สวัสดีมีสุขค่ะ

สิ่งที่คุณแม่อยากจะให้หายไปของน้องซี...น่าจะหายได้ค่ะ
เพราะคุณแม่ค่อยๆแนะนำ ชี้แนะข้อดีข้อเสีย
ไปเรื่อยๆ

เด็กผู้หญิงวัยร้องซีก็มีบ้างล่ะค่ะที่ขี้วีน ขี้งอน ขี้เถียง
โตขึ้นรับรองหายแน่ด้วยวัยของเค้าค่ะ
และมีคุณมี้คอยบอกคอยสอน

kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
มี๊ต้องไม่นินทาลูกนะคะ อดทนไว้ค่ะ

ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตครับมี๊เก๋

เลี้ยงลูก
เราก็ได้เห็นพัฒนาการของเค้ามาเรื่อยๆ
เมื่อคืนพี่ก๋าก็อบรมหมิงหมิงไปชุดใหญ่
หลายเรื่องเลยครับ
รวบยอดทีเดียว 5555

ถูกต้องเลย
สังคมทุกวันนี้เป็นแบบนี้
พฤติกรรมเลียนแบบ
แล้วกดดันให้ผู้คนคิดแบบนี้
ต้องทำให้ดีกว่า เด่นกว่า ดังกว่า

แต่ที่แน่ ๆ จะยังเขียนบล็อกเหมือนเดิมใช่มั๊ยครับ

เราว่าน้องซีน่ารักดีค่ะ

มีจิตใจที่ดี ไม่โกรธเพื่อนที่ทำอย่างนั้น เป็นเราคงน้อยใจมากกว่าโกรธ คงออกแนวเสียใจมากกว่าค่ะ

ส่วนเรื่องสีม่วง โอ้ววว มีแบบนี้ด้วย อย่างฮา

น้องซีถ้าเข้มแข็งพอ ไม่ว่าจะเจออะไร ก็จะผ่านไปได้นะคะ คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องทำให้เขามีสติ ความเข้มแข็งพอที่จะผ่านทุกอย่างในชีวิตไปให้ได้หละเนาะมี้

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Funniest Blog ดู Blog
JinnyTent Book Blog ดู Blog
ล้งเล้งลัลล้า Travel Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
Chocolate Raizin Movie Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ยังไงก็แล้วแต่ อีก2ปีเป็นไงทำใจบ้างน้าคุณแม่
คิดว่าทำตอนนี้ให้ดีที่สุด อนาคตก็ย่อมดีเองครับ

เลี้ยงลูกให้เป็นคนดีมีคุณภาพไม่ง่ายเลย
เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ... สู้ ๆ นะคะ

ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อเค้าจะช่วยขัดเกลาเค้าเองค่ะ

เป็นสาวสวยเหมือนคุณแม่ด้วยอ่ะจิ

แวะมาทักทายน้องซี
เห็นคุณแม่เล่าถึงนิสัยของน้องซีแล้ว
คิดถึงรุ่นพี่ สมัยเด็กๆก็คล้ายๆกันครับ

ยังค่ะ คุณแม่
สบายใจได้
11 ขวบยังใสซื่อน่ารักค่ะ
ขึ้น ม. 1 หลายคนยังไม่คิดว่าตัวเองต่างจากประถมเลย

เด็กอีกคนน่าสงสารนะคะ
กำลังคิดว่าเขาเติบโตมาในสังคมแบบไหน
ถึงต้องกดดันให้เด็กแข่งขันจนลบความน่ารักออกไป

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
วลีลักษณา Literature Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
ล้งเล้งลัลล้า Travel Blog ดู Blog
เรียวรุ้ง Funniest Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
kae+aoe Parenting Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


จะอีกกี่ปีมี๊เก๋ก็รักพี่ซี ทะเลแหล่ะเนาะ

น้องซีเป็นเด็กมองโลกในแง่ดีนะคะ
เอ..ตอนท้ายทำไมมีขี้เยอะจัง

น้องซีจิตใจดีมากค่ะคุณมี๊เก๋ น่าภูมิใจมากนะคะ
สิ่งต่างๆในชีวิตจะค่อยๆผ่านเข้ามาให้เรียนรู้
น้องซีมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ใกล้ๆ ปัญหาอุปสรรคใดๆเชื่อว่าน้องผ่านได้อย่างราบรื่นค่ะ

ควรจะว่าไวดี จิตใจดีเกินไปมั้ง จิตใจดีเกินก็จะเจอพวกเอาเปรียบได้ง่ายๆ เหมือนกันนะ

กรณีแรกเป็นผมอาจจะไม่โกรธ แต่ครั้งหน้า อย่ามาอยู่กลุ่มเดียวกันก็แล้วกัน (นี่มันโกรธชัดๆ)

สวัสดียามเช้าครับมี๊เก๋

พอดีเพื่อนส่งมาให้อ่านในเฟสครับ

งานวิจัยพบ โรงเรียนดี ไม่เท่าพ่อแม่ดี
ดร.Toby Parcel เจ้าของงานวิจัย เผยว่า

“โรงเรียนและพ่อแม่ล้วนมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของเด็ก
แต่การมีส่วนร่วมของครอบครัวนั้นพบว่าสำคัญกว่า
และนำไปสู่การประสบความสำเร็จในการเรียนได้มากกว่า”

บางทีการแก้ไขปัญหาด้านการศึกษาอาจไม่ใช่การแก้ที่ระบบการเรียนการสอนแต่เพียงอย่างเดียวเหมือนที่หลายคนเข้าใจ
แต่อาจต้องแก้ “ภาพรวม” ทั้งหมดในการจัดระบบการเรียนการสอนก็เป็นได้
และนั่นอาจต้องเริ่มให้คนเป็นพ่อแม่มีความเข้าใจ
และหันมาร่วมมือพัฒนาการศึกษาของลูกๆ ให้มากขึ้นนั่นเอง

“การศึกษาของเราชี้ให้เห็นว่า พ่อแม่ควรตระหนักในความสำคัญของตนเองให้มากขึ้นว่า
สามารถช่วยให้ผลการเรียนของลูกดีขึ้นได้ และควรทุ่มเทเวลาให้กับลูกๆ
ด้วยการหมั่นตรวจสอบการบ้านของลูก เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน
และการอบรมให้ลูกทราบถึงความสำคัญของการศึกษา” ดร.Toby กล่าวทิ้งท้าย

มาสนับสนุนความเห็นของ ดร.Toby Parcel
ในคอมเม้นท์ของคุณยศค่ะ (แอบอ่านอ่ะนะ)

แม่มีลูกสาวเป็นคนซื่อ... จริงๆ แม่ก็หิวนะ ฮ่าๆ

อ่านแล้วฮาโพด อันนี้น่าโหวตขำขัน
มองโลกแง่ดีเป็นเรื่องดีนะคะ แต่ก็คงต้องมี
วิธีป้องกันคนเอาเปรียบบ้าง ตรงนี้น้องซีคิดว่า
อยู่กับเพื่อนๆทั้งนั้น เธอก็หยวนๆ

สำหรับพี่คิดและเชื่อว่า คนมีพื้นฐานใจดี
มีภูมิคุ้มกันคนใจร้ายอยู่เองบ้างแล้วละค่ะ

5555
เข้ามาขำคุณแม่ คุณน้องค่ะ
ความซับซ้อนของมนุษย์มันยาก เยอะ จริงๆ เนอะ
สอนเรียนกันยังไงก็ไม่หมด
ต้องประครองตัวเองให้ดี ประคองความสมดุลให้ดี

เราคิดว่าน้องซีเป็นเด็กที่มี "ความคิดสร้างสรรค์" ค่อนข้างสูงกว่าเด็กคนอื่นๆค่ะ ตรงนี้คนส่วนมากจะเห็นแค่จาก การวาดภาพหรืออื่นๆ แต่ความจริงแล้ว ความคิดสร้างสรรค์ที่ว่านี่ เราคิดว่าซีสามารถนำมันเอามาใช้ใน "ทุกสถานการณ์" ที่เกิดขึ้นรอบๆตัวด้วยนะคะ อ่านแล้วแอบเศร้าแทนเด็กคนอื่นๆที่ ตัวยังเล็กแค่จิตใจกลับคับแคบ..กว่าร่างกาย ซึ่งตรงนี้ ...คนที่ปั้นเด็กแบบนี้มาก็คือ ละครน้ำเน่า และผู้ปกครองที่แสดงอาการใจแคบให้เด็กเห็นบ่อยๆน่ะค่ะ เรื่องแบบนี้ไม่มีคนสอนเด็กอิจฉานะคะ แต่เด็ก..ที่อยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ พวกเค้าจะเรียนรู้เองโดยธรรมชาติ... เรามั่นใจว่า ซีเป็นเด็กที่มีคุณภาพมากๆนะคะ และรู้จักที่จะ "เปลี่ยนสถานการณ์รอบๆตัวที่ไม่ค่อยดี ไปมองหาสิ่งที่ดีกว่าให้ตัวเองได้ โดยไม่ได้ไป จอด...และใจจดจ่อที่ ทำไมเธอไม่ให้ชั้นเข้ากลุ่ม ทำไมเธอถึงห้ามไม่ให้ชั้นระบายสีม่วง.." คือหากเป็นผู้ใหญ่ทางออกคือ "ตรบแม่ม...555" และผู้ใหญ่ส่วนมาก จะคิดแตกต่างกับเด็กมากๆค่ะมี๊เก๋ เพราะผู้ใหญ่สิ่งแรกที่เค้าคิดคือ "ชอบตัดสินคนจากประสบการณ์ของตัวเอง โดยที่อาจจะไม่รู้จักคนๆนั้นเลยด้วยซ้ำ" เราว่านะ

การเป็นเด็กที่ รู้จัก creative มันช่วยให้เด็กสามารถหาทางออก ครีเอท สถานการณ์ตรงหน้าที่ร้ายๆให้กลายเป็น ดี...ได้นะคะ เรามั่นใจว่า อีกสองปีข้างหน้า ซีจะเป็นเด็กที่ใจกว้าง... มีเพื่อนเยอะ(มากกว่าเดิม) เพราะตัวอย่างการทำงานกลุ่ม...ได้เปลี่ยนกลุ่มเพื่อนบ้าง ได้ฝึกทำงานกับเด็กผู้ชายบ้าง จริงๆแล้วเรื่องพวกนี้ถือเป็น "ประสบการณ์ที่ดีมากๆ" ไม่ใช่เกาะติดแหงกอยู่แต่กับเพื่อนกลุ่มเดียว วุ้ยยยย พูดเหมือนเคยมีลูก 555 บางทีนะคะ เราคิดว่า ลูกกลับกลายเป็นคนที่สอนเรา...และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ใหญ่แบบเราๆด้วยซ้ำไป... ค่ะ กิจกรรมที่ ครีเอทีฟ และ กีฬา....ควรเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเด็กค่ะ มันคือพื้นฐานที่จะทำให้เค้าพร้อมที่จะรับมือกับอนาคตได้ เด็กที่เล่นกีฬา ชอบกีฬา จะมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ความแกร่งตรงนี้สำคัญที่จะช่วยให้เค้าเอาตัวรอดได้กับชีวิตในอนาคตค่ะ จริงๆนะคะ อ่ะงั้นโหวตจ้าาาา