
ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการจากไปของชินโซ อาเบะ #ShinzoAbe #ชินโซอาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ในเหตุถูกมือปืนลอบยิงที่นารา
Credit Pic : PHILIPPE LOPEZ / AFP
มีแง่มุมที่อยากสะท้อนใน 3 เรื่องค่ะ
1 เรื่องการยกเว้นวีซ่าให้ไทย 2 เรื่องภาพจำของอาเบะในโอลิมปิค และ 3 เรื่องของปืนกับชาวญี่ปุ่นเรื่องแรกหากจะย้อนไปก่อนปี 2556 ใครหลายที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น คงจำได้ว่า การขอวีซ่าเข้าญี่ปุ่นจะค่อนข้างยุ่งยากมาก เพราะมีหลายสิ่งต้องนำไปแสดงเพื่อประกอบหลักฐานการขอวีซ่า โดยเฉพาะ Statement แบงก์ เพราะหากเงินในบัญชีมีน้อยไปก็ไม่ผ่าน ไม่ค่อยหมุนเวียนก็ไม่ผ่าน ตัวตนต้องแสดงทุกอย่างให้ชัด หรือหากไม่มีหลักฐานการทำงานในเมืองไทยชัดเจน ก็จะยากเข้าไปอีก เพราะเขาเกรงว่าจะหลบหนีเข้าเมือง
จริงๆแล้วหรือแม้แต่หญิงสาวหน้าตาสวยๆ หากเข้าญี่ปุ่นสมัยก่อน ก็จะถูกจับจ้องจากตม.ญี่ปุ่นมาก (อันนี้เป็นเรื่องจริงเลยนะคะ เพราะเขาเกรงว่าจะไปทำงานที่นั่น) จำได้ว่าไปเที่ยวกับรุ่นน้องแอร์โฮสเตส เธอหน้าตาสวยมาก เธอจะกังวลมากเวลาผ่านตม.แบบไปเที่ยวส่วนตัว ไม่ได้ไปกับทัวร์ หากไม่แต่งชุดแอร์ เพราะเกรงว่าจะไม่ผ่าน(อันนี้คือเรื่องนานมากแล้วนะคะ)
และในปี พ.ศ. 2556 ก็เป็นข่าวดีของนักท่องเที่ยวชาวไทย และเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เพราะ
รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเว้นวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่คนไทย สามารถเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นได้เป็นระยะเวลา 15 วัน ซึ่งการยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวดังกล่าว เกิดขึ้นในสมัยนายกรัฐมนตรี “ชินโซ อาเบะ" นั่นเอง เพื่อกระตุ้นภาคเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น
โดยประเทศไทย นับเป็นชาติที่ 4 ของกลุ่มอาเซียนที่ญี่ปุ่นประกาศยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยว ต่อจากสิงคโปร์ บรูไน และมาเลเซีย โดยชินโซ อาเบะ ปรับกลยุทธ์การตลาด มุ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากตลาดในอาเซียน ซึ่งมีประเทศไทยเป็นตลาดเป้าหมายสำคัญอันดับหนึ่ง และเพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศไทย
ทางการญี่ปุ่นประกาศออกมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2556 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคมในปีเดียวกัน
นี่คือหนึ่งของยุทธศาสตร์
"อาเบะโนมิกส์" (Abenomics) จากการที่ญี่ปุ่นเคยจำกัดนักท่องเที่ยว ก็เปิดเสรีวีซ่า นั่นทำให้จากที่คนไทยเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2556 ประมาณ 4.5 แสนคน กลายเป็นว่า นับจากปี 2562 เป็นต้นมา คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นมากกว่า 1 ล้านคนในทุกปี ไปเที่ยวที่ไหนๆ ในญี่ปุ่นก็มีภาษาไทย สถานที่ท่องเที่ยวยังพิมพ์นามบัตรเป็นภาษาไทยไว้ให้คนไทยเลยค่ะ คนไทยเราชอบเที่ยวญี่ปุ่นกัน เพราะวิวสวย อาหารอร่อย บ้านเมืองสะอาด ทุกอย่างทันสมัย คนญี่ปุ่นอัธยาศัยน่ารัก เป็นมิตรกับคนต่างชาติ ค่าทัวร์ก็ไม่แพงไปนัก
จนเมื่อโควิดเข้ามามาตรการการเข้าประเทศญี่ปุ่นแบบฟรีวีซ่า ได้ถูกยกเลิกชั่วคราวภายหลังเกิดเหตุการณ์การระบาดของโควิด-19 ในปี พ.ศ.2563 และได้เปิดประเทศรับการท่องเที่ยวจากคนไทยอีกครั้งแบบมีข้อจำกัด ในปี พ.ศ. 2565 เมื่อไม่นานมานี้เอง
เรื่องที่ 2 ที่คนไทยจำอาเบะได้แม่นคือ เขาได้เข้าร่วมในพิธีปิดโอลิมปิคที่บราซิล โดยเป็นเซอร์ไพรซ์ในงาน ในช่วงต้อนรับเข้าสู่โตเกียว โอลิมปิค ไม่มีใครทราบว่าเขาจะไปร่วม จนเมื่อเขาเผยโฉมจากสแตนด์ใต้ดินที่ค่อยๆผุดขึ้นมา
นายกฯญี่ปุ่นได้แปลงร่างเป็นมาริโอ ข้ามผ่านอุโมงค์วิเศษสีเขียวจากใจกลางกรุงโตเกียว มายังสนามกีฬาในนครริโอ เดอ จาเนโร ผู้ชมในสนามปรบมือเกรียวกราว และเห็นว่าการปรากฏตัวของผู้นำญี่ปุ่นในชุด “ซูเปอร์ มาริโอ” เป็นไฮไลต์สุดเซอร์ไพรส์ของพิธีปิดโอลิมปิคครั้งนั้นไปเลย
เรื่องที่ 3 สำหรับเรื่องปืน มีแง่มุมที่อยากสะท้อน เพราะตัวเอง(Travelista นักเดินทาง) เป็นคนที่ชื่นชอบกีฬายิงปืน และยิงมายาวนานตั้งแต่อายุ 18 จนบัดนี้ เวลาไปยิงในสนามยิงปืน รด.ที่เป็นสนามยิงปืนของนักท่องเที่ยว จะเห็นเลยว่า สาวๆ ญี่ปุ่นชอบยิงปืนมาก
ด้วยเหตุผลที่ว่าบ้านเขาไม่มีสนามยิงปืนเลย คนทั่วไปไม่สามารถมีอาวุธปืนได้เลย ไม่มีใครได้เคยยิงปืน เคยจับปืนได้ เป็นอะไรที่เขาเข้มงวดที่สุด
ต่างกับบ้านเรามากที่มีสนามยิงปืนมากมาย คนจำนวนมากมีอาวุธปืน
ทำให้
สาวชาวญี่ปุ่นต้องมาขอจับปืนจริงสักครั้งในชีวิต ที่สนามยิงปืนบ้านเรา พวกเธออาจจะไม่ได้ยิงจริงจัง แต่อยากจะได้นำภาพอันน่ารักๆ ถือปืนไปลงโซเชี่ยลสักครั้ง รวมถึงสาวชาวจีนด้วยเช่นกัน ที่ประเทศของเขาก็ไม่อนุญาต เพราะยังปกครองโดยระบบคอมมิวนิสต์ ซึ่งไม่อนุญาตให้มีปืนและสนามยิงปืน
แถมด้วยอีกข้อมูลค่ะว่า ในการเข้ามายิงปืนที่สนามยิงปืน นักท่องเที่ยวจะไม่ได้รับการประกันภัยด้วย ดังนั้นบริษัททัวร์เมืองไทย ไม่สามารถขายโปรแกรมทัวร์ยิงปืนเด็ดขาด แต่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่ไกด์พามาแบบกลุ่มเล็กๆเท่านั้น (อย่างไรก็ตามอันนี้ขอออกตัวแทนสตาฟที่สนามยิงปืนค่ะว่า ทางสนามก็มีมาตรการป้องกันเข้มงวด ไม่ให้เกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว เรียกว่าเซฟตี้ที่สุดค่ะ จึงไม่เคยเกิดเรื่องกับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและจีน หรือชาติใดๆ ที่เข้าไปยิงปืนเลย)