Group Blog
All Blog
### แกงส้มปลาแก้ว (ปลารังคัน)ใส่ยอดมะพร้าว ###














แกงส้มปลาแก้ว (ปลารังคัน)

ใส่ยอดมะพร้าว

.................

เครื่องปรุง....ปลาแก้ว (ปลารังคัน)

พริกขี้หนูแห้ง  หัวหอม  กะปิ  เกลือ   น้ำตาลทราย

ยอดมะพร้าว  มะกรูด  ใบมะกรูด  น้ำปลา  

วิธีทำ.... เด็ดพริกขี้หนูแห้งแช่น้ำพอนุ่ม

นำลงใส่ครกโขลกเติมเกลือลงไปเล็กน้อย 

ปอกหัวหอมใส่ลงไป  โขลกละเอียดเติมกะปิลงไปหน่อย 

นี่คือน้ำพริกแกงส้มบ้านเรา  เราไม่ใส่กระชาย

แต่บางที่เขาก็ใส่กระชายไม่ว่ากันนะต่างคนต่างชอบ 

 น้ำพริกแกงส้มถ้าใช้พริกขี้หนูแห้งน้ำจะไม่ค่อยออกสีแดงเข้ม

เหมือนใช้พริกแห้งเม็ดใหญ่  แต่ความเผ็ดนั้น

เผ็ดมากกว่าใช้พริกเม็ดใหญ่   ได้น้ำพริกแกงส้มแล้ว 






ต่อไปก็คือการทำปลา  ปลาแก้วหรือปลารังคัน

เป็นปลาตระกูลเดียวกับปลาดุก 

 ปลาทะเลจะมีเงี่ยงสามเงี่ยง

  คือตรงสันหลังหนึ่ง และตรงข้างตัวข้างละหนึ่ง 

 เงี่ยงปลานี้อย่าได้ให้ตำมือเป็นอันขาดนะ 

 เพราะจะทำให้ปวดไปถึงรักแร้เชียวละ 

แต่ถ้าโดนเงี่ยงปลาตำบ้านเราฝานมะนาวที่หัวนิดนึง

แล้วเอานิ้วมือที่โดนเงี่ยงตำเสียบเข้าไปในลูกมะนาว

ก็พอบรรเทาและหายได้

 ก็รักษากันแบบบ้านๆชาวทะเลนั่นแหละ 

การทำปลาชนิดนี้ต้องระมัดระวัง

  เพราะตัวปลาจะลื่นมาก 

 ก่อนอื่นต้องเอามือจับที่หัว

แล้วเอามีดสับเงี่ยงปลาออกให้หมด 

 จากนั้นก็ผ่าท้องควักใส้และขี้ในท้องทิ้ง

 ถ้ามีไข่ก็เก็บเอาไว้อย่าทิ้ง 

 ควักเหงือกทิ้งไปบางบ้านเขาเอาเหงือกไว้กินได้

แต่มันมีเมือกมากล้างลำบากเราเลยควักทิ้งไปเลย

 จากนั้นก็ล้างปลาให้หมดเมือก 

 การล้างก็เติมเกลือลงไปหน่อย

เพื่อให้ช่วยกำจัดเมือกปลาออกให้หมด 

 แล้วจัดการตัดครึ่งตัว 

แบ่งเป็นส่วนหัวและส่วนหาง 

เมื่อทำปลาเสร็จแล้ว

ก็นำลูกมะกรูดมาปอกเปลือกออก 

 แล้วผ่าครึ่งลูกตามขวาง 

บีบเอาน้ำมะกรูดออกมาใส่ถ้วยไว้ 

 ถ้าชอบเปรี้ยวก็ใส่มากหน่อย

ถ้าชอบกำลังดีก็กะเกณฑ์เอาก็แล้วกัน

ค่อยๆใส่ เรียกว่าใส่ไปชิมไปก็ได้ 

ต่อไปก็ล้างใบมะกรูด

แล้วฉีกออกเป็นชิ้นเอาแกนกลางทิ้งไป

  สำหรับยอดมะพร้าวก็ล้างแล้วหั่นชิ้นตามชอบ

สำหรับเราหั่นชิ้นอย่างที่เห็น

เพราะแก่แล้วฟันฟางไม่ค่อยดี

จะเคี้ยวชิ้นใหญ่ไม่ค่อยไหว

 เลยใช้หั่นชิ้นเล็กไม่หนามากนัก

  เตรียมเครื่องเสร็จแล้วต่อไปก็จะเริ่มแกงได้แล้ว 








 นำน้ำสะอาดใส่หม้อพอประมาณ  ตั้งไฟให้เดือด

แล้วนำน้ำพริกแกงลงไปละลายให้เข้ากัน 

 พอเดือดพล่านใส่ยอดมะพร้าวลงไป ตามด้วยปลาแก้ว

ไม่ต้องคนให้เกิดคาว  เมื่อน้ำเดือดอีกครั้ง ลองชิมดู

เพื่อดูความเค็มว่ามีประมาณเท่าไรจะได้เติมน้ำปลาถูก 

 จากนั้นใส่น้ำมะกรูดลงไป  ถ้าต้องการลดชาดกลมกล่อม

ก็เติมน้ำตาลทรายลงไปสักครึ่งช้อนโต๊ะ 

ธรรมดาเนื้อปลาสดก็หวานอยู่แล้ว 

แต่เพื่อเสริมรสชาดให้กลมกล่อมก็เติมลงไป 

 จากนั้นก็ชิมรสดูว่าถูกใจหรือยัง 

 แกงส้มนั้นรสชาดเปรี้ยวต้องนำ

ถึงจะอร่อย  เมื่อชิมดูถูกใจแล้วก็ใส่ใบมะกรูดลงไป 

 เนื้อปลาก็สุกพอดี

  อย่าเคี่ยวเพราะปลาแก้วเนื้อเขาจะนุ่มมาก

ถ้าเราเคี่ยวนานเนื้อปลาจะยุ่ยกินไม่อร่อย 

 แค่เนื้อปลาสุกก็ใช้ได้แล้ว

  ตักใส่ชามเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ 

 อร่อยมากมายทีเดียว 

 ลองทำกินกันนะ  ไม่ยากเลยสักนิด

 เครื่องปรุงก็น้อยไม่เรื่องมาก

......................






Create Date : 26 มิถุนายน 2558
Last Update : 4 มิถุนายน 2559 19:46:41 น.
Counter : 3105 Pageviews.

3 comment
### ปลาทรายราดสามรส ###













ปลาทรายราดสามรส

..........

 

เครื่องปรุง ......ปลาทราย   พริกชี้หนู แครอทซอย

กระเทียม  ตะใคร้  ขิงซอย  เห็ดหอมซอย 

 พริกชี้ฟ้าแดงซอย ใบมะกรูด  ใบกระเพรา 

น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย 

 เกลือ น้ำปลา  แป้งทอดกรอบ พริกไทย ซีอิ๊วขาว

 

 









วิธีทำ.....  ปลาทรายขอดเกร็ดแล่เนื้อทั้งสองข้าง

อย่าให้ติดก้างเอาแต่เนื้อล้วนๆ 

นำมาหมักด้วยซีอิ๊วขาว  พริกไทยป่น  หมักไว้สักสิบนาที

 ตั้งกะทะให้ร้อนใส่น้ำมันทอด(บ้านเราใช้น้ำมันหมู)

นำปลาที่หมักไว้ลงคลุกกับแป้งทอดกรอบ 

 ใส่กะทะทอดจนเหลือง ปลานั้นสุกง่าย

 พอเหลืองแป้งกรอบตักขึ้นพักไว้







 

ซอยตะใคร้  ปอกกระเทียม เด็ดพริกชี้หนู

แล้วโขลกรวมกันให้ละเอียด 

ซอยพริกชี้ฟ้าแดง แครอทซอย

  ซอยเห็ดหอม ซอยใบมะกรูด  เด็ดใบกระเพรา

ตั้งกะทะอีกครั้งให้ร้อน ใส่น้ำมันหนึ่งช้อนโต๊ะ

  ใส่ใบกระเพราลงทอดกรอบแล้วตักพักไว้ 

น้ำมันที่เหลือนำพริกที่โขลกไว้ลงผัดให้หอม ตักพักไว้

ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เกลือป่นครึ่งช้อนชา

เคี่ยวให้เข้ากันเติมน้ำตาลทรายสักช้อนโต๊ะ

 เติมน้ำปลาหน่อย   เคี่ยวต่อไปพอหนึด

ชิมรสดูต้องได้สามรส เปรี้ยว เค็ม หวาน

 จากนั้นนำพริกที่ผัดไว้ใส่ลงไป ใส่ขิงซอย แครอทซอย

 เห็ดหอมซอย พริกชี้ฟ้าซอย ใบมะกรูดซอย

คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จตักน้ำราดใส่ถ้วยไว้

 (สาเหตุที่ใส่น้ำตาลสองอย่างเพราะ

น้ำตาลทรายช่วยเพิ่มรสหวานแหลมอีกนิด

 แต่จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ) 







ก่อนรับประทานนำปลาที่ทอดไว้จัดลงจาน

แล้วราดด้วยน้ำสามรสให้ทั่ิวชิ้นปลา

 โรยด้วยใบกระเพราทอดกรอบ เป็นอันเสร็จ 

 เราจะได้ปลาสามรสที่เนื้อปลาจะกรอบนอกนุ่มใน

หอมด้วยซีอิ๊วและพริกไทย 

ราดด้วยน้ำสามรส และมีรสเผ็ดนิดหน่อย

หอมอร่อยด้วยสมุนไพรหลายชนิด

 รับรองไม่มีกลิ่นคาวปลาติดอยู่เลย

ลองทำกินกันนะจ๊ะ






Create Date : 06 มิถุนายน 2558
Last Update : 6 มิถุนายน 2558 9:49:18 น.
Counter : 2547 Pageviews.

1 comment
### ดอกกุยช่ายผัดกุ้งสด ###










ดอกกุยช่ายผัดกุ้งสด

.............

เครื่องปรุง......  ดอกกุยช่าย   กุ้งสด  กระเทียม 

 น้ำมันหอย  น้ำปลา  

 วิธีทำ....กุ้งสดปอกเปลือกให้หมดเด็ดหัวกุ้งทิ้ง 

  ดอกกุยช่ายล้างแล้วหั่นท่อน 

 กระเทียมทุบและสับให้ละเอียด  

ตั้งกะทะให้ร้อนใส่น้ำมันลงไปสองช้อนโต๊ะ

ใส่กระเทียมสับลงไปผัดพอเหลือง

นำกุ้งลงผัดยังไม่ทันสุกดีใส่ดอกกุยช่าย

ใส่น้ำมันหอย  เติมน้ำตาลทรายสักครึ่งช้อนชา

เราไม่กินผงขูรสจึงใช้น้ำตาลทรายตัดหน่อย

เติมน้ำปลานิด  แล้วเร่งไฟแรงผัดอย่างรวดเร็ว

พอกุยช่ายสลดตับไฟ  จะเห็นว่ากุ้งนั้นจะสุกกำลังดี

เนื้อหวาน  ดอกกุยช่ายไม่สุกเกินไป ตักใส่จานเสริฟได้ทันที 

อาหารง่ายๆลองทำกินดูมีประโยชน์มากมาย


















คุณสมบัติของดอกกุยช่าย

สมุนไพรกุยช่าย

 มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ ว่า ผักไม้กวาด (ภาคกลาง),

ผักแป้น (ภาคอีสาน) เป็นต้น

กุยช่ายช่วยบำรุงกระดูก  ข่วยป้องกันมะเร็ง

ลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็ง

ลดความดันรักษาโรคความดันโลหิตสูง

ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือด

และยังมีสรรพคุณอีกมากมายลองหาอ่านดูนะ










ขอบคุณเจ้าของภาพดอกกุยช่ายทุกภาพค่ะ




Create Date : 03 มิถุนายน 2558
Last Update : 3 มิถุนายน 2558 13:01:51 น.
Counter : 3840 Pageviews.

1 comment
### เต้าหู้ปลาสามรส ###















เต้าหู้ปลาสามรส

.......... 

 เครื่องปรุง..... เต้าหู้ขาว เนื้อปลาขูด 

 มะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เกลือ

  มะเขือเทศ ขิงซอย กระเทียม

 พริกชี้หนู น้ำปลา ต้นหอม

พริกไทยป่น รากผักชี ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย

    วิธีทำ...... เต้าหู้หั่นชิ้นสี่เหลี่ยม

ประมาณหนึ่งนิ้วหนาสักครึ่งเซ็น

  นำลงทอดให้เหลืองแล้วพักไว้ 

 เนื้อปลาสับให้ละเอียด

แล้วปรุงด้วยเกลือ พริกไทยป่น 

 รากผักชี ต้นหอมซอย

น้ำตาลทรายครึ่งช้อนชา ซีอิ๊วขาว 

 ขยำให้เข้ากันพักไว้ 

  กระเทียมปอกเปลือก พริกขี้หนูเด็ดก้านทิ้ง 

 ทั้งสองอย่างทุบแล้วใช้มีดสับหยาบ พักไว้

   คั้นมะขามเปียกเอาแต่น้ำ

แล้วนำลงเคี่ยวกับน้ำตาลปี๊บ

ใส่เกลือหน่อยเคี่ยวให้หนึดชิมดู

ต้องได้สามรส เปรี้ยว เค็ม หวาน ตักพักไว้ 

  ตั้งกะทะใส่น้ำมันเล็กน้อย 

 นำกระเทียมกับพริกลงไปผัดให้หอม

ใส่เนื้อปลาลงไปผัดร่วมให้เนื้อปลาสุก 

 ใส่มะเขือเทศ ขิงซอย ลงไปร่วมด้วยช่วยกันผัด 

 ไม่ต้องใช้พลังมากนัก 

 ใส่เต้าหู้ทอดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน

แล้วเทน้ำมะขามที่ปรุงเสร็จแล้ว

ราดลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว เสร็จแล้วตักใส่จาน

ใช้ใบสะระแหน่ หรือ ใบกะเพราทอดกรอบแต่งหน้าก็ได้






























Create Date : 30 พฤษภาคม 2558
Last Update : 4 มิถุนายน 2559 19:49:38 น.
Counter : 2809 Pageviews.

2 comment
### หอยแมลงภู่ทอด ###














หอยแมลงภู่ทอด
................

วันนี้เรามาทำหอยแมลงภู่ทอดกินกันเองนะ

ไม่ต้องไปซื้อกินเพราะทำไม่ยาก 

ก่อนอื่นเรามาเตรียมเครื่องกันก่อน 

 หอยแมลงภู่สดจะซื้อแบบเป็นตัว

มาล้างแกะเองก็ได้

   หรือจะซื้อที่เขาแกะแล้วก็ได้

แต่ถ้าซื้อที่เขาแกะแล้วนั้นจะแพง

และตอนแกะแม่ค้าอาจจะไม่ได้ดึงราก

ที่เป็นขนๆออกซึ่งรากนี้สกปรก

เมื่อกินเข้าไปจะทำให้ปวดท้องได้ 

 เมื่อเราซื้อมาแกะเองเราก็ดึงรากนี้ทิ้งไป 

รากจะอยู่ตรงกลางตัวหอย

 ถ้าแกะไม่เป็นซื้อมาก็ควรล้าง

และเลือกดึงรากทิ้งไปก่อนนำมาปรุง 






เมื่อแกะหอยแมลงภู่เสร็จแล้ว

ก็ล้างน้ำเอาเมือกออกก่อน

อาจจะใส่เกลือลงไปในน้ำ

ที่ใช้ล้างสักหน่อยก็ได้ไม่ต้องมาก

เพราะจะทำให้เมือกหลุดง่าย

จากนั้นก็สรงขึ้นมาพักไว้ในตะแกรง

 ต้องใช้ภาชนะรองก้นตะแกรง

เพื่อรองรับน้ำหอยที่จะหยดลงมา






การเตรียมส่วนผสมของแป้งทอด 

เราใช้แป้งมันและแป้งข้าวเจ้า 

หากต้องการให้หอยทอดไม่กรอบเกินไป

ก็ใส่แป้งข้าวเจ้าไม่ต้องมาก

  ใส่แป้งมันมากหน่อย

ถ้าต้องการกินแบบกรอบหน่อย

ก็ใส่แป้งข้าวเจ้ากับแป้งมันเท่ากัน

   โขลกกระเทียม  รากผักชี  พริกไทย

 เข้าด้วยกันให้ละเอียด

  ต้อนหอมหั่นท่อนสั้นๆสักหน่อย 

 เกลือป่นสักนิดอย่ามาก

เพราะจะเค็มเกินไป 

ละลายแป้งกับน้ำสะอาด

ให้มีสัดส่วนที่พอเหมาะ

สำหรับตักหยอดทอดได้ 

 อย่าใส่น้ำมากจนแป้งไม่เกาะติด

ต้องสังเกตุว่าพอข้นหน่อย

แต่ถ้าข้นเกินไปแป้งก็จะแข็ง 

  ใส่ส่วนผสมกระเทียมพริกไทย

รากผักชีที่โขลกไว้

ลงไปละลายในน้ำแป้ง

  เติมเกลือลงไปสักครึ่งช้อนชา

 หรือน้อยกว่านั้น 

ใส่ต้นหอมซอยลงไป

แล้วคนให้เข้ากัน

 น้ำแป้งต้องข้นหน่อยไม่ใสเกินไป

และไม่ข้นเกินไป







ล้างถั่วงอกถ้ามีเวลาก็เด็ดหางทิ้งไป

 แล้วผึ่งใส่ตะแกรงไว้






ล้างผักชีให้สะอาดแล้วหั่นท่อน

ยาวพอประมาณเอาไว้โรยหน้า






เครื่องปรุงอื่นๆที่ต้องนำมาใช้ 

 น้ำมันสำหรับทอด 

 จะใช้น้ำมันอะไรก็ตามใจ

ยกเว้นน้ำมันปาล์มไม่ควรใช้

เพราะนั่นเขาไว้ใช้ทอดนานๆไม่ใช่ใช้ผัด

อย่างที่เรากำลังจะทำกินกัน 

ไข่ไก่  พริกไทยป่น  น้ำปลา 

น้ำตาล  น้ำส้มสายชู  

ตั้งกะทะ(ควรใช้กะทะก้นราบแบน)

 ด้วยไฟแรงให้กะทะร้อนจัด

ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย

เหมือนเช็ดกะทะด้วยน้ำมัน

  จากนั้นตักแป้งที่ผสมไว้

แล้วโรยให้ทั่วกะทะ

 หรี่ไฟเป็นไฟกลาง

พยายามยกกะทะตะแคง

ให้แป้งทาทั่วกะทะ 

 สักพักพอแป้งเริ่มสุก

ให้ใส่หอยแมลงภู่ลงไป

โดยการโรยไปทั่วๆตัวแป้ง 

 ต่อยไข่ไก่ลงไปหนึ่งฟอง

และละเลงไข่ให้ทั่วกะทะ

เติมน้ำมันสักหนึ่งช้อนโต๊ะ

โรยรอบๆกะทะ

พอไข่เริ่มเกาะกับหอยและแป้ง 

 ค่อยๆพลิกแป้งกลับด้าน

ทอดต่อไปอีกหน่อย

แล้วใช้ตะหลิวตัดแป้งออกเป็นคำๆ

คนให้เข้ากันเติมน้ำปลาสักหนึ่งช้อนโต๊ะ  

 น้ำตาลทรายสักครึ่งช้อนชา 

 น้ำส้มสายชูสักครึ่งข้อนชา

ผัดให้เข้ากันเมื่อเห็นว่าสุกดีแล้ว

ใส่ถั่วงอกลงไปเร่งไฟแรงผัดเร็วๆ

แค่ถั่วงอกสลดก็ดับไฟทันที 

 ตักใส่จานโรยด้วยพริกไทยป่น 

และผักชีที่เตรียมไว้ 

รับประทานกับน้ำพริกศรีราชาอร่อยมาก

 หรือจะทำพริกสดดองน้ำส้มก็ได้

 แล้วแต่ชอบ  หากชอบเผ็ด

ก็เติมพริกป่นได้เลยไม่ว่ากัน

เสร็จแล้วจ้าหอยทอดสูตรคนทะเล

ทำเองปรุงเอง

หากสนใจลองทำกินกันได้จ้า





Create Date : 28 พฤษภาคม 2558
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2560 16:24:37 น.
Counter : 3104 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ