Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ 75 ~วันนั้นมันจะมาถึงในไม่ช้า ผมขอสาบาน ~

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****



ดาวน์ทาวน์เมืองจอนจู รถของฮยอนจุงจอดแอบอยู่ที่ริมถนน
ฮยอนจุงพยายามปลอบประโลมฮวางโบซึ่งยังอยู่ในอาการสติแตกร้องไห้ไม่หยุด เขากอดเธอเอาไว้และค่อยๆลูบหลังของเธออย่างแผ่วเบา สักพักใหญ่อาการสะอึกสะอื้นของเธอก็ค่อยๆดีชึ้น ฮยอนจุงกระชับวงแขนของเขาที่โอบเธอให้แน่นขึ้นเพื่อช่วยอารมณ์ของเธอสงบลง

ฮยอนจุงสูดหายใจลึกๆ “ตอนนี้คุณยังเห็นผมเป็นแค่เพียง..เด็กผู้ชายคนนึงหรือฮะ? ผมดูเป็นคนที่...ไม่น่าไว้วางใจขนาดนั้นหรือฮะ...?”

”มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกน่ะ...”

”ผมเคยบอกคุณแล้วไม่ใช่หรือฮะ? ว่าผมไม่ได้เป็นคนที่ไม่รู้เรื่องราวอย่างที่คนอื่นอาจจะมองจากภายนอก....ผมไม่ได้ตกหลุมรักคุณโดยไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น...”

”.....................”.

ฮยอนจุงค่อยๆคลายวงแขนเพื่อปล่อยฮวางโบออกจากอ้อมอกและจ้องตาของเธอตรงๆ “ผมพร้อมเสมอที่จะรับผิดชอบอย่างเต็มที่กับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่..รวมถึงเรื่องความรักของผมด้วย”

ฮวางโบสับสนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย...

”ถ้า...มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับพวกเรา...จำไว้น่ะฮะ ว่าบูอินไม่ใช่สาเหตุหรอก แต่มันเกิดขึ้นเพราะว่าผมอยู่ในห้วงแห่งความรัก ซึ่งมันเป็นความรักที่บริสุทธิ์และไม่ได้เสแสร้ง”

ฮวางโบรู้สึกซาบซึ้งกับคำพูดของเขาซึ่งมันทำให้เธอคลายความกังวลไปได้บ้าง

”และ...ผมสามารถจะรับได้หมดทุกเรื่อง ไม่มีอะไรบนโลกนี้ที่มนุษย์อย่างเราจะทนกับมันไม่ได้...นอกจากความตายเท่านั้น”

ฮวางโบยังคงยิ้มให้เขา

ฮยอนจุงยกมือไปปัดผมที่ปิดหน้าของฮวางโบออก “ ถ้ามีอะไรเกิดอะไรเกิดขึ้นกับอาชีพการงานของผม...เนื่องจากความสัมพันธ์ของเรา..จำไว้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของคุณ....มันเป็นบางสิ่งที่ผมจะต้องเจออยู่แล้วไม่เร็วก็ช้าในชีวิตของผม...เพราะว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะยั่งยืนตลอดกาล”

ฮวางโบเงยหน้าขึ้นมามองฮยอนจุง...<ความรักมันทำให้เธอเป็นผู้ใหญ่ได้มากมายขนาดนี้เลยเหรอ>

”ผมไม่ได้กำลังจะบอกคุณว่าผมไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง...” เขายิ้มให้เธออีกครั้งก่อนจะพูดต่อไปว่า “ แต่การเปลี่ยนแปลงบางอย่างมันสามารถนำสิ่งที่ดีมาสู่ชีวิตของคุณ...”

ฮวางโบนั่งนิ่งฟังเขาพูดด้วยความรู้สึกประทับใจ
”ผมไม่ได้จะบอกว่าผมไม่แคร์ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...เพราะว่าผมเองก็ยังไม่พร้อมที่จะแยกตัวจากวง SS501.. และผมก็ยังไม่มีแผนที่ดีในใจว่าควรจะทำอะไรต่อไป...ในกรณีเลวร้ายที่สุด...ผมอาจจะต้องออกจากวง...แต่อย่างที่ผมบอกไปว่ามันเป็นแค่กรณีเลวร้ายสุดๆเท่านั้น..ผมก็พร้อมที่จะทำถ้ามันจำเป็นจริงๆ”

ฮวางโบได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเศร้าจนพูดแทบไม่ออก “นั่นมัน..”.

”ผมกำลังพูดถึงกรณีเลวร้ายอยู่ฮะ...ถึงแม้ว่าจะมีอะไรที่เลวร้ายกว่านั้นเกิดขึ้น...ผมยังคงพร้อมที่จะรับมือกับมัน ดังนั้นอย่ากังวลไปเลยนะฮะ!”

ฮวางโบพูดด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง “เธอ..อายุยังน้อยอยู่ และยังมีโอกาสดีๆอีกมากมายที่รอเธออยู่ข้างหน้า...”

ฮยอนจุงยิ้มแล้วตอบไปว่า “ ใช่ฮะ ผมก็เชื่อเช่นนั้น!”

“บางที...อาจจะเป็นเพราะชั้น..โอกาสเหล่านั้นมันอาจจะหลุดลอยไป...”

ฮยอนจุงรีบส่ายหน้าทันที “ไม่ฮะ ผมไม่คิดอย่างนั้น...ถ้าโอกาสเหล่านั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะผมมีบูอิน...งั้นผมก็จะปฎิเสธและทิ้งโอกาสนั้นไปซ่ะ เพราะผมไม่แคร์”

”...................”

”ความมีชื่อเสียงหรือเป็นคนดัง...ถึงแม้ว่าพวกมันสามารถจะทำให้คุณรู้สึกมีความสุขสุดๆจนอาจจะรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจซะจนไม่ต้องกินอะไรเลยก็ตาม...แต่ผมไม่ต้องการจะสูญเสียสิ่งมีค่าที่ผมรักไปเพราะว่าสิ่งเหล่านั้น...”

ฮวางโบซึ้งอีกแล้ว <วันนี้เธอพูดได้โดนมากๆ>

”บูอิน คุณรู้มั๊ย อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเราในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่?”

”...หา?”

”ถึงแม้ว่าผมจะเป็นคนดัง...ซึ่งได้รับความนิยมชมชอบและมีชื่อเสียง...แต่ก่อนหน้านั้น ผมต้องการเป็นเพียงผู้ชายซึ่งมีความรักให้กับผู้หญิงคนหนึ่งคนเดียวเท่านั้น ผมต้องการเป็นคนคนนั้น คนเดียวที่คุณรัก คนเดียวที่คุณคิดถึงตลอดเวลา และเป็นคนคนเดียวที่คุณจะรักไปจนวันตาย”

ฮวางโบนิ่งฟัง <จริงๆนะ ชั้นอยากจะบอกได้เลยว่าเธอเป็นคนที่ล้ำลึกขนาดไหน >

”ผมก็เป็นแค่คิมฮยอนจุง ผู้ชายธรรมดาๆคนนึง”

จู่ๆตาของฮวางโบก็ร้อนผล่าวและเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง “ ทำไมชั้นถึงได้รู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งที่เธอพูดอยู่ตลอด...แต่แล้วก็ยังคงคิดเรื่องอะไรโง่ๆอยู่ในหัว...?”

ฮยอนจุงพ่นลมหายใจออกมา “ ผมเดาว่าคงเป็นความผิดของผมส่วนนึงด้วย เพราะว่าผมยังชอบแสดงด้านของความเป็นเด็กออกมาให้คุณเห็นอยู่ตลอด...”

ฮวางโบยิ้มกว้างขึ้นแล้วพูดว่า “ ชั้นว่ามันถึงคราวชั้นบ้างแล้วใช่มั้ยตอนนี้?”

”คราวของคุณที่จะทำอะไรหรือฮะ?”

ฮวางโบสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ “ คราวของชั้นที่จะเตรียมตัวให้พร้อมอย่างเหมาะสม...สำหรับเธอและสำหรับพวกเรา”

ฮยอนจุงจ้องมองเธอด้วยแววตาครุ่นคิด “ผมเชื่อว่า...ถ้าผมได้อยู่กับคุณ ผมสามารถจะมีชีวิตอยู่ได้ถึงแม้จะติดอยู่บนเกาะร้างก็ตาม..และถ้าบูอินอยู่กับผม...ผมก็จะสามารถมีความสุขมากขึ้นกับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ในตอนนี้.”

ฮวางโบยิ้มอย่างสดใสเมื่อได้ยินคำพูดที่น่าประทับใจของเขา “แล้วเธอจะทำยังไงกับแฟนคลับที่อาจจะโกรธแค้นพวกเราล่ะ?”

”อย่าห่วงไปเลยฮะ...ผมสามารถจะเกลี้ยกล่อมพวกเขาได้!”

ฮวางโบหัวเราะแบบฝืนๆ” ชั้นก็อยากจะเชื่อเธอน่ะไม่ว่ายังไงก็ตาม...ว่าแต่ชั้นจะทำอะไรได้บ้างน่ะ?”

”คุณไม่สามารถจะอธิบายทุกเรื่องให้มันดูมีตรรกะเป็นเหตุเป็นผลได้ทั้งหมดหรอกน่ะฮะ เพราะยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สามารถจะอธิบายได้...”

”........................”

”สิ่งที่ผมเชื่อก็คือ...ผมไม่สามารถจะอธิบายเหตุผลว่าทำไม แต่ผมก็เชื่ออย่างหมดใจ”

”นี่เธอ...เธอชักจะเก่งเกินไปแล้วล่ะ”

”อะไรน่ะฮะ ผมไม่เข้าใจที่คุณพูดอ่ะ?”

”เธอน่ะเก่งเกินไปที่จะเป็นเพียงแค่ไอดอลวัยรุ่นคนนึง...”

ฮยอนจุงยิ้มชอบใจ “ ผมบอกคุณแล้วไงฮะว่าผมจะไม่ยอมเป็นไอดอลจนแก่ตายหรอก...”

”ถ้าเธอได้ไปเรียนเพิ่มเติม...”

”ผมก็ได้เรียนรู้จากการทำงานและผู้คนรอบๆตัว มากกว่าที่ได้จากโรงเรียนอีกน่ะฮะ...”

ฮวางโบยิ้มให้เขาอย่างสดใส

”สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในตอนนี้มันมากมายกว่าเรื่องใดๆที่ผมได้เคยเรียนมาก่อนหน้านี้อีก...”

”เธอหมายถึงตอนนี้น่ะเหรอ?”

”ทันทีที่ตกหลุมรักคุณ...และได้เก็บรักษาความรักของเราเอาไว้...ผมได้เรียนรู้ว่า ผมต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อที่จะปกป้องผู้หญิงที่ผมรักให้ปลอดภัย...”

”แต่เธอก็ดีเกินไป...สำหรับผู้หญิงที่ชื่อฮวางโบฮเยจุง...”

”บูอินดีเกินไปสำหรับผู้ชายทุกคนในโลกนี้ “<หรือว่าจักรวาลนี้ดี>...ยกเว้นผมคนเดียวฮะ อย่าลืมสิฮะ ว่าคุณเกิดมาเพื่อผมคนเดียว ^^”

ฮวางโบกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นหัวเราะ

”คุณน่ะดีเกินกว่า...ที่ผมจะสามารถปล่อยคุณไปให้ผู้ชายหน้าไหนได้...ผมจะต้องได้ทั้งตัวและหัวใจของคุณมาเป็นของผมคนเดียวเท่านั้นฮะ!”

ฮวางโบก้มหน้าลงแล้วหัวเราะคิก< โอ เลี่ยนได้อีกนะนี่> “หุหุ พอได้แล้วล่ะ ชั้นเขินจะแย่อยู่แล้ว “

”ผมหวังว่าคุณจะมีคำพูดสารภาพความรู้สึกออกมาแบบเดียวกับที่ผมทำน่ะฮะ...”

<ฮ้า สารภาพเหรอ.> ฮวางโบหน้าเหวอทันที

”สิ่งที่สำคัญ...มันไม่ได้อยู่ที่ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้..แต่เป็นการคิดถึงเรื่องที่เราจะใช้ชีวิตในอนาคตของเราอย่างไรต่อไป...”

”อนาคตเหรอ?” ฮวางโบถามด้วยความสงสัย

”เมื่อคุณได้พบคนที่คุณต้องการจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ร่วมกับเขาหรือเธอคนนั้นไปจนกระทั่งลมหายใจสุดท้าย...”

”แล้วตอนนี้ล่ะ?”

”คุณไม่ควรปล่อยให้คนๆนั้นหลุดมือไปเป็นอันขาด...บูอิน คุณคือคนๆนั้น คนที่ผมอยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตราบจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตผม...”

ฮวางโบซึ้งสุดๆ “ เธอก็คือคนนั้นๆสำหรับชั้นเช่นกันจ้ะ...”

”ถ้างั้น” เขาเริ่มส่งสายตาหวานหยดย้อย

”..?”

”พวกเราสามารถจะมีความสุขได้ก็ต่อเมื่อเราได้อยู่ด้วยกัน เอาเป็นว่า เรามาเน้นกันที่ตรงจุดนี้กันดีกว่าน่ะฮะ ส่วนเรื่องอื่นก็ช่างหัวมัน”

ฮวางโบอดขำในใจไม่ได้ <เราจะมีความสุขก็ต่อเมื่อได้อยู่ด้วยกัน? ที่เหลือก็ช่างหัวมัน?...เอางั้นเลยหรือ?>

ฮยอนจุงรีบดึงตัวเธอเข้ามากอดแล้วพูดว่า “ ผมรู้ว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่ผมพูด แต่มันก็น่าจะดีกว่าที่เราจะคิดแบบนี้เมื่อหลายๆอย่างมันดูจะยากมากขึ้น”

”..?”

”เรื่องต่างๆจะหนักมากกว่านี้ถ้าผมไม่มีคุณฮะบูอิน มันหนักซะจนผมอยากจะตายไปเลยตอนนี้..” เขาหลับตาลงแล้วพูดต่อไปว่า “จริงๆน่ะฮะ..ผมขอตายไปเลยดีกว่า ถ้าไม่มีคุณอยู่ข้างๆผมแบบนี้น่ะ...”

<ถ้าเธอไม่ได้อยู่กับชั้น...รู้สึกสิ้นหวัง ใช่แล้วล่ะ...ถ้าเธอไม่ได้อยู่ข้างๆชั้น...จริงๆน่ะ> น้ำตาของเธอเริ่มคลอ

”คุณลองคิดแบบนี้ดูนะฮะ ถ้ามีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้น...เราควรจะรู้สึกขอบคุณที่สิ่งต่างๆมันไม่เลวร้ายเท่ากับที่มันควรจะเป็น...”

”เรื่องที่เลวร้ายกว่าน่ะเหรอ?”

”ใช่ฮะ ตอนนี้คุณสามารถจะรับได้ทุกเรื่องแล้ว.. “เขาจ้องหน้าเธอแล้วพูดว่า “ คุณต้องไปด้วยกันกับผม...ดังนั้นผมก็จะสามารถรับได้ทุกเรื่องเช่นกัน...ใช่มั้ยฮะ?”

ฮวาบโบรู้สึกซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูก จ้องตาของเขาตรงๆแล้วพยักหน้าแทนคำตอบ

”จริงๆน่ะฮะ...ไปด้วยกันตลอดจนถึงดวงดาวบ้านเกิดของผม...ไปจนถึงวาระสุดท้าย?”

ฮวางโบค่อยๆเผยอยิ้มออกมาก่อนตอบว่า “ใช่จ้ะ...ไปจนถึงวาระสุดท้าย...เพราะว่าชั้นเองก็...ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่เหมือนกันถ้าไม่มีเธออยู่เคียงข้างชั้น”

ฮยอนจุงยิ้มสดใสขึ้นทันตา “ ถ้างั้น ต่อไปนี้คุณอย่าร้องไห้กับเรื่องอะไรแบบนี้อีกแล้วน่ะ...ได้โปรด เข้มแข็งเพื่อผมด้วยนะฮะ...”

ฮวางโบพยักหน้ารับ “ จ้ะ ชั้นจะเข้มแข็ง เพื่อเธอ” ว่าแล้วหยดน้ำตาของเธอก็ไหลลงมาที่แก้มของเธอขณะที่พูด

ฮยอนจุงยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอแล้วพูดว่า “คุณนี่เป็นเด็กขี้แยจริงๆเลยน่ะ”

”นี่เธอเรียกชั้นว่าคนโง่แล้วยังว่าชั้นเป็นเด็กขี้แยอีกน่ะ”.

”ใครจะรู้ล่ะฮะว่า “ท่านนายพลฮวางโบ” ผู้กล้าหาญจะกลายเป็นเด็กขี้แยแบบนี้ไปได้?”

ฮวางโบยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วร้องว่า “ อ้ากก มันน่าอายจริงๆเลย”

ฮยอนจุงเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชูจากที่ใส่ของหน้ารถแล้วยื่นให้เธอ “อ่ะ นี่ฮะ เช็ดซ่ะ ผมไม่ชอบเห็นน้ำตาของบูอินเลย”

ฮวางโบรับทิชชูมาเช็ดหน้าหน้าเช็ดตา “ อ๊าย!!”

ฮยอนจุงสะดุ้งแล้วถามทันที “อะไรฮะ?”

ฮวางโบรีบหันหน้าหนี “ไม่..ไม่มีอะไร!”

”เป็นอะไรไปฮะ?” เขารีบก้มลงมาดูใกล้ๆเธอ

”เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งมองชั้นตอนนี้...”

เขาจ้องดูเธออย่างงุนงง...

ฮวางโบหยิบกระจกอันเล็กออกมาส่องดูหน้าตัวเอง แล้วก็ร้องออกมา “ อ้ายยยย โอยพระเจ้า...T_T”

”มีอะไรหรือฮะ?”

ฮวางโบยังหันหน้าหนีไปอีกทาง “เธอเห็นรึเปล่า?”

”เห็นอะไรฮะ?”

ฮวางโบก้มลงมองทิชชูที่เธอเช็ดน้ำตา...บนทิชชูมีคราบสีดำๆของมาสคาราเลอะอยู่เต็มไปหมด

ฮยอนจุงชะโงกหน้าลงมามองแล้วทำเสียงพ่นลมออกจมูกก่อนจะพูดว่า “ไม่เอาน่า มันไม่ใช่เรื่องอะไรใหญ่โตซ่ะหน่อย?”

เธอนิ่งไม่ตอบอะไรหลับตานั่งเงียบๆ

ฮยอนจุงเริ่มรู้ตัวว่าทำให้เธอไม่พอใจ “ คือผมนึกไม่ทันว่าจะพูดอะไรออกไปดีเพราะสถานการณ์มันดูแย่มากเลยฮะ”

ฮวางโบพูดด้วยเสียงห่อเหี่ยว “ไปกันเถอะ เธอแค่ขับรถไปก็พอแล้วล่ะ...”

ฮยอนจุงยิ้มที่เห็นเธอทำท่างอน

ภายในรถที่กำลังมุ่งหน้าออกจากเมืองจอนจู
ฮยอนจุงขับรถไปตามถนนซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากจบงานคอนเสิร์ต

หลังจากเงียบไปครู่นึง จู่ๆฮวางโบก็ถามขึ้นมาว่า .”แล้ววันนี้เธอรู้สึกยังไงบ้างล่ะ?”

“เรื่องอะไรหรือฮะ?”

”เธอรู้สึกยังไงกับการที่ได้เห็นผู้หญิงในอุดมคติของเธอมายืนอยู่ตรงหน้าน่ะ?”

”ผู้หญิงในอุดมคติไหนฮะ?”

”....................”

ฮยอนจุงกระพริบตาแล้วถอนหายใจ

ฮวางโบนั่งเงียบสีหน้าไร้ความรู้สึก...

”แล้วคุณมาเรียกผมว่าเป็นคนมีบุคลิค 4-D..ได้ไงฮะ?”

”อะไรน่ะ?”

”ก็ตอนนี้คุณกำลังหึงผมอยู่ใช่มั้ยล่ะ?”

ฮวางโบถลึงตาใส่เขา.<รู้แล้วยังมาถามอีก>..

”แหม นี่เป็นการพลิกสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วมากเลยน่ะฮะ...”

ฮวางโบแอบมองหน้าด้านข้างของเขา

”คุณอยากรู้มากขนาดนั้นเลยหรือฮะ? มากถึงขนาดลืมไปเลยว่าเมื่อกี้คุณเพิ่งจะร้องไห้แล้วก็ตื่นกลัวจนสติเกือบหลุดเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เอง...?”

เธอรู้สึกอายเล็กๆ <ช่วยไม่ได้ ก็คนมันอยากรู้นี่นา>

เขาพูดอย่างห้าวหาญต่อ “งั้น คุณอยากรู้เรื่องอะไรหรือฮะ? ถามมาเลย! ผมจะตอบให้หมดทุกเรื่อง”

ฮวางโบจ้องหน้าเขาอีกครั้ง <เดี๋ยวเหอะ ยังทำเป็นกั๊กอยู่อีก>

”งั้น เอาคำถามว่า ผมรู้สึกยังไงก่อนแล้วกัน? ที่จริงผมไม่สามารถจะบอกได้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมน่ะ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย มีคนเยอะแยะมากมายอยู่ที่นั่น...นอกจากนั้นเสียงก็ดังรบกวนมากๆ...จนยากที่จะเข้าใจคำถามต่างๆที่พี่เรียวฮิสัมภาษณ์บนเวที”

”......................”

”และ...นอกเหนือจากนั้นผมก็นึกอะไรไม่ค่อยออกแล้วล่ะฮะ...”

ฮวางโบเริ่มยิงคำถามต่อไป “เธอดู...เด็กกว่าชั้นมั้ย?”

ฮยอนจุงมองตาปริบๆ “ ไม่รู้เหมือนกันกันฮะ...ผมไม่ได้ใส่ใจเธอขนาดนั้น...”

”แล้วเธอหุ่นดีกว่าชั้นมั้ย...?”

ฮยอนจุงยักไหล่ “คงงั้นมั้งฮะ..?”

ฮวางโบเบ้ปาก “ชั้นพนันว่าเธอต้องหุ่นดีแน่ๆเลย...แล้วเธอก็ดูมีส่วนโค้งส่วนเว้าด้วยน่ะ...”

ฮยอนจุงตอบเสียงเรียบๆว่า “ใครเขาสนกันฮ่ะ?”

”ว่าไงน่ะ?”

”สำหรับผมแล้ว ผู้หญิงอื่นนอกเหนือจากบูอินผมจะไม่ถือว่าเป็นผู้หญิงหรอกฮะ....ดังนั้นไม่ว่ารุ่นพี่ลีเฮียวริหรือคนอื่น ผมไม่สนใจอยู่แล้ว และฟังน่ะฮะ ต่อให้ผมต้องไปเล่นละครกับสาวๆคนอื่น คุณไว้ใจผมได้เลยว่า ไม่มีทางที่ผมจะเปลี่ยนใจไปจากคุณแน่นอน”

”อย่าเพิ่งเบี่ยงเบนไปเรื่องอื่นสิ ชั้นกำลังพูดถึงงานเมื่อตะกี้อยู่น่ะ ถึงเธอจะไม่ได้คิดยังไงกับเฮียวริ...แต่ชั้นก็ยังเห็นเธอมองนี่นา?”

”ถึงแม้ว่าผมจะมองเธอ แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับเธอจริงๆฮะ...”

“จริงเหรอ?”

”จริงสิฮะ”

”................”

”................”


ฮวางโบแอบยิ้มด้วยความพอใจ

”หมดหรือรึยังฮะ?”

”หา?”

”หมดคำถามแล้วใช่มั้ยฮะ?”

”ใช่...ไว้ชั้นจะถามทีหลังแล้วกันถ้าเกิดนึกคำถามอะไรขึ้นมาได้อีกน่ะ..”

”ตามใจคุณฮะ”

”ว่าแต่มันดูเท่ห์มากๆเลยน่ะ”

”หา ว่าไงน่ะฮะ?”

”ที่เธอ...ร้องเพลงแล้วก็เล่นกีตาร์บนเวที...”

”คุณได้ดูด้วยเหรอเนี่ย?”

”ใช่จ้ะ”

”จากในงานหรือฮะ?”

”ไม่ใช่หรอก..ที่ริมถนนน่ะ”

”ริมถนนเหรอ?”

”ใช่ ชั้นดูจากทีวี LCD จอยักษ์ตรงหน้าต่างร้านขายเครื่องไฟฟ้า...”

“อา อย่างนั้นเอง”

ฮวางโบหายใจลึกๆแล้วถามว่า “ ซักวันนึง...เธอคิดว่าชั้นจะมีโอกาสได้ดูการแสดงของเธอ....แบบติดขอบเวทีบ้างมั้ยน่ะ...ซักวันนึง?”

ฮยอนจุงยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ “ได้แน่นอนฮะ!”

”……………………..”

<ผมจะทำให้คุณมั่นใจว่า วันนั้นมันจะมาถึงในไม่ช้า ผมขอสาบาน>

”บางที...วันนั้นอาจจะมาถึงเร็วกว่าที่ชั้นคิดเอาไว้ก็ได้น่ะ”

“ใช่ฮะ..ผมหวังว่าวันนั้นมันจะมาถึงเร็วๆนี้”

โปรดติดตาม คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 76 - ยังไงซ่ะ ชั้นจะแต่งงานกับเธอให้ได้

คำอธิบายท้ายบท
ผู้หญิงในอุดมคติของคิมฮยองจุง : ก่อนถ่ายรายการ WGM คิมฮยอนจุงมักจะพูดอยู่เสมอว่า เขาเป็นแฟนตัวยงของ ลีเฮียวริ และเธอก็เป็นผู้หญิงในสเปกของเขาด้วย (แต่หลังจากได้แต่งงานกับฮวางโบแล้ว ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเพราะฮวางโบ)







 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2553
4 comments
Last Update : 27 กรกฎาคม 2553 20:00:59 น.
Counter : 1216 Pageviews.

 

หวานมั่กๆๆเลยจ้ะยาย เลี่ยนได้อีก โบมีงอนมีหึงด้วย น่ารักจริงๆ ขอบคุณยายมากๆเลยจ้า ยายนาจาไฟท์ติ้งงงง

 

โดย: มินมิน IP: 180.180.99.193 27 กรกฎาคม 2553 21:00:11 น.  

 

ขอบคุณ ยาย(นาจา) มากคะสำหรับฟิคตอนใหม่ เข้ามาอ่าน 2 ตอนเลยคะ ดูท่าวันนี้จุง จะพูดเยอะมากเลย คงเพราะอย่างให้โบสบายใจขึ้น และมั่นใจในความรักของพวกเขากัน มาเป็นกำลังให้เสมอนะคะ

 

โดย: luck IP: 115.87.91.233 27 กรกฎาคม 2553 22:09:15 น.  

 

เข้ามาเป็นกำลังใจค่ะ ติดตามมานานแล้วค่ะ ขอบคุณ ยาย(นาจา) ค่ะ ที่แปลมาให้อ่าน จะตามเป็นกำลังใจให้ตลอดค่ะ รวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย

 

โดย: apinya IP: 122.154.23.3 28 กรกฎาคม 2553 8:58:54 น.  

 

จริงๆนะ นอกจากโบแล้ว ไม่เห็นใครเป็น
ผู้หญิงเลย

ขอบคุณนะคะยาย

 

โดย: ning IP: 115.87.76.38 3 สิงหาคม 2553 18:31:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.