 11 พฤษภาคม 2554
Last Update : 9 มิถุนายน 2559 12:22:37 น.
Counter : 7274 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ