365วันของฉันมีแต่เรื่องการเดินทาง
<<
สิงหาคม 2565
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
5 สิงหาคม 2565

เยือนถิ่นธรรมแห่งศรัทธา Religion and Faith


ท่องเที่ยวสู่ดินแดนแห่งศรัทธา หลากศาสนา หลายความเชื่อ อันศักดิ์สิทธิ์ ที่ผสานผสมกลมกลืนอยู่บนผืนดินไทย ยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คนด้วยธรรม นำความสงบสันติ และเชื่อมโยงสู่ศิลปกรรมทางศาสนา อันวิจิตรงดงาม ตามแต่ละท้องถิ่น

นี่คือส่วนหนึ่งใน E-Book สัมผัสเมืองไทย ต้องไปสักครั้ง 100 Best Places to Visit in Thailand ต้อนรับ ReOpen Thailand สัมผัสวัฒนธรรมและประเพณี มหัศจรรย์ธรรมชาติ หัตถศิลป์ถิ่นไทย ภูมิปัญญายั่งยืน เที่ยวเชิงอาหารและสุขภาพ เที่ยวตามเทรนด์ (Workation & BCG Go Green)

สนับสนุนการจัดทำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และพันธมิตรทั้ง ทิพยประกันภัย , BAM , บางกอกแอร์เวย์ส ,ฮาตาริ อิเลคทริค เนื้อเรื่องโดย 3 นักเขียนที่มีผลงานพ็อกเก็ตบุ๊คกว่า 130 เล่ม ดร.สุรศักดิ์ จิรวัสตร์มงคล สาธิตา โสรัสสะ และชาธร โชคภัทระ
 
มาพบกับถิ่นธรรมแห่งศรัทธา Religion and Faith กันค่ะ

1 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร
ศูนย์รวมใจคนไทย เคียงคู่เกาะรัตนโกสินทร์
ในบรรดาศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม และเป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธทั้งปวงบนแผ่นดินไทย ต้องถือว่า วัดพระแก้วหรือ “วัดพระศรีรัตนศาสดาราม” คือพระมหาอารามหลวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทุกด้าน เพราะสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ครั้งสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อใช้เป็นวัดประจำวังหลวง โดยจำลองแบบมาจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ที่ราชธานีเก่าอยุธยา
ภายในพระอุโบสถวัดพระแก้วประดิษฐาน พระแก้วมรกต” หรือ “พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” พระพุทธรูปหยกศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมือง ทุกปีจะมีพระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรง 3 ฤดู นอกจากนี้ในบริเวณวัดพระแก้วยังมีพระศรีรัตนเจดีย์ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากศรีลังกา และมีรูปปั้นยักษ์ 6 คู่ 12 ตน น่าเกรงขาม ทำหน้าที่เป็นทวารบาลอารักขาประตูระเบียงคดรอบพระอุโบสถอีกด้วย
 
2 พระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่
ดวงแก้วแห่งศรัทธาในแดนล้านนา
นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่คือ ศูนย์กลางแห่งอาณาจักรล้านนา ที่มีความรุ่งเรืองเฟื่องฟูในทุกด้าน โดยเฉพาะเป็นแดนธรรม แดนทอง ของพระพุทธศาสนา เกิดมีวัดวาอารามขึ้นหลายร้อยแห่ง หนึ่งในนั้นคือ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหารหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “วัดพระธาตุดอยสุเทพ” ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงกว่า 1,080 เมตร
ในปี พ.ศ.2477 ครูบาศรีวิชัย หรือตนบุญแห่งล้านนา ได้นำผู้ศรัทธากว่า 5,000 คน ช่วยกันสร้างถนน ใช้เวลาแค่ 6 เดือนก็สำเร็จ องค์พระธาตุดอยสุเทพนั้นสร้างด้วยศิลปะเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังแปดเหลี่ยม ปิดทองจังโกสองชั้นเหลืองอร่าม นับเป็นความงามคู่ดินแดนล้านนาที่หาเทียบได้ยากยิ่ง
 
3 พระธาตุขามแก่น และพระมหาธาตุแก่นนคร จังหวัดขอนแก่น
พระบรมธาตุศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนดินถิ่นอีสาน
ความศรัทธาในเรื่องพระธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ ได้สถิตอยู่ในดวงใจชาวอีสานมาเนิ่นนานแล้ว หากเราไปเยือนจังหวัดใดในอีสาน จึงเห็นว่ามีพระธาตุสำคัญประจำจังหวัดนั้นๆ เสมอ อย่างที่จังหวัดขอนแก่น มีพระธาตุคู่บ้าน คู่เมือง เป็นที่รู้จักถึง 2 องค์ องค์แรกคือ พระธาตุขามแก่น (พระธาตุบ้านขาม) อำเภอน้ำพอง เป็นองค์พระธาตุขนาดเล็ก ทว่างดงามด้วยพุทธศิลป์ ลักษณะเป็นฐานสี่เหลี่ยมผายออก ฐานทรงบัวคว่ำสองชั้น ปลียอดเป็นทองคำเหลืองอร่าม พร้อมฉัตร 5 ชั้น นัยว่าสร้างด้วยศิลปะล้านช้างสมัยพุทธศตวรรษที่ 24-25
ส่วนอีกแห่งคือ พระมหาธาตุแก่นนคร (พระธาตุหนองแวง) อำเภอเมืองขอนแก่น เป็นองค์พระธาตุขนาดมหึมา สูง 80 เมตร มี 9 ชั้น ชั้นล่างสุดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุในผอบแก้วใส เป็นพระอุรังคธาตุ (ส่วนอก) และพระธาตุของพระสาวก 100 องค์
 
4 วัดพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง
นมัสการพระแก้วมรกตแห่งล้านนา ณ ศูนย์กลางจักรวาล
วัดพระธาตุลำปางหลวงคือ วัดคู่บ้าน คู่เมืองสำคัญที่สุดของลำปางมาแต่ครั้งโบราณกาล กษัตริย์ลำปางในอดีต และพระนางจามเทวีทรงบูรณะวัดนี้หลายครั้ง จนกลายเป็นวัดที่สร้างด้วยไม้สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งบนแผ่นดินสยาม ปฐมบทแห่งการเดินทางท่องเที่ยวลำปาง ต้องเริ่มต้นที่ปูชนียสถานที่สำคัญคู่บ้าน คู่เมืองแห่งนี้เป็นลำดับแรก
หัวใจของวัดอยู่ที่องค์พระธาตุลำปางหลวง ซึ่งเป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีฉลู (ปีวัว) สร้างเป็นเจดีย์ทรงลังกา ก่ออิฐ ถือปูน ผิวนอกบุทองจังโกเหลืองอร่าม บรรจุพระเกศา และพระอัฐิธาตุจากพระนลาฏข้างขวา พระศอด้านหน้า และหลังของพระพุทธเจ้า พระธาตุลำปางหลวงสร้างขึ้นด้วยคติเสมือนเขาพระสุเมรุ หรือศูนย์กลางของจักรวาล ภายในวัดประดิษฐาน “พระแก้วดอนเต้า” (พระแก้วมรกต) อายุกว่า 400 ปี ให้กราบขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล
 
5 วัดสิรินธรวราราม จังหวัดอุบลราชธานี
มหัศจรรย์วิหารเรืองแสงบนภูสูง
วัดเรืองแสงคือ ฉายาที่ผู้คนทั่วไปใช้เรียกขาน วัดสิรินธรวราราม(วัดภูพร้าว) ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยความแปลกมหัศจรรย์ไม่เหมือนใคร ของผนังด้านนอกพระอุโบสถมีภาพต้นกัลปพฤกษ์ขนาดใหญ่ เรืองแสงได้ในความมืด และงดงามจับตาน่าศรัทธาอย่างยิ่ง เกิดจากการที่ศิลปินผู้วาดใช้สีเรืองแสงชนิดพิเศษ            
ส่วนตัวพระอุโบสถก็งดงามน่าประทับใจ จำลองแบบมาจากวัดเชียงทอง เมืองหลวงพระบาง มรดกโลกของประเทศลาว จุดเด่นที่หลังคาทรงแอ่นโค้งซ้อนกัน 3 ชั้น ตามศิลปะล้านช้าง ส่วนในพระอุโบสถเป็นสีทองอร่าม เสาด้านนอกแต่ละต้นลงลายด้วยมือ เป็นลายดอกบัว และสัตว์ทั้งตามคติบัว 4 เหล่า ได้อย่างล้ำเลิศ
 
6 สวนโมกขพลาราม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เข้าถึงแก่นธรรม ในวัดป่าสายปฏิบัติธรรม
ในบรรดาวัดป่าสายปฏิบัติธรรมที่สอนให้ชาวพุทธไม่ยึดติดในสิ่งใด รู้จักปล่อยวาง เน้นวิธีดับทุกข์ และสอนให้เข้าใจในแก่นคำสอนจริงๆ ของพระพุทธเจ้า สวนโมกขพลาราม คือ หนึ่งในตัวแทนอันนั้น ที่สมบูรณ์ทั้งในแง่สถานที่ แนวคิด และวิธีปฏิบัติ จนเป็นที่ยอมรับไปถึงระดับนานาชาติ โดยมีท่านพุทธทาสภิกขุ (นามเดิม เงื่อม พานิช) เป็นผู้ก่อตั้งสวนโมกขพลารามขึ้น ในลักษณะของวัดป่าที่เน้นความสงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ และเปิดรับคนทุกระดับ ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา
ที่นี่มีโรงมหรสพทางวิญญาณ เป็นศูนย์กลางสอนคติธรรมต่างๆ โดยใช้ภาพศิลปะเป็นสื่อ รวมถึงมีลานหินโค้ง เป็นโบสถ์ธรรมชาติ ใช้สำหรับปฏิบัติกิจทางศาสนา และสอนธรรมเทศนาแด่สาธุชนทั้งหลาย
 
7 วัดชลธาราสิงเห จังหวัดนราธิวาส
ย้อนอดีตวัดพิทักษ์เขตแดนสยาม ความงามพุทธศิลป์
ภาคใต้ตอนล่างของไทยเป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยเฉพาะแง่ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน จึงปรากฏโบราณสถาน และหลักฐานสำคัญๆ มากมาย หากใครได้ไปเยือน วัดชลธาราสิงเห (หรือวัดท่าพรุ, วัดเจ๊ะเห) อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก็จะได้สัมผัสเรื่องราวอดีต การปักปันเขตแดนสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งจักรวรรดิอังกฤษพยายามผนวกดินแดนนราธิวาส เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐมาลายา ทว่าฝ่ายสยามใช้วัดนี้อ้างสิทธิครองความเป็นไทยจนสำเร็จ จึงได้รับการขนานนามว่า “วัดพิทักษ์แผ่นดินไทย”
ตัววัดตั้งอยู่ริมแม่น้ำตากใบ อันเป็นธรรมชาติ สงบร่มเย็น มีโบสถ์สมัยรัชกาลที่ 4 พร้อมภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างชั้นครู มีกุฏิเจ้าอาวาสเก่า และศาลาการเปรียญไม้ศิลปกรรมแปลกตา รวมถึงศาลาที่ประทับรัชกาลที่ 6 ตรงริมแม่น้ำ
 
8 มัสยิดกลางปัตตานี จังหวัดปัตตานี
กลิ่นอายแห่งสถาปัตย์อันงดงาม ศูนย์รวมแห่งศรัทธา
ปัตตานี เป็นจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีความน่าสนใจ ทั้งในแง่ธรรมชาติ วัฒนธรรม และศาสนาอิสลาม ที่หยั่งรากลึกอยู่ในจิตวิญญาณของผู้คนมาช้านาน การทำพิธีกรรมทางศาสนาของพี่น้องชาวมุสลิมในปัตตานี นอกจากจะทำที่สุเหร่าในชุมชนของตนเองแล้ว ทุกวันศุกร์หรือโอกาสสำคัญๆ ก็ยังมารวมตัวกันปฏิบัติศาสนกิจ ณ มัสยิดกลางปัตตานี ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี ด้วย
มัสยิดนี้เป็นศูนย์รวมศรัทธา พี่น้องชาวมุสลิมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในภาคใต้ สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่งดงาม จำลองแบบมาจากทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2497 ออกแบบโดย นายประสิทธิผล ม่วงเขียว สถาปนิกกรมการศาสนา ให้มียอดโดมขนาดใหญ่ และหออะซาน (หอขาน) 4 เสา ประจำ 4 มุม พร้อมสระน้ำด้านหน้า ที่ช่วยเพิ่มความงามขึ้นอีกทวีคูณ
 
9 คุรุดวาราศรีคุรุสิงห์สภา กรุงเทพมหานคร
วัดซิกข์แห่งแรกของไทย ใจกลางพาหุรัด
ในย่านถนนพาหุรัด หรือ Little India อันจอแจด้วยธุรกิจค้าขายผ้ากลางกรุง คือ ที่ตั้งของชุมชนศาสนาซิกข์ที่ใหญ่ที่สุดของไทย ศูนย์กลางศรัทธาของพวกเขาอยู่ที่ “คุรุดวาราศรีคุรุสิงห์สภา(วัดซิกข์) สร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นวัดซิกข์แห่งแรกของไทย
สถาปัตยกรรมของที่นี่ เด่นด้วยยอดโดมสีทองขนาดใหญ่ อยู่บนสุดของอาคารสีขาว 6 ชั้น โดยที่ชั้น 2 เป็นโรงครัวของพระศาสดา แจกจ่ายอาหารมังสวิรัติฟรี ชั้น 4 เป็นโถงปฏิบัติศาสนกิจ มีโดมทองคำอยู่ตรงกลาง ประดิษฐานพระคัมภีร์อันเปรียบเสมือนศาสดา จะมีการสวดมนต์ทุกวัน ในเวลา 05.00-11.00 น. และ 16.00-19.00 น. ผู้ที่ไม่ได้นับถือซิกข์เข้าร่วมได้ ส่วนชั้น 6 เป็นที่เก็บรักษาพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะมีผู้อ่านพระคัมภีร์ทุกวัน เพื่อให้คำสอนคงอยู่ตลอดไป
 
10 วัดมังกรกมลาวาส กรุงเทพมหานคร
เยาวราช ถิ่นนี้มีศรัทธา แก้ชง ขอพร
กลิ่นธูปควันเทียน เสียงสวดมนต์ และบรรยากาศแห่งความศรัทธาอบอวลไปทั่ว ณ ย่านเยาวราช เมื่อได้ไปเยือน วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ศูนย์รวมศรัทธาชาวจีนบนแผ่นดินสยาม ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง (เดินทะลุไปเยาวราชได้) ระหว่างซอยเจริญกรุง 19 และ 21 วัดนี้ถือเป็นวัดสำคัญของชาวจีน เพราะจะมีนักแสวงบุญ และผู้ที่ต้องการสะเดาะเคราะห์ตามปีชงต่างๆ เข้ามาล้นหลาม
วัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.​2414 ด้วยศิลปกรรมจีนตอนใต้ สกุลช่างแต้จิ๋ว โดยมีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ ส่วนด้านหลังเป็นวิหารเทพเจ้า วัดเล่งเน่ยยี่เป็นที่รวมเทพเจ้าถึง 58 องค์ และพระอรหันต์ 18 องค์ (จับโป๊ยหล่อหั่ง) อาทิ “ไฉ่สิ่งเอี้ย” เทพเจ้าแห่งโชคลาภ  “ฮั่วท้อเซียงซือ” เทพเจ้าหมอเทวดา “ไท้ส่วยเอี๊ย” เทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา และอีก
 
เรื่องและภาพโดย Travelista นักเดินทาง
ลายน้ำของภาพโดย Ghost Writer Ta
 
#สัมผัสเมืองไทยต้องไปสักครั้ง #100BestPlacestoVisitinThailand #ReOpenThailand #ททท #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #ทิพยประกันภัย #BAM #บางกอกแอร์เวย์ส #ฮาตาริ #MediaandBloggerclub
 
 
 



Create Date : 05 สิงหาคม 2565
Last Update : 5 สิงหาคม 2565 17:22:31 น. 0 comments
Counter : 851 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว


ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BlogGang Popular Award#20


 
travelistaนักเดินทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




Travelista นักเดินทาง หรือสาธิตา โสรัสสะ อดีตหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจเครือเนชั่น เป็นนักข่าวสายท่องเที่ยวยาวนานเกือบ 40 ปี เดินทางมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก มีผลงานเขียนพ็อคเก็ตบุ๊คท่องเที่ยว 34 เล่ม ปัจจุบันเป็นอุปนายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย และประธานมีเดียแอนด์บล็อกเกอร์ คลับ (คลับของบล็อกเกอร์) เคยได้รับรางวัลบล็อกเกอร์ยอดเยี่ยมปี 59 ,ช่างภาพหญิงยอดเยี่ยมจากจีนปี 60 , สื่อมวลชนยอดเยี่ยมปี 64 และผู้บริหารสื่อออนไลน์ยอดเยี่ยมปี 65 ไอดีไลน์ tatravel โทร 081-817-2805
[Add travelistaนักเดินทาง's blog to your web]