#### รีวิวหนัง Yesterday และ Rocket Man การมีชื่อเสียงเป็นสิ่งที่ต้องแลก? ####




สวัสดีฮ้าบบบบ




เอนทรี่ล่าสุด
รีวิวห้องอาหาร Scalini Hilton สุขุมวิท เชฟหล่อ อาหารอร่อย 555





วันนี้จะมารีวิวหนังสองเรื่องที่ได้ดูบนเครื่องบินตอนไปออสเตรียนะคะ กับสองเรื่องนี้ Yesterday และ Rocket Man ค่าา

โดยกว่าจะมาเขียนรีวิวก็ดูผ่านมาแล้วเกือบสองเดือน 555 เพราะงั้นอาจจะมีตกหล่นบ้างนะคะ



เรื่องแรกกันก่อนเลย



YESTERDAY

กำกับโดย
Danny Boyle

เขียนบทโดย
Richard Curtis

แสดงโดย

Himesh Patel เป็น Jack Malik




Lily James เป็น Ellie Appleton







เรื่องย่อ


 
แจ็ค มาลิค หนุ่มผู้มีความฝันจะเป็นศิลปิน แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จใดๆ แม้ว่าผจก.และเพื่อนของเขา เอลลี่ แอพเพิลตันจะอยู่เคียงข้างและคอยให้กำลังใจตลอดเวลา จนวันหนึ่งสิ่งที่ดูเหมือนปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ โลกนี้ก็ไม่รู้จักกับเดอะบีทเทิลส์ แจ็คเริ่มดังจากการเอาเพลงของเดอะบีทเทิลส์มาร้อง และมันก็กรุยทางสู่ความสำเร็จแบบที่เขาฝันไว้




ความรู้สึกที่ได้ดู


ดูแล้วผิดคาดกับตอนจบนิดๆ และให้ข้อคิดหลายอย่างเลยหละค่ะ

 
คือ ที่จริงทีเซอร์ของหนังเรื่องนี้ก็ทำให้รู้เรื่องเกือบทั้งหมดแล้วหละนะคะ ขาดแต่ตอนจบเท่านั้นเอง แต่หนังเรื่องนี้ก็ทำตอนจบได้แบบผิดคาดไปพอสมควร และมีอะไรหลายอย่างที่ทีเซอร์ไม่ได้พูดถึงด้วยค่ะ

ที่จริงเส้นเรื่องประเภท มีเรื่องปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ชีวิตตัวละครหลักพลิกผัน ประสบความสำเร็จ ถึงจุดหนึ่งก็มีสิ่งให้ต้องตัดสินใจ/เลือก และเลือกอีกเส้นทางหนึ่ง เส้นเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ของหนัง/นิยายหรอกนะคะ

แต่ที่เรารู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ต่างก็คือ จากการดูทีเซอร์ เราคิดว่า หนังจะทำให้ท้ายที่สุดแล้ว ปาฏิหาริย์นั้นหายไป ทุกคนกลับมาจำเดอะบีทเทิลส์ได้ แล้วพระเอกของเราก็กลับไปใช้ชีวิตปกติ...แต่ไม่ใช่ค่ะ 55555

 





โลกนั้นก็ยังคงเป็นแบบนั้น ยังคงไม่รู้จักเดอะบีทเทิลส์ต่อไป แต่ได้รู้จักเพลงของพวกเขา ซึ่ง...สำหรับโลกแบบนี้ บางทีมันก็สวยงามไปอีกแบบนะคะ การที่พระเอกเลือกที่จะประกาศให้ทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงเพลงของเดอะบีทเทิลส์ การที่เขาเลือกที่จะอยู่กับคนที่เขารัก และใครบางคนยังคงมีชีวิตอยู่ (สารภาพว่าซีนนี้ทำเอาเราร้องไห้เลยค่ะ อายคนนั่งข้างๆ มาก 5555) ใช่ค่ะ มันก็อย่างที่แจ็คพูดกับคนๆ นั้น มันดีเหลือเกินที่คุณยังมีชีวิตอยู่ (และมีความสุขดีด้วย ฮือออออ)






 
หนังเรื่องนี้มีหลายช็อตที่จุดประเด็นหนึ่งที่ทำให้เราคิดค่ะว่า เออ หรือชื่อเสียงมันต้อง "แลก" มากับอะไรที่สำคัญมากๆ ของชีวิตเรา? เราเองก็เคยถามคำถามนี้กับเพื่อนในเฟซนะคะ คือ เราเคยได้ยินคนๆ หนึ่งพูดว่า ชีวิตคนๆ หนึ่งน่ะนะ มันจะมีความบาลานซ์อยู่เสมอ คือ ไม่มีใครที่จะเพอร์เฟคหมดทุกเรื่อง บางคนฐานะดี หน้าตาดี ครอบครัวดี ทำธุรกิจก็ดี แต่สุขภาพไม่ดี หรือบางคน สุขภาพแข็งแรงดี การงานดี เงินทองดี แต่เรื่องความรักไม่ดี ฯลฯ ประมาณนี้ แล้วก็ถามคนอื่นๆ ว่าเลือกที่จะ "เสีย" ในเรื่องไหน ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกเหมือนๆ กับเราค่ะ คือ ชื่อเสียง (แล้วก็มีบางคนเลือกที่จะเสียเรื่องหน้าตา คือ ไม่ต้องขอหล่อ สวย) เพราะสำหรับเรา ชื่อเสียงคงเป็นเรื่องที่เสียได้ ไม่จำเป็นต้องมีในชีวิตอะค่ะ

ซึ่งแน่นอนว่า สำหรับคนหลายคนแล้ว ชื่อเสียงสำคัญกับชีวิตเขามาก (นึกถึงเฮอร์คิวลิสในหนังเรื่องทรอยเลยค่ะ คนนั้นก็เลือกการมีชื่อเสียง ถูกจารึกมากกว่า) และพร้อมที่จะแลกกับเรื่องอื่น...แต่ก็...นะคะ แต่ละคนก็ให้ความสำคัญกับเรื่องต่างๆ ในชีวิตไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากันจริงๆ ค่ะ

 




 
หนังเรื่องนี้มุขเยอะมากๆ บางมุขเราก็เข้าใจ บางมุขเราก็ไม่เข้าใจนะคะ 5555 อย่างเรื่องทำไมพอบีทเทิลส์หายไป โค้กถึงหายไปด้วย หรือบุหรี่ทำไมกลายเป็นไม่มีคนรู้จักเป็นต้นค่ะ แต่บางมุขก็ฮาดี หลายมุขก็ฮาจากพ่อเอ็ดของเรานี่แหละค่ะ 555








 
อ้อ ชอบฉากเซอร์ไพรซ์ (ทวิสต์) อย่างหนึ่งในหนังด้วย (หลังจากนี้สปอยล์จนหมดย่อหน้านะคะ) ที่มีคนอีกสองคนที่ยังจำเดอะบีทเทิลส์ได้ และรู้จักเพลงของพวกเขา และพยายามบอกให้แจ็คของเรารู้ แล้วท้ายที่สุดก็กลับกลายเป็นว่า เขาไม่ได้ต้องการแฉแจ็ค แต่มาขอบคุณที่ทำให้คนอื่นๆ ได้รู้จักเพลงบีทเทิลส์ เพราะสำหรับคนที่รักเพลงของบีทเทิลส์ และเดอะบีทเทิลส์แล้ว...ถ้าโลกนี้ทุกคนไม่รู้จักเพลงของเขาและพวกเขาแล้ว...มันคงเศร้าและน่าเสียดายมากๆ จริงๆ ค่ะ






 
จุดที่รู้สึกไม่โอเรื่องเดียวของหนังเรื่องนี้ คือ การที่กว่าพ่อแจ็คของเราจะตัดสินใจที่จะเลือกเอมิลี่...ก็ทำให้คนๆ หนึ่งต้องมาเจ็บปวดกับทางนี้ด้วย...อืมม์...คือ...ก็พูดยากนะคะ คือ มันก็ไม่ควรหรอกที่เราจะเลือกอยู่กับอีกคน ทั้งที่ใจเราก็อยู่กับคนอื่น แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรก ก็ไม่ควรเอาคนๆ นั้นเข้ามาอยู่ข้างๆ ให้เขาต้องเจ็บปวดทีหลังตั้งแต่แรกสิฟระ







สรุปแล้วเป็นหนังอีกเรื่องที่เราชอบนะคะ คือ เพลง Yesterday เป็นเพลงหนึ่งของเดอะบีทเทิลส์ที่เราชอบมากอยู่แล้ว (แต่ชอบเวอร์ชั่นอื่น ไม่ใช่เวอร์ชั่นออริจินัล ฮา) แล้วเพลงนี้ในหนังเรื่องนี้ก็ให้ความรู้สึกคล้ายกับเวอร์ชั่นที่เราชอบด้วยค่ะ อีกเพลงที่เราชอบก็คือเพลง The Long & Winding Road ซึ่งเป็นฉากที่น่าเศร้ามากสำหรับเอ็ด (แต่เอ็ดแสดงดีนะคะฉากนี้) แต่ก็เป็นซีนที่เพลงนี้ถูกร้องออกมาได้อย่างไพเราะจับใจมากเลยค่ะ เอาทั้งสองเพลงมาให้ฟังกันนะคะ







 



รีวิวต่อกับหนังอีกเรื่องค่ะ




ROCKET MAN

กำกับโดย
Dexter Fletcher

เขียนบทโดย
Lee Hall

แสดงโดย

Taron Egerton เป็น Elton John




Jamie Bell เป็น Bernie Taupin




Richard Madden เป็น John Reid







เรื่องย่อ


 
เรื่องราวของนักร้องที่มีชื่อเสียงระดับโลกคนหนึ่ง Elton John ที่ทำให้เราได้รู้จักว่าทำไมท้ายที่สุดแล้ว คนที่มีทั้งชื่อเสียง เงินทองอย่างเขา ถึงได้กลายเป็นคนติดเหล้าจนต้องเข้ารับการบำบัด




ความรู้สึกที่ได้ดู

 
เอลตัน จอห์นเอง เรารู้จักเขาในฐานะที่เขาเป็นคนแต่ง / ร้องเพลงหลายเพลงที่เราชอบค่ะ อย่างเพลง Sorry Seems to be the Hardest Words / Your Song ฯลฯ และคุ้นกับการแต่งตัวแบบโดดเด่นไม่เหมือนใครและไม่แคร์ใคร รวมทั้งข่าวคราวการได้รับยศ "ท่านเซอร์" แต่นอกจากนั้นก็ไม่ได้รู้จักอะไรกับเขาไปมากกว่านี้น่ะนะคะ


แต่พอได้ดูหนังเรื่องนี้ ก็เลยทำให้ได้รู้จักเจ้าตัวมากขึ้น แม้ว่าหนังจะโปรยว่า Based on a true fantasy ไม่ใช่ Based on a true story แต่ก็มีเรื่องราวจริงๆ ของเจ้าตัวเองอยู่ด้วยอะนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวัยเด็กที่พร่องจากความรักทั้งจากพ่อและแม่ อัจฉริยภาพทางดนตรีของเจ้าตัวเองที่แค่เดินเข้ามาได้ยินเพลงที่ครูเล่นอยู่ก็เล่นตามได้ทั้งที่ได้ยินครั้งนั้นเป็นครั้งแรก การเติบโตและเข้าสู่วงการดนตรี การได้พบกับนักแต่งเนื้อเพลงคู่ใจ การพบคนรักที่เลวร้าย ฯลฯ ซึ่งก็ทำให้เราได้รู้จักคนๆ หนึ่งเพิ่มมากขึ้นหละค่ะ ซึ่งหลายแง่มุม ก็เป็นเรื่องที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยจริงๆ

 




 
ซึ่งหนังเรื่องนี้ค่อนข้างมีสีสันฉูดฉาดตามชีวิตของเอลตันแหละนะคะ แต่หลายๆ ช็อต โดยเฉพาะช็อตที่อยู่กับครอบครัวตอนที่เขาเด็กๆ นี่ก็จะออกสีทึมๆ ตลอดเลยเหมือนกันค่ะ เราเองก็ค่อนข้างเข้าใจเอลตันนะ ถ้าเจอคนที่ไม่เคยยอมกอดหรือแตะต้องตัวเราเลย (ซึ่งเดาจากการดูหนังเรื่องนี้ว่า น่าจะเป็นเพราะพ่อเอลตันเองก็ไม่ได้รักแม่เอลตันด้วย) การทำให้เรา lack ต่อความรักขนาดนั้น ไม่แปลกเลยที่ทำให้พอเติบโตขึ้น เราถึงไขว่คว้าทั้งความรักและอื่นๆ ที่คิดว่าจะมาเติมเต็มได้
 





 
หนังเรื่องนี้ทำให้เราได้เปิดใจและทำความเข้าใจคนคนหนึ่งว่า การที่เขาเป็นอย่างที่เขาเป็น ทำอย่างที่เขาทำนั้น มันมีเหตุปัจจัยอะไรบ้าง สำหรับเรา เราคิดว่าเอลตันต้องการความรักมากๆ จริงๆ การทำตัวให้โดดเด่น เพราะเขาต้องการ "สายตาแห่งความรัก" "สายตาแห่งความชื่นชม" ต้องการเป็นจุดศูนย์กลางของทุกคน แบบที่เขาไม่เคยได้รับจากครอบครัว (ยกเว้นจากคุณยายของเขาที่ดูจะเข้าใจเขามากที่สุดแล้ว) มันเป็นวิถีของเขาที่เขาคิดว่าเขาน่าจะทำได้ และอย่างน้อย...พรสวรรค์ด้านดนตรีและการร้องเพลงของเขา ก็ทำให้เขาได้รับชื่อเสียง เงินทอง แต่ขณะเดียวกัน...เรื่องของความรักนั้น...เขากลับได้เพียงของปลอมอยู่นับหลายปี
 







 
เราได้เห็นเอลตัน เหมือนกับคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง คนที่ตัดสินใจผิดพลาด คนที่เชื่อคนผิด (ซึ่งเราว่าในชีวิตของคนทุกคนอย่างน้อยก็ต้องมีการตัดสินใจพลาดกันทั้งนั้นแหละค่ะ อยู่ที่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน เรื่องใหญ่เล็กแค่ไหนเท่านั้นเอง และรู้หรือเปล่าว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิด เหอๆ)

อย่างการปล่อยให้ John Reid เข้ามาครอบครองแทนบริษัทเดิมที่ดูแลอยู่นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากของการตัดสินใจที่ผิดค่ะ






 
หรือแม้กระทั่ง การแยกจากนักแต่งเนื้อเพลงคู่บุญให้กับเขาก็ตาม ซึ่ง..มันไม่ใช่แค่การตัดสินใจที่ผิดพลาดในเรื่องของงาน แต่ก็เป็นเรื่องของการสูญเสียใครสักคนที่หวังดีกับเรามาโดยตลอดเช่นกัน เอลตันยังโชคดีที่อย่างน้อยคนๆ นี้ก็ยังคงกลับมาในวันหนึ่งเมื่อเอลตันได้รู้แล้วว่าใครจริงใครปลอม แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกค่ะที่จะได้โอกาสเป็นครั้งที่สอง






 
เราไม่ได้หารายละเอียดเพิ่มเติมนะคะว่า เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่องนั้น อันไหนจริง อันไหนไม่จริงบ้าง ยกเว้นบางเรื่องที่รู้กันในวงกว้างอยู่แล้ว เช่นการเป็นโฮโมฯ ของเจ้าตัว หรือการติดเหล้าจนต้องบำบัดของเจ้าตัว แต่หนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราได้รู้จักเขาอย่างที่เขาอยากให้รู้จักหละค่ะ (เจ้าตัวเองก็ไปที่กองถ่ายบ่อยอยู่นะคะ)

แล้วหนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เราคิดประเด็นเดียวกับที่คิดตอนดูเรื่อง Yesterday หละค่ะว่า คนที่จะมีชื่อเสียงนี่มันต้องแลกมาด้วยอะไรสักอย่างจริงๆ ซึ่งถ้าถามเราว่า มันคุ้มค่าไหม สำหรับเรา เราไม่ยอมแลกนะคะ การมีชื่อเสียงสำหรับเราไม่สำคัญกับเราเท่าเรื่องอย่างอื่นค่ะ 555

สรุปก็เป็นหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่งและให้ข้อคิดด้วยนะคะ ถ้าใครยังไม่ได้ดูแล้วคิดจะดู ก็คงต้องไปหาแผ่นดูเอาหละค่ะ






 



ปฏิทินธรรม
 
 
 
 
 
วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2562
 
1. ทำบุญตักบาตร ณ วัดพุทธบูชา (กิจกรรมจัดทุกวันเสาร์แรกของเดือน)
 
 
 
 
วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2562 (ปกติกิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน แต่เดือนมกราคม จะจัดวันปีใหม่)

1.ทำบุญกับพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ณ มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ถ.จรัญสนิทวงศ์ซอย 37
เวลา 06.30-10.30 น. 

ดูรายละเอียดพระที่มารับบาตรและแผนที่ได้ที่
https://www.watpa.com/board_detail.asp?board_id=3447
 
 
 
2. งานไถ่ชีวิตโคกระบือ ทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพฯhttps://web.facebook.com/bogboon/photos/a.614964165213890.1073741836.335629013147408/540852169291757/
 
 
 
 
 
 
วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2562
 
1. ตักบาตรพระกรรมฐาน 
ณ ปราสาทจตุรมุข วัดสังฆทาน นนทบุรี (กิจกรรมทุกวันเสาร์ที่สองของเดือน)
 

 
 
วันอาทิตย์ที่ 8 และ 22 ธันวาคม 2562 (กิจกรรมจัดทุกๆ วันอาทิตย์ที่ ๒ และ ๔ ของเดือน)

1. ทำบุญ ฟังธรรม จากครูบาอาจารย์พระป่าสายกัมมฐาน ณ ศาลาลุงชิน แจ้งวัฒนะ 14
กิจกรรมจะเริ่มจากการถวายภัตตาหารร่วมกันเวลา ๘:oo น. สำหรับท่านที่สนใจนำอาหารมาร่วมทำบุญ แนะนำให้มาก่อนเวลาเพื่อจัดเตรียมอาหารใส่ภาชนะ ซึ่งจะเริ่มลำเลียงถาดอาหารเพื่อเตรียมประเคนเวลาประมาณ ๗:๔๕ น.

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/SalaLungChin?fref=ts




วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2562

1. ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระป่า 9 วัด เสาร์ที่ 3 ของทุกเดือน
ณ บ้านลานเสียงธรรม 
เลขที่ 7/44 หมู่4 ซอยนาคนิวาส 40 แขวงเขตลาดพร้าว กทม

 
 
 
วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2562 (จัดทุกอาทิตย์ที่สามของเดือน)
 
1. ตักบาตร พระกัมมัฏฐาน และ ฟังพระธรรมเทศนา เวลา 7.00 น.
ณ ชมรมกลุ่มพุทธธรรมลานทอง หมู่บ้านลานทอง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ดูรายละเอียดได้ที่ลิงก์นี้
 
 
 
วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม 2562 
 
1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารโดยพระเถระวัดป่ากรรมฐาน (กิจกรรมทุกเสาร์ที่ 4 ของเดือน)
 
เมตตารับบาตรโดย
เวลา ๐๗.๐๐-๑๐.๐๐ น. ณ ศาลาปันมี มูลนิธิบ้านอารีย์
 
 
 


วันเสาร์และอาทิตย์ที่ 28-29 ธันวาคม 2562 (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน)
 
1. งานบุญประจำเดือน (ทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน) ทำบุญบำรุงรักษาสวนแสงธรรม และถวายปัจจัย





 
 
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

1469696+7603038=9072734/
14341/1900


 
 
 
ประกาศ

ท่านใดประสงค์จะโหวต โหวตได้นะคะ แต่เจ้าของบล็อกนี้จะไม่ได้โหวตกลับให้ทุกคนที่โหวตค่ะ จะโหวตเฉพาะบล็อกที่เราอยากโหวตให้เท่านั้นนะคะ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาเองว่าจะโหวตให้บล็อกนี้หรือไม่ค่ะ



Create Date : 27 ธันวาคม 2562
Last Update : 27 ธันวาคม 2562 10:35:22 น. 13 comments
Counter : 1620 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณกะว่าก๋า, คุณผีเสื้อยิปซี, คุณRinsa Yoyolive, คุณnonnoiGiwGiw, คุณJinnyTent, คุณThe Kop Civil, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณtoor36


 
รีบวิ่งกลับมาก่อนโหวตจะหมด
แล้วต้องแจ้นกลับไปก่อนนะคะ
จ่ายเสบียงกลับบ้านป่าเช้ามืดพรุ่งนี้ค่ะ
แขกเต็มบ้านเลย



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 27 ธันวาคม 2562 เวลา:11:12:34 น.  

 
โหวตครับคุณเต้ย

ผมดูงานของ Danny Boyle ทุกเรื่องเลยครับ
เว้นแต่เรื่องนี้ยังไม่ได้ดู 555

หนังของเขามีอะไรที่เราคาดไม่ถึงเสมอนะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 ธันวาคม 2562 เวลา:12:19:09 น.  

 
อยากดูทั้ง2เรื่องแต่ก็ไม่ได้ดูทั้งคู่เลย พลาด ๆ ปีหน้าจะพยายามหาเวลาเข้าโรงหนังให้มากกว่าเดิม

แซนวิชเป็นไรที่ทำง่ายมากอ่ะพี่ แต่ถ้ากินคนเดียสซื้อเค้ากินดีสุด เพราะทำทีนึงได้เยอะมาก พี่อาจจะต้องกินเมนูเดิมซ้ำ ๆ อิๆ

โหวตหมดติดไว้ก่อนน้า


โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 27 ธันวาคม 2562 เวลา:13:44:42 น.  

 
เอ็ด ชีราน คนโปรดคับ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 27 ธันวาคม 2562 เวลา:13:59:39 น.  

 
เม้นท์ไม่ตรงเรื่องเลยเนาะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 27 ธันวาคม 2562 เวลา:14:02:12 น.  

 
อ่าาาาาเหมือนจะเคยดูแค่เรื่องบนเรื่องเดียว ^^

แอบมาส่องว่าเพื่อนบ้านทำบล้อกรับปีใหม่กันรึยัง
จะได้เลียนแบบ อิอิ

ทักทายๆๆๆคร่าาา


โดย: ผีเสื้อยิปซี วันที่: 27 ธันวาคม 2562 เวลา:15:09:33 น.  

 
เรื่องแรก บางอย่างก็ชอบให้มีปาฎิหาร์ย์นะคะมันตื่นเต้นดีค่า อิอิ



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 27 ธันวาคม 2562 เวลา:16:02:21 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะพี่


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 27 ธันวาคม 2562 เวลา:17:18:04 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะที่คุณเต้ยเข้าใจ
ดีใจที่เราเข้าใจกันนะคะ
พี่ให้สิทธิคุณเต้ยเต็มที่ในการโหวตค่ะ

เรื่องแรกน่าดูค่ะ
เหมือนเคยอ่านรีวิวเพื่อนบล็อก
ไม่พี่อ้อก็คุณแฟรงคนี่แหละ
วงเดอะบีทเทิล เคยฟังเพลงเค้ามาบ้างค่ะ

หนังสองเรื่องเป็นแนวดราม่า
ได้ให้เลือกดู พี่ขอดูเรือ่งแรกดีกว่า
เรื่องที่สองอ่านรีวิวคุณเต้ยดูแล้ว
เหมือนจะดูเศร้าไปสักหน่อย



โดย: JinnyTent วันที่: 27 ธันวาคม 2562 เวลา:19:42:57 น.  

 
แสดงว่าคุณเต้ยก็ชอบหนังเพลงเหมือนกันใช่มั๊ยครับ 55
ผมชอบทั้งสองเรื่องเลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 27 ธันวาคม 2562 เวลา:21:40:02 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับคุณเต้ย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 ธันวาคม 2562 เวลา:7:05:52 น.  

 
สวัสดีครับพี่เต้ย
ปีใหม่ไปเที่ยวไหนไหมครับ เดินทางปลอดภัยนะครับพี่
จริงๆ หนังเพลงนี่ดูแล้วไม่ค่อยเบื่อนะครับ
เหมือนเพลงเก่าๆ มันก็มีความทรงจำเก่าๆ อยู่ด้วย
พ่อผมเคยให้ดู sound of music ผมยังชอบเลย 5555
ผมชอบ จอห์น เลนอนอยู่แล้ว ชอบเดอะ บีทเทิลส์ด้วยครับ
ส่วนตัวชอบพล๊อตเรื่องกวนๆ แฟนตาซีของ yesterday ครับ ยังไม่มีโอกาสได้ดูจนจบเลยครับ
แต่ตอนดูไปได้หน่อยก็ไปเอาเพลงเดอะ บัทเทิล มาเล่นแล้วครับ 5555


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 28 ธันวาคม 2562 เวลา:13:14:59 น.  

 
ผมว่าเอาง่ายๆ เลย ขนาดมีชื่อเสียงเล็กๆ น้อยๆ ในบล็อกแก๊งมันยังต้องแลกด้วยบางสิ่งบางอย่างเลย

อีกเรื่อง Based on a true fantasy ก็ดีครับ เราก็จะได้เข้าใจได้ง่ายว่ามันไม่ใช่ของบจริง แม้จะมีส่วนจริงบ้าง เอาเข้าใจแนวนี้ดราม่าง่ายนะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 29 ธันวาคม 2562 เวลา:1:54:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2562
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
27 ธันวาคม 2562
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.