++++++ YES is "YES!!!"..รีวิวหนัง ๓ เรื่องรวด กับวันหยุดแสนสุข ++++++ สวัสดีพ่อแม่พี่น้องและผองเพื่อน วันหยุดหนึ่งวันครึ่งที่ผ่านมา (เสาร์บ่ายและอาทิตย์ทั้งวัน) ได้ดูหนัง ๓ เรื่อง (แต่ไม่ครบสมประสงค์ตามความตั้งใจที่จะดูอีกประมาณ ๒-๓ เรื่องค่ะ เนื่องจากรอบฉายไม่เอื้ออำนวย และมีนัดอย่างอื่นด้วย) ได้แก่ Corpse Bride, Crash และ YES เป็นการดูหนังที่มีความสุขมาก สามเรื่องสามรส Corpse Bride ดูเพราะเบอร์ตัน Crash ดูเพราะได้ข่าวว่ามันดี ที่สำคัญเป็นการดูหนัง "คนเดียว" ในโรงครั้งแรกในชีวิต - ขยายความนิดหนึ่งเพราะเห็นปอนด์เข้าใจผิด ดูคนเดียวในโรงที่ว่างเปล่า คือมีอิชั้นคนเดียวที่ดูหนังเรื่องนี้อยู่น่ะค่ะ(เมโทรโพลิสโรง ๑๑ รอบห้าโมงเย็นสิบห้าของวันเสาร์) และสุดท้ายกับเรื่อง YES ด้วยคำโฆษณาของคุณแมกเวยxx ค่ะ มาว่ากันทีละเรื่องนะคะ (ท่านใดกลัวสปอยกรุณาอ่านข้ามไปได้นะคะ) Corpse Bride กำกับโดยทิม เบอร์ตัน ค่ะ เนื้อเรื่อง(สปอยล์ค่า) ชายหนุ่มลูกชายเจ้าของธุรกิจขายปลาที่กำลังจะถูกจับคลุมถุงชนกับลูกสาวผู้ดีครอบครัวหนึ่งทั้งที่ทั้งสองไม่เคยเห็นหน้ากันแม้แต่ครั้งเดียว (แต่ด้วยฝ่ายผู้ดีเองนั้น ก็เป็นพวกข้างนอกสุกใส ข้างในไม่มีตังค์ ก็เลยอยากให้การแต่งานครั้งนี้ช่วยยกฐานะตัวเองให้ดีขึ้น) แต่ด้วยการซ้อมแต่งงานที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า(โดยมีชายหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามาร่วมในพิธีซ้อมด้วย) ทำให้ชายหนุ่ม (หรือพระเอก) ของเราคนนี้ต้องพยายามซ้อมซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่รู้ตัวเลยว่าระหว่างซ้อมนั้นเค้าได้เดินเข้าไปในป่าลึกเสียแล้ว และด้วยการซ้อมนี้เองทำให้เขาบังเอิญสวมแหวนให้กับซากศพของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นเจ้าสาวของเขาทันที ด้วยความผวาดผวา ชายหนุ่มได้รู้เรื่องราวอันแสนเศร้า เธอเคยรักกับชายหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่ง แต่พ่อแม่กีดกัน เธอและเขาจึงนัดหมายจะหนีตามกัน โดยเธอเองก็ขนสมบัติเท่าที่มีมาด้วย ทว่าเธอกับถูกฆาตกรรมโดยคนที่เธอไม่เห็นหน้าและฝังร่างไว้ใต้ต้นไม้ และเธอเองยังคงเฝ้ารออยู่ ณ ที่เดิมด้วยความเป็นห่วงชายคนรักและความฝันที่จะได้เป็นเจ้าสาว (ขนาดใส่ชุดเจ้าสาวมายืนรอตอนจะหนีตามกันน่ะ) แต่แล้วฝันก็เป็นจริง เมื่อเธอได้เจอกับพระเอกของเราที่กล่าวคำสาบานครบถ้วน (ตามการซ้อม) และสวมแหวนให้เธอ (อ่านถึงตอนนี้อาจจะแปลกๆ นะคะ แต่น่ะ..ถ้าเอาสมจริงมากๆ เขาคงไม่เลือกทำเป็นแอนิเมชั่น) แต่ที่แย่กว่านั้น คือ พระเอกของเรากลับคิดถึงแต่คนที่เขากำลังจะแต่งงานด้วย ซึ่งเขาและเธอได้ตกหลุมรักกันเสียก่อนแล้ว จากการพบและพูดคุยกันเพียงครู่ก่อนการซ้อมแต่งงาน แต่เมื่อเขาหายตัวไป พร้อมกับที่ชายหนุ่มที่มาปรากฏตัว ณ ตอนซ้อมแต่งงานเสนอตัวที่จะแต่งงานแทนพระเอกของเรา (และพ่อแม่ของสาวเจ้าก็ยินดีปรีดาเหลือเกิน) พระเอกของเราจึงทำท่าจะตัดใจและยอมจะทำให้การแต่งงานระหว่างเขากับเจ้าสาวศพสวย (ตามคำแปลชื่อหนังฉบับภาษาไทย) สมบูรณ์ด้วยการที่เขาต้องกินยาพิษเพื่อฆ่าตัวตาย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป เชิญท่านทัศนาเอาเองนะจ๊ะ ส่วนที่ชอบ ๑. การที่ทำหนังเรื่องนี้เป็นแอนิเมชั่น - ทำให้เราให้อภัยกับความอิหลักอิเหลื่อบางประการ เช่น ทำไมเจ้าสาวศพของเราถึงได้หลงรักชายหนุ่มคนใหม่นี้เร็วเหลือเกิน (พอๆ กับที่พระเอกและเจ้าสาวที่เป็นคนของเขาหลงรักกันน่ะแหละ) การเป็นแอนนิเมชั่นทำให้เรื่องราวทั้งหมดดำเนินไปได้อย่างมีรอยยิ้มและสนุกสนาน (นึกถึงว่าถ้าเรื่องนี้ทำแบบถ่ายทำกับคนจริงๆ นี่นึกไม่ออกเลยว่า มันจะออกมารูปไหน และอาจจะสยดสยองเกินไปด้วยซ้ำในบางฉาก) มุขหลายๆ มุขนี่เหมาะที่จะทำในรูปแบบแอนนิเมชั่นจริงๆ (เช่น เจ้าหนอนในตาของเจ้าสาวศพเป็นต้น) ๒. การสื่อภาพด้วยสัญลักษณ์ ภาพและสีระหว่างโลกมนุษย์กับโลกของคนตาย สีของโลกมนุษย์กับความชาเย็น ความซ้ำซากน่าเบื่อ ด้วยสีโทนทึม มืด น้ำตาล แต่สำหรับโลกของคนตายที่ไม่มีการหลอกลวง กับมีสีสันสดใส มี "ชีวิต" ชีวายิ่งกว่าโลกของคนเป็นเสียอีก การใช้ผีเสื้อแทนความสวยงามและเป็นอิสระ - ตอนต้นของผีเสื้อที่เริ่มด้วยการที่พระเอกของเราวาดรูปผีเสื้อ (โดยเริ่มวาดจากหนวดผีเสื้อ (นึกถึงการวาดคนโดยเริ่มจากขาของหนังเรื่อง English Patient เลยน่ะ)) และเมื่อวาดเสร็จเขาก็ปลดปล่อยให้ผีเสื้อเป็นอิสระ (เก็บเพียงความสวยงามและความทรงจำเอาไว้ แต่ไม่รั้งไว้ให้อยู่กับตัว - อันนี้สำคัญค่ะ) ตอนผีเสื้อปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อเจ้าสาวศพของเราได้ขึ้นมาสู่พื้นดินและเห็นดวงจันทร์อันสวยงามกับพระเอกของเรา และตอนสุดท้ายเมื่อเรื่องราวจบลง และมีผีเสื้อสีขาว (ก่อนหน้านั้นผีเสื้อเป็นสีออกฟ้า-น้ำเงิน สีเดียวกับเจ้าสาวศพของเรา) บินไปสู่พระจันทร์ ชอบค่ะ ๓. อารมณ์ขันในเรื่องค่ะ ก็เป็นสไตล์ทิม เบอร์ตันแหละค่ะ คือ ไม่ใช่ขำแบบฮาขี้แตก แต่เป็นยิ้มๆ ขำๆ มากกว่า บางมุขก็ขำร้ายใช้ได้เลย ส่วนที่ไม่ชอบ อารมณ์ที่เกี่ยวกับความรักมันไม่ลึกซึ้งน่ะค่ะ ถ้าเทียบกับเรื่อง ฮันช์แบ็คออฟนอร์ทเทรอดรัม (ซึ่งก็เป็นแอนนิเมชั่นเหมือนกันแล้ว) ตรงนั้นจะได้ความซาบซึ้งมากกว่า และทำให้อินกว่าเมื่อถึงเวลาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเสียสละค่ะ (ซึ่งตามข้อสังเกตของข้าพเจ้าแล้ว เบอร์ตันไม่ค่อยเก่งเรื่องพยายามทำซึ้งในเรื่องรักค่ะ) สรุปแล้วก็อยู่ในระดับชอบนะคะสำหรับงานของขวัญใจเรื่องนี้ สิ่งที่ได้จากการดูหนังเรื่องนี้ "รักที่แท้ คือ การได้เห็นคนที่เรารักได้อยู่กับคนที่เค้ารัก และ อย่าเอาความฝันของตัวเองไปแลกกับความรักของใคร" Crash ผู้กำกับ เนื้อเรื่อง และบทภาพยนตร์ Paul Haggis นักแสดง Don Cheadle .... Det. Graham Waters Matt Dillon .... Sgt. Jack Ryan Jennifer Esposito .... Ria Thandie Newton .... Christine Thayer Sandra Bullock .... Jean Cabot Brendan Fraser .... Dist. Atty. Rick Cabot Ludacris .... Anthony (as Chris 'Ludacris' Bridges) Ryan Phillippe .... Officer Tommy Hanson Karina Arroyave .... Elizabeth Terrence Howard .... Cameron Thayer Larenz Tate .... Peter Waters Dato Bakhtadze .... Lucien Shaun Toub .... Farhad Keith David .... Lt. Dixon William Fichtner .... Jake Flanagan เนื้อเรื่อง เรื่องราวมากมายที่แสดงให้เห็นถึงการเหยียดสีผิวและชาติพันธุ์ ทั้งเหยียดผิวดำ เหยียดเม็กซิโก เหยียดชาวต่างชาติอื่น ฯลฯ กับความเป็นอยู่ที่บางคนเลือกที่จะต่อต้านการถูกเหยียดด้วยความรุนแรง ก้าวร้าว ก่ออาชญากรรม บางคนเลือกที่จะอยู่อย่างกล้ำกลืนฝืนทน บางคนเลือกที่จะเป็นผู้ทำร้ายเพื่อระบายความรู้สึกจากการถูกทำร้ายด้วยคนอื่น เป็นเรื่องราวของมนุษย์ที่เป็นทั้งฝ่าย "ชน" และ "ถูกชน" (ขอเตือน - เรื่องนี้ตัวละครเยอะมากกกกก ใครที่ไม่ถนัดเรื่องความจำ อาจดูแล้วงงได้) ส่วนที่ชอบ ๑. บทเจ๋งโคตร ๒. จากข้อ ๑ ทำให้เรา "เกลียด" ตัวละครตัวไหนไม่ลงเลย ทุกคนมีเหตุผลของการกระทำ ทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเลวอยู่ในตัวเอง เป็นการสร้างตัวละครได้ "กลม" มากค่ะ ๓. นักแสดง - แสดงได้ดีทุกคนค่ะ แคสติ้งและกำกับการแสดงได้ดีทีเดียว ส่วนที่ไม่ชอบ นึกไม่ออกค่ะ ณ วินาทีนี้ อย่างที่บอกไว้ตอนต้น เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ดูหนังคนเดียวในโรงหนัง ทำให้ดูได้อย่างแบบเต็มอิ่ม เต็มอารมณ์ ร้องไห้ได้เต็มที่มากๆ ค่ะ (ฉากทำนบแตก ได้แก่ ฉากช่วยชีวิตในอุบัติเหตุ ฉากเจ้าของร้านมาชำระแค้นกับช่างซ่อมล็อคประตู และฉากหนุ่มผิวดำถูกยิงระยะประชิดในรถ) ชีวิตมนุษย์เรามีเรื่องเศร้ามากมายจริงๆ ค่ะ สิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร การมีอคติไม่ว่าจะในเรื่องสีผิวหรือชาติพันธุ์เป็นเรื่องงี่เง่าและไร้สาระที่สุดในโลก ความหวาดกลัวที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวมนุษย์ที่ทำให้เราไม่สามารถจะวางใจใครได้ (แม้จะพยายามแค่ไหน) ก็ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายได้มากมายจริงๆ และเรื่องสุดท้ายที่ขอภูมิใจเสนอ (หวังว่าจะได้ดูอีกรอบสำหรับหนังเรื่องนี้) YES (ช็อตที่ปรากฏอยู่นี้ไม่ทราบว่าเค้าทำได้อย่างไร แต่ดวงตาของดิชั้นจับจ้องที่แหวนแต่งงานที่สวมอยู่ที่นิ้วของฝ่ายหญิงที่ "โดด" เด่นออกมาเอามากๆ เลยค่ะ) คำโปรยของคำวิจารณ์หนังเรื่องนี้ ที่หน้าโรงหนังลิโด ๑ "เป็นการผสมผสานระหว่างอิงค์มา เบิร์คแมนและวิลเลียม เชคสเปียร์" (จำไม่ได้เป๊ะทุกตัวอักษรนะคะ แต่ประมาณนี้) ผู้กำกับและเขียนบท Sally Potter นักแสดง JOAN ALLEN SIMON ABKARIAN SAM NEILL SHIRLEY HENDERSON SHEILA HANCOCK SAMANTHA BOND STEPHANIE LEONIDAS เนื้อเรื่อง (สปอยล์เรื่องแนวคิดของเรื่องค่ะ) เรื่องราวของความรักในรูปแบบของชู้ การดูถูกเชื้อชาติ (นางเอกเรื่องนี้หมิ่นความเป็นชาติ "อเมริกัน" ค่ะ) ทัศนคติต่อความเชื่อและความจริง และสิ่งที่แต่ละคนได้ทำเอาไว้ (คือไม่รู้จะสรุปบอกเล่ายังไงค่ะ) ประเด็นของหนัง จริงๆ ค่อนข้างคล้ายคลึงกับความคิดทางพุทธนะคะ สิ่งที่เรากระทำ อย่างไรก็ยังคงอยู่ สิ่งสกปรกที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะพยายามทำความสะอาดมันอย่างไร มันก็ไม่มีวันสะอาด (คำเฉลยของชื่อหนังจะอยู่ประโยคสุดท้ายของหนังค่ะ) ส่วนที่ชอบ ๑. การถ่ายทอดด้วยภาพ มุมกล้อง ฯลฯ - เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนเรียนภาพยนตร์ควรดูค่ะ การสื่อด้วยภาพเจ๋งมาก องค์ประกอบของแต่ละช็อตที่ปรากฏในหนังช่วยสร้างให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์มากๆ ค่ะ ๒. การเขียนบท - พระเจ้าจอร์จ เขียนได้ไงคะ? เป็นเช็คสเปียร์ในรูปแบบทันสมัยมากๆ ค่ะ นับถือผู้กำกับ (ซึ่งเป็นผู้เขียนบทด้วย) คนนี้จริงๆ ค่ะ เสียดายว่า ถ้าผู้แปลซับไตเติ้ล (ไม่ใช่ไม่ดีนะคะ แต่อีกนิดเดียว คุณธนัชชา ปกติทำซับได้ดีอยู่แล้วค่ะ แต่เรื่องนี้ต้องอาศัย "กวี" ด้วย) สามารถคงรูปลักษณ์ของการทำซับไตเติ้ลได้แบบเดียวกับบทภาษาอังกฤษแล้วไซร้ หนังเรื่องนี้จะงามมากๆ สำหรับคนไทย (สำหรับท่านที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ส่วนนี้อาจสัมผัสความงามของบทหนังได้ไม่เต็มที่นะคะ แต่ถ้าใครเก่งภาษาอังกฤษ หรืออยู่ในระดับ "ฟังออก" ขอแสดงความยินดีกับความสุนทรีย์ในการดูหนังเรื่องนี้ด้วย) ๓. สิ่งที่ต้องการสื่อ - มันเป็นความจริงของโลกค่ะ บอกได้แค่นี้ ๔. นักแสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Joan Allen และ SHIRLEY HENDERSON ค่ะ เสน่ห์ของสาวใหญ่ เห็นชัดเจนจริงๆ ในหนังเรื่องนี้ (สำหรับโจน อัลเลน) ส่วน เฮนเดอสัน ก็เก่งมากในเรื่องของการแสดงออกทางแววตา ส่วนที่ไม่ชอบ เรียกว่าสิ่งไม่ชอบได้มั้ยน้อ? อืมม์..เรียกว่ากลวิธีการและสิ่งที่สื่อมันเยอะเกินไป จนทำให้เราดูรอบเดียวแล้วเก็บไม่หมดค่ะ (เลือกนั่งใกล้เกินไปด้วยมั้งคะ) ทำให้ต้องไปดูอีกรอบค่ะ (แต่ไม่รู้ว่าจะได้ดูหรือเปล่านี่สิ อาทิตย์หน้าอย่าเพิ่งออกนะคะ) เป็นการดูหนัง ๓ เรื่องในเวลาวันครึ่งที่มีความสุขมากๆ ค่ะ ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตามนะคะ สำหรับท่านใดที่แวะมาบ้านสาวไกด์เป็นครั้งแรก (หรือเคยมาแล้วแต่มีหนังสือกับหนังที่อยากแนะนำเพิ่มเติม) เรียนเชิญ ที่นี่ค่ะ   Create Date : 14 พฤศจิกายน 2548 41 comments Last Update : 14 พฤศจิกายน 2548 18:48:09 น. Counter : 1926 Pageviews. Share Tweet

อยากดู คอร์ปไบรด์ มากๆ เลยค่ะ.. ยังไม่ได้ดูซักเรื่องเลย   โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ 14 พฤศจิกายน 2548 11:15:05 น.

แปลกนะ คนดูหนังเยอะอย่างสาวไกด์ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เคยดูหนังคนเดียว คือจะบอกว่าหนังที่เราอยากดูหาแนวร่วมได้ยากมาก ก็เลยต้องดูคนเดียวเป็นประจำ ครั้งหนึ่งเคยดูหนังคนเดียวทั้งโรง จำได้ว่าเป็นหนังบู๊ของชอง คล้อด แวน แดม หนังบู๊สบัด แต่ให้อารมณ์กลัวผีหลอกมาก หนังจบออกเลย คนเปิดประตูยังถามอีกว่า ดูหนังสนุกไหมครับ   โดย: ช่างประชันพันธุ์ประชด 14 พฤศจิกายน 2548 11:16:49 น.

^ ^ ^ ^ คือดูหนังคนเดียวในโรงหนังอันว่างเปล่าทั้งโรงเนี่ย ครั้งนี้ครั้งแรกจริงๆ ค่ะไม่เคยเลยจริงๆ อย่างมากสุดที่เคยเจอคนน้อยสุดก็ 4 คนทั้งโรงน่ะ   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 14 พฤศจิกายน 2548 11:28:27 น.

อยากดู yes มากๆค่ะ ทั้งสองเรื่องแรกที่กล่าวมา ชอบทั้งคู่ ทำให้เราน้ำตาไหลได้ทั้งคู่เลยค่ะ ^ ^คุณสาวไกด์ฯดูหนังในโรงคนเดียวเลยเหรอเนี่ยเป็นประสบการณ์แปลกๆดีนะคะ   โดย: quin toki 14 พฤศจิกายน 2548 11:30:53 น.

พี่ไกด์ ตั้งแต่ขาเดี้ยงมา 19 วันก็ไม่ได้ไปดูหนังเลยค่ะ ใกล้ลงแดงแล้ว อยากดูหนังๆๆๆ แขเคยไปนั่งดู เมตริกซ์ ภาค 2 คนเดียวในโรงนะคะ แปลกๆ ดี แต่ก็รู้สึกว่าโรงเป็นของเราดีไปอีกแบบ อยากจะหกคะเมนตีลังกายังไงก็ไม่ต้องเกรงใจใคร   โดย: rebel 14 พฤศจิกายน 2548 11:38:41 น.

อยากลองเหมือนกันค่ะ ...คนเดียวในโรง... 555   โดย: แพนด้ามหาภัย 14 พฤศจิกายน 2548 11:45:07 น.

อยากดู Corpse Bride, ด้วยอ้ะค่ะ แต่... พักนี้คงไม่มีโอกาสเข้าโรงหนังแน่ๆค่ะ   โดย: มรกตนาคสวาท 14 พฤศจิกายน 2548 11:47:27 น.

กำลังจะไปดู Corpse Bride เย็นนี้ครับ ส่วน Yes ก็ Yes อย่างที่ว่าจริงๆ หนังอุดมไปด้วยเนื้อหา และ เทคนิคทางภาพยนตร์ ที่ผสมผสานออกมาเป็น บทกวีบนจอภาพยนตร์ ส่วน Crash ก็ฟันธงว่าเข้าชิงบทภาพยนตร์ปลายปีแน่นอน คนชอบดราม่าไม่ควรพลาดเลย   โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" 14 พฤศจิกายน 2548 12:11:28 น.

อยากดู Yes ค่า เห็นใบปิดแล้วน่าสนใจมั่กมากก =)   โดย: hunjang 14 พฤศจิกายน 2548 12:23:49 น.

อิ อิ น่าอิจฉาจังได้เหมาโรงดูคนเดียว   โดย: asariss 14 พฤศจิกายน 2548 12:27:45 น.

ขอบคุณ ค่า ที่แนะนำ หนังดีๆๆนะคะ จาหาเวลาไปดูอ่าค่ะ ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยคนนะคะ   โดย: แมวน้อยของเสี้ยวเทียน 14 พฤศจิกายน 2548 12:40:40 น.

ป๋มก้อชอบครับเรื่องเจ้าสาวศพสวยเนี่ย........   โดย: ครีเอทีฟ หัวเห็ด 14 พฤศจิกายน 2548 12:51:34 น.

ไปดูวันธรรมดา ที่ลิโด้น่ะค่ะ รอบ 11 โมงมั้งคะ ช่วงปลายๆ โปรแกรม คิดถึงตอนเรียนจังค่ะ เวลาว่างเยอะดีมีเวลาไปดูหนังแบบ ไม่ต้องแย่งกับใคร   โดย: rebel 14 พฤศจิกายน 2548 13:08:36 น.

ยังไม่ได้ดูสักเรื่องเลยค่ะ   โดย: ยิ้มปริศนา 14 พฤศจิกายน 2548 13:26:23 น.

ยังไม่ได้ดูสักเรื่องเลยค่า... ว่าจะไปดู Corpse Bride แต่ต้องรอเพื่อนว่างก่อนอ่ะ..   โดย: ยัยบี๋ 14 พฤศจิกายน 2548 13:33:44 น.

เขียนแนะนำได้น่าสนใจมากๆ ทั้งสามเรื่องเลยค่ะ อ่านแล้วอยากไปดูเลย ชอบการทำ review ของคุณสาวไกด์ฯ นะคะ ทำได้ "กลม" ดีค่ะ   โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) 14 พฤศจิกายน 2548 15:47:57 น.

เพิ่งได้ดูเรื่องแรกไปเรื่องเดียว อ่านแล้วอยากดูสองเรื่องหลังจังเลยค่ะ แต่... จะหาเวลาจากไหนล่ะนี่   โดย: กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก 14 พฤศจิกายน 2548 16:15:13 น.

ไม่ได้ดูสักเรื่องแล้วค่า ^^' ...   โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 14 พฤศจิกายน 2548 16:30:48 น.

อยากดูคอร์ปไบรด์ แต่พี่สาวดันเล่าให้ฟังโหมะเยย อิอิ เลยไม่ไปดูดีก่า เก็บตังค์ไว้ดูแฮรี่ อิอิ   โดย: สายลมโชยเอื่อย 14 พฤศจิกายน 2548 16:46:42 น.

^ ^ ^ ^ เตือนแล้วนี่จ๊ะน้องสาวเอ๋ย อ่านเองก็ช่วย บ่ ได้ นะจ๊ะ อิอิอิ   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 14 พฤศจิกายน 2548 16:49:45 น.

.. T___T ยังไม่ได้ดูซักเรื่องเลยครับ แต่ .... ได้ไปดูนานะ มาแล้วล่ะ โฮะๆ ป.ล. เขียนบทวิจารณ์ที่บลอกไว้นะครับ แวะไปอ่านได้ ..   โดย: POGGHI 14 พฤศจิกายน 2548 17:14:40 น.

อยากดูเรื่อง YES มากๆ เลยคะ เลยแปะไว้ไมได้อ่าน รีวิว .. ในสามเรื่องนิดได้ดูเรื่อง CRASH ดูด้วยความไม่ตั้งใจ เลยจริงๆ เพราะว่าคนข้างๆ เค้าได้แผ่นมา ก็เอามาเปิด ดู ดูตอนแรกด้วยความรู้สึกหงุดหงิดกับตัวละครบางตัว เพราะเรื่องมันจะเริ่มปูให้คาแร็คเตอร์แต่ละตัวออกมา แต่ว่าพอดูไปเรื่อยๆ เราเห็นแต่ละคนมีบทที่เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นอีกภาคของ เรื่อง Love Actually นะค่ะ แต่ว่าเป็นภาคที่อิงความเป็นมนุษย์ของคนออกมาอย่างชัดเจน อารมณ์ การกระทำต่างๆ เหมือนถูกขุดขึ้นมาและยอมรับได้ว่านี่ล่ะคือ " มนุษย์ " ล่ะ เรื่องนี้เห็นด้วยกับคนที่รีวิวหลายๆ คนว่าบทหนังเรื่องนี้ สมควรได้รับการชื่นชมเลยนะค่ะ ว่าแล้วเดี๋ยวดูอีกรอบ ดีกว่า ตอนแรกคิดว่าจะรีวิวเรื่องนี้เหมือนกันค่ะแต่ว่ามัน มีหลายตัวเหลือเกินจนเริ่มไม่ถูกว่าจะรีวิวยังไงดี   โดย: JewNid 14 พฤศจิกายน 2548 17:25:36 น.

น่าสนใจครับ   โดย: ชายคา 14 พฤศจิกายน 2548 17:48:24 น.

โห คุณสาวไกด์ ดูคนเดียวเลยเหรอ ทั้งโรงเนี่ยนะ โหๆๆ ขนาดเราเคยนั่งดูกะแฟนทังโรง 2 คนอ่ะ ยังเสียวสันหลังวาบๆๆๆ คนเดียวนี่สุดยอด   โดย: คนขี้เหงาคนหนึ่ง 14 พฤศจิกายน 2548 18:14:14 น.

เขียนถึงเรื่อง นานะ กับ เยส ไว้ที่บล็อก คิดว่า เยส มันเต็มไปด้วยประเด็นใหญ่ๆ เยอะมาก ทั้งประเด็นทางสังคม การเมือง Identity ของคน เรื่องการเหยียดชนชาติ ฯลฯ ถ้าไม่มีคำพูดของคนทำความสะอาดคนนั้น ตอนจบ ก็คงจะรู้สึกเฉยๆ กับเรื่องนี้ หลังๆ มานี้ชอบหนังที่แสดงถึงประเด็นเล็กๆ แต่ลึกเข้าไปในใจอ่ะค่ะ น่าอิจฉา ที่ได้เหมาโรงดูหนังคนเดียว ยังไม่เคยมีโอกาสดีๆ อย่างนี้สักที   โดย: grappa 14 พฤศจิกายน 2548 18:19:02 น.

สวัสดีค๊า ดูหนังจนเหนื่อยตั้งสามเรื่องแหน่ะ มาหม่ำข้าวกะลิลลี่ค่ะ   โดย: สาวหน้าใส 14 พฤศจิกายน 2548 18:31:46 น.

อิๆ อินู๋เปส แวะมาซน   โดย: ~oกิ๊กกะโป๋ โลเปสo~ 14 พฤศจิกายน 2548 18:54:51 น.

อย่าเอาความฝันของตัวเองไปแลกกับความรักของใคร" คำนี้..บอกตรงๆโดนใจ   โดย: zaesun 14 พฤศจิกายน 2548 20:00:34 น.

เข้ามาอีกรอบค่ะ ลืมคุยเรื่องดูหนังในโรงคนเดียว.. ได้อีกบรรยากาศหนึ่งเลยน้ะค้ะ เป็นเหมือนโรงหนังส่วนตัวเลย..เท่ห์จัง ฮ่าๆๆๆ   โดย: zaesun 14 พฤศจิกายน 2548 20:02:15 น.

ขอบคุณพี่ไกด์มาเล่าสู่กันฟังนะคะ ดูคนเดียวในโรงที่ว่างเปล่า คือมีอิชั้นคนเดียวที่ดูหนังเรื่องนี้อยู่น่ะค่ะ หนาวมั้ยคะพี่ไกด์ ถ้าเป็นหนังผี แย่เลยนะคะเนี่ยไม่อยากคิด กลัวผีค่ะ หุหุห   โดย: yadegari 14 พฤศจิกายน 2548 21:34:38 น.

อ่านข้ามไปเยอะเพราะกะจะไปหาดูอยู่ค่ะ เดี๋ยววันหลังจะกลับมาอ่านใหม่นะคะ   โดย: PADAPA--DOO 14 พฤศจิกายน 2548 22:13:46 น.

ดูหนังคนเดียว เท่ห์มัก่ ๆ โขโบก 55   โดย: ultraman seven 14 พฤศจิกายน 2548 23:53:33 น.

อ่า ดูหนังคนเดียว เป็นอะไรที่พิมทำทีไร แล้วจะต้องหงุดหงิดเพราะพนักงานขายตั๋วกลับมาทุกทีเลยค่ะ แต่ขอบคุณนะคะ ที่เอามาเล่าให้ฟังอ่า   โดย: @ - ENYA - @ 15 พฤศจิกายน 2548 0:19:13 น.

สองเรื่องแรก น่าดูมากเลยค่ะ สงสัยต้องดูให้ได้ แต่เรื่องที่สาม คงต้องขอผ่านค่ะ   โดย: พฤษภาคม 2510 15 พฤศจิกายน 2548 14:42:27 น.

แวะมาเยี่ยมครับผม   โดย: artt (~o Fly'in to the Moon o~ ) 15 พฤศจิกายน 2548 18:03:00 น.

แวะมาหาพี่ไกด์ก่อนออกไปข้างนอกค่ะ คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   โดย: yadegari 15 พฤศจิกายน 2548 18:12:17 น.

แวะมาทักพี่สาวไกด์ จริง ๆ ตอนนี้อารมณ์อยากดู Corpes Bride มาก แต่คนที่อยากไปดูด้วยเค้าชิงไปดูก่อนแล้ว   โดย: ShadowServant IP: 203.188.28.189 15 พฤศจิกายน 2548 23:53:03 น.

รู้จังหนังของทิมเบอร์ตันเรื่องเดียวเองอ่ะ ส่วนตัวอยากดูแคลส   โดย: ปลายเทียน 16 พฤศจิกายน 2548 1:00:08 น.

พี่ไกด์ไปลอยกระทงที่ไหนรึเปล่าคะ แขคงแปลงร่างอยู่หน้าคอมนี่แหละค่ะ งานเยอะมากกกกก   โดย: rebel 16 พฤศจิกายน 2548 9:34:06 น.

ยังไม่ได้ดูเลยสักเรื่องครับ งึมๆๆ   โดย: พ่อน้องโจ 7 ธันวาคม 2548 7:03:05 น.

แวะเอาดอกไม้มาขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมผมที่บล็อคครับ ขอให้ความสุขและร่ำรวยมีแฟนหล่อแฟนสวยทุกคน   โดย: ชายคา 8 ธันวาคม 2548 2:02:06 น.