Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2556
 
10 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 

อริยสัจจากพระโอษฐ์ .. ทรงพยากรณ์เฉพาะเรื่องอริยสัจสี่

.





"….ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
สัจจะที่ว่า โลกเที่ยง นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ ดังนั้นหรือ พระเจ้าข้า ?"

โปฏฐปาทะ !
ข้อที่ว่า "โลกเที่ยง นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ" ดังนี้นั้น เป็นข้อที่ เราไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
สัจจะที่ว่า โลกไม่เที่ยง นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ ดังนั้นหรือ ?”

โปฏฐปาทะ !
ข้อที่ว่า "โลกไม่เที่ยง นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ" ดังนี้นั้น เป็นข้อที่ เราไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
สัจจะที่ว่า โลกมีที่สิ้นสุด นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ ดังนั้นหรือ ?

โปฎฐปาทะ !
ข้อที่ว่า "โลกมีที่สิ้นสุด นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ" ดังนี้นั้น เป็นข้อที่เราไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
สัจจะที่ว่า โลกไม่มีที่สิ้นสุด นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ ดังนั้นหรือ?"

โปฏฐปาทะ !
ข้อที่ว่า "โลกไม่มีที่สิ้นสุด นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ" ดังนี้นั้น เป็นข้อที่ เราไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
สัจจะที่ว่า ชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ ดังนั้นหรือ ?"

โปฏฐปาทะ !
ข้อที่ว่า "ชีวะก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ" ดังนี้นั้น เป็นข้อที่เราไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
สัจจะที่ว่า ชีวะก็อันอื่น สรีระก็อันอื่น นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ ดังนั้นหรือ ?”

โปฏฐปาทะ !
ข้อที่ว่า "ชีวะก็อันอื่น สรีระก็อันอื่น นี้เท่านั้นเป็นคำจริงคำอื่นเป็นโมฆะ" ดังนี้นั้น เป็นข้อที่ เราไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
สัจจะที่ว่า ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมมีอีก นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ ดังนั้นหรือ?"

โปฏฐปาทะ !
ข้อที่ว่า "ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมมีอีก นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ" ดังนั้นั้น เป็นข้อที่ เราไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
สัจจะที่ว่า ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมไม่มีอีกนี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ ดังนั้นหรือ ?"

โปฏฐปาทะ !
ข้อที่ว่า "ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมไม่มีอีก นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ" ดังนี้นั้น เป็นข้อที่ เราไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
สัจจะที่ว่า ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมมีอีกก็มี ไม่มีอีกก็มี นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ ดังนั้นหรือ ?"

โปฏฐปาทะ !
ข้อที่ว่า "ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมมีอีกก็มี ไม่มีอีกก็มี นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ" ดังนี้นั้น เป็นข้อที่ เราไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
สัจจะที่ว่า ตถาคตภายหลังแก่ตาย แล้วย่อมมีอีกก็หามิได้ ไม่มีอีกก็หามิได้ นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ ดังนั้นหรือ ?"

โปฏฐปาทะ ! ข้อที่ว่า "ตถาคตภายหลังแต่ตายแล้ว ย่อมมีอีกก็หามิได้
ไม่มีอีกก็หามิได้ นี้เท่านั้นเป็นคำจริง คำอื่นเป็นโมฆะ" ดังนี้นั้น เป็นข้อที่ เราไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
เพราะเหตุอะไรเล่า ข้อนั้น ๆ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ทรงพยากรณ์?

โปฏฐปาทะ !
เพราะเหตุว่านั่น ..
- ไม่ประกอบด้วยอรรถะ
- ไม่ประกอบด้วยธรรมะ
- ไม่เป็นเบื้องต้นของพรหมจรรย์
- ไม่เป็นไปพร้อมเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความระงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน,

เหตุนั้นเราจึงไม่พยากรณ์.

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
เพราะเหตุอะไรเล่า เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงพยากรณ์ ?"

โปฏฐปาทะ !
ข้อที่เราพยากรณ์นั้นคือ ..
- นี้ทุกข์,
- นี้เหตุให้เกิดทุกข์,
- นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์,
- นี้ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์,
ดังนี้

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
เพราะเหตุอะไรเล่า จึงทรงพยากรณ์ ?"

โปฎฐปาทะ !
เพราะเหตุว่านั่น ..
- ประกอบด้วยอรรถะ
- ประกอบด้วยธรรมะ
- เป็นเบื้องต้นของพรหมจรรย์
- เป็นไปพร้อมเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด ความดับ ความระงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน,

เหตุนั้นเราจึงพยากรณ์.
.
.
.
สี. ที. ๙/๒๓๒-๒๓๓/๒๙๒-๒๙๓.




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2556
0 comments
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2556 9:33:07 น.
Counter : 1161 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สดายุ...
Location :
France

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 151 คน [?]









O ใช่แน่หรือ ? .. O






O หรือธรรมชาติผ่านเวียน .. คอยเปลี่ยนโลก ?
ทั้งสุขโศกเร่งรุดยากหยุดไหว
หรือกำหนดยุดยื้อจากมือใด
จัดการให้แปลกแยกได้แทรกตัว
O หรือพบกันครั้งแรก, ความแตกต่าง
ถูกบ่มสร้างเหมาะควรอย่างถ้วนทั่ว
แต่ตา-รูป .. สบกัน, ที่สั่นรัว-
แรกที่หัวใจคน .. เริ่มอลเวง
O ละห้อยเห็นในยามห่างนามรูป
แต่ละวูบเนรมิตคอยพิศเพ่ง
งามทุกงามจารจรดเยี่ยงบทเพลง
พร้องบรรเลงด้วยมือช่วยยื้อยุด
O ย่อมเป็นมือสร้างเหตุแทรกเจตนา
ผ่านรูปหน้าอำนวยเข้าฉวยฉุด
ร้างไร้ความกริ่งเกรง, หากเร่งรุด
แทรกลงสุดหัวใจเพื่อไขว่คว้า
O แน่นอนว่ายากเว้น .. อยากเห็นรูป
และชั่ววูบวาบเดียวที่เหลียวหา
หวังทุกหอมรินไหลผ่านไปมา
ทั้งหางตาที่ชม้อยเหลือบคอยปราย
O โลกย่อมงามพร่างแพร้วเมื่อแผ้วผ่าน
ด้วยอ่อนหวานอ่อนโยนที่โชนฉาย
แม้นมิอาจโยกคลอนให้ผ่อนคลาย
ก็อย่าหมายโยกคลอนให้ผ่อนลง
O จะกี่ครั้งกี่ครา, ความอาวรณ์
เวียนรอบตอนจับจูงจนสูงส่ง
ด้วยรูปนามเทียบถวัลย์อย่างบรรจง
แตะแต้มลงผ่านจริตจนติดตรึง
O ความรู้สึกในอกย่อมยกตัว
หวานถ้วนทั่ว, รสประทิ่น, ถวิลถึง
เหมือนรุมล้อมหยอดย้ำลงคำนึง
ให้เสพซึ้งรสงามของ .. ความรัก
O วัฏฏจักรแห่งธรรม .. ย่อมย่ำผ่าน
เข้าขัด-คาน จับจูงความสูงศักดิ์
ของอาวรณ์หลบเร้น เพื่อเว้นวรรค
ที่เข้าทักทายทั่วทั้งหัวใจ
O หรือแท้จริงตัวตนถูกค้นพบ
การบรรจบ .. รูป-จริต แล้วพิสมัย
ปรารมภ์ของฝั่งฝ่าย .. นั้น-ฝ่ายใด
เพิ่งยอมให้เรื่องเฉลย .. ยอมเผยความ ?



Friends' blogs
[Add สดายุ...'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.