365วันของฉันมีแต่เรื่องการเดินทาง
<<
ธันวาคม 2567
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
5 ธันวาคม 2567

เปิดประสบการณ์สุดยูนีคเส้นทางสายไมซ์ใหม่ “กรุงเทพฯ-นนทบุรี-อยุธยา” กับทีเส็บภาคกลาง


มีโอกาสได้ไปร่วมทริปที่แสนจะพิเศษด้วยประสบการณ์ ที่เรียกได้ว่ายูนีคสุดๆ เส้นทางสายไมซ์ใหม่ Bespoke in BKK , Be the best in Thailand เพื่อสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจกับพื้นที่เชื่อมโยงกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา

โดยเป็น Familization Trip ผู้ประกอบการและสื่อมวลชน ปลุกพลังออกแบบสร้างสรรค์ประสบการณ์ไมซ์กรุงเทพมหานครและภาคกลาง 3 วัน 3 Theme

โดยเริ่มจากวันแรกในคอนเซ็ปท์ LUXESCAPE BANGKOK สัมผัสประสบการณ์ Bespoke in Bangkok กับการเยี่ยมชมและทำกิจกรรมในสถานที่จัดงานและโรงแรมที่สามารถนำมาใช้ในการออกแบบประสบการณ์ที่มีความพร้อมในการรองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ กับการผสมผสานการใช้พื้นที่จัดงานในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายทำให้กรุงเทพฯ เป็นหมุดหมายปลายทางอันดับต้นของโลกสำหรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์

วันแรกทานอาหารเช้า ณ Library & Plug-in, ชั้น 9 และเยี่ยมชมโรงแรม Moxy Bangkok Ratchaprasong

โรงแรมม็อกซี่แห่งแรกในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ให้บริการห้องพักที่มีสไตล์ถึง 504 ห้อง

และนำพาความสนุกสนานอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาสู่กรุงเทพฯ

แล้วไปที่ Jim Thompson House ชมพิพิธภัณฑ์และ Iconic Shop นอกจากชมพิพิธภัณฑ์ของสะสมและสินค้าของแบรนด์ Jim Thompson


ต้นตำรับผ้าไหมอันเลื่องชื่อ ที่นี้ยังมีห้องประชุมที่ได้รับการตกแต่งในรูปแบบไทยร่วมสมัย สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน อาทิ งานเลี้ยงอาหารค่ำหรือการจัดประชุมรับประทานอาหารกลางวัน

เยี่ยมชมสถานที่จัดกิจกรรม ณ Jim Thompson Art Space Art Center แห่งใหม่ที่บริหารงานโดยบ้านจิมทอมป์สัน สามารถปรับเปลี่ยน Art Center แห่งนี้ให้กลายเป็นห้องประชุมหรือการจัดงานเลี้ยงรับรอง ในรูปแบบ Loft Style ไม่เป็นทางการมากนัก พร้อมชมงานศิลปะที่จัดแสดงแบบหมุนเวียนในพื้นที่

ต่อด้วยชมสถานที่จัดกิจกรรม ณ อาคารเกษะโกมลของทบ. ที่มีห้องจัดประชุมพร้อมพรั่งหลากหลายแบบ และสวยงาม คลาสสิกมาก

สถานที่จัดงาน แต่งงาน สังสรรค์ ประชุม ครบวงจร ที่จอดรถกว้างขวาง ใจกลางเมือง

เราได้ทำกิจกรรม workshop ทำเข็มกลัดจากกระดาษ โดย Oh My Craft อีกด้วย

แล้วออกเดินทางไปอยุธยาที่ร้านอาหารขาวละออ ซึ่ง MICHELIN Guide ยกให้ร้าน KaowLaor-ขาวละออ ติดอันดับเป็นหนึ่งใน 9 ร้านที่ดีที่สุดของอยุธยา ร้านอาหารไทยในบรรยากาศน่ารักอบอุ่นโอบล้อมด้วยสวนต้นไม้แสนร่มรื่น และได้รับการันตีความอร่อยจากหลายสำนัก

ที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยที่ปรุงมาจากสูตรลับ ตำรับคุณยายละออ

ก่อนเข้าที่พัก Centara Ayutthaya ให้บริการห้องพักและสวีทขนาดกว้างขวางจำนวน 224 ห้อง ด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานระหว่างความสง่างามร่วมสมัยและเสน่ห์ของความเป็นอยุธยาแบบดั้งเดิม ถือเป็น Largest MICE Space ในอยุธยา และเป็นที่พักที่อยู่ติดกับห้างเซ็นทรัลเลย ทั้งพักและเดินเล่นได้อย่างสะดวกสบาย

Day 2 ในคอนเซ็ปท์ TIMELESS ODESSEY AYUTTHAYA เรียนรู้ความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองอยุธยามรดกแห่งความรุ่งเรืองในอดีตของไทย ผ่านงานหัตถศิลป์และวัดวาอารามที่สะท้อนความปรานีตของวิถีชีวิตผู้คนที่เมืองหลวงในอดีตแห่งนี้ อยุธยาถือว่าเป็นเมืองแห่งน้ำที่สองฝั่งน้ำเหล่านั้นเป็นที่อยู่อาศัยของชาวอยุธยาซึ่งจะปลูกสร้างบ้านเรือนเป็นกลุ่มๆ สลับไปกับวัดวาอาราม มีผังเมืองที่สมบูรณ์และสวยงาม

เริ่มด้วยทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ณ วัดแม่นางปลื้ม โบราณสถานเก่าแก่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 1920 สมัยขุนหลวงพระงั่ว พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 ของกรุงศรีอยุธยา จวบจนปัจจุบันวัดแม่นางปลื้มมีอายุถึง 644 ปี

สักการะ “หลวงพ่อขาว” ที่เป็นที่ศรัทธานับถือของชาวอยุธยาและประชาชนทั่วไป หน้าซุ้มประตูทางเข้า ก็จะเห็นรูปภาพลิซ่า แบล็คพิ้งค์ ตั้งโชว์ไว้ว่าครั้งหนึ่งลิซ่า เคยเดินทางมาที่วัดแม่นางปลื้มด้วย

แล้วเข้าโปรแกรม Timele Odysey Ayutthaya บรรยายโดยเจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร ออกเดินทางโดยรถตุ๊กตุ๊กหน้ากบของอยุธยา (ถ้าเป็นตรังจะเรียกตุ๊กตุ๊กหัวกบ) เยี่ยมชมวัดและโบราณสถานที่สำคัญของพื้นที่นอกเกาะเมืองอยุธยา

ไปที่วัดพระงาม แห่งคลองสระบัว โด่งดังเพราะมีซุ้มประตูวัดที่มีรากต้นโพธิ์ใหญ่เลื้อยพันปกคลุมมานานไม่ต่ำกว่าร้อยปี หรือที่ชาวอยุธยาเรียกว่า “ประตูแห่งกาลเวลา” กระทรวงวัฒนธรรมยังได้ประกาศคัดเลือกให้ต้นโพธิ์วัดพระงาม เป็นหนึ่งในต้นไม้รุกขมรดกของแผ่นดินด้วย

วัดเชิงท่า สถาปัตยกรรมที่งดงาม อาทิพระปรางค์ห้ายอด วิหารและศาลาการเปรียญ

รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังภาพเขียนสีแบบไทยเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นจิตรกรรมสีฝุ่น วรรณะสีเย็น เนื้อหาจิตรกรรมเป็นภาพพุทธประวัติ ทศชาติชาดก เทพชุมนุม ฮกลกซิ่ว วัดนี้ถือเป็นวัดที่มีความผูกผันกับพระราชประวัติของพระเจ้าตากสิน และยังเป็นวัดแห่งตำนานระหว่างพระเจ้าตากกับรัชกาลที่ 1 ซึ่งทรงพบกันเมื่อครั้งยังผนวช

วัดหน้าพระเมรุ เป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ได้ถูกพม่าทำลายและยังคงปรากฏสถาปัตยกรรม แบบอยุธยาที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง สักการะ “พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ” จัดเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยอยุธยาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่มีปรากฏอยู่ในปัจจุบัน มีความสมบูรณ์งดงามมากสูงประมาณ 6 เมตร

และสมัยรัชกาลที่ 3 ได้อัญเชิญพระพุทธรูปศิลาสีเขียวหรือพระคันธารราฐประทับนั่งห้อยพระบาทสมัยทวาราวดีจากวัดมหาธาตุมาไว้ในวิหารสรรเพชญ์ พระพุทธรูปศิลาแบบนั่งห้อยพระบาทสมัยทวาราวดีนี้ นับเป็น 1 ใน 5 องค์ที่มีอยู่ในประเทศไทย และมีอายุกว่า 1,500 ปี

จากนั้นชมมรดกอันล้ำค่าของเครื่องทองอยุธยาโบราณ ที่พิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา จัดแสดงโบราณวัตถุที่พบจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องทองอยุธยา

การจัดแสดงอยู่ในรูปแบบที่น่าสนใจ ทันสมัย และได้มาตรฐานตามหลักพิพิธภัณฑสถานสากล จำนวนโบราณวัตถุที่จัดแสดงภายในอาคารเครื่องทอง มีจำนวนทั้งสิ้น 2,244 รายการ มีโบราณวัตถุชิ้นเด่น อาทิ พระแสงขรรค์ชัยศรี พระคชาธารจำลอง พระสุวรรณมาลา 

สถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 

ทานอาหารกลางวัน ณ บ้านไทยคลองสระบัว สถานที่จัดงานไมซ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ริมสระบัวล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่และมีเรือนไทยหลังงามตกแต่งด้วยของเก่าหายากและมีคุณค่าทางศิลปะ

พร้อมบริการอาหารไทยโบราณจัดเสิร์ฟอย่างหรูหรา ซึ่งในยามปกติจะเปิดเป็นร้านอาหารสไตล์ Chef’s Table ให้บริการครั้งละหนึ่งโต๊ะ โดยต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น มื้อนี้เรียกว่าพิเศษสุดๆ

ได้ทาน กุ้งแม่น้ำเผา น้ำปลาหวานสะเดา ซึ่งกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่มากๆ แกงมัสมั่นไก่ทานกับอาจาดและกระเทียมโทน และเมี่ยงคำสุดอร่อยกับน้ำลำใย

จากนั้นเข้าสู่ The Flow of Sweetness เรียนรู้การทำขนมไทย ขนมพระพาย  มีลักษณะเป็นทรงกลมสอดไส้ถั่วกวน ตัวขนมด้านนอกทำจากแป้งข้าวเหนียวผสมแป้งข้าวเจ้าผสมสีธรรมชาติต่างๆ นำไปนวดกับน้ำมะลิแล้วนำไปห่อถั่วกวนที่ปั้นเป็นก้อนกลมๆ แล้วนำไปต้มด้วยน้ำเดือดจัด ขนมเมื่อสุกก็จะค่อยๆลอยขึ้นมา เป็นขนมไทยชาววังโบราณ มีลักษณะเป็นทรงกลมสอดไส้ถั่วกวน หรือมะพร้าว ถือเป็น The LostTtaste of Ayutthaya 

สอนโดยบ้านขนมไทยไกลหวาน กับอาจารย์เผือก-ประเสริฐ จรรยชาติ เจ้าของเคล็ดลับวิชาที่ได้เปิดคอร์สสอนทำขนมไทย โดยใช้วัตถุดิบและเทคนิคดั้งเดิม

เดินทางไปยังร้านอาหารสุริยันจันทรา

กิจกรรมล่องเรือโบราณ สุริยันจันทรา อายุกว่า 100 ปี

ชมแม่น้ำน้อยยามเย็น

และทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารสุริยันจันทรา ร้านอาหารริมแม่น้ำน้อย โดยได้พลิกโฉมโรงสีไฟ หรือโรงสีข้าวระบบไอน้ำเก่า อายุกว่า 130 ปี ให้เป็นร้านอาหารไทยร่วมสมัย และฟื้นเรือนไทยเป็นเลานจ์รับรอง มีบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์

โดยเฉพาะเมนูอาหารที่ได้รับการการันตีจาก Michelin Guide เช่น ถุงทองหรือช่อม่วง หรืออาหารจานหลักอย่างปลาช่อนทอดสมุนไพรและกุ้งทอดซอสมะขาม

Day 3 ในคอนเซ็ปท์ THE FLOW OF ART AYUTTHAYA BANGKOK สำรวจสถานที่จัดกิจกรรมโรงแรม Centara Ayutthaya

และ Ayutthaya Hall รองรับการประชุมได้หลากหลายทั้งในส่วนของโรงแรมและห้าง

แวะซื้อโรตีสายไหมชื่อดังของอยุธยา อาบีดีน ร้านโรตีสายไหมแห่งนี้เปิดขายมากว่า 70 ปีแล้ว และยังคงสืบทอดเทคนิคและรสชาติแบบดั้งเดิมไว้ แป้งโรตีบาง แต่นุ่มเหนียว ห่อสายไหมเนื้อฟู หวานอร่อย

แล้วเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน สถานที่จัดแสดงนิทรรศการ งานฝีมือช่างของสถาบันสิริกิติ์ สวนจิตรดา และผลงานศิลปหัตถกรรมของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ภายในพิพิธภัณฑ์ฯ แบ่งการจัดแสดงเป็นหมวดหมู่ เช่น ห้องแสดงงานปีกแมลงทับสีเขียวเหลือบรุ้งวิจิตรสวยงาม ผนังตกแต่งด้วยงานสานย่านลิเภาสอดปีกแมลงทับ หรือห้องนิทรรศการใหญ่จัดแสดงงานฝีมือ อาทิ เครื่องเงินเครื่องทอง ลงยาสี หมู่เรือพระที่นั่งจำลองจากขบวนเรือพระราชพิธี และฉากไม้แกะสลักเรื่องสังข์ทองและหิมพานต์

เดินทางไปยัง The Artisan Ayutthaya รู้จักอยุธยาในมิติใหม่ที่ต่างไปจากเดิม ด้วยรสมือคนต้นตํารับแท้ๆ ผ่านการต่อยอดภูมิปัญญาและสร้างคุณค่าให้กับวัตถุดิบในท้องถิ่น

การปลุกหัวใจแม่ครัวรุ่นแม่ ป้า ย่า ยาย ให้สนุกกับการรังสรรค์รสชาติ ตำรับชาวบ้าน ได้อย่างไม่รู้จบขึ้นอีกครั้ง กับอาหารตํารับชุมชนบ้านรุน

แล้วไปยังวัดบรมราชากาญจนาภิเษก อนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) สักการะสิ่งศักดิสิทธิ์ ตามแนวปรัชญาและคติธรรมทางศาสนาพุทธจีน นิกายฝ่ายมหายาน

วัดเล่งเน่งยี่ 2 เป็นวัดที่มีความงดงามตระการตา และโดดเด่นในด้านของศิลปะและสถาปัตยกรรมจีน เป็นวัดคณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์

และเป็นวัดที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมศิลปกรรมแบบจีน-ไทย ตามแบบอย่างพุทธศิลป์จีนชั้นสูงของวัดพุทธศาสนานิกายมหายาน

ขอขอบคุณ ดร.สุรัชสานุ์ ทองมี ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน./ทีเส็บ ที่ชวนไปในทริปนี้

เรื่องและภาพโดย Travelista นักเดินทาง/สาธิตา โสรัสสะ
#BespokeinBKKBetheBestinThailandFamilizationTrip #ทีเส็บ #MICECentralEastern #สำนักภาคกลางทีเส็บ #MoxyBangkokRatchaprasong #JimThompsonHouse #JimThompsonArtSpace #OhMyCraft  #ร้านอาหารขาวละออ #CentaraAyutthaya #สุรัชสานุ์ทองมี ล#LUXESCAPEBANGKOK #TCEB #MICECentral #ไมซ์เชื่อมกรุงFamtrip #BespokeinBKK #BethebestinThailand #สสปน #ThailandConventionExhibitionBureau
 



Create Date : 05 ธันวาคม 2567
Last Update : 5 ธันวาคม 2567 18:35:24 น. 0 comments
Counter : 185 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

travelistaนักเดินทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




Travelista นักเดินทาง หรือสาธิตา โสรัสสะ อดีตหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจเครือเนชั่น เป็นนักข่าวสายท่องเที่ยวยาวนานเกือบ 40 ปี เดินทางมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก มีผลงานเขียนพ็อคเก็ตบุ๊คท่องเที่ยว 34 เล่ม ปัจจุบันเป็นอุปนายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย และประธานมีเดียแอนด์บล็อกเกอร์ คลับ (คลับของบล็อกเกอร์) เคยได้รับรางวัลบล็อกเกอร์ยอดเยี่ยมปี 59 ,ช่างภาพหญิงยอดเยี่ยมจากจีนปี 60 , สื่อมวลชนยอดเยี่ยมปี 64 และผู้บริหารสื่อออนไลน์ยอดเยี่ยมปี 65 ไอดีไลน์ tatravel โทร 081-817-2805
[Add travelistaนักเดินทาง's blog to your web]