365วันของฉันมีแต่เรื่องการเดินทาง
<<
มิถุนายน 2566
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
12 มิถุนายน 2566

เที่ยว 3 วันโคราชจีโอพาร์ค มรดกโลกแห่งยูเนสโก


หลังจากยูเนสโกรับรอง โคราชจีโอพาร์ค เป็น UNESCOGlobalGeopark แห่งที่ 3 ของโลกแล้ว เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 วันนี้ก็ได้มาสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว เมือง 3 มรดกโลกยูเนสโก UNESCOTripleHeritageCity จังหวัดนครราชสีมา

ซึ่งททท.นครราชสีมาได้นำคณะสื่อมวลชนและบริษัทนำเที่ยวจากกรุงเทพฯ มาเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ

นครราชสีมา ถือเป็นเมืองที่ 3 ของโลก ต่อจากเกาหลีใต้ และจีน ที่มีดินแดนแห่ง “3 มงกุฎของยูเนสโก” ในจังหวัดเดียวกัน
Korat The UNESCO Triple Heritage City รวม 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.มรดกโลกป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ 2.พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช 3.โคราชจีโอพาร์ค

เราได้เที่ยวโคราชจีโอพาร์คทั้ง 3 วัน ในเส้นทางท่องเที่ยวนี้

Day 1 โคราชจีโอพาร์ค
แหล่งท่องเที่ยวผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลกทางธรรมชาติ ร่วมกิจกรรม เดินป่า และส่องสัตว์ป่า เช่น นกต่างๆ ลิง ชะนี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ “ผืนป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่” เมื่อปี พ.ศ.2548 ประกอบด้วยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติทับลาน อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่

เดินป่าสำรวจธรรมชาติแบบมีเจ้าหน้าที่นำทางที่กม. 33 - หนองผักชี เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จะได้สัมผัสความหลากหลายของประเภทป่าไม้ ได้แก่ ป่าดิบแล้งที่มีความสมบูรณ์ ป่ารุ่นสอง และทุ่งหญ้า มีต้นไม้ขนาดใหญ่ให้ร่มเงาตลอดเส้นทาง เช่น ไทร หว้า ที่ดึงดูดนกและสัตว์ป่านานาชนิดเข้ามากินลูกไม้ จนได้รับสมญานามว่า “ภัตตาคารของสัตว์ป่า” 

มีต้นกะเพรายักษ์เป็นไม้ที่มีเฉพาะป่าดงพญาเย็นเท่านั้น นอกจากนั้นยังเป็นเส้นทางออกหากินของช้างและกระทิง อาจพบเห็นร่องรอยของสัตว์เหล่านี้ได้ตลอดเส้นทาง เช่น รอยเท้าหรือมูล บางโอกาสอาจได้พบเห็นนกเงือกจับคู่ทำรังอยู่ในโพรงไม้หรือชะนีที่ห้อยโหนเก็บผลลูกไม้กิน

ชมพรรณไม้ต่างๆตลอดทาง เช่นกล้วยไม้ป่า ต้นไทรยักษ์อายุ 700 ปี นกต่างๆ

การท่องเที่ยวในหน้าฝนจะต้องใส่ถุงกันทากที่เท้าด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัย เพราะทากจะดีดตัวเข้ามา และถุงสีขาวหากมีทากมาเกาะ จะทำให้เห็นทากชัดเจนมาก แต่ก่อนเข้าป่าแนะนำฉีดพวกสเปรย์กันยุง กันแมลงต่างๆ ที่ตัว ที่รองเท้า ก็จะช่วยได้มากค่ะ

รับประทานอาหารเที่ยง ร้านเป็นลาว ร้านอาหารสไตล์อีสาน ที่ได้รับมิชลินในปีนี้ (2023)

ร้านนี้อาหารอีสานอร่อยทุกอย่างเลย คอหมูย่าง น้ำตก สามชั้นทอด ส้มตำ ผัดหมี่โคราช ไก่ย่าง ตับทอด และอีกหลากหลาย ร้านห่างจากทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แค่ 700 เมตร

จากนั้นเดินทางสู่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา แวะชมสวนแม่หม่อน แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และคาเฟ่ในสวน ชมแปลงปลูกวานิลลา โดยแปลงทดลองปลูกวานิลลาของวิสาหกิจชุมชนวานิลลาวังน้ำเขียว เป็น Vanilla Planifolia หรือสายพันธุ์จากมาดากัสการ์ ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชคลองไผ่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

เพิ่งได้ทราบว่าฝักวานิลลานี่ราคาแพงมากๆ เลยทีเดียว เป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ดีมาก

ช่วงนี้ลูกหม่อนยังไม่ออก ต้องรออีกประมาณ 1 เดือน

ที่นี่ยังมีไอศกรีมจากผลไม้ต่างๆ อร่อยมาก เช่น มะยงชิด มัลเบอร์รี่ มะเฟือง ลิ้นจี่ อะโวคาโด กระท้อน วานิลลา กุหลาบ ที่สวนยังมีอาหารจานเดียวจำหน่าย เขาบอกที่เด็ดมากคือสุกียากี้สูตรเฉพาะของที่นี่ โดยคุณนันทวัน โตอินทร์ เจ้าของสวนนำเยี่ยมชม

ต่อไปที่สวนสัปปะรดสีวังน้ำเขียว เต็มไปด้วยสับปะรดหลากหลายสายพันธุ์ที่สวยงามมาก และยังมีร้านกาแฟของสวนด้วย ที่นี่เป็นสวนสับปะรดสีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในวังน้ำเขียว 

ทั้งสวนมีประมาณ 50 สายพันธุ์ รวม 200 กว่าชนิด แต่ถ้านับจำนวนกระถางน่าจะหลายหมื่นต้น

เดินทางสู่สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ชมผืนป่าสะแกราช เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑล แห่งแรกของประเทศไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองจาก UNESCO เมื่อปี พ.ศ. 2519 อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเขาหลวง อำเภอวังน้ำเขียวและอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

หน้าที่หลักของสถานีฯ คือ เป็นสถานที่เพื่อการวิจัย ทางด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาป่าเขตร้อน (ป่าดิบแล้งและป่าเต็งรัง) มีพื้นที่ป่ากว่า 5 หมื่นไร่  เป็นห้องปฏิบัติการธรรมชาติสำหรับนักเรียน นักศึกษา รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติอีกด้วย

ที่นี่มีกิจกรรมดูนก กิจกรรมดูไก่ฟ้า กิจกรรมนั่งรถชมธรรมชาติ และกิจกรรมกลางคืนได้แก่ กิจกรรมดูดาว กิจกรรมดูแมลง กิจกรรมปิ้งข้าวโป่ง/ข้าวจี่/ข้าวโพด จะเห็นนักเรียน นักศึกษามาร่วมกิจกรรมพักค้างคืนกันเต็มไปหมด 

ค่านั่งรถรางเข้าชมคนละ 50 บาท มีรถนำชมไก่ฟ้า และธรรมชาติป่าดิบแล้งระยะทางไปกลับ 5.0 กม.
สิ่งที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ไปเยือนทั่วไป ได้แก่ ไก่ฟ้าพญาลอ และนกชนิดต่างๆ ที่จะออกมาเดินทางหาอาหาร แต่พอเข้ายามเย็นก็จะกลับเข้าบ้านเข้าป่ากันหมด ที่นี่จะมีไก่ฟ้าราว 250 ตัว

ป่าดิบแล้งจะมีตะเคียนหินเป็นไม้โดดเด่น บางต้นมีอายุถึง 750 ปี

มีต้นเปราะโคราช พืชถิ่นเดียวของประเทศไทย (พืชที่พบเฉพาะในประเทศไทยที่เดียวแห่งเดียวในโลกเท่านั้น) “เปราะโคราช” เป็นพืชในวงศ์ขิงข่า มีช่อสีขาวอยู่กลางใบไม้สวยงามมาก ออกดอกในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนของทุกปีเท่านั้น เราได้ไปพบเห็นพอดี เป็นโชคดีมาก โดยมีคุณจารุวรรณ์ ปราณี นักทดลองวิทยาศาสตร์วิจัยนำชม
ที่นี่ยังได้รับรางวัลกินรีของททท.หรือรางวัล ทัวริซึ่มอวอร์ดด้วย นับว่าเป็นหน่วยงานที่น่าไปเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

เดินทางสู่อำเภอเมืองนครราชสีมา รับประทานอาหารเย็น บ้านแป้งหอม

ร้านอาหารที่รสชาติเข้มข้นมาก เช่นต้มโคล้งปลากรอบ แกงเขียวหวานไก่ ทอดมันปลา สลัดกุ้งทอด ได้รับมิชลินในปีนี้ (2023)

Day 2 โคราชจีโอพาร์ค
เดินทางสู่สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชมพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ และไดโนเสาร์ แหล่งเรียนรู้ของการเริ่มต้น Korat UNESCO  Global Geopark 
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์มีการจำลองหลักอนุสรณ์ไม้กลายเป็นหิน สมัยรัชกาลที่ 6 จากสะพานดำท่าช้าง แต่ในบ่ายวันนี้เราจะได้ไปชมของจริงด้วย

อาคารพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน เป็นพิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหินใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเป็น 1 ใน 7 แห่งของโลก พบกับพรรณไม้ดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่ อายุประมาณ 8 แสนปี – 150 ล้านปีก่อน

การเกิดไม้กลายเป็นหิน เริ่มจากต้นไม้ตายถูกทับถมด้วยตะกอนกรวดหินดินทราย ขณะที่ต้นไม้เริ่มสลาย น้ำใต้ดินหรือน้ำบาดาลหรือแม้กระทั่งน้ำผิวดินได้พาเอาสารละลายซิลิกาจากธรรมชาติ เช่นจากเถ้าถ่านภูเขาไฟ หรือหินภูเขาไฟ เป็นต้น ค่อยๆ เข้าแทนที่โครงสร้างของเซลล์ต่างๆ ของต้นไม้ โดยที่กระบวนการนี้ค่อยๆ ดำเนินไปใช้เวลาเป็นร้อยๆ ล้านปี

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงอัญมณีจากไม้กลายเป็นหิน นับว่าเลอค่า อีกทั้งยังสวยงามมากอีกด้วย

โดยการจัดแสดงไม้กลายเป็นหินนั้น มีทั้งส่วนแสดงในอาคารและส่วนแสดงนอกอาคาร

อาคารพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ จัดแสดงซากดึกดำบรรพ์ของช้างและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แสดงฟอสซิลฟันช้างดึกดำบรรพ์โคราช จังหวัดนครราชสีมา อายุประมาณ 16 ล้านปีก่อน จนถึง 10,000 ปีก่อน
ขุดพบทั้งหมด 10 สกุลจาก 55 สกุลที่พบทั่วโลก

นับได้ว่านครราชสีมาเป็นแหล่งช้างดึกดำบรรพ์หลากหลายสกุลที่สุดในโลก หรือ 10 สกุลคือ ช้างสี่งากอมโฟธีเรียม ช้างงาจอบเล็กโปรไดโนธีเรียม ช้างงาเสียมโปรตานันคัส ช้างสี่งาเตตระโลโฟดอน ช้างสเตโกโลโฟดอน ช้างไซโกโลโฟดอน ช้างงาจอบใหญ่ไดโนธีเรียม ช้างไซโนมาสโตดอน ช้างสเตโกดอน และช้างเอลิฟาส

อาคารพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ร่วมผจญภัยไปกับดินแดนของไดโนเสาร์ ได้ทำความรู้จักกับไดโนเสาร์

ยุคต่างๆของไดโนเสาร์ การสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ หุ่นจำลองไดโนเสาร์กินเนื้อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ “สยามแรปเตอร์ สุวัจน์ติ” นิทรรศการปลาพันธุ์ใหม่ของโลก โคราชอิกธีส จิบบัส เป็นปลายุคจูราสสิคที่เก่าแก่มากสุดในจังหวัดนครราชสีมา และโซนจัดแสดงไดโนเสาร์ สิรินธรน่า โคราชเอนซิส เป็นไดโนเสาร์อิกัวโนดอนต์ กินพืชค้นพบที่แรกที่โคราช

เดินทางสู่ไทรงาม อ.เฉลิมพระเกียรติ ชมต้นไทรขนาดใหญ่ อายุกว่า 200 ปี แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมพื้นที่ 2 ไร่ ริมฝั่งแม่น้ำมูลแหล่งที่พบซากดึกดำบรรพ์ช้างโบราณมากที่สุด

จากนั้นแวะเยี่ยมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวท่าช้างโคราชจีโอพาร์ค ซึ่งที่นี่เขามีหลายกลุ่ม วันนี้เราได้เยี่ยมชม 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มทอเสื่อลายช้างดึกดำบรรพ์

โดยมีคุณธนาภรณ์ กุยแก้ว ประธานกลุ่ม พาชมการผลิตเสื่อและแปรรูปกระเป๋า รวมถึงผ้าทอลายช้างจากวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น

สินค้าต่างๆ ลวดลายมาจากช้างดึกดำบรรพ์ 10 สกุลในพื้นที่

จากนั้นแวะที่กลุ่มเสื่อลำพันแปรรูป รับประทานอาหารกลางวันแบบท้องถิ่น ทั้งไก่ย่าง แกงเปรอะหน่อไม้ น้ำพริกปลาทู จัดทำโดยคุณบุญยิ่ง ช้อยขุนทด

ที่นี่มีทำเสื่อและกระเป๋า จากลำพันหรือธูปฤาษี ราคาไม่แพง  และยังมีการทอเสื่อตามออเดอร์ด้วย ซึ่งช่วงนี้มีการสั่งสีเสื่อแบบสายรุ้งจำนวนมาก

สะพานดำท่าช้าง และหลักอนุสรณ์ไม้กลายเป็นหิน สมัยรัชกาลที่ 6 โดยมีสะพานดำข้ามลำน้ำมูลไปยังจังหวัดอุบลราชธานี 

ส่วนหัวสะพานดำมีประติมากรรมไม้กลายเป็นหิน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงโปรดฯ ให้ยกไม้กลายเป็นหินวางไว้บนหัวสะพานดำแห่งนี้ ในยุคนั้นยังเป็นกรมรถไฟหลวงแห่งสยาม ปัจจุบันคือการรถไฟแห่งประเทศไทย

เดินทางสู่อำเภอเมืองนครราชสีมา กราบสักการะขอพรท้าวสุรนารี ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม วีรสตรีไทยที่กอบกู้เมืองนครราชสีมาจากกองทัพเจ้าอนุวงศ์ พระมหากษัตริย์เวียงจันทน์ เมื่อปี พ.ศ. 2369 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายหลังคุณหญิงโมได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นท้าวสุรนารี

ในทริปนี้เราได้ไปชมงานมหกรรมจีโอพาร์คและฟอสซิล (Geopark and Fossil Festival 2023) นิทรรศการ “โคราชดินแดน 3 มรดกโลก ยูเนสโก”  ณ โคราชฮอลล์ Korat Hall ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช

แต่งานนี้ก็จบไปแล้วเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ชมเรื่องราวความเป็นมาและผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่น

ทานอาหารเย็นที่ครัวสุวิมล บรรยากาศสไตล์ร้านข้าวต้มยามเย็น

แต่ที่จริงอาหารตามสั่ง กับข้าวเยอะมากและอร่อยมาก ได้มิชลินปีนี้ (2023)

ยามค่ำเดินเที่ยวตลาดเซฟวัน ตลาดกลางคืนที่ใหญ่ที่สุดในอีสาน ตลาดขนาดใหญ่จริงจัง

มีทั้งโซนเสื้อผ้าอาหาร ของใช้จุกจิกมากมาย เดินเล่นกันไม่เบื่อ

Day 3 โคราชจีโอพาร์ค
ออกเดินทางไปอำเภอสีคิ้ว ชมแหล่งหินตัดสีคิ้ว เป็นแหล่งวัตถุดิบหินทรายแหล่งหนึ่งของมนุษย์สมัยโบราณสำหรับใช้ในการก่อสร้างปราสาทหิน ที่จริงที่นี่อะเมซิ่ง สวยงามมาก แต่คนยังไม่ค่อยแวะชมเท่าไร มักจะขับรถผ่านไปมา อยากให้ลองแวะชม

แหล่งตัดหินสีคิ้วตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ (ทางหลวงหมายเลข 2) ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร บริเวณกิโลเมตรที่ 206-207 ปรากฎร่องรอยของการสกัดหินเป็นร่องลึกรูปสี่เหลี่ยมขนาดต่าง ๆ อยู่หลายแนว และยังทิ้งร่องรอยของคมสิ่วที่ใช้เป็นเครื่องมือในการสกัดหิน

สันนิษฐานว่าเดิมคงจะนำหินทรายบริเวณนี้ไปสร้างปราสาทหินที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น ปราสาทเมืองแขก, ปราสาทโนนกู่ , ปราสาทเมืองเก่า

เดินทางสู่วัดเลิศสวัสดิ์ (เขาจันทร์งาม) เรียนรู้เกี่ยวกับอุทยานธรณี (Korat Geopark) ชมภาพเขียนสีอายุกว่า 4,000 ปี ภาพเขียนสีโบราณนี้ เป็นภาพเขียนสีด้วยสีแดง มีทั้งภาพลงสีแบบเงาทึบและภาพร่างรูปคน แสดงให้เห็นผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก และสัตว์ บางภาพก็เริ่มจาง

ชมแผนที่แล้วก็เดินไปตามทาง เดินลัดเลาะผ่านธรรมชาติและป่าขึ้นไปบนเขา จะพบก้อนหินขนาดมหึมามากมาย ต้นไม้ขนาดใหญ่

ภาพพระพุทธไสยาสน์ศิลปะอินเดียสลักนูนต่ำบนหินสีสันสดใส

มีรอยพระพุทธบาทจำลอง เป็นรอยพระพุทธบาท 4 รอย

มีลานหินแตก จุดปักกลดพระธุดงค์ หินแสดงชั้นเฉียงระดับ กุฎิหน้าผา มองเห็นเควสต้าโคราช ตะเคียนหิน 1,100 ปี ซึ่งต้นใหญ่โตมาก

ช่องแคบเขาจันทน์ เป็นอีกความมหัศจรรย์ของช่องหินขนาดใหญ่

ทุกก้อนล้วนมีขนาดมหึมา

และยังมีช่องหินมากมายให้ถ่ายรูป คล้ายไปเพตรา ที่จอห์แดน เลยทีเดียว
บางจุดจะมีรากไม้ยักษ์ คล้ายๆ ปราสาทตาพรหมในกัมพูชาเลย เรียกว่าอะเมซิ่งมาก

และยังมีเปราะโคราชเยอะมากๆ ในบริเวณนี้

ทริปนี้คุณชัยพฤกษ์ ทองคำ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) ร่วมเดินสำรวจเส้นทางกับคณะด้วย 

ร่วมทำกิจกรรมทำผ้ามัดย้อมจากดิน ลวดลายต่างๆ เช่น ลายชั้นเฉียงระดับของหิน ลายไลเคนบนก้อนหิน ลายก้นหอย (หอยหอม-หอยประจำถิ่น)

สีผ้าของที่นี่จะออกน้ำตาลแดง ตามสีดินที่ใช้ย้อม เป็นโทนสีคลาสสิก สวยงามมาก

ชิมปรมัตถ์(เมี่ยงชีส) รสชาติอร่อย พร้อมกล้วยตากโคราช และไปแช่เท้าด้วยสมุนไพรคลายเหนื่อย โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจีโอพาร์คผ้าเปลี่ยนสียุคก่อนประวัติศาสตร์ เขาจันทร์งาม

มีคุณอ้อประธานกลุ่มนำชมตลอดทริป
ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดที่นี่เลย เป็นไฮไลท์ของการท่องเที่ยวทริปนี้ จะใช้เวลาเดินป่าประมาณ 2 ชั่วโมงแต่คุ้มค่ามาก

รับประทานอาหารกลางวัน บ้านไร่ปลายเนิน เป็นอีกร้านอร่อยที่อยู่ไม่ไกลเขายายเที่ยง

อร่อยหลากหลาย ทั้งหมึกนึ่งมะนาว ปลาทอดน้ำปลา ผัดคะน้าเห็ดสด ฯลฯ

ขึ้นเขายายเที่ยง ชมวิวกังหันลม อ่างเก็บน้ำของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา แหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานที่ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เขื่อนลำตะคอง อ่างเก็บน้ำและกังหันลมบนเขายายเที่ยง ไปจนถึงโรงไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย เรียกว่า โรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ

ชมกังหันลมยักษ์ที่เขายายเที่ยง เป็นกังหันลมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากถึงปีละหลายล้านหน่วย มีกังหันลม 12 ต้น ตั้งเรียงรายกัน ขับรถกอล์ฟเที่ยวชมอ่างเก็บน้ำของกฟผ. ชมภูมิทัศน์สวยงาม อ่างเก็บน้ำ และจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพสวยๆ ของเขื่อนลำตะคอง สักการะหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่า สามารถบันดาลฝนให้ตกตามฤดูกาล

ชมแนวเทือกเขาเควสต้า หรือเควสต้าโคราช ภูมิประเทศแบบภูเขาที่มีลักษณะคล้ายมีดอีโต้ของไทย ปรากฏทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดนครราชสีมา มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชันทางด้านทิศตะวันตก และลาดเอียงด้วยมุมประมาณ 5-10 องศาไปทางทิศตะวันออก-ตะวันออกเฉียงเหนือ

นั่งสองแถวท้องถิ่นไปชมผายายเที่ยง โดยมีเยาวชนในพื้นที่นำชม

ทำกิจกรรมยิงลูกกระสุนปลูกป่า

จิบชา ดิฟกาแฟกับชุมชนเขายายเที่ยง

ก่อนปิดทริป กลับบ้านอย่างสุขใจ
#ทททนครราชสีมา #โคราชจีโอพาร์ค #KhoratGeopark #อุทยานธรณีโคราช #KhoratUNESCOGlobalGeopark #เที่ยวโคราช #UNESCOGlobalGeopark #UNESCOTripleHeritageCity #นครราชสีมา #เที่ยวโคราช #เที่ยวนครราชสีมา #ททท #ทททโคราช #โคราชดินแดน3มรดกโลกยูเนสโก

ขอขอบคุณททท.โคราชที่เชิญชวนไปทริปนี้
เรื่องและภาพโดย Travelista นักเดินทาง
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก คุณเจริญ ภัทรพิทักษ์
ลายน้ำของภาพโดย Ghost Writer Ta
 
 
 



Create Date : 12 มิถุนายน 2566
Last Update : 12 มิถุนายน 2566 17:34:39 น. 0 comments
Counter : 3776 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku


ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

travelistaนักเดินทาง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]




Travelista นักเดินทาง หรือสาธิตา โสรัสสะ อดีตหัวหน้าข่าวเศรษฐกิจเครือเนชั่น เป็นนักข่าวสายท่องเที่ยวยาวนานเกือบ 40 ปี เดินทางมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก มีผลงานเขียนพ็อคเก็ตบุ๊คท่องเที่ยว 34 เล่ม ปัจจุบันเป็นอุปนายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย และประธานมีเดียแอนด์บล็อกเกอร์ คลับ (คลับของบล็อกเกอร์) เคยได้รับรางวัลบล็อกเกอร์ยอดเยี่ยมปี 59 ,ช่างภาพหญิงยอดเยี่ยมจากจีนปี 60 , สื่อมวลชนยอดเยี่ยมปี 64 และผู้บริหารสื่อออนไลน์ยอดเยี่ยมปี 65 ไอดีไลน์ tatravel โทร 081-817-2805
[Add travelistaนักเดินทาง's blog to your web]