คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. พัฒนาองค์ความรู้ ก้าวข้ามสู่มิติใหม่ ติดปีกนักศึกษาก้าวสู่โลกความหลากหลายในยุคดิจิตัล ดิสรัปชั่น ดันหลักสูตรนานาชาติแบบ Dual Degree เรียน 5 ปี ได้ 2 ปริญญา วิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม และหลักสูตรปกติ เรียน 4 ปี ได้ 2 ปริญญา วิศวกรรมเกษตรอัจฉริยะและการจัดการสมาร์ทฟาร์ม คณะเทคโนโลยีการเกษตร
รศ.ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า เพื่อเพิ่มคุณภาพทางด้านการศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์สู่ระดับสากล คณะฯ ได้ดำเนินการตามแนวนโยบายของสถาบันฯ โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมทักษะวิชาเฉพาะให้เข้มแข็งและทวีความเข้มข้น มีความหลากหลายมากขึ้น พร้อมก้าวข้ามการเรียนรู้สู่มิติใหม่ ตอบโจทย์ศตวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลง พลิกหลักสูตรและกรอบแบบเดิมๆ มุ่งสู่หลักสูตรนานาชาติ Dual degree และ Double Degree
โดยเฉพาะหลักสูตรใหม่ที่นักเรียนให้ความสนใจกันมาก นั่นคือ หลักสูตร Arch. + Engr. ถือเป็นหลักสูตรแรกของประเทศไทยที่เรียนควบ จบแล้วรับ 2 ปริญญาจากคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ และวิศวกรรมโยธา ทั้งสองคณะมีวิชาเรียนที่คล้ายกันอยู่แล้ว มีการแบ่งภาคการเรียนทั้งวิชาพื้นฐานและวิชาเฉพาะ อาคารเรียนก็ตั้งอยู่ใกล้กัน ถ้าหากเรียนต่อเนื่อง 2 คณะ ต้องใช้เวลาเรียนถึง 9 ปี
แต่หลักสูตรนี้ช่วยร่นระยะเวลาเรียนได้หลายปี ใช้เวลาเพียง 5 ปี จบได้ 2 ปริญญา เรียนจบแล้วสามารถสอบใบประกอบวิชาชีพทั้ง 2 สาขา คือ วศ.บ.วิศวกรรมโยธา และ วท.บ. สาขาวิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
จุดแข็งของหลักสูตร 2 ปริญญา ทำให้นักศึกษาสะสมความรู้และทักษะในการทำงานครบถ้วนหลายด้านในคนเดียว เก่งทั้งศาสตร์และศิลป์ โลกทุกวันนี้ต้องการคนที่มีศักยภาพ มีความสามารถที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่เพียงออกแบบสร้างตึกให้แข็งแรงทนทานในเชิงวิศวกรรมเท่านั้น แต่ยังต้องการความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ตึกที่ดูแข็งแกร่งมีความเป็นศิลปะ มีความสวยงามไปด้วยในเวลาเดียวกัน
คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งหลักสูตร Dual Degree ที่ สจล. มีความภาคภูมิใจคือ หลักสูตรควบ 2 ปริญญา “Agrinovator” ที่ผนึกรวมระหว่างคณะเทคโนโลยีการเกษตร และคณะวิศวกรรมศาสตร์ (Agriculture + Engineering) เรียน 4 ปี จบแล้วได้ 2 ปริญญา คือ วท.บ. การจัดการฟาร์มอย่างชาญฉลาด คณะเทคโนโลยีการเกษตร และ วศ.บ. วิศวกรรมเกษตรอัจฉริยะ ภายใต้แนวคิด “สร้างได้ ขายเป็น เด่นเรื่องผลผลิต”
นักศึกษาของหลักสูตรนี้ จะต้องเรียนรู้วิชาของทั้ง 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรการจัดการฟาร์มอย่างชาญฉลาด และหลักสูตรวิศวกรรมเกษตรอัจฉริยะ ทำให้มีความรู้แบบสหวิทยาการ นำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการจ้างงาน หรือเป็นผู้ประกอบการ สร้างเครือข่ายภายในสายงานทางการเกษตรและวิศวกรรม ยกระดับทักษะทั้ง soft skills และ hard skills เมื่อสำเร็จหลักสูตร บัณฑิตสามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย เท่าทันโลกธุรกิจยุค New Normal ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมทางการเกษตร ผู้ประกอบการด้านธุรกิจเกษตรอัจฉริยะ พนักงานในองค์กรธุรกิจเกษตร หรือวิศวกรการเกษตร หรือนักวิจัย นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรและวิศวกรรม หลักสูตรนานาชาติ Dual Degree ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. มีความหลากหลาย ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ มีความคล่องตัวสูง ทำให้นักศึกษามีทางเลือกในการเรียนยิ่งขึ้น ซึ่ง สจล.พร้อมสร้างบัณฑิตหนึ่งคนให้ถึงพร้อมด้วยความรู้และพัฒนาทักษะใหม่ๆ ส่งเสริมให้นักศึกษาสามารถเดินหน้า ปรับตัว ยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคที่เข้ามาท้าทายตลอดเวลา เป็นส่วนหนึ่งของสังคมคุณภาพ เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไป
“คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล.ตั้งเป้าและมองไปข้างหน้า ความสำเร็จที่แท้จริงอยู่ที่เราสามารถพัฒนาหลักสูตรการศึกษา ยกระดับการเรียนการสอนวิศวกรรมสู่ระดับสากล สร้างเครือข่ายและผลงานทางด้านวิชาการและการวิจัยพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติ ผลิตบัณฑิตคุณภาพสูงที่สามารถนำวิชาความรู้และทักษะด้านวิชาชีพ ไปสู่การวิจัยค้นคว้าทางวิศวกรรมและองค์ความรู้ด้านต่างๆ ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม สร้างความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของชาติ มีความเป็นผู้นำ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป” รศ.ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล กล่าวในที่สุด
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษาของ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 0-2329-8321 หรือ
https://engineer.kmitl.ac.th/